รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 187 ช่วยฉันเพราะแพนเค้กจีนสองอัน

บทที่ 187 ช่วยฉันเพราะแพนเค้กจีนสองอัน
ฉินหลั่งยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาได้ยินเสียงสะอื้นของหลินจูก็รู้สึกเศร้าใจ เขาถอนหายใจออกมาแล้วเดินกลับห้องของตัวเอง
วันต่อมาฉินหลั่งเจอหลินจู เมื่อเห็นว่าเธอเป็นเหมือนปกติ เขาจึงไม่พูดอะไรและขับรถไปขายของกับเธอ
คืนหลังจากที่ผ่านมาสามวัน ฉินหลั่งกลับมาที่ห้องเช่าของตัวเอง พรุ่งนี้เขาต้องไปมหาวิทยาลัยเจียงหนาน ไม่สามารถไปขายของกับหลินจูได้อีก เขาเก็บของอยู่ในห้องของตัวเอง
“ปัง ปัง ปัง” ขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินหลั่งเปิดประตู หลินจูก็ถือจานอาหารเข้ามา
“เธอ…” ฉินหลั่งประหลาดใจ
หลินจูวางอาหารไว้บนโต๊ะ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “นายมากินสิ ฉันทำเอง”
ฉินหลั่งอึ้งไป ขณะนั้นเองเขาก็คิดว่าสงสัยหลินจูจะรู้ว่าพรุ่งนี้เขาก็ไม่อยู่แล้ว จึงทำอาหารมาให้เขากิน ก่อนหน้านี้เขาได้กินแต่แพนเค้กจีน ขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกอุ่นใจแล้วนั่งลงข้างโต๊ะ มันเป็นซุปไก่ตุ๋นมันฝรั่งกับขนมแป้งทอดสองอัน ฉินหลั่งกินซุปไก่แล้วกัดขนมแป้งทอดไปหนึ่งคำ มันอร่อยมาก เขามองหลินจูแล้วพูดว่า “เธอทำอาหารอร่อยจริงๆ”
“นายไม่ต้องพูดฉันก็รู้” หลินจูที่กำลังมองฉินหลั่งกินอยู่ เมื่อโดนเขาชมก็รู้สึกอิ่มเอมใจ เธอยิ้มบางๆ แล้วพูดอวดออกไป จู่ๆ เธอก็หยุดมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ฉินหลั่ง คือนั้นฉันผิดเอง นายอย่าเกลียดฉันเลยนะ”
“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว” ฉินหลั่งพูดแล้วยิ้มออกมา “ฉันรู้ว่าเธอชอบคนนั้นมาก แต่ว่า…” ฉินหลั่งอยากจะพูดคำว่า ‘ดูถูกตัวเอง’ ออกมา แต่กลัวว่าหลินจูจะโกรธ จึงไม่พูดออกมา “ฉันยังยืนยันคำเดิม เราต้องหาความสุขด้วยตัวเอง เธอต้องไปตามหาเขาแล้วบอกความในใจของเธอ อย่างนี้ถึงพอจะมีหวังบ้าง”
สองวันมานี้หลินจูเอาแต่คิดถึงคำพูดของฉินหลั่ง ตอนนี้เธอไม่ได้ผลีผลามเหมือนไม่กี่วันที่แล้ว เธอถามขึ้นว่า “ถ้าฉันหาเขาเจอแล้วเขายังด่า ยังทำร้ายฉัน แถมยังหัวเราะเยาะหน้าตาของฉัน แล้วแพ้กลับมาล่ะ”
“อย่างน้อยเธอจะได้รู้ว่าเขาคิดกับเธอยังไง เธอจะได้ตัดเขาออกไปได้ มันเป็นผลดีกับเธอด้วย แต่ว่าเธออย่ามองโลกในแง่ร้าย เธอบอกว่าเธอเจอเขาตอนเด็ก ตอนนั้นนิสัยของเขายังเป็นเด็ก จึงทำอะไรไม่คิด บางทีตอนนี้เธอไปเจอเขา เขาอาจจะชอบเธอก็ได้”
“จริงเหรอ” หลินจูพูดพึมพำ
“แน่นอนสิ ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่ทำให้ไปหาเขาเป็นเพื่อนเธอไม่ได้ รอให้ฉันจีบคุณหลงได้ก่อน ฉันจะไปหาเขากับเธอ ถ้าเขามีมารยาทก็ดี แต่ถ้าเขายังทำร้ายเธอ ด่าเธอเหมือนตอนเด็ก ถึงเธอจะปกป้องเขา ฉันก็จะต่อยเขาสักหมัด” ฉินหลั่งพูดอย่างอกผายไหล่ผึ่ง
หลินจูแสบจมูกเหมือนจะร้องไห้ ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีใครปกป้องเธอแบบนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายมาพูดกับเธอแบบนี้ เธอจะไม่ซาบซึ้งได้ยังไง
หลินจูย่นจมูก ทำให้น้ำตาที่คลอเบ้าตาแห้งเหือดไป
“โอเค ไม่ต้องพูดแล้ว นายรีบกินเถอะ ยังเต็มหม้ออยู่เลย ถ้ากินหมดฉันจะไปตักให้อีก” หลินจูพูดขึ้น
วันต่อมาฉินหลั่งตื่นแต่เช้า เมื่อวานซืนเขาซื้อกระเป๋าเดินทางแล้วเอาเสื้อผ้าจัดเข้าไปในกระเป๋า อีกทั้งยังเอาเงินยูโรในถุงขยะวางไว้ตรงกลางกระเป๋าเดินทาง เขาลากกระเป๋าและสะพายกระเป๋าเป้ไว้ข้างหลัง จากนั้นจึงเดินออกจากห้องเช่า เขาเตรียมจะไปบอกหลินจูและไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน
ใครจะรู้ว่าหลินจูก็ตื่นแต่เช้าเช่นกัน เธอให้ฉินหลั่งกินซุปไก่กับขนมแป้งทอดที่เหลือจากเมื่อคืน เมื่อฉินหลั่งกินเสร็จ เธอตบที่ไหล่ของเขาเบาๆ ฉินหลั่งหันมาเห็นเงินหนึ่งปึกที่อยู่ในมือของหลินจู “นี่เป็นเงินที่นายทำงาน ทั้งหมด 3800 หยวน ฉันไม่หักนายสักหยวนเลยนะ”
“ไม่ต้องหรอก เธอเอาไว้ใช้เถอะ ฉันมีเงิน” ฉินหลั่งพูด ตอนนี้ในกระเป๋าของเขามีเงินตั้ง 1.5 ล้านยูโรเชียวนะ
“ตอนเพิ่งเจอนายก็ขี้โม้ นี่กำลังจะไปยังโม้อีก ถ้านายมีเงินแล้วจะมาทำงานกับฉันทำไม นายเอาเถอะน่า” หลินจูเบิกตาโต สำหรับเธอแล้ว ฉินหลั่งเป็นคนจนที่ชอบขี้โม้
ตอนนี้ฉินหลั่งไม่มีทางทำให้หลินจูรู้ถึงฐานะของตัวเอง เขาจึงรับเงินมา เขามีวีแชทของหลินจู อย่างน้อยถ้าหลินจูขาดแคลนเงิน เขาค่อยโอนให้เธอก็ได้
หลินจูขับรถขายอาหารไปส่งฉินหลั่งที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน
เมื่อขับมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยเจียงหนาน ฉินหลั่งกับหลินจูลงจากรถ ในขณะนี้มีนักศึกษาจำนวนมากเดินลากกระเป๋าเข้าไปในมหาวิทยาลัย
“เอ๋?” มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉินหลั่ง “ฉินหลั่ง!”
ฉินหลั่งเห็นนักศึกษาหญิงที่เดินเข้ามาก็คือฝู้โยวนั่นเอง
ที่แท้ฝู้โยวก็เรียนที่นี่เหมือนกัน ครั้งก่อนที่โรงแรมเคมปินสกี้ ฝู้โย้วทั้งรู้สึกผิดและทั้งรู้สึกขอบคุณฉินหลั่ง เธอไม่มีหน้าโทรหาเขา คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่ เธอทั้งตกใจและดีใจ
“พวกคุณมาขายของที่นี่เหรอ” ฝู้โยวเอ่ยถาม
“ไม่ต้องมายุ่ง!” หลินจูมองฝู้โยวด้วยแววตาไม่เป็นมิตร เธอจำได้ว่าครั้งก่อนเถียนซิงกับฝู้โยวหัวเราะเยาะฉินหลั่ง
ฝู้โยวยิ้มแหยๆ แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร
“อย่าทำแบบนี้สิ พวกเราเป็นเพื่อนเก่ากัน” ฉินหลั่งพูดกับหลินจูเบาๆ แล้วพูดกับฝู้โยวว่าเขามาเรียนที่นี่ ถึงฝู้โยวจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เมื่อนึกถึงคุณโข่งลิ่งเสียนกับผู้หญิงสวยวัยกลางคนที่ช่วยฉินหลั่งเอาไว้ที่โรงแรม ทั้งสองคนเป็นคนที่มีอิทธิพล เธอจึงไม่ประหลาดใจสักเท่าไร
“นี่น้องสาว ครั้งก่อนฉันผิดเอง ต่อจากนี้ฉันจะไม่ดูถูกใครอีกแล้ว” ฝู้โยวจับมือของหลินจูทั้งสองข้าง หลินจูมองฝู้โยวอย่างสงสัย คิดไม่ถึงว่าฝู้โย้วจะไม่พูดอะไรไม่ดีออกมา
“พอเถอะ นายไปเรียนเถอะ อย่ามากวนเวลาขายของของฉัน วันนี้นักศึกษาเยอะมาก ฉันรับเงินเต็มๆ” หลินจูพูดกับฉินหลั่ง
“โอเค จากนี้เธอมาขายของที่นี่บ่อยๆ นะ ฉันจะพาเธอไปกินอาหารในมหาวิทยาลัย” ฉินหลั่งพูดจบแล้วมองหลินจูเดินกลับเข้าไปในรถขายของ เธอเริ่มขายของให้นักศึกษาที่เดินไปเดินมา จากนั้นฉินหลั่งกับฝู้โยวจึงเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย
พวกเขาเพิ่งเดินพ้นประตูเข้ามา ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง ฉินหลั่งหันกลับไปมอง เขาเห็นผู้ชายวัยรุ่น รูปร่างผอมสูง สวมแว่นกันแดดทรงนักบิน สวมเสื้อ Prada สีดำกับกางเกงเจ็ดส่วน สวมรองเท้าTod’s สีขาวสลับฟ้า ทำให้เขาดูเหมือนดาราอย่างไรอย่างนั้น
มีหญิงสาวหน้าตาดียืนขนาบข้างอยู่ฝั่งละสองคน พวกเธอกำลังพูดชมเขา ในมือของชายวัยรุ่นถือน้ำแร่เอเวียง เขาพูดขึ้นมาเพียงประโยคเดียว หญิงสาวที่ขนาบข้างก็พากันหัวเราะชอบใจ ฉินหลั่งมองออกว่าหญิงสาวทั้งสองคนอยากให้ชายวัยรุ่นโอบเอวของพวกเธอถึงครั้งสองครั้ง แต่ทว่าชายวัยรุ่นกลับไม่สนใจ เขาจึงไม่ยอมโอบเอวพวกเธอ หญิงสาวทั้งสองคนไม่พูดอะไร ทำเพียงแต่พูดคุยกับเขา
การปรากฏตัวของหญิงสาวรูปงามทั้งห้าคนเรียกความสนใจจากคนโดยรอบ ทุกคนพากันมองพวกเขาอย่างอิจฉา
ฉินหลั่งเห็นทั้งห้าคนกำลังเดินเป็นหน้ากระดานเข้ามาในมหาวิทยาลัย พวกเขายืนขวางหน้ารถคันหนึ่ง รถ Kaired ราคาประมาณ 1.5 ล้าน ถ้าพูดตามหลัก คนบนรถน่าจะเป็นคนรวย แต่ทว่าเขากลับขับตามหลังชายวัยรุ่นอย่างนิ่งๆ แม้แต่แตรรถยนต์ยังไม่กล้าบีบ
“เขาคือฉาวหนิง เป็นเดือนของสาขาดนตรี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเดือนของมหาวิทยาลัยเจียงหนานก็ได้ บ้านเขารวยมาก ผู้หญิงสวยๆ ในมหาวิทยาลัยล้วนอยากใกล้ชิดเขาทั้งนั้น” ฝู้โยวเห็นฉินหลั่งกำลังมองฉาวหนิง จึงอธิบายให้เขาฟัง
“อ๋อ” ฉินหลั่งพยักหน้า เขายิ้มแล้วพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “เธอดูรถ Kaired ที่ขับตามเขาสิ เขาขวางทางรถขนาดนั้น คนขับรถนิสัยดีจริงๆ ขนาดแตรยังไม่บีบเลย ถึงบ้านเขาจะรวย แต่ก็คงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกมั้ง”
ฝู้โยวมองไปแล้วก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน
ขณะนั้นเอง พวกฉาวหนิงเริ่มเดินใกล้เข้ามา ฝู้โยวรีบดึงฉินหลั่งไปยืนหลบอยู่ข้างๆ เพื่อหลีกทางให้ฉาวหนิง
“คุณชายฉาว ได้เดินกับคุณทำให้ฉันรู้สึกมีหน้ามีตาจริงๆ มีแต่คนหลีกทางให้พวกเรา” ผู้หญิงสวยคนหนึ่งยิ้มแล้วพูดกับฉาวหนิง
“พวกเขาไม่ได้หลีกทางให้ผมหรอก เพราะข้างๆ ผมมีพวกคุณสี่คนไงล่ะ เห็นพวกคุณแล้วเหมือนเห็นนางฟ้าบนดิน พวกเขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจก็เลยต้องหลีกทางให้” ฉาวหนิงพูดแล้วหัวเราะออกมา
“คุณชายฉาวนี่ช่างพูดนะคะ ปากหวานจริงๆ ทำให้ฉันไม่อยากห่างจากคุณแม้เลยค่ะ” สาวงามทั้งสี่คนหัวเราะคิกคัก
ตอนที่ฉาวหนิงเดินผ่านฉินหลั่ง เขาทำเหมือนฉินหลั่งไม่ได้อยู่ตรงนั้น เขาไม่เห็นคนที่ไม่มีอะไรอย่างฉินหลั่งอยู่ในสายตา
เมื่อฉาวหนิงเดินถึงทางแยก รถ Kaired ที่ขับตามเขามา ลดกระจกลง คนที่อยู่ข้างในเหมือนจะเป็นนักศึกษา เขาเรียกฉาวหนิง “คุณชายฉาว ผมเอารถไปจอดให้ที่อาคารโอเชี่ยนนะครับ อีกเดี๋ยวผมจะไปหาคุณ”
ฉาวหนิงปรายตามองแล้วเดินต่อไปกับสี่สาวสวย
ฝู้โยวกับฉินหลั่งมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา ที่แท้รถคันนั้นก็เป็นของฉาวหนิงนี่เอง คนขับเป็นลูกจ๊อกของเขา มิน่าล่ะถึงไม่กล้าบีบแตร
ฉินหลั่งเรียนสาขาชีววิทยา ฝู้โยวพาฉินหลั่งไปที่หอพักของสาขาวิชา
“เรื่องวันนั้น ฉันเศร้าใจมาตลอด ฉินหลั่ง นายไม่โกรธฉันใช่ไหม” ฝู้โยวพูดพลางเดินไปด้วย
“ถ้าฉันโกรธเธอวันนั้นฉันจะให้เธอไปเหรอ” ฉินหลั่งพูดแล้วส่ายหัวไปมา
เมื่อฉินหลั่งพูดแบบนี้ เธอถึงโล่งอก เธอถามขึ้นอีกว่า “นายรู้จักกับคุณโข่งลิ่งเสียนได้ยังไงเหรอ แล้วผู้หญิงวัยกลางคนที่สวยๆ นั่นเป็นใครเหรอ ทำไมพวกเขาต้องช่วยนายด้วย”
“เอ่อ…” ฉินหลั่งจะบอกฐานะของตัวเองให้ฝู้โยวรู้ไม่ได้ ถึงบอกเธอก็อาจจะไม่เชื่อ เขาคิดคำพูดอยู่ในใจ จากนั้นจึงพูดออกมา “จริงๆ ฉันก็แค่โชคดีเท่านั้น คุณโข่งลิ่งเสียนพาผู้หญิงคนนั้นมาซื้อแพนเค้กจีน เขารู้สึกว่าแพนเค้กจีนของฉันอร่อยเลยชมฉัน พอรู้ว่าฉันเป็นนักศึกษาที่ขาดแคลน ตอนนี้กลับไปเรียนที่จีนหลิงไม่ได้ เลยช่วยฉันโอนผลการเรียนมาที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน ครั้งก่อนที่โรงแรมก็แค่บังเอิญเจอเท่านั้น พวกเขาเป็นใครฉันไม่รู้จริงๆ”
“ห๊ะ แค่นี้เหรอ?” ฝู้โยวคิดไม่ถึงว่าโข่งลิ่งเสียนจะออกโรงช่วยฉินหลั่งเพราะแพนเค้กจีนสองอัน เห็นฉินหลั่งยิ้มแหยๆ แล้วพยักหน้า เธอจึงถามขึ้นอีก “งั้นนายมีความสัมพันธ์อะไรกับเขาไหม ถ้านายลำบากแล้วอยากขอความช่วยเหลือจากพวกเขา พวกเขาจะช่วยนายไหม”
“ไม่แล้วล่ะ ฉันไม่มีแม้แต่ช่องทางติดต่อพวกเขา พวกเขาช่วยฉันมาครั้งหนึ่งแล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเขา ทำไมพวกเขาต้องช่วยฉันด้วยล่ะ” ฉินหลั่งยิ้มแล้วพูดออกมา
“ที่นายพูดก็ถูก” ฝู้โยวหดหู่ใจเล็กน้อย เธอแอบคิดเล็กๆ ว่าถ้าฉินหลั่งรู้จักกับโข่งลิ่งเสียน ในอนาคตตอนที่เธอหางาน ฉินหลั่งอาจจะช่วยเธอได้ แต่ตอนนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เสียแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset