รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 191 ใครแพ้ต้องลอดใต้ขา

บทที่ 191 ใครแพ้ต้องลอดใต้ขา
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ฉินหลั่งก็ยืนอยู่ตรงหน้าเถียนซิงและฝู้โยวแล้ว เขาได้ยินสิ่งที่เถียนซิงพูดทั้งหมด และร่องรอยของความรู้สึกผิดก็เกิดขึ้นในใจของเขา
เถียนซิงเงยหน้าขึ้นมองฉินหลั่งและพูดอย่างรุนแรงว่า “ตอนนี้คุณสะใจแล้วใช่ไหม แต่อย่าดีใจเร็วเกินไป หากไม่มีโข่งลิ่งเสียนและคนอื่น ๆ คุณก็เป็นแค่ยาจกที่น่าสงสารคนนึง! ในสายตาของฉัน คุณก็ยังไม่เท่ากับแมลงวันที่บินบนอึของสุนัขจรจัด คุณวางใจเถอะ ความอัปยศที่คุณมอบให้ฉัน ฉันจะตอบแทนพร้อมกำไรให้ด้วยเลย! ”
เถียนซิงลุกขึ้นยืน จ้องไปที่ฉินหลั่งอย่างดุร้าย เดินไปหาเขาและผลักเขาอย่างจัง “หลบไปไอ้ยาจก!” เธอผลักฉินหลั่งแล้วเดินไปเข้าแถว
“ฉินหลั่ง เถียนซิงดื้อรั้นเกินไป” ฝู้โยวเดินไปหาฉินหลั่งอย่างห่วงใย เธอรู้ว่าฉินหลั่งไม่ใช่คนแบบที่เถียนซิงคิด ทั้งสองคนเข้าใจผิดกันลึกซึ้งเกินไป จึงกลายเป็นแบบนี้
“ฉันรู้ …” ฉินหลั่งยิ้มจาง ๆ และพูดกับฝู้โยว “ไปเถอะ ฉันไปเข้าแถวเป็นเพื่อนกับเธอ”
ฉินหลั่งและฝู้โยวจงใจหาแถวที่อยู่ไกลที่สุดจากเถียนซิง พวกเขาไม่ได้ใส่ใจเถียนซิงอีกต่อไป พวกเขาคุยกันเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ถึงคิวฝู้โยวกรอกเอกสารลงทะเบียน
ฝู้โยวนั่งบนเก้าอี้หมุนเพื่อกรอกข้อมูล โดยมีฉินหลั่งยืนดู
ในขณะนี้เอง มีคนและทีมงานหลายคนรอบ ๆ ก็ลุกขึ้นและทักทาย “คุณชายหม่า”
เมื่อฉินหลั่งเห็นดังนั้นก็ตกใจ คนตรงกลางที่มาคือหม่าหยางที่เคยจีบหลงหลิงมาก่อน เขายังคงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีเสน่ห์ ดวงตาของเขาสดใส การแสดงออกของเขาสง่างาม ดูเหมือนคุณชายตระกูลคนรวย
บริษัทลี่สือจำกัดของบ้านหม่าหยาง เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลินอานเอเชี่ยนเกมส์ ตอนนี้โรงยิมที่ใช้ในการจัดหาอาสาสมัครก็เป็นสมบัติของครอบครัวหม่าหยาง วันนี้พ่อของเขาขอให้เขาดูสถานการณ์การรับสมัคร และวางมาดให้เจ้าหน้าที่ดู เขาไม่คิดว่าจะได้พบกับฉินหลั่ง ไอ้ขี้แพ้ที่เคยทำลายการจีบหลงหลิงเมื่อก่อน
“โอ้ คนรู้จักนี่!” หม่าหยางมองไปที่ฉินหลั่งด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย และมองไปที่ฉินหลั่งทันทีด้วยรอยยิ้ม “ไอ้ขี้แพ้ที่นั่งอยู่ริมถนน สามารถมาลงทะเบียนอาสาสมัครเอเชี่ยนเกมส์ได้ด้วยเหรอ ไอ้ขี้แพ้ เมื่อเช้ากินอะไรมาล่ะ ฝักข้าวโพดรึเปล่า”
คนอื่น ๆที่มาสมัครบางคนก็จำหม่าหยางได้และคนอื่น ๆ ที่ไม่รู้จัก เมื่อเห็นว่าเขาแต่งตัวดีและพูดจาไม่สุภาพ เหมือนเป็นคนรวยอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนจึงหัวเราะตามเขา
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆในหลินอาน และพวกเขาไม่รู้จัก ฉินหลั่ง เมื่อหม่าหยางขึ้นมา พวกเขาก็หันไปที่ฉินหลั่ง ไม่รู้ว่าฉินหลั่งทำให้หม่าหยางขุ่นเคืองเรื่องอะไร
หม่าหยางเดินไปที่โต๊ะลงทะเบียนตรงหน้าฉินหลั่ง นั่งลงครึ่งตูดและมองไปที่ฉินหลั่งอย่างดูถูกและยิ้ม “คุณเป็นคนหน้าหนาจริงๆ แกพูดภาษาอังกฤษได้หรือถึงกล้ามาที่นี่ หรือแกอยากมาที่นี่เพื่อรับข้าวกล่อง รีบไปเถอะ แกไม่เหมาะกับที่นี่” เขามองไปที่พนักงานแล้วสั่ง “ไม่จำเป็นต้องให้กระดาษลงทะเบียนกับเขา มันเป็นการสิ้นเปลืองกระดาษ
ฉินหลั่งสงบความโกรธของเขาและพูดว่า “นายไม่จำเป็นต้องกังวล ฉันไม่ได้คิดจะสมัครวันนี้ฉันแค่มาเป็นเพื่อนเพื่อนเท่านั้น”
“เพื่อนเหรอ ไอ้ขี้แพ้อย่างแก ยังมีคนเต็มใจจะเป็นเพื่อนกับแกอีกเหรอ” หม่าหยางยิ้มเยาะ เขาสังเกตเห็นฝู้โยวข้างๆฉินหลั่งและพูดว่า “คุณเป็นเพื่อนของเขาเหรอ วิสัยทัศน์ของคุณดีมาก คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลแล้ว รีบกลับบ้านไปเถอะ”
ฉินหลั่งพูดอย่างร้อนใจ “คุณชายหม่า คุณทำเกินไปไหม … ”
ก่อนที่ฉินหลั่งจะพูดจบ เขาได้ยินเพียงเสียงจากด้านข้างพูดว่า “เกินไปเหรอ คุณหมายถึงตัวเองสินะ!”
ทุกคนมองไปตามทิศทางของเสียง และเห็นสาวสวยหุ่นเพรียวเดินขึ้นมา นั่นคือเถียนซิง
เห็นเถียนซิงเดินขึ้นไปที่ด้านข้างของฉินหลั่ง มองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ยและพูดกับทุกคนว่า “คนนี้กับฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย เมื่อไม่กี่วันก่อนเรามีการพบปะกันที่โรงแรมเคมปินสกี้ พวกเรากับเขามีปากเสียงกันนิดหน่อย เขาไม่พอใจจึงเรียกคนมาทุบตีเราในห้องนั้น และยังให้เราคุกเข่าลงกินอาหาร ตอนนี้คุณบอกว่าคุณชายหม่าทำเกินไปทำไมคุณไม่มองตัวเองบ้าง สำหรับคนแบบคุณ ยังต้องปฏิบัติด้วยคุณธรรมอีกเหรอ
คืนนั้นเถียนซิงและคนอื่น ๆ ไม่ง่ายเลยที่จะกินอาหารบนพื้นนั้นหมด ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาได้ขู่ว่า เรื่องคืนนี้ ถ้าชื่อของคุณโข่งรั่วไหลออกไป พวกเขาจะต้องได้รับบทเรียนที่หนักกว่าแน่นอน
แม้ว่าเธอจะพูดเรื่องนี้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยชื่อของโข่งลิ่งเสียน และความจริงที่ว่า “กินข้าวบนพื้นในโรงแรมเคมปินสกี้”ได้แพร่กระจายไปทั่วหลินอานแล้ว ดังนั้นมันก็ไม่มีอะไร
“อ่า ฉันได้ยินมาว่าช่วงก่อนมีคนกินข้าวบนพื้นเหมือนหมูในห้องวีไอพี เป็นฝีมือชายคนนี้นี่เองเหรอ”
“ดูเหมือนยาจกคนนึง จะทำให้คนเหมาห้องวีไอพี่นั้นคุกเข่าลงได้อย่างไร”
“เฮ้ ช่างมันเถอะ ยังไงชายคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่นอน”

“พวกคุณไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ฉันนะพูดได้ชัดเจนว่าเขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ข้างถนน เมื่อเดือนที่แล้วพวกคุณต้องเคยเห็นรูปถ่ายในโมเมนต์ ที่คนขี่จักรยานสาธารณะไปที่โล๋ว่ายโล๋”
ครั้งก่อนที่ฉินหลั่งขี่จักรยานสาธารณะไปที่โล๋ว่ายโล๋ เขาถูกถ่ายภาพและโพสต์อยู่บนโมเมนต์ของหลายคนในหลินอาน
“อ่า ฉันจำได้ละ เด็กโง่คนนั้นที่เดินเข็นจักรยาน”
“ใช่ ฉันยังมีรูปนั้นอยู่ในโทรศัพท์ ดูสิ โล๋ว่ายโล๋มีแต่รถหรูอย่างปอร์เช่ บีเอ็มดับเบิลยูและเบนซ์เท่านั้น เขาเข็นจักรยานสาธารณะ ถ้าเป็นฉันคงละอาย เขาช่างไร้ยางอายจริงๆ” นักเรียนสวมแว่นหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา พูดกับคนอื่น ๆแล้วยิ้มเยาะ
“ไม่เพียงแค่นั้น เขายังคงสารภาพกับคุณหลงแห่งถืงหลงกรุ๊ปเหมือนคนบ้า ที่โล๋ว่ายโล๋ เขาอยากเป็นนายหน้าขาวตกถังข้าวสารในครอบครัวร่ำรวย เขาพูดทั้งหมดนี้มาเอง ฉันรู้สึกขยะแขยงมาก … ” เถียงซิงกล่าว
หม่าหยางเหลือบมองไปที่เถียนซิง เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น แต่จงใจไม่เปิดเผย เขาก็ถูกหลงหลิงปฏิเสธในวันนั้น ผู้หญิงคนนี้กำลังทำเพื่อตนด้วย เมื่อนึกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้มากขึ้น
ผู้ชมรอบข้างเริ่มล้อเลียนการตามจีบคุณหลงของฉินหลั่ง และต่อว่าเขา “ก็สมควรที่จะเป็นหนุ่มหน้าขาว มองดูเงาตัวเองในฉี่บ้างเถอะ” “เจียมตัวบ้าง” “ฝันกลางวัน” และคำพูดแย่ ๆ ต่างๆ
“พวกแกไปได้รึยัง” คุณชายหม่ายิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจเขา เขียนต่อไป” ฉินหลั่งรู้ว่าหม่าหยางพูดไม่รู้เรื่อง เขาจึงก้มหัวไปหาฝู้โยวและพูดด้วยเสียงต่ำ ฝู้โยวกรอกแบบฟอร์มต่อไป
“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย” หม่าหยางหยิบแบบฟอร์มของฝู้โยว “ชี้ค ชี้ค ชี้ค” สามครั้ง ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และโยนไปในอากาศ กระดาษก็ร่วงหล่นเหมือนเกล็ดหิมะ “เขียนสิเขียน! ”
ฝู้โยวจ้องไปที่หม่าหยาง ปากเล็ก ๆ ของเธอค่อยๆแบนลง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเหี่ยวย่นราวกับผิวน้ำที่ถูกลมพัด น้ำตาใสๆสองหยดค่อยๆรวมตัวกันระหว่างดวงตาของเธอ
“อย่าร้องไห้นะ ไม่เป็นไร ผมจะให้คุณเป็นอาสาสมัคร” ฉินหลั่งคุกเข่าลงทันที ลูบใบหน้าของฝู้โยวและพูดเบา ๆ
ฝู้โยวกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป เธอร้องไห้ออกมา “ฮือ”น้ำตาสองหยดไหลลงมาจากใบหน้า หยดลงในหัวใจของฉินหลั่ง ในช่างขมขื่น
“ฉินหลั่งไปกันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว … ” ฝู้โยวจับมือฉินหลั่งและเตรียมจะออกไป
ฉินหลั่งดึงฝู้โยว จับหัวของเธอด้วยมือสองข้า เช็ดน้ำตาด้วยนิ้วหัวแม่มือสองข้างและพูดเบา ๆ ว่า “อย่าร้องไห้ รัฐบาลเป็นคนรับสมัครอาสาสมัคร พวกเขาไม่ใช่คนตัดสิน ภาษาต่างประเทศของเธอเก่งมาก ทำไมจะไปไม่ได้”
“แต่พวกเขา … ” ฝู้โยวพูด
ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย ปล่อยมือ และไปที่หม่าหยาง “คุณชายหม่า ผมเข้าใจสิ่งที่คุณไม่พอใจผม แต่โปรดอย่าพาลไปที่เพื่อนของผม เธอเก่งภาษาต่างประเทศมากและสามารถทำงานอาสาสมัครได้ ผมไม่รู้ว่าคุณมีอำนาจอะไร แต่ผมคิดว่าถ้าเรื่องนี้เกิดรัฐบาลรู้เข้าหรือลงบนอินเทอร์เน็ต คุณคงจบไม่สวยด้วยใช่มั้ย”
“แกกำลังขู่ฉันเหรอ ฮ่า แกคิดว่าคนอย่างหม่าหยางจะกลัวเหรอ” หม่าหยางยิ้มเยาะ
ฉินหลั่งไม่พูดต่อ แต่มองเขาอย่างเงียบ ๆ เขาไม่เชื่อว่าหม่าหยางจะไม่กลัวอะไรเลย
“จริงๆแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย”
“เธอเดือดร้อนเพราะไอ้นั่นเลย”

ในบรรดาคนอื่น ๆ ก็มีหลายคนที่เห็นใจฝู้โยว
หม่าหยางกังวลในใจ ถ้าฉินหลั่งต้องการเล่นงานเขาจริงๆ ฝ่ายรัฐบาลก็คงไม่เป็นไร แต่ความคิดเห็นของประชาชนบนอินเทอร์เน็ตอยู่เหนือการควบคุมของเขา หากเรื่องจริง หากก่อให้เกิดพายุบนอินเทอร์เน็ตและส่งผลเสียต่อบริษัท การสูญเสียน่าจะหลายล้าน
“คุณชายหม่า ทำไมคุณไม่เดิมพันกับผู้ชายคนนี้ ถ้าเขาชนะให้ผู้หญิงคนนั้นสมัครได้ ถ้าเขาแพ้ เขาจะจากไปอย่างซื่อสัตย์ ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเขามา 3 ปี ฉันรู้ว่าคน ๆ นี้ขี้แพ้บ้าง แต่ก็รักษาคำพูดมาก” เถียนซิงพูดกับหม่าหยางขึ้นกะทันหัน
หม่าหยางมองไปที่เถียนซิง แล้วก็มองไปที่ฉินหลั่ง “แกเห็นด้วยไหม”
ฉินหลั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าและพูดว่า “ได้”
หม่าหยางมองไปรอบ ๆ สายตาจับไปที่กระดานปาเป้าบนผนัง เขายิ้มที่มุมปาก มองไปที่ ฉินหลั่งและพูดว่า “เรามาแข่งปาเป้ากัน ถ้าแกเอาชนะฉัน ฉันจะปล่อยให้เธอเป็นอาสาสมัคร ถ้าแกแพ้ แกต้องออกไปจากที่นี่ดีๆ”
“ไม่คุณชายหม่า แบบนี้เป็นการผ่อนปรนให้เขาเกินไป ถ้าเขาแพ้ให้เขาปีนออกจากใต้หว่างขาของคุณ!” เถียนซิงแนะนำ
“เอาล่ะ” หม่าหยางหัวเราะและมองไปที่ฉินหลั่งแบบชิลๆ “ฉันขอเพิ่มเติมสำหรับสิ่งที่พูดก่อนหน้านี้ ถ้าใครแพ้ต้องลอดใต้ขาของฝ่ายตรงข้ามออกไป แกไม่เห็นด้วยไหม หากทำไม่ได้ก็หุบปากไป” หม่าหยางยิ้มเยาะ
“ฉินหลั่ง ไปกันเถอะ ฉันไม่อยากเป็นอาสาสมัครอีกต่อไป” ฝู้โยวดึงฉินหลั่งและกระซิบ
“ไม่เป็นไร คุณชายหม่าให้เกียรติฉันขนาดนี้ จะไม่ให้หน้าเขาได้อย่างไร เธอมั่นใจได้ว่ามันจะจบลงในเร็วๆนี้” ฉินหลั่งกล่าวกับฝู้โยวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“คุณ … ” ฝู้โยวยังเกลี้ยกล่อม แต่ฉินหลั่งไม่ได้มองไปที่เธออีกต่อไป
“ฮ่า ๆ เจ้าเด็กน้อย แสดงว่าแกตกลงแล้ว และไม่มีโอกาสกลับคำอีกแล้ว เพราะถ้าแกอยากเป็นหานซิ่งมาก คุณชายคนนี้จะทำให้แกสมใจเอง มากับฉัน!” หม่าหยางพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วเขาก็พลิกโต๊ะขึ้นมา และเดินไปที่กระดานปาเป้าบนผนังพร้อมกับฉินหลั่ง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset