รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 180 ฉันจะรอตลอดไป

บทที่ 180 ฉันจะรอตลอดไป
หลงหลิงมองฉินหลั่งอย่างเลื่อนลอย จากนั้นก็ค่อยๆยืนขึ้นมาช้า ๆ เดินไปยังฉินหลั่ง คนอื่นต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะหม่าหยาง เขาเริ่มกำมือแน่น
“นี่มันอะไร อย่าบอกนะว่าคุณหลงยอมรับเขาแล้ว”
“เร็วเกินไป ข้าวโพดฝักหนึ่งพรากสาวน้อยตระกูลหลงไปเสียแล้ว”
“โลกทัศน์ของฉันจะถูกทำลายแล้ว”
……
ฉินหลั่งก็ตะลึงเช่นกัน ฉินหลั่งรู้สึกตื่นเต้นและไม่สบายใจเล็กน้อย จงยู่จะจำฉันได้ไหมนะ? สุดท้ายแล้วเธอจะยอมให้อภัยความผิดที่ฉันเคยทำไว้ไหมนะ?
“ขอบคุณนะ ข้าวโพดของคุณอร่อยมากๆ ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่เฉพาะสิ่งเหล่านี้ ฉันรู้ว่าคุณเรียกคนนั้นว่า ‘จงยู่’แฟนสาวผู้มีความผูกพันอย่างลึกซึ้ง ฉันก็ประทับใจมาก เธอโชคดีมากที่มีแฟนที่หลงรักเธอขนาดนี้ แต่ฉันไม่ใช่เธอจริงๆ และฉันก็ไม่ชอบที่ถูกมองว่าเป็นคนอื่น ฉันหวังว่าจากนี้ไป คุณจะเข้าใจว่า แฟนสาวที่คุณกำลังตามหาอยู่เป็นคนละคนกัน อย่าคิดว่าฉันเป็นเธออีกเลย”
หลงหลิงมองฉินหลั่งพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกว่าฉินหลั่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็น ‘จงยู่’สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่แย่มาก ดังนั้นหลงหลิงจึงเรียกสติเขากลับมา
เมื่อหลงหลิงพูดจบ มองไปที่ฉินหลั่งที่กำลังสับสนอยู่นั้น แล้วเดินไปหาหม่าหยาง
“เหอะ ตกใจหมดเลย ฉันก็นึกว่าคุณหลงจะยอมรับเขาเสียอีก ที่แท้ก็เป็นการปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิงสินะ”
“เฮ้ ดูเด็กคนนี้สิยังทำท่าทางที่น่าเหลือเชื่อ เขาไม่คิดบ้างเหรอว่า ซังข้าวโพดจะสามารถพรากสาวน้อยตระกูลหลงผู้ร่ำรวยได้เหรอ จะไม่เป็นการจับเสือมือเปล่าหรอกเหรอ”
“ให้ไอ้หมอนี่อวดดีต่อไป ถูกปฏิเสธแล้วสิ ไม่ดูสารรูปตัวเองบ้างเหรอ? คุณหลงกับคุณชายหม่าต่างหากที่เป็นคู่ที่สวรรค์บรรจงสร้างขึ้น”
……
หม่าหยางรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าหลงหลิงปฏิเสธฉินหลั่งจริง ๆ ทั้งยังคิดว่าเมื่อสักครู่ก็ดูว่าเขาให้ความสำคัญฉินหลั่งมากเกินไป ก็แค่ไอ้ขี้แพ้ข้างถนนเท่านั้นเอง คุณหลงจะไปชอบของแบบนี้ได้ยังไง
“คุณหลง ไม่ต้องไปสนใจเขา ฉันว่าสมองเขาเพี้ยนไปหน่อย คุณยังกินไม่อิ่มใช่ไหม นั่งลงสิ ฉันจะนั่งกินเป็นเพื่อนเอง” หม่าหยางกล่าวอย่างอบอุ่น
“ฉันอิ่มแล้ว ฉันอยากกลับแล้ว” หลงหลิงกล่าวเบาๆ
“ได้ ผมจะไปส่งคุณกลับไปตอนนี้เลย” หม่าหยางหยิบกุญแจรถบนโต๊ะ:”เราไปกันเถอะคุณหลง”
“คุณไม่ต้องไปส่งฉันแล้ว ฉันกลับเองก็ได้” หลงหลิงกล่าว:”คุณชายหม่า ที่มากินข้าวกับคุณวันนี้ฉันมีความสุขมาก แต่ฉันรู้สึกว่าเราไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณยินดี ต่อไปเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า”
เมื่อหลงหลิงพูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าหม่าหยางก็หยุดชะงัก เขายิ้มอย่างเก้ๆกังๆ อยากย้อนเวลากลับไป: “ฉันทำผิดตรงไหนหรือเปล่า? คุณหลง คุณบอกฉันที ฉันจะเปลี่ยนแปลงให้ เวลาคืนนี้มันเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักฉัน…..”
“ไม่ต้องแล้ว…..” หลงหลิงยิ้มให้หม่าหยาง ขณะนี้มีชายร่างสูงเดินเข้ามาจากข้างนอก เป็นบอดี้การ์ดของหลงหลิงชื่อเซอเว๋ย:”คุณผู้หญิง รถอยู่ด้านนอกครับ”
หลงหลิงพยักหน้าให้หม่าหยางและฉินหลั่งตามลำดับ โดยมีเซอเว๋ยส่งเธอออกไปจากโล๋ว่ายโล๋
“นี่คุณหลงปฏิเสธหม่าหยางแล้ว”
“รู้สึกว่าหม่าหยางน่าเวทนายิ่งกว่าไอ้ขี้แพ้เสียอีก ท้ายที่สุดคุณหลงปฏิเสธไอ้ขี้แพ้โดยพูดอย่างนัยๆ แต่เธอกลับว่าพูดกับคุณชายหม่าตรงๆไปเลย”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ระวังคุณชายหม่าได้ยินเข้า คุณไม่เห็นหน้าของคุณชายหม่าเหรอหน้าเขียวปั้ดหมดแล้ว”
……
หม่าหยางยืนอยู่ที่เดิม มองจากด้านหลังของหลงหลิงเดินจากไปผ่านกระจก ในใจไม่ยินยอมและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาเตรียมตัวมานานเพื่อที่จะได้พบหลงหลิงแต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะถูกหลงหลิงปฏิเสธก่อนที่เขาจะกินอาหารเสร็จ เขาถูกหลงหลิงปฏิเสธโดยตรง เขารู้สึกได้แม้กระทั่งว่าทัศนคติของหลงหลิงที่มีต่อเขานั้นเย็นชายิ่งกว่าไอ้ขี้แพ้คนนี้เสียอีก
เสียงกระซิบกระซาบของผู้สังเกตการณ์ที่อยู่รอบ ๆ ยิ่งทำให้เขาหน้าแดง รู้สึกอับอายขายขี้หน้า เขารีบจ่ายเงิน ก่อนเดินไปเขายังมองฉินหลั่งอย่างดุร้าย และรีบเดินจากไป
ฉินหลั่งก็รีบออกไปจากร้านอาหาร
ในตอนนี้ อารมณ์ของฉินหลั่งสงบมากขึ้น แม้ว่าวันนี้เขาจะไม่ได้ให้หลงหลิงยอมรับว่าเธอคือจงยู่ และยอมรับตัวเอง แต่ยังไงซะก็ทำให้หม่าหยางไม่ต้องตามจีบหลงหลิงแล้ว
ตอนนี้จงยู่ค้นพบแล้ว ตราบใดที่เขาพยายามตามจีบหลงหลิง สักวันหนึ่ง หลงหลิงก็จะหวั่นไหวเอง
“ฉินหลั่ง!” นี่มัน 20.30 น.แล้ว ฉินหลั่งปั่นจักรยานสาธารณะเดินหน้าไปตามทางถนน มีเสียงดังขึ้นตรงหน้า ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้น ที่แท้ก็คือหัวหน้านักเรียนมัธยมปลายเถียนซิงและอ้ายทาว:”คุณขี่จักรยานมาถึงโล๋ว่ายโล๋เลยเหรอ?”
“ที่รัก คนเมื่อกี้ที่เราเห็นไกล ๆ ถูกรปภ. ไล่ออกมาจากร้านอาหารก็คือเขานั่นแหละ!” เถียนซิงกล่าวกับอ้ายทาวอย่างเบิกบานใจ:”เขาแต่งตัวแบบนี้ยังกล้าออกมาโล๋ว่ายโล๋อีกเหรอ คนเขาไม่ไล่ออกนั่นสิแปลก”
มี BMW คันหนึ่งขับวนมา เจ้าของรถลงกระจก ชี้ไปที่ฉินหลั่งและยิ้ม:”คนอย่างคุณคิดจะจีบคุณหลง น่าขำชะมัด วันนี้ถูกคุณหลงปฏิเสธในร้านอาหารสบายใจเลยสิ ฮ่าๆๆ ไอ้ขี้แพ้”
“พี่คนหล่อ ที่คุณพูดถึงตระกูลหลงคือเถ้าแก่หลงเถิงไหม?”เถียนซิงถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ ผู้ชายคนนี้ยังฝันกลางวันว่าจะได้เป็นลูกเขยของตระกูลหลง แต่ดันถูกคุณหลงปฏิเสธไปต่อหน้า แล้วเขายังทะเลาะกับคุณชายหม่าหยางแห่งบริษัทลี่สือจำกัดอีก ไอ้หนุ่มขี้แพ้คนนี้สุดยอดไปเลย!” เจ้าของรถ พูดจาเสียดสีฉินหลั่งไม่กี่คำ แล้วเขาก็จากไป
“ฮ่าๆๆ ฉินหลั่ง คุณอยากจะหัวเราะเยาะฉันเหรอ? แค่คุณแต่งตัวแบบนี้ แล้วยังจะคิดจะไปจีบคุณหลงอีก ทำไมคุณไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลยล่ะ?” เถียนซิงหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง กว่าจะกลั้นหัวเราะได้ไม่ง่ายเลย: “จริงสิ ตอนนี้คุณทำงานที่ไหนเหรอ? เงินเดือนเท่าไหร่? มาโล๋ว่ายโล๋อย่างสง่าผ่าเผยในวันนี้ ค่าเรียนไม่พอใช่ไหม? ฉันคิดว่าคุณจะเลิกเรียนกลางคัน แล้วไปทำงานที่โรงงานอิเล็กทรอนิกส์เสียอีก”
“อ้าว ซิงซิง พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เขาเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมแห่งมหาวิทยาลัยจีนหลิงเลยนะ จะไปทำงานระดับต้อยต่ำอย่างโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ได้ยังไงกันล่ะ? ยังไงก็ต้องเป็นผู้จัดการของรัฐวิสาหกิจ เจ้านายถึงจะยอมรับเด็กเทพผู้สูงส่งอย่างเขาได้ ฉันพูดถูกไหม นักศึกษาเกียรตินิยมแห่งมหาวิทยาลัยจีนหลิง?” อ้ายทาวพูดหยอกล้อ
“พอแล้ว อย่าเถียงกับเขาเลย เรารีบไปกินข้าวที่โล๋ว่ายโล๋กันเถอะ สถานที่หรูๆแบบนี้ คนอย่างเขาน่ะ ชาตินี้ก็มาไม่ได้หรอก!” เถียนซิงมองฉินหลั่งอย่างลำพองใจ เขาจับแขนของอ้ายทาวแล้วเดินไปที่โล๋ว่ายโล๋
ฉินหลั่งขี่จักรยานกลับไปถึงที่บ้านเช่าของตัวเอง
20 กว่าวันถัดไป ฉินหลั่งยังคงทำตามแผนของตัวเอง เขาเจียดเวลา 1 ชั่วโมงของทุกวัน มารอที่หน้าประตูชุมชนหมิงซื่อ แต่เขาไม่หุนหันพลันแล่นเหมือนแต่ก่อน เมื่อเจอหลงหลิงออกมา ก็จะยืนเงียบๆข้างถนนเพื่อมองดูเธอ เมื่อเห็นเธอสบายดี ฉินหลั่งก็พอใจแล้ว แน่นอนว่ายังมีลูกคนรวยไม่กี่คนนัดหมายกับหลงหลิงในตอนนั้น แต่ก็ไม่สำเร็จ แต่ฉินหลั่งรู้สึกว่าสายตาที่หลงหลิงมองมาที่ตัวเอง เป็นกังวลอย่างอธิบายไม่ได้ เขารู้สึกว่าหลงหลิงค่อนข้างรังเกียจตัวเอง
“คุณไม่ต้องรอที่นี่อีกต่อไปแล้ว พี่สาวของฉันไม่ใช่ ‘จงยู่’อย่างที่คุณพูดจริง ๆ รอแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีผล” หลงเย้นมองฉินหลั่งรอที่นี่มานานกว่าหนึ่งเดือน เธอไม่เข้าใจฉินหลั่งเอามาก ๆ
“ขอบคุณนะ เธอคือความหมายของชีวิตฉัน ถ้าฉันไม่รอเธอแล้วฉันจะทำอะไรได้?” ฉินหลั่งกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ เขาคุ้นชินกับความไม่เข้าใจของคนอื่นแล้ว
“แบบนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือ? คุณควรจะเข้าใจได้แล้ว พี่สาวของฉันกับคุณมันเป็นไปไม่ได้” หลงเย้นกล่าวและขมวดคิ้วเล็กน้อย ฉินหลั่งไม่ตอบ เขาได้แต่นั่งเงียบๆตรงข้ามประตูชุมชนหมิงซื่อ
“พี่สาวของฉันจะเปิดเทอมแล้ว เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน ต่อไปเธอจะไม่ค่อยกลับมาที่นี่ คุณไม่ต้องมารอตรงนี้แล้ว” หลงเย้นกล่าว
“โอเค ขอบคุณนะ ฉันรู้แล้ว” ฉินหลั่งกล่าว เขารู้สึกอบอุ่นในใจเล็กน้อย ดวงตาที่ยอดเยี่ยมคู่หนึ่งของหลงเย้นมองฉินหลั่งอยู่ 2-3 นาที และถอนหายใจเบาๆ หันตัวกลับเข้าไปในชุมชนเล็ก ๆ
วันถัดมา ฉินหลั่งทำธุรกิจกับหลินจูตามปกติอยู่ใกล้ๆสนามกีฬาหวงหลง หลินจูรู้สึกไม่พอใจอย่างมากเรื่องที่ช่วงนี้ฉินหลั่งไปหาหลงหลิง ขู่เขามาตลอดว่าจะหักเงินเขา เมื่อนับดูแล้ว เงินเดือนของฉินหลั่งในเดือนนี้ก็ไม่เหลือแล้ว
ธุรกิจที่สนามกีฬาหวงหลงไปได้ด้วยดี พวกเขามีรายได้ถึง 300 กว่าหยวนในช่วงเวลาเช้า
“คุณ ฉันขอแพ้นเค้ก 2 ชิ้น” ผู้หญิงคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้ารถขายอาหาร เมื่อเธอเห็นฉินหลั่ง อุทานขึ้นมาว่า:”ฉินหลั่ง!”
ฉินหลั่งมองไปที่ผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จำได้ว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมปลาย—-ฝู้โยว สมัยมัธยมจะมองเขาเป็นอากาศ และไม่เคยพูดกันเลยสักคำ
“ฝู้โยว บังเอิญจัง คุณก็ยังอยู่ในหลินอานเหรอ” ฉินหลั่งยิ้ม ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย ฝู้โยวไม่สนใจฉินหลั่ง แต่โบกมือไปด้านข้างและตะโกน:”เถียนซิน รีบมาเร็ว”
สักครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งก็มา นั่นคือเถียนซิง เมื่อเห็นฉินหลั่งอยู่ในรถขายอาหาร ในดวงตาของเถียนซิงแผ่ซ่านถึงความดูถูกเหยียดหยาม
“เถียนซิง เมื่อไม่กี่วันก่อนแกบอกฉันว่าฉินหลั่งก็มาหลินอานด้วย ฉันยังไม่เชื่อเลย แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วจริงๆ”
“หึ ฉันว่าแล้วเขาจะหางานอะไรทำ คิดไม่ถึงว่าจะมาขายแพนเค้กอยู่ที่นี่ซะแล้ว น่าตลกชะมัด” เถียงซิงยิ้มเยาะ
“ใช่ ฉินหลั่ง คุณก็ไม่ทะเยอทะยานหน่อยเหรอ ยังไงซะก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจีนหลิง แม้ว่ากำลังมองหางานพาร์ทไทม์ก็ควรจะหางานที่มีเกียรติหน่อย ทำงานที่ไร้ทักษะเช่นนี้ โอ้…..” ฝู้โยวมาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในหลินอาน มหาวิทยาลัยใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เธอถึงได้กลับมาก่อนเวลา แม้ว่าเถียนซินจะเรียนไม่เก่ง แต่พวกเขาก็มีแฟนเป็นลูกคนรวย ฝู้โยวยังอยากประสบสอพลอเถียนซิง ต่อไปหากต้องการหางานทำ ก็ให้แฟนของเถียนซิงช่วยได้
“ฝู้โยว ไปบอกเขาเรื่องนี้ทำไม ตอนสมัยมัธยมปลายฉันก็มองออกแล้ว ว่าเขาคนนี้ไม่มีความทะเยอทะยาน ก็แค่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหวา เทียบกับวิทยาลัยวิชาชีพก็ไม่ได้แตกต่างอะไร……” เถียนซิงยิ้มอย่างถากถาง
เถียนซิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ควันสีฟ้าฉุนกระทบเข้ามายังใบหน้าของเธอ
“แค่กๆๆ….” เถียนซิงและฝู้โยวถอยกลับไปสองสามก้าว ก้มตัวลงและเริ่มไอ เมื่อพวกเธอไอเสร็จ เถียนซิงชี้ชี้ไปที่หลินจูพร้อมพูดด้วยความโมโห: “แกทำอะไร!”
เธอเห็นหลินจูอบแพนเค้กไหม้ เมื่อกี้เธอเอียงกระทะ ปล่อยให้ควันน้ำมันพุ่งหาพวกเธอโดยเฉพาะ
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” หลินจูยิ้มและกล่าว “ทั้ง 2 คน ขอโทษด้วยนะ ฉันทำแพนเค้กของพวกคุณไหม้เสียแล้ว พวกคุณยังจะกินอีกไหม? ไหม้แล้วรสชาติไม่ดีนะ”
“แกยั่วโมโหพวกเรา ตอนนี้ทำใหม่ให้พวกเรา 2 ชิ้น!” เถียนซิงกล่าวอย่างโมโห
“ขอโทษนะ ฉันทำจนเหนื่อยแล้ว ไม่อยากทำแล้วล่ะ ถ้าพวกคุณอยากจะกินล่ะก็ ฉันจะเอาแพนเค้กไหม้ๆ 2 ชิ้นนี้ให้พวกคุณ ไม่คิดเงินจ๊ะ” หลินจูหัวเราะและกล่าว
“ผู้หญิงอัปลักษณ์ตั้งใจทำให้พวกเราโมโหใช่ไหม!” เถียนซิงจ้องไปที่หลินจูและกำลังไปจะดุด่าเธอสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้มาถึงด้านหน้า หลินจูเอียงกระทะ ปล่อยควันน้ำมันร้อนพุ่งเข้ามาอีก เถียนซิงหยุดก้าวเท้าด้วยความตกใจ
“ช่างเถอะ เถียนซิง เราไปซื้อขนมที่ถนนสายอื่นกันเถอะ” ฝู้โยวคว้าเถียนซิง กล่าวลากับฉินหลั่ง และเดินจากไปกับเถียนซิน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset