รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 183 ออกเงินค่าอาหารมาให้ด้วย

บทที่ 183 ออกเงินค่าอาหารมาให้ด้วย
ฉินหลั่งวางตะเกียบลง ยืนขึ้นอย่างสบายๆ ผู้คนในนี้เห็นการแต่งตัวของฉินหลั่งเหมือนกับของแผงลอยถนนคนเดิน ที่สำคัญเสื้อผ้าก็สกปรก ผมก็เหนียวเหนอะหนะติดพันกัน ก็เริ่มกระซิบกระซาบทันที
“คนคนนี้แต่งตัวได้แย่มาก”
“เขาทำอะไรนะ มาร่วมงานเลี้ยงหมู่บ้านสวมใส่แบบนี้ โคตรไม่ให้เกียรติกันเลย”
“เชี่ยๆ บางทีคนก็ไม่ชอบโอ้อวด แท้จริงอาจจะเป็นทายาทเศรษฐีก็ได้นะ ตอนนี้ในสังคมมีทายาทเศรษฐีมากมายที่แสร้งทำเป็นคนจน”
……
ฉินหลั่งกล่าวอย่างใจเย็น: “สวัสดีพี่ๆน้องๆทุกคน ผมชื่อฉินหลั่ง เปิดฟู้ดทรัคกับเพื่อน ขายของตามถนนและตรอกซอกซอยของหลินอาน เมนูพิเศษของฟู้ดทรัคเราคือแพนเค้กมัลติเกรน ถ้าหากว่าวันไหนที่ทุกคนมาทาน ฉันสามารถทำให้ทุกคนฟรีๆหนึ่งชิ้น”เมื่อพูดจบ ฉินหลั่งก็ยิ้มบางๆ แล้วนั่งลง
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้คนที่อยู่ในนี้ก็ตะลึงไปชั่วขณะ ตัวเองทำงานอยู่ในบริษัทพูดจายังไม่มีความมั่นใจขนาดนี้ เขาเป็นแค่คนขายแพนเค้กทำไมถึงพูดออกมาได้อย่างสบายๆ ในไม่ช้า ทุกคนก็มีปฏิกิริยากลับมาทันที
“เขาก็แค่ขายแพนเค้กเอง งานนี้ก็มีค่าที่จะพูด”
“แพนเค้กมัลติเกรนหนึ่งชิ้นก็ห้าหยวนแล้ว ฉันว่าหนึ่งเดือนยังไม่สามารถทำเงินสามพันหยวนด้วยซ้ำ นอกจากจะต้องกินข้าวและเช่าบ้านแล้ว ก็ไม่มีเงินแล้ว”
“ฉิบหาย คนแบบนี้ก็ยังมีหน้ามาร่วมงานเลี้ยงหมู่บ้าน? คนที่ส่วนมากที่อยู่ในนี้เงินเดือนมากกว่าหนึ่งหมื่น เขาแค่ขายแพนเค้ก จะมาช่วยเหลืออะไรพวกเราได้ล่ะ?”
……
ชั่วขณะหนึ่ง ฉินหลั่งกลายเป็นเป้าหมายของการสนทนาของผู้คน บางคนเยาะเย้ย บางคนแดกดัน และบางคนก็ดูหมิ่น ในสายตาของพวกเขาฉินหลั่ง ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าผู้คนที่อยู่ในนี้
“หือ?”
เถียนซิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าส่งเสียง“หือ”มาหนึ่งคำ เดินไปตรงหน้าฉินหลั่ง แสร้งทำเป็นมองฉินหลั่งตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งรอบ แล้วยิ้มให้กับทุกคน: “เหมือนกับว่าฉันจะจำเขาได้แล้วนะ ก่อนหน้านั้น ฉันเคยเห็นเขาที่โล๋ว่ายโล๋!”
“ไม่ใช่มั้ง เขาแค่คนขายแพนเค้กจะสามารถไปโล๋ว่ายโล๋ยังไง? คุณเถียน คุณมองผิดไปหรือเปล่า?”คนอื่นๆไม่เชื่อ มองไปที่เถียนซิงอย่างสงสัย
“ฮ่าฮ่า ทุกคนคิดผิดกันแล้ว ฉันเห็นเขาถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโล๋ว่ายโล๋ขับไล่เขาออกมาจากห้องอาหาร ที่สำคัญพวกคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆว่าเขาทำอะไรไว้ที่โล๋ว่ายโล๋? เขาอยู่ที่โล๋ว่ายโล๋ สารภาพรักกับคุณหนูตระกูลหลงของถืงหลงกรุ๊ป แต่กลับถูกคุณหนูตระกูลหลงปฏิเสธต่อหน้าเลย ที่สำคัญเขายังท้าทายคุณชายของบริษัทลี่สือจำกัดด้วย พวกคุณว่าเขาคนนี้น่าสนใจหรือไม่น่าสนใจ”
“อะไรนะ เขาสารภาพรักกับคุณหนูตระกูลหลงเหรอ? ไอ้หมอนี่สุดยอดจริงๆ แค่คนขายแพนเค้กยังอยากจะไปคบหากับคนรวย ฝันไปเถอะนาย”
“ฉันดูลักษณะของไอ้หมอนี่ ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนละโมบแค่ไหน แต่ถ้านายจะละโมบก็ต้องมีขอบเขต ตระกูลหลงติดหนึ่งในห้าของตระกูลในหลินอานเชียวนะ นายแค่คนขายแพนเค้กยังอยากเข้าไป ฝันกลางวันไปเถอะ”
“ไอ้หมอนี่ทำให้ฉันนึกถึงฮันนีแบดเจอร์ที่อยู่ในทุ่งหญ้าแอฟริกา ตัวเล็กๆยังกล้าท้าทายสิงโต เขาไม่ใช่เหรอ ไอ้คนธรรมดาชั้นต่ำ ยังจะท้าทายหม่าหยางคุณชายหม่าอีก ไม่ช้าไม่เร็วตัวเองก็จะทำให้ตัวเองตายได้”
……
ฉินหลั่งแสยะยิ้มในใจ คนฉางอานทุกคนที่อยู่ในหลินอาน ต่อให้ตัวเองจะขายแพนเค้กยังไง ต้อง ดูถูกตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ? เดิมทีที่เขามาที่นี่ หนึ่งเป็นเพราะว่ารับปากฝู้โยว สองคืออยากฟังสำเนียงท้องถิ่น คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว อย่างนั้นตัวเองจะอยู่ที่นี่ต่อไปทำไมล่ะ?
ฉินหลั่งยืนขึ้นอย่างกะทันหัน และเดินไปที่หน้าประตู คนอื่นเห็นว่าฉินหลั่งกำลังจะไป รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้ายิ่งชัดเจนขึ้น พวกเขารู้สึกว่าฉินหลั่งรู้สึกอับอาย และละอายที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป
“อย่าเพิ่งไปนะ! ฉินหลั่ง นายหยุดเดี๋ยวนี้!”เถียนซิงตะโกนเรียกไปด้วยพร้อมกับเดินไปที่ฉินหลั่ง นี่ยังไม่ถึงไหนเลย หล่อนยังเล่นไม่สนุกเลย
ตอนนี้ฉินหลั่งได้ยินเสียงของเถียนซิงก็รู้สึกโมโห ใครจะไปสนใจหล่อน เขายังรีบร้อนไปเจอแม่ของเขา
ขณะตอนที่ฉินหลั่งกำลังจะเปิดประตูออกไป เปิดประตูก็เปิดออก ชายคนเอวใหญ่หนึ่งอายุสี่สิบปีก็เดินเข้ามา ก็คือผู้จัดงานเลี้ยงหมูบ้านครั้งนี้—-หลี่ย่าวเวย
“…นี่คือ…”เมื่อหลี่ย่าวเวยเห็นฉินหลั่งหน้าก็เขียว ยังไม่เข้าใจดังนั้น เมื่อเห็นใบหน้าของฉินหลั่ง ดวงตาของหลี่ย่าวเวยก็สั่นเล็กน้อย
“ประธานหลี่ นี่เป็นแขกของเรา อย่าให้เขาไป…..”เถียนซิงพูดกับหลี่ย่าวเวยอย่างรีบร้อน จากนั้นก็มาถึงหน้าฉินหลั่งพอดี คว้าตัวฉินหลั่ง หล่อนขยิบตาส่งสัญญาณให้หลี่ย่าวเวย แล้วยิ้มบางไปกล่าวว่า: “ประธานหลี่ เมื่อกี้ฉินหลั่งรู้สึกไม่พอใจกับทุกคนในที่นี้…..”
“อ๋อ…”หลี่ย่าวเวยก็ส่งเสียงฮ่าฮ่า เขาตบไปที่หัวไหล่ฉินหลั่งเบาๆ: “ไอ้น้อง ไม่เป็นไร ทุกคนก็เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน แค่ล้อเล่นเองนะไม่จริงจัง เห็นแก่หน้าพี่ชาย เข้าไปนั่งก่อนว่ายังไง?”
ฉินหลั่งคิด วันนี้หลี่ย่าวเวยเป็นเจ้าภาพ เจ้าภาพเขาเองก็เชิญชวนเขาขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็ยังให้เกียรติหลี่ย่าวเวย ก็เลยกลับไปนั่งลงอีกครั้ง
“ขอโทษด้วยนะ นายอย่าเก็บคำพูดของพวกเขามาใส่ใจเลย…..”เมื่อเห็นท่าทางเมื่อกี้ของฉินหลั่ง ในใจฝู้โยวก็รู้สึกผิดมากขึ้น และกระซิบพูดกับฉินหลั่ง ซึ่งทำให้ฉินหลั่งโล่งใจเล็กน้อย
อีกด้านหนึ่งในเวลานี้ที่ห้องวีไอพีv888สุดหรูของเคมปินสกี้ เจ้านายของเคมปินสกี้เจ้ากำลังยืมอยู่ข้างๆสาวสวยวัยกลางคนด้วยความเคารพ สาวสวยวัยกลางคนก็คือแม่ของฉินหลั่งจ้าวหมิงหมิง บนโต๊ะอาหารยังมีผู้ชายอีกหนึ่งคน ก็คือโข่งลิ่งเสียน
ครั้งนี้ที่จ้าวหมิงหมิงกลับมาที่ประเทศด้วยเหตุผลที่ว่ามาทำธุรกิจ แต่ความจริงคือต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อมาเยี่ยมลูกชาย อันที่จริงแล้วหลังจากที่รู้ว่าฉินหลั่งสิ้นสุดการฝึกทดสอบความยากจนลง จ้าวหมิงหมิงก็เริ่มวางแผนที่จะกลับมาเยี่ยมเขา ถึงตอนนี้ถึงเป็นไปตามแผน
ในวันที่เธอกลับมา จู่ๆก็ได้ยินมาว่าลูกชายถูกตระกูล “ลงโทษ”อีกครั้ง ไม่อนุญาตให้ฉินหลั่งใช้ทรัพย์สินใดๆของตระกูล นี่มันไม่ต่างอะไรจากการให้ฉินหลั่งฝึกทดสอบความยากจนเลย
ดังนั้นเมื่อจ้าวหมิงหมิงกลับมาถึงประเทศจีน ก็นัดหมายเจอกับโข่งลิ่งเสียนคนรับผิดภาคหัวดงอย่างลับๆ อยากให้เขา “ดูแล ดูแล”ลูกชายของตัวเอง แต่คุยกับโข่งลิ่งเสียนมาครึ่งวัน โข่งลิ่งเสียนก็ไม่กล้ารับปาก
ในเรื่องนี้ จ้าวหมิงหมิงหมดหนทางและเข้าใจ เนื่องจากการ “ลงโทษ”ฉินหลั่งเป็นคำสั่งของตระกูล ถ้าเขากล้าไม่ปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อเรื่องส่วนตัว ก็จะต้องถูกตระกูลลงโทษอย่างรุนแรง
จ้าวหมิงหมิงรอฉินหลั่งด้วยความกังวล ถึงเรียกเจ้านายของเคมปินสกี้เข้ามา แล้วกล่าวว่า: “คุณไปดูที่ห้องวีไอพี304 งานเลี้ยงของพวกเขาไปถึงไหนแล้ว ช่วยฉันสังเกตดูชายหนุ่มคนนี้ด้วย”
จ้าวหมิงหมิงเอาโทรศัพท์ให้เจ้านายตู้ดู ในโทรศัพท์มีรูปฉินหลั่งหนึ่งใบ โข่งลิ่งเสียนเป็นคนให้เธอเอง
“ครับ…..”เจ้านายตู้ตอบรับด้วยความเคารพ แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักกับสาวสวยวัยกลางคนคนนี้ แต่สำหรับโข่งลิ่งเสียนเขาดังก้องหูมาก เป็นคนใหญ่คนโตของเซี่ยงไฮ้ อยู่ในภาคหัวดงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้ายักษ์ใหญ่ผู้ร่ำรวยหรือบุคคลทั่วไปก็ต้องมีมารยาทให้กับคนใหญ่คนโต แม้แต่เขายังมีท่าทางที่เคารพต่อสาวสวยวัยกลางคน แล้วตัวเองจะกล้าละเลยได้ยังไงกันล่ะ?
เจ้านายตู้ถอยออกไป เดินไปที่ห้องวีไอพี304
ในเวลานี้ที่ห้องวีไอพี304 หลี่ย่าวเวยและเถียนซิงยืมอยู่ด้านหน้า หลี่ย่าวเวยพูดอย่างสุภาพ
“ประธานหลี่ ทำไมคุณถึงให้คนขายแค่แพนเค้กกลับมาล่ะ?
ชายหนุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวขึ้นมา ทำให้คนในที่นี้หัวเราะ มีบางคนก็ตะโกนไล่ฉินหลั่งออกไป
“โธ่ ทุกๆคนแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ เนื่องจากว่าทุกคนก็เป็นคนฉางอาน น่าจะประนีประนอมซึ่งกันและกัน”หลี่ย่าวเวยกวาดมือไปรอบๆ แล้วเขาก็ชี้ไปที่ฉินหลั่ง: “ฉินหลั่ง เชิญนายยืนขึ้นมาหน่อย”
ฉินหลั่งก็เคารพหลี่ย่าวเวยอยู่เช่นกัน ในเมื่อเขาช่วยพูดแทนตัวเอง ก็เลยยืนขึ้นมา
“ทุกคนคงไม่เข้าใจฉินหลั่ง แน่นอนว่า ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเขาเหมือนกัน แค่วันนี้ผมบังเอิญไปเจอเขา ผมสามารถแบ่งปันให้ทุกคนฟังได้ ให้ทุกคนรู้ว่าฉินหลั่งเป็นคนยังไง”
คนอื่นๆก็แสดงท่าทางออกมาด้วยความสงสัย หรือว่าคนขายแพนเค้กคนนี้จะมีอะไรที่ซ่อนอยู่ไม่มีใครรู้?
ฉินหลั่งก็นิ่งอึ้ง หรือว่าหลี่ย่าวเวยจะเคยซื้อแพนเค้กของฉันเหรอ? ฉินหลั่งกลับมานึกถึงลูกค้าวันนี้ กลับคิดไม่ออกว่ามีลูกค้าอย่างประธานหลี่ด้วย
“วันนี้ฉันเห็นหญิงชราที่เก็บของของเก่าบนจักรยานมีของเก่าตกลงมา ฉินหลั่งอาสาช่วยหญิงชราเก็บของเก่า ตอนแรกฉันคิดว่า ไอ้หมอนี่เป็นคนดี แต่คิดไม่ถึง สุดท้ายเขายังขอเงินหญิงชราไปสิบหยวน!”
เมื่อหลี่ย่าวเวยเห็นฉินหลั่งแวบแรกก็จำได้ว่าเป็นฉินหลั่ง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนที่เถียนซิงบอกว่าทำให้ตัวเองอับอายคนนั้น ดังนั้นเขาจึงรั้งให้ฉินหลั่งเข้ามาอยู่ต่อ
“อะไรนะ! เงินของคนเก็บของเก่าก็เอา”
“ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นแค่คนจน คิดไม่ถึงว่าศีลธรรมของเขาก็มีปัญหาด้วย!”
“ผมอยากจับส่งตัวเขาไปที่สถานีตำรวจ ขายหน้าพวกเราคนฉางอานมาก”
……
ในเวลานี้คนอื่นๆมีความคิดเห็นเกี่ยวกับฉินหลั่งมากขึ้น
ในใจของฉินหลั่งหดหู่มาก คิดไม่ถึงว่าที่หลี่ย่าวเวยรั้งให้เขาอยู่ต่อเพื่อจุดประสงค์นี้ เมื่อเห็นท่าทางเขาและเถียนซิงที่ยิ้มเยาะ ในใจของฉินหลั่งก็ฝืนยิ้ม ที่แท้ทั้งหมดนี้เป็นแผนที่เถียนซิงวางไว้เพื่อจัดการตัวเอง
“ให้เขาไสหัวออกไปให้พ้นๆซะ! คนเลวที่ไร้ศีลธรรมแบบนี้ พวกเราไม่ต้อนรับเขา!”
“ใช่ เขาคือความอับอายของคนฉางอาน ให้เขาอยู่ที่นี่พวกเราทานข้าวก็ไม่อร่อยอีกต่อไป”
……
ตอนนี้ต่อให้พวกเขาไม่ขับไล่ฉินหลั่งออกไป ฉินหลั่งก็ไม่อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว ฉินหลั่งมองไปที่คนน่าเกลียดพวกนี้ กำลังจะเดินออกไปหน้าประตู
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
หลี่ย่าวเวยเรียกห้ามฉินหลั่ง บนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ย: “นายคิดว่าที่ของฉันเป็นบ้านของนายเหรอ อยากมาก็มา อยากไปก็ไป จ่ายค่าอาหารวันนี้มาก่อนค่อยไป! บนโต๊ะอาหารนี้ของฉันตามมาตรฐานแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปด ไม่ขออะไรกับนายมากมาย นายจ่ายมาคี่หนึ่งพันสองร้อยหยวนก็พอ”
ฝู้โยวก็ทนดูต่อไปไม่ไหว เธอยืนขึ้นมา แล้วพูดกับหลี่ย่าวเวย: “ประธานหลี่ คุณบอกว่าวันนี้คุณเป็นเจ้าภาพเอง ไม่ให้พวกเราไม่ต้องออกเงินไม่ใช่เหรอ?”
หลี่ย่าวเวยแสยะยิ้ม: “ฉันเคยพูดอยู่ แต่ว่าคนที่ฉันเลี้ยงคือคนฉางอานจริงๆ ถ้าหากว่าท่าทางเหมือนกับเขา ทั้งจนทั้งสกปรกและที่สำคัญคือศีลธรรมแย่มาก ฉันจะเลี้ยงเขาทำไม มีเงินนี้ฉันเอาให้สุนัขกินไม่ดีกว่าเหรอ!”
ฝู้โยวกัดฟัน เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหลอกฉินหลั่ง: “แต่ว่า ฉินหลั่งกินไปไม่กี่คำเอง ทำไมคุณถึงให้เขาออกหนึ่งพันสองร้อยหยวนล่ะ?”
“เฉลี่ยออกมาแล้วก็คือหนึ่งพันสองร้อยหยวน เขาไปแล้ว ส่วนที่เหลือทานไม่หมดจะใครมาทานล่ะ”หลี่ย่าวเวยกล่าว
ในเวลานี้ ประตูห้องวีไอพีดังสามครั้ง มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ก็คือเจ้านายตู้ของเคมปินสกี้
“อ๋อ….”เจ้านายตู้แวบเดียวก็มองเห็นคนที่ยืมอยู่ก็คือคนที่สาวสวยวัยกลางให้ตัวเองมาสังเกตการณ์ดู ไม่เพียงแต่แค่แปลกใจ แต่ว่าเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าสาวสวยวัยกลางคนกับชายหนุ่มคนนี้มีความสัมพันธ์กันยังไง เมื่อเขาเห็นว่าฉินหลั่งแต่งตัวได้แย่มาก ก็เลยไม่คิดว่าเขาและสาวสวยวัยกลางมีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกัน
“เจ้านายตู้!”เมื่อเห็นเจ้านายตู้ หลี่ย่าวเวยก็รีบร้อนพุ่งไปหา: “คุณมาได้ยังไง ผมขอแนะนำให้กับทุกคนหน่อย นี่คือเจ้านายตู้ของเคมปินสกี้”
เมื่อได้ยินการแนะนำของหลี่ย่าวเวย ทุกคนก็ยืนขึ้นมา กล่าวชมเชย
“ก็คุณจัดงานเลี้ยงหมู่บ้านที่นี่ ก็เลยตั้งใจมาดู ขอให้ทุกคนสนุกสนานนะ”เจ้านายตู้หันไปกล่าวคำยินดีให้กับคนอื่นๆ แล้วถามหลี่ย่าวเวย: “ประธานหลี่ ชายหนุ่มคนนี้ทำไมเหรอ?”
“อ๋อ เจ้านายตู้คุณไม่ต้องไปสนใจหรอก คือแบบนี้…..”หลี่ย่าวเวยเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “การกระทำ”ของฉินหลั่งอย่างคร่าวๆ ท้ายสุดก็พูดว่า: “คุณว่า คนเลวที่ไร้คุณธรรมแบบนี้ ผมไม่ยอมให้เขากินฟรีๆแน่ วันนี้ถ้าเขาเอาเงินออกมาจ่ายค่าอาหารไม่ได้ ฉันก็จะให้เขาอยู่ทำงานชดใช้ที่นี่ให้กับคุณ”
เจ้านายตู้ไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือไม่ถูก เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดคำสุภาพอีกสองสามคำ เดินออกไปจากห้องวีไอพี แล้วเดินไปรายงานให้กับสาวสวยวัยกลางคน…..

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset