รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 172 แม้แต่Loserคนนี้ยังไม่เห็นคุณในสายตา

บทที่ 172 แม้แต่Loserคนนี้ยังไม่เห็นคุณในสายตา
“เจ็บจะตายแล้ว แม่งเอ้ย โสงฮุย คุณรีบตีไอ้ขี้เหร่คนนี้ให้ตาย…….” หญิงเสื้อขาวถูกเตะขึ้นอวัยวะภายในตันทั้ง 5และอวัยวะกลวงทั้ง 6 กับลำไส้พันกัน เธอตะโกนใส่ชายเสื้อดำด้วยความโมโห
“คุณยืนอยู่ดีๆ แม่ง เดี๋ยวผมจะเอาคืนแทนคุณเอง” โสงฮุยพยุงหญิงเสื้อขาวขึ้น แล้วให้เธอยืนอยู่ข้างๆ โสงฮุยจึงหันไปหาหลินจู สีหน้าเคล้าด้วยความเลือดเย็น ตอนที่เดินก็เหมือนดั่งเสือคำราม หมัดก็กำไว้แน่นๆ แล้ว
“แกจะทำอะไรเรื่อยเปื่อย เพื่อนของฉันใกล้จะมาแล้ว พวกเขามากันเยอะนะ ตอนทะเลาะวิวาทกับใครก็ไม่รู้จักเบาแรง แบบนี้ ฉันทำแพนเค้กจีนให้พวกแกอีกสองแผ่น แล้วพวกแกก็จากไปดีไหม……” หลินจูเดินถอยหลังไปทีละก้าว ถ้าไม่ใช่เพราะว่ารถขายอาหารยังอยู่ที่นี่ เธอต้องเผ่นหนีไปนานแล้ว
“แม่มึงตาย กูจะตีมึงจนสมองกระเทือน แล้วจะให้มึงนอนอยู่บนพื้น จากนั้นก็เปิดปากกรอกน้ำยาขัดรองเท้าเข้าไปในปากของมึง! ” โสงฮุยพูดไปก็ยกมือใหญ่ๆ ขึ้นแล้ว จากนั้นก็กระแทกลงบนหัวของหลินจูอย่างแรงๆ
“ฉันหลั่ง รีบมาสิ…….” เวลานี้ หลินจูเห็นเรือนร่างของฉินหลั่งปรากฏในที่ไกลๆ เธอจึงตะโกนด้วยความตกใจ
“ทำอะไร! ” ฉันหลั่งมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเตรียมตบตีหลินจู จึงตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินไปหาหลินจู
“อ่อ…” โสงฮุยหันกลับมามองฉินหลั่ง ฉินหลั่งก็วิ่งไปตรงข้างหน้าของหลินจู แล้วดึงเธอไปอยู่ข้างหลังตนเอง เขาก็ได้ปลอบโยนหลินจูด้วยเสียงเบา “ไม่ต้องกลัว…”
“แกเป็นแฟนของมันหรอ? ” โสงฮุยถามด้วยยิ้มอันเย็นชา เขามองหลินจูที่ถูกฉินหลั่งขัดอยู่ข้างหน้า “ไอ้ขี้เหร่อย่างแก ก็เหมือนจะมีแค่Loserอย่างเขาที่ชอบแกแล้ว ดูสภาพเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างมอมแมมสิ ดูๆ แล้วก็คงมีชีวิตเพราะเป็นคนขอทาน”
โสงฮุยมองฉินหลั่งที่เปรอะเปื้อนสิ่งสกปรก ภายในใจก็ไม่ได้ใส่ใจเขาแม้แต่เพียงน้อย
“คนหนึ่งคือLoser หนึ่งคนคือไอ้ขี้เหร่ พวกแกสองคนถ้าได้แต่งงานกันแล้ว เด็กที่เกิดมาก็ต้องทั้งขี้เหร่ทั้งLoserแน่นอน! ” ช่วงท้องที่รู้สึกเจ็บของหญิงเสื้อขาวก็ค่อยๆ ดีขึ้น เวลานี้จึงถือโอกาสพูดจาเย้ยหยัน
“พวกเราไม่ใช่แฟนกัน พวกคุณอย่าพูดเรื่อยเปื่อย เธอไปทำอะไรให้พวกคุณ พวกคุณถึงจะตีเธอ” ภายในใจของฉินหลั่งยังคงนึกถึงจงยู่ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่อยากจะให้คนอื่นเข้าใจผิด เขาอยากถามสถานการณ์ให้ชัดเจน จะได้อธิบายให้เร็ว
“โธ่ ไอ้ขี้เหร่หนอไอ้ขี้เหร่ แกได้ยินหรือยัง แม้แต่Loserคนนี้ยังไม่เห็นแกในสายตา ฉันว่าชาตินี้แกก็คงต้องเป็นหญิงโสดแล้วแหละ ฮ่าๆ ……” หญิงเสื้อขาวพูดและแสยะยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“คุณ…” ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะมองหลินจูที่อยู่ข้างหลังเพียงชั่วพริบตา แค่เห็นนัยน์ตาของเธอเหมือนจะสติหลุดไปทันที ฉินหลั่งรู้ว่าคำพูดของหญิงเสื้อขาวกำลังทำลายศักดิ์ศรีของหลินจู
“Loser ไอ้ขี้เหร่คนนี้มันแอบใส่น้ำยาขัดรองเท้าในแพนเค้กจีนของเรา เรามาหาเรื่องเธอ แกถอยไปอย่างยุ่งเรื่องของคนอื่น…….” โสงฮุยพูดขึ้น
โสงฮุยพูดจบ ฉินหลั่งรู้สึกได้ว่าหลินจูที่อยู่ข้างหลังจับตนเองแน่นขึ้น ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตนเองไม่สามารถทิ้งเธอแล้วไม่สนใจเธอได้ ฉินหลั่งจึงใจอ่อนทันที
“พี่ชายคนนี้ เรื่องนี้ทางเราเองที่ทำไม่ถูก ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย แล้วผมจะจ่ายค่าเสียหายให้พวกคุณเป็น 1000 หยวน วันนี้เรื่องนี้ก็ปล่อยๆ เถอะ คุณว่ายังไงบ้าง? ” ฉินหลั่งเดาออกว่าฝ่ายตรงข้ามต้องพูดจาอะไรที่ทำให้หลินจูโกรธแน่นอน หลินจูถึงได้ทำเรื่องนี้ออกมา พวกเขาไม่มีอำนาจและอิทธิพลใดๆ เรื่องนี้ถ้าถูกปล่อยปละละเลยไปก็ดี
“แม่มึงดิ กูเป็นในของตระกูลหลง มึงคิดว่ากูจะสนใจเงินแค่1000หยวนของมึงหรอ? ” พอได้ยินฉินหลั่งยังคงปกป้องหลินจู โสงฮุยรู้สึกโมโหทันที เขาพูดด้วยความไม่เกรงใจ “กูคือบอดี้การ์ด ปกติฝึกวิชาที่ยินมวย กูให้มึงพิจารณาสามวิ ถ้าเมิงยังไม่ถอยไป กูจะต่อยมึงด้วย! ”
“พ่อหนุ่ม อย่าฝืนเลย แฟนของฉันเป็นทั้งสานต่า มวยไทย คาราเต้อะไรพวกนี้ ถ้าปล่อยให้เขาลงไม้ลงมือจริงๆ เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ล้อเล่น…..”
“3……2……” โสงฮุยกัดฟันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉินหลั่งแค่ยืนอยู่ตรงข้างหน้าแล้วมองเขาอย่างเงียบ
“1! ”
“แม่มึงเอ้ย! กูไม่ต่อยมึงจนต้องเรียกกูจะพ่อ กูก็จะไม่มีนามสกูลโสงอีก……” โสงฮุยรู้สึกตะคอกด้วยความโมโห จากนั้นก็ยกหมัดไปทางฉินหลั่ง
ฉินหลั่งมองหมัดของโสงฮุยอย่างแม่นยำ แล้วเฉียงลำตัวเพื่อหลบเลี่ยง ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีแรงๆ หนึ่งผลักมาบนเรือนร่างของเขา ความใจจดใจจ่อของฉินหลั่งอยู่ตนเรือนร่างของโสงฮุ่ยทั้งหมด กลับถูกแรงที่ไม่ค่อยใหญ่นี้ผลักไปในทิศทางที่หลบเลี่ยง
“โธ่! ” คนที่ผลักฉินหลั่งก็คือหลินจู เป้าหมายที่โสงฮุยต้องการจู่โจมคือฉินหลั่ง นึกไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะถูกผลักแบบนี้ หมัดๆ หนึ่งของเขาจึงไม่โดนอะไรเลย กลับถูกหลินจูเตะตรงท่อนล่างแรงๆ ทันใดนั้นเรือนร่างก็ขดงอเหมือนกุ้ง แล้วก็ร้องทุกข์ออกมาอย่างทรมาน
“รีบวิ่ง! ” หลินจูถือโอกาสวิ่งไปข้างๆ ฉินหลั่ง แล้วดึงเขาเพื่อที่จะเผ่นหนี เธอนึกว่าฉินหลั่งก็คือนักเรียนที่ไม่ได้เรื่องอะไร ถ้าถูกโสงฮุยชกใบหน้า คิดว่าคงจะนอนในโรงพยาบาลอีกหลายวัน ดังนั้นจู่ๆ ก็ผลักเขา แล้วถีบโสงฮุย
“รถของคุณไม่เอาแล้วหรอ! ” ฉินหลั่งคิดว่าถ้าพวกเขาหนี รถขายอาหารนี้ก็ต้องถูกโสงฮุยทุบทำลายแน่นอน ชีวิตของหลินจูก็ไม่ง่ายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว รถคนนี้ถ้าถูกทุบ แล้วจะทำยังไง?
“ไม่เอาแล้ว รีบวิ่งหนีเถอะ! ” หลินจูตะโกนเสียงดังใส่ฉินหลั่ง
“นางผู้หญิงน่ารังเกียจ ฉันจะคอยดูว่าพวกแกจะหนีไปทางไหน! โสงฮุย รีบลุกขึ้น ฉันจะจับไอ้หมาสองตัวนี้ไว้” นึกไม่ถึงว่าหญิงเสื้อขาวจะไวขนาดนี้ จึงไปจับฉินหลั่งและหลินจูไว้
“ไอ้ขี้เหร่ มึงจะให้กูเป็นหมันหรือไง! ” โสงฮุยก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งมาแล้ว “แม่ง มึงเตะกูที่ไหน กูจะคืนมึงที่นั่น กูจะให้อีแรดอย่างมึงมีลูกไม่ได้! ” โสงฮุยใช้สองมือจับไหล่ทั้งสองข้างของหลินจูไว้ เข่ายกขึ้นทันที จากนั้นก็ใช้เข่าที่เป็นทักษะมวยไทย เขาที่เป็นผู้ชายกำยำล่ำสัน ถ้าใช้เข่าอัด หลินจูจะง่ายตรงที่ไม่สามารถมีลูกเท่านั้นได้ยังไงกัน?
“โอ้ย……” ไหล่ของหลินจูถูกโสงฮุยบีบจนเจ็บ ร่างกายของเธองอลง ตอนที่สังเกตเห็นว่าเข่าของโสงฮุยกำลังจะกระแทกตนเอง หัวใจดวงนี้ของหลินจูใกล้จะหลุดออกจากกลางอก เธอจึงหลับตาลงทันที
พอเห็นหัวเข่าใกล้จะกระแทกมา จู่ๆ ก็รู้สึกได้ว่าเงาสีดำข้างขวาปิดลง เขาจึงหันไปมอง เท้าข้างหนึ่งจึงเตะมาตรงกระดูกซี่โครงของเขา โสงฮุยจึงไม่สามารถทรงตัวอยู่ จากนั้นจึงมีเสียง “ปึง” ดังขึ้น ลำตัวล้มลงไปด้านซ้าย
หลินจูลืมตาขึ้น ก็เห็นฉินหลั่งถีบถีบโสงฮุยล้มลงเพียงครั้งเดียว ภายในใจจึงรู้สึกแปลกใจมาก ฉินหลั่งจึงดึงหลินจูไปข้างๆ แล้วมองโสงฮุยที่อยู่บนพื้นด้วยความระมัดระวัง
“แม่มึงเอ้ย กล้าแอบจู่โจมกูหรอ กูจะตีไอ้Loserอย่างมึงจนเอ๋อก่อน แล้วค่อยจัดการกับไอ้ขี้เหร่นี้! ” โสงฮุยยังไม่เคยถูกคนตีขนาดนี้ ไฟแห่งความโมโหก็เหมือนโบลเวอร์ที่ลุกโชนเป็นไฟ เขารู้สึกว่าเมื่อกี้ตนเองถูกแอบจู่โจม ถ้าจะตบตีฉินหลั่งให้นอนบนพื้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“หยุดเถอะ ฉันไม่อยากจะมีเรื่องกับนาย มีอะไรก็คุยกันดีๆ …….” ฉินหลั่งขมวดคิ้วมองโสงฮุย เขารู้ว่ายิ่งตีกันก็ยิ่งทำให้เรื่องมันซับซ้อน
“พูดดีๆ หามึงหาดิ กูจะให้เมิงคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วเรียกว่าคุณปู่……” พูดไป โสงฮุยก็จู่โจมต่อ ครั้งนี้เขาใช้สานต่า นี่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เขาเก่งที่สุด เขาสามารถใช้เวลาอันสั้นที่สุด ทำให้ฉินหลั่งนอนคว่ำบนพื้นได้(สานต่าเป็นรูปแบบศิลปะการป้องกันตัวและกีฬามวยใช้เท้าอย่างหนึ่งของจีน)
ทันใดนั้น หมัดของโสงฮุยก็อยู่ตรงหน้าฉินหลั่งแล้ว ภายในใจของโสงฮุยกำลังแสยะยิ้ม หมัดๆ นี้ชกหน้ามึงให้บวมข้างหนึ่งก่อน แล้วหมัดต่อไปจะทำให้ฟันมึงหลุดไป4ซีก
เขาที่กำลังจินตนาการอย่างดี จู่ๆ ก็รู้สึกตรงช่วงหน้าอกถูกจู่โจม ทำให้เขารู้สึกเจ็บมาก จนลมหายใจยังหลุดไปหนึ่งจังหวะ หมัดของเขายังไม่ทันได้ชกฉินหลั่ง ตนเองก็กลับเสไปเสมาแล้วถอยหลังไปหลายก้าว แล้วจับหน้าอกไว้ ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรง ทว่าเขาก็ไม่ยอมเสียหน้าต่อหน้าฉินหลั่งและหลินจู จึงกัดฟันอดทน
ทีแรกเมื่อกี้ฉินหลั่งข้อศอกกระแทกลงบนหน้าอกของโสงฮุย ปกติเขาไม่ชอบต่อสู้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สามารถต่อสู้ ครั้งที่แล้วตอนที่ช่วยเผิงเมิ่งบนถนนในครั้งนั้น ไม่ใช่ว่าคนเดียวก็สู้กับคนหลายๆ คนจนพ่ายแพ้ได้ คนที่มีทักษะเหมือนโสงฮุย ก็ไม่มีทางสู้เขาไหวอยู่แล้ว
เวลานี้โสงฮุยเพิ่งจะรู้สึก ฉินหลั่งไม่ได้ง่ายเหมือนที่ตนเองคิด มีความเป็นได้ที่ตนเองไม่ใช่คู่แข่งของเขาจริงๆ ภายในใจของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แค่เมื่อกี้ตนเองร้องอย่างเย่อหยิ่งขนาดนั้น ถ้าเขาไปแบบนี้ เขากลับไม่มีหน้าแบบนี้
“แม่มึงเอ้ย งั้นมึงคืนเงินกู 2000 หยวน เรื่องนี้กูจะไม่เอาเรื่องอีก……” โสงฮุยยังอยากจะหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่เสียหน้า ทว่าตอนนี้ พอเห็นฉินหลั่งยกมือขึ้นแบบนี้ “ฟิ้ว” เสียงๆ หนึ่ง ตรงหน้าของโสงฮุยมีผมกระจุกหนึ่งทิ้งไว้
โสงฮุยจับผมศีรษะของตัวเอง ก็รู้สึกว่าตรงกลางมีผมหายไป ภายในใจรู้สึกตกตะลึงมาก
“ถ้านายยังไม่ไปอีก ฉันไม่ถือสาที่จะยิงลูกตาของนาย” ตรงนิ้วมือสองนิ้วของฉินหลั่งคีบใบมีดไว้ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบเฉย โสงฮุยถึงจะเข้าใจสักที ฉินหลั่งใช้ใบมีดตัดผมของตนเอง
“คุณ……” ครั้งนี้โสงฮุยรู้สึกเหน็บชาตรงแผ่นหลัง เวลานี้ความกล้าหาญของเขาก็ถูกทำให้สะดุ้งตกใจจนหายไปหมด จากนั้นจึงพูดขึ้นไม่หยุด “ใช่ ใช่ ตอนนี้ผมจะไปตอนนี้ ผมจะไปตอนนี้……”
ขณะที่พูด โสงฮุยเดินไปตรงข้างๆ ผู้หญิงเสื้อขาว แล้วดึงเธอกำลังเดินจากไป
“โธ่ ทำไมคุณถึงตกใจขนาดนี้ ยัยขี้เหร่นั่นมันเตะฉัน คุณยังไม่ได้เอาคืนให้ฉันเลย จะไปได้ยังไง คุณรีบไปสั่งสอนไอ้หมาคู่นี้สักยกหนึ่งสิ…….” หญิงเสื้อขาวไม่เห็นฉินหลั่งใช้ “ทักษะมีดบิน” ปกติเธอเอาแต่ใจจนเคยชิน ความโมโหที่เธอถูกหลินจูถีบยังไม่ได้หายไปเลย
เวลานี้ ก็มีเสียง “ฟิ้ว” เสียงหนึ่ง ทำให้หมวกกันแดดของผู้หญิงเสื้อขาวถูกปาดเป็นรู ผู้หญิงเสื้อขาวเลยจับตรงหมวกกันแดดที่มีรูโหว่ แล้วจับโดนของที่ติดอยู่ตรงรู พอเอามาดู กลับเป็นใบมีดอันแหลมคม ทันใดนั้นก็รู้สึกตกใจจนรู้สึกหวาดกลัว เหงื่อเย็นผุดออกมา เวลานี้ไม่ต้องการให้โสงฮุยดึงเธออีกต่อไป เธอจึงเหยียบรองเท้าส้นสูง กลับวิ่งอยู่ข้างหน้าโสงฮุย “โสงฮุย ยังจะชักช้าอยู่อีกทำไม รีบเดินสิ…….”
ฉินหลั่งเห็นเรือนร่างโสงฮุยพวกเขาทั้งสองหายไป และกำลังจะหันไปถามหลินจูว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม คำพูดยังไม่ออกจากปาก ก็เห็นหลินจูจับจ้องตัวเองไว้ด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มและไม่ยิ้ม ฉินหลั่งก็ถูกเธอจับจ้องจนรู้สึกอัดอั้นใจ ฉินหลั่งเลยเอ่ยถาม “คุณมองผมทำไม? ”
“นึกไม่ถึงว่าคุณจะมีทักษะที่เก่งขนาดนี้ ทำไมไม่พูดเร็วกว่านี้ ฉันจะได้ไม่ต้องกลัวไอ้สารเลวสองคนนี้นั้น! ” น้ำเสียงของหลินจูมีความว่ากล่าวตำหนิแอบแฝง
“คุณก็ไม่ได้ถามนิ! แล้วผมจะบอกคุณยังไง? ” ฉินหลั่งมองสีหน้าของเธอ แล้วรู้ว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จึงรู้สึกสบายใจ จากนั้นก็ฟังคำถามของหลินจู กลับรู้สึกตลก
“เห้อ คุณยังโทษว่าฉันไม่ได้ถามหรอ? งั้นตอนนี้คุณบอกเรื่องที่ฉันไม่ได้ถามบอกให้ฉันฟัง จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาในครั้งหน้า ขี่ม้าแล้วยังหาม้าอยู่ พูดมา! ” หลินจูจึงพูดด้วยความโหดเหี้ยม
“ให้ตายเถอะ คุณวางอำนาจเกินไปหรือเปล่า เรื่องส่วนตัวของผม จะบอกคุณได้ยังไง? ” ฉินหลั่งพูด
“ฉันก็วางอำนาจแบบนี้แหละ ว่ามา คุณไม่พูดใช่ไหม? งั้นได้ ฉันจะหักเงินเดือนคุณ หักสองร้อยเกิน คุณจะพูดหรือไม่พูด…….” หลินจูพูดอย่างโหดเหี้ยม
“ได้ๆ งั้นผมบอกคุณก็ได้ ผมจะบอกเรื่องก่อนหน้านี้ให้คุณฟัง” ฉินหลั่งสุดคำบรรยาย และรู้ว่าหลินจูเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีของตนเองมาก และไม่มีทางยอมให้คนอื่นรังแกง่ายๆ แล้วยังชอบรังแกคนอื่นที่สุด ในสังคมนี้ใครก็เคยชินกับนิสัยแย่ๆ ของเธอ ตนเองถูกเธอ “รังแก” ทำให้เธอมีความสุขหน่อยก็ดี
“คุณนี่มันหน้าเงินจริงๆ! บอกว่าจะหักเงินก็ตอบตกลงเร็วกว่ากระต่าย ลูกผู้ชายแท้ๆ ก็ไม่รู้จักอายเลย! เราเปิดรถขายอาหารก่อน ถ้าถ่วงเวลาที่ฉันหาเงิน ฉันจะหักเงินเดือนคุณ……”
ฉินหลั่งส่ายหัวด้วยความประหม่า แล้วเปิดรถขายอาหารของหลินจูอีกครั้ง แล้วเริ่มทำการค้าขายอีกครั้ง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset