รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 206 ให้พวกเขาออกไป

บทที่ 206 ให้พวกเขาออกไป
พอฉินหลั่งได้ยินดังนั้นสีหน้าก็ดูมึนงงทันที เขาฟังไม่ออกเลยว่าผู้ชายคนนี้พูดภาษาอะไร เขายิ้มอย่างเก้อเขินและถามว่า “Can you speak English?”
ผู้ชายคนนั้นตบหูตัวเองแล้วก็โบกมือ แสดงให้เห็นว่าฟังไม่เข้าใจ เขาเอาแต่พูดกับฉินหลั่งว่า “Sayamahusatupakejtisumint-rasa.”
คนอื่นๆที่อยู่รอบๆต่างก็งงๆ ทุกคนไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้พูดว่าอะไร
“นำทิชชู่เปียกกลิ่นมินต์มาให้เขาหนึ่งห่อ” ทันใดนั้นหลินจูก็พูดขึ้นมา
ฉินหลั่งไม่ทราบเช่นนั้น ก็หยิบทิชชู่เปียกกลิ่นมินต์ออกมาให้เขา แล้วก็ยื่นมือผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาทันที แล้วก็รับทิชชู่เปียกนั้นไป”
“Berapabanyak”ผู้ชายคนนั้นหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วถามอีกครั้ง
“Hanya2yuan”หลินจูมองผู้ชายคนนั้นแล้วก็ตอบ เป็นภาษาเดียวกับผู้ชายคนนี้
ผู้ชายคนนั้นหยิบเงินให้ฉินหลั่ง10บาท หลังจากนั้นก็เบียดกลุ่มคนออกไป
ฉินหลั่งเห็นว่าหลินจูสามารถคุยกับผู้ชายต่างชาติคนนั้นได้ และฟังจากที่หลินจูพูดแล้ว ท่าทางของเธอยังดูเป็นธรรมชาติมาก เขาทั้งรู้สึกแปลกใจและอยากรู้อยากเห็น ก็เลยเอ่ยปากถาม “หลินจู ดูไม่ออกเลยว่าเธอสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ด้วย เขาพูดภาษาอะไรเหรอ?”
“นายดูไม่ออกเยอะเลยนะ เขาพูดภาษามลายู” หลินจูทำแพนเค้กไปด้วย แล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับตอบเขา
“เธอพูดภาษามลายูได้ยังไงกัน?” ฉินหลั่งถามเธอด้วยความประหลาดใจ
“พูดได้ก็คือพูดได้นั่นแหละ ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถหรอก” หลินจูตอบเขาแบบส่งๆไป เธอส่งแพนเค้กให้ลูกค้า หลังจากนั้นก็มองฉินหลั่งแล้วพูดว่า “เพื่อนร่วมชั้นเก่าของนายคงไม่ได้เรียกนายมาที่นี่เพื่อให้มาช่วยฉันหรอกมั้ง ถ้าเกิดว่านายยังไม่ไป เธอต้องโกรธตายแน่นอน”
“ฉันบอกแล้วว่าฉันกับฝู้โยวเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกันเท่านั้น เธออย่าจงใจพูดอะไรแบบนี้เลย” ฉินหลั่งพูดไม่ออก
พอคิดว่าอยู่ในรถขายอาหารนี้ก็นานแล้ว ก็เย็นชากับฝู้โยวไปหน่อยจริงๆ ฉินหลั่งก็เลยถอดเสื้อออก แล้วก็หยิบโค้กออกมาจากตู้ แล้วก็วางเงินไว้ให้หลินจู
“เธอทำงานไปก่อนนะ ฉันไปก่อนล่ะ” พอฉินหลั่งพูดจบ ก็ออกจากรถขายอาหารไป
หลินจูมองดูแผ่นหลังของฉินหลั่งแล้วก็ยิ้มเยาะ “นายพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ได้ชอบเธอ นายกล้าบอกไหมว่าโค้กกระป๋องนี้ไม่ได้ซื้อไปให้ฝู้โยว?”
ฉินหลั่งหันกลับมาอยากจะอธิบาย แต่ว่าหลินจูก็มองเขาพร้อมกับยิ้มอย่างเย้ยหยัน ก็รู้ว่าไม่สามารถพูดได้ ก็เลยพูดไปว่า “แล้วแต่เธอจะคิดแล้วกัน” หลังจากนั้นก็เบียดออกจากกลุ่มคนไป
ฉินหลั่งมาที่ทางเข้าE–2ตามที่ฝู้โยวบอก ก็เห็นคนหนุ่มสาวที่สวมชุดอาสายืนต่อแถวอยู่สองแถม กำลังชี้แนะให้ผู้ชมเข้าไป หนึ่งในนั้นก็คือฝู้โยว ฉินหลั่งเดินเข้าไปหาฝู้โยว
“ฝู้โยว ดื่มน้ำหน่อย……”ฉินหลั่งยื่นโค้กให้ฝู้โยว พร้อมกับพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะ นายนั่งอยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน ตอนนี้คนที่จะเข้าสนามเยอะมาก ฉันค่อนข้างยุ่งเลย” ฝู้โยวมองหน้าฉินหลั่งแล้วก็คลี่ยิ้ม หลังจากนั้นก็บอกเขา ฉินหลั่งนั่งลงข้างๆฝู้โยว เขาเห็นว่าตอนที่ฝู้โยวต้อนรับแขกต่างชาตินั้น เธอใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ก็รู้สึกชื่นชมเธออยู่ในใจ
ตอนนี้เอง ก็มีคนรูปร่างที่สวยงามเดินมาไกลๆ ยืนอยู่ตรงหน้าฝู้โยวกับฉินหลั่ง เธอสวมชุดเครื่องลายครามสีฟ้าและสีขาว แต่งหน้าละเอียดอ่อนและประณีต เหมือนนางแบบเดินบนรันเวย์ นั่นก็คือเถียนซิง!
“เถียนซิง กระเป๋าเป้ฉันล่ะ?” พอฉินหลั่งเห็นเถียนซิง ก็รีบยืนขึ้นทันที ชี้ไปที่เถียนซิงแล้วก็เอ่ยปากถาม
“กระเป๋าเป้? ฉันทิ้งไปนานแล้ว!” เถียนซิงยิ้มเย้ยหยัน
“เธอเป็นบ้ารึยังไง!” พอฉินหลั่งได้ยินว่ากระเป๋าเป้ตัวเองถูกโยนทิ้งไปแล้ว ในใจก็รู้สึกท้อแท้ แล้วก็พูดออกมาด้วยความโกรธ
“หึ ไอ้ยาจก นี่นายเป็นใครถึงมาด่าฉัน? ฉันจะบอกอะไรให้นะ ในกระเป๋าเป้มีไดอารี่อยู่เล่มหนึ่งไม่ใช่เหรอ? ฉันน่ะเผามันทุกหน้าเลยล่ะ!” เถียนซิงยิ้มเย้ยหยันพร้อมกับพูดออกมา
“นั่นคือของที่ฉันรักมากที่สุด เธอกลับเผามัน ยัยผู้หญิงแรด……” พอคิดว่าไดอารี่ของจงยู่ถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้า ฉินหลั่งก็สั่นไปทั้งตัว อยากจะพุ่งไปอยู่ตรงหน้าเถียนซิง แล้วก็ตบปากเธอสักที
แต่ว่าอาสาสมัครหลายคนที่อยู่ด้านข้างห้ามเขาไว้ ฝู้โยวเองก็ห้ามฉินหลั่งไว้เหมือนกัน พร้อมกับกระซิบว่า “เธอเป็นผู้นำทางนะ เดี๋ยวต้องนำนักกีฬาเข้าสู่สนาม ถ้าเกิดว่านายทำร้ายเธอตอนนี้ เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ”
ฉินหลั่งพยายามอดทนเก็บความโกรธของตัวเองไว้ แล้วก็มองหน้าเถียนซิงด้วยสายตาที่เย็นชา
“ไอ้ยาจก ยังคิดจะทำร้ายฉันยังงั้นเหรอ นายคู่ควรยังงั้นเหรอ!”เถียนซิงเห็นว่าฉินหลั่งถูกคนอื่นห้ามเอาไว้ ก็สบายใจขึ้นเยอะ
สายตาของเธอมองไปยังฝู้โยว แล้วก็ยิ้มอย่างดูถูก “ฝู้โยวนะฝู้โยว ดูท่าทางเธอจะคบฉินหลั่งจริงๆ จะให้ฉันพูดยังไงดีล่ะ ตาต่ำจริงๆเลย!”
“เธอดูตัวเธอเองสิ ได้เรียนถึงมหาวิทยาลัยเจียงหนาน แล้วตอนนี้เป็นยังไง ก็ยังเป็นแค่อาสาสมัครตัวเล็กๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำได้แค่ยืนอยู่หน้าประตู นำทางให้คนเข้าไปในสนาม ส่วนฉันน่ะนะ ไม่เหมือนกับเธอ ฉันเป็นผู้นำทางนักกีฬา ทำแค่ยืนอยู่ข้างหน้าและนำทางนักกีฬาเข้าสนามเพียงเท่านั้น แล้วอีกฝ่ายทีมที่ฉันเดินนำให้ก็คือทีมประเทศจีน ตอนไลฟ์สดฉันจะได้ถ่ายตั้งหลายวินาทีเลยนะ!”
“เธอได้มาเพราะความสัมพันธ์กับหม่าหยาง นี่มันควรค่ากับการโอ้อวดแล้วเหรอ?”ฉินหลั่งยิ้มเย้ย
“นายจะมายุ่งอะไรว่าฉันจะได้มายังไง ผลก็คือฉันได้อยู่สูงส่งกว่าแฟนของนาย! แฟนของนายเหมาะกับแค่ยืนอยู่หน้าประตูเพียงเท่านั้น ส่วนฉันจะปรากฏในไลฟ์สด!” เถียนซิงจ้องหน้าฉินหลั่งแล้วพูด แล้วก็มองดูเสื้อผ้าที่ตัวเองกำลังสวมใส่อยู่ พร้อมกับยิ้ม “เห็นชุดบนตัวฉันไหม? นี่มาจากดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลีเลยนะ ทั้งสนามมีเพียงแค่40คนเท่านั้นที่ได้ใส่ ราคา2หมื่นกว่า แล้วก็ดูสิว่าแฟนของนายใส่อะไร ‘ชุดอาสาสมัคร’ ฮ่าๆๆๆๆ ยังอยู่ห่างจากฉันเยอะเลยนะ”
ตอนแรกฝู้โยวก็มองเถียนซิงด้วยสายตาที่โกรธเคือง แต่ว่าพอได้ยินเถียนซิงเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนของฉินหลั่ง หัวใจของเธอก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ หน้าก็เริ่มแดง ก็เลยก้มหน้าลง
“ที่รัก ทำไมยังไม่เข้าไปอีกล่ะ?” มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากไม่ไกลเท่าไหร่นัก แล้วก็เห็นชายร่างสูง แต่งตัวแฟชั่นสไตล์วัยรุ่น มองดูโทรศัพท์ไปด้วย แล้วก็เดินเข้ามาด้วย คนๆนั้นก็คือหม่าหยาง
“คุณชายหม่า คุณมาพอดีเลย คุณมาดูสิ ยาจกทั้งสองคนอยู่ที่นี่!”เถียนซิงกอดแขนของหม่าหยางแล้วก็พูด
“นี่คือครั้งที่แล้วที่เฉียนเฉิงหยวน คนที่อยากจะลูบมือเธอ สุดท้ายก็เลยโดนอ้ายทาวตีเข้าใช่ไหม? ฮ่าๆๆๆ ฉินหลั่งนายเองก็มาที่นี่เหมือนกันเหรอ?”หม่าหยางยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ฝู้โยว เธอเองก็ควรจะแสวงหาอะไรหน่อยนะ เห็นรึยัง จะหาแฟนก็ควรจะหาผู้ชายอย่างคุณชายหม่า ยาจกอย่างฉินหลั่งใครกันที่อยากได้? แทนที่จะได้เงินกลับต้องเสียเงินแทนก็คงไม่มีใครต้องการหรอกนะ” เถียนซิงพูดอย่างภูมิใจ
“ที่รัก เริ่มสายแล้ว เดี๋ยวฉันเข้าไปกับเธอดีกว่า”หลังจากพูดจบ หม่าหยางก็เดินเข้าไปในสนามกีฬาพร้อมกับเถียนซิง
“นายนั่งตรงนี้ก่อน อย่าไปโกรธคนแบบนี้เลย ไม่คุ้มค่า……”ฝู้โยวให้ฉินหลั่งนั่งลงที่ด้านหลังของตัวเอง แล้วเธอก็เริ่มช่วยเหลือแขกอีกครั้ง
ตอนทุ่มครึ่ง ในที่สุดงานต้อนรับคนเข้างานก็จบลงแล้ว
“พวกเราเข้าไปข้างในสักแป๊บหนึ่งไหม?” ฝู้โยวพูดกับฉินหลั่ง ตอนนี้อารมณ์ของฉินหลั่งก็สงบลงเล็กน้อยแล้ว เขาพูดอย่างแปลกใจว่า “เธอไม่ได้บอกว่าไม่มีตั๋วหรอกเหรอ?”
ฝู้โยวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่สวยงามว่า “พวกเรามีห้องโถงสำหรับให้พักผ่อนพิเศษ ในนั้นมีทีวี พวกเราดูไลฟ์สดกันก็ได้”
ฝู้โยวกับฉินหลั่งกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงคนเรียกเขาไว้ “ฉินหลั่ง!”
ฉินหลั่งจำเสียงของหลินจูได้ เขาหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าหลินจูกำลังรีบเดินเข้ามา “พวกนายจะเข้าไปในยิมกันใช่ไหม? พาฉันเข้าไปด้วยสิ!”
ฉินหลั่งถาม “นี่คุณเถ้าแก่เนี้ยะที่ทำธุรกิจอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ดูแลกิจการแล้วเหรอ?”
ฝู้โยวคลี่ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ตอนนี้คนเข้าไปในสนามหมดแล้ว ใครจะมาอุดหนุนหลินจูกันล่ะ แล้วอีกอย่าง ก็ไม่ใช่ว่าในรถขายอาหารของหลินจูจะไม่มีคนอื่นอยู่สักหน่อย”
ฉินหลั่งก็เลยนึกขึ้นได้ ว่าหลินจูยังจ้างคนมาอีกคนหนึ่ง
“ฝู้โยวฉลาด ฉินหลั่งเอ้ย สมองของนายมีแต่ขี้เลื่อยหรือยังไงกัน!” หลินจูเอามือเคาะหัวฉินหลั่งพลางพูด
ฉินหลั่งเห็นหลินจูกับฝู้โยวเป็นพวกเดียวกัน เหมือนกับว่าไม่ได้มีอะไรข้องใจกันยังไงยังงั้น เขาก็รู้สึกดีใจ แล้วก็ดูถูกตัวเองว่า “ครับ สมองผมมันมีแต่ขี้เลื่อย!”
ฝู้โยวพาฉินหลั่งกับหลินจูเข้าไปด้านในเขตพักผอนที่ฝ่ายจัดงานเตรียมไว้ ที่นี่มีประมาณ 4,500 ตารางเมตร และยังมีทีวี LCD 8 ตัวถูกแขวนไว้ที่ผนังทั้งสี่ด้าน กำลังถ่ายทอดสดพิธีเปิด ในห้องโถงมีคนประมาณ100คน ทุกคนต่างก็พูดคุยกัน พวกฉินหลั่งไปย้ายเก้าอี้มา นั่งลงหน้าทีวี
สองทุ่มตรง ดอกไม้ไฟตระการตา เป็นการบอกว่าพิธีเปิดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ที่เริ่มมาก่อนก็มีงานแสดงทางวัฒนธรรมสองโชว์ หลังจากนั้น ผู้บรรยายในทีวีก็กล่าวว่า “ต่อไปนักกีฬาจะเข้าสนาม……”
ในหน้าจอทีวีก็ปรากฏกลุ่มนักกีฬาจากนานาประเทศเริ่มนำโดยสาวผู้นำทางเข้ามาในสนาม
UAE
โอมาน
……
ไทย
ญี่ปุ่น
……
ในที่สุดคณะผู้แทนเจ้าภาพชาวจีนจะเข้าสู่สถานที่ มีเสียงปรบมือต้อนรับจากผู้ชมอย่างอบอุ่น แล้วก็เห็นเถียนซิงถือป้าย ‘ประเทศจีน’ นำหน้ามา เถียนซิงได้ออกทีวีอยู่10วินาที ในไลฟ์สดพิธีเปิดงานนี้ มันยาวมาก เถียนซิงที่อยู่ในกล้องนั้นก็คลี่ยิ้มที่อ่อนหวาน
เมื่อคนในห้องโถงเห็นสิ่งนี้ต่างก็ชมเชยผู้หญิงในภาพนั้นช่างสวยจริงๆ
หลังจากนักกีฬาเข้าสู่สนามกระบวนการอื่น ๆ ก็เริ่มขึ้น
ทุกคนกำลังดูการถ่ายทอดสดอย่างตั้งใจ
ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินคนสองสามคนเข้ามาในห้องโถงพูดเสียงดัง:
“คุณชายหม่า เมื่อกี้ในไลฟ์สดฉันสวยไหมคะ?”
หม่าหยางเดินโอบเถียนซิงเข้ามาพอดี
“สวย ฉันดูไลฟ์สดอยู่ ตอนที่เธอปรากฏตัวนั้น ทั้งสถานที่ก็เต็มไปด้วยความสวยงามของเธอเลย”หม่าหยางยิ้ม แล้วก็ประคองเถียนซิงไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง
“ยัยผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นนี่!”พอหลินจูเห็นเถียนซิง ก็พูดออกมาเบาๆ
ในห้องโถงนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักหม่าหยาง หลายคนก็จำได้ ว่าเถียนซิงก็คือสาวสวยในไลฟ์สดเมื่อกี้นี้ ทุกคนก็ต่างลุกขึ้นทักทายหม่าหยางกับเถียนซิง
“ คุณชายหม่า นี่แฟนคุณเหรอครับ? สวยมากเลย!”
“ใช่ เมื่อกี้ตอนที่เห็นในทีวี อย่างกับนางฟ้าแหนะ”
“คุณชายหม่า คุณก็มาดูพิธีเปิดที่นี่เหมือนกันเหรอครับ”
……
“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว แฟนของฉันหม่าหยาง ต้องสวยที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว”หม่าหยางหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เอ้ะ พวกมันก็อยู่ที่นี่ด้วย” เถียนซิงเหลือบไปเห็นพวกฉินหลั่ง แล้วก็ดึงแขนหม่าหยาง สายตามีประกายความชั่วร้าย
เถียนซิงเดินมาหยุดอยู่ข้างๆฉินหลั่ง มองหน้าฝู้โยวกับฉินหลั่งแล้วก็พูดว่า “พวกนายไม่เห็นเหรอว่าฉันกับคุณชายหม่าเข้ามา? ทุกคนต่างก็ยืนขึ้นทักทายพวกเรา แต่พวกนายกลับนั่งอยู่แบบนี้น่ะเหรอ?”
“พวกเธอเข้ามาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย?”หลินจูพูดพลางยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ตายแล้ว ยัยอัปลักษณ์ นี่แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ!” เถียนซิงพูดด้วยความโกรธ “ฉันเป็นผู้นำคณะนักกีฬาเลยนะ พวกเธอมาเทียบกับฉัน ก็เป็นแค่ขยะ! ยังกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้อีก!”
เถียนซิงพูดออกมาเสียงดัง “ทุกคนดูสิคะ สามคนนี้ สองคนในนี้เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของฉัน พวกเขาได้เรียนมหาลัยดีๆอย่าง มหาวิทยาลัยเจียงหนาน แต่ว่าตอนนี้กลับมาเป็นยาจก ส่วนผู้หญิงคนหนึ่งก็เป็นแค่ loser พวกเขามาที่นี่เป็นแค่อาสาสมัครเท่านั้น ก็คิดจะเนียนเข้ามา! แล้วก็ยัยหน้าตาน่าเกลียดคนนี้อีก ในห้องโถงนี้พวกเรามีแต่หนุ่มหล่อกับสาวสวย คนที่หน้าตาแบบนี้ ควรจะไล่เธอออกไป!”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset