รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 247 ถูกจับได้แล้ว

บทที่ 247 ถูกจับได้แล้ว
มือแต่ละข้างของฉินหลั่งได้โอบกอดฉินเว๋ยเฉิงและจ้าวหมิงหมิง ครอบครัวของพวกเขาทั้งสามคน7ปีแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว
จ้าวหมิงหมิงโอบกอดฉินหลั่ง กอดอยู่บนไหล่ของฉินหลั่ง น้ำตาไหลโดยไร้คำพูด
ฉินเว๋ยเฉิงก็ดีใจและซึ้งใจมากๆ มือข้างหนึ่งของเขาจับไปที่หลังของฉินหลั่ง อีกข้างหนึ่งก็ลูบไปที่หลังของจ้าวหมิงหมิงเบาๆ พูดด้วยเสียงเบาที่ปากว่า “พอแล้ว พร้อมหน้าพร้อมตากับลูกชายแล้ว เธอร้องไห้แบบนี้ทำไม พอแล้ว ไม่ร้องแล้ว”
ฉินหลั่งปล่อยคุณพ่อคุณแม่บอก เขามองคุณพ่อคุณแม่ด้วยดวงตาที่แดง แล้วเรียกไปทางจ้าวหมิงหมิงว่า “แม่!”
“จ๋า ลูกรัก!” จ้าวหมิงหมิงพูดตอบกลับ เธอฟังเสียงคำว่า “แม่” ของฉินหลั่ง ดีใจยิ่งกว่าได้รับเงิน5000ล้าน
“พ่อ!” ฉินหลังหันไปทางฉินเว๋ยเฉิง แล้วเรียกไปคำหนึ่ง
“จ๋า” ฉินเว๋ยเฉิงตอบกลับไปคำหนึ่ง กระตุ้นไปยังความรู้สึกของเขา ระหว่างหน้าอกของฉินเว๋ยเฉิงก็เร่าร้อนขึ้นมาทันที ทำให้เขามีความวู่วามที่อยากจะร้องไห้
ฉินเว๋ยเฉิงกะพริบตา อยากจะกดทับน้ำตาที่อยู่ในท่อน้ำตากลับไป
มองฉินหลั่งแล้วพูดว่า “พอแล้ว โตขนาดนี้แล้วยังจะร้องไห้ ไม่ใช่เรื่องเลย ให้คนไหนบ้านเห็นแล้วจะเป็นเรื่องตลกเอา”
ดวงตาของฉินหลั่งก็ยังคงแดงเหมือนเดิม เขายิ้มแล้วพูดว่า “คุณพ่อ พ่อยังจะมาว่าฉันอีก ดวงตาของคุณพ่อก็มีน้ำตาเหมือนกัน”
ฉินเว๋ยเฉิงเขินมาก รีบใช้มือเช็ดไปที่ดวงตา “นี่ฉันเป็นเพราะลมพัดต่างหาก”
ฉินเทียนเดินเข้ามา ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณลุง คุณลุงติดโรคเดียวกับผมเลย ถูกแล้ว ลมในห้องโถงนี้แรงมาก ทำเอาคุณลุงและผมต่างก็ถูกลมพัดจนน้ำตาไหล”
พอฉินเทียนพูดแบบนี้ คนรอบๆ ข้างต่างก็หัวเราะกันขึ้นมา
จ้าวหมิงหมิงเองก็ไหวพริบดี ในไม่ช้าก็เข้าใจ ฉินเทียนก็ต้องเคยพูดประโยคนี้มาก่อนแน่นอน เธอเองก็หัวเราะไปหนึ่งที
ในไม่ช้าฉินเว๋ยเฉิงเองก็เข้าใจแล้ว เขามองฉินเทียนแล้วยิ้ม รูปลักษณ์นั้นเหมือนกำลังพูดว่า “เป็นถึงเด็กรุ่นหลัง แต่กล้าพูดตลกกับฉันขนาดนี้เลย”
ฉินหลั่งและพวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน มีพูดคุยมีเสียงหัวเราะ บรรยากาศบนโต๊ะสบายๆ ชิวๆ มาก
ถึงแม้ฉินหลังจะแนะนำว่าสี่สาว “ลม ดอกไม้ หิมะ พระจันทร์” จะเป็นเพื่อนของเขา แต่ว่านอกจากฉินเว๋ยเฉิงและหลินจูแล้ว ใครๆ ต่างก็ไม่เชื่อ
ในใจของจ้าวหมิงหมิงยิ่งคิดไปว่า “ถึงว่าล่ะทำไมหลั่งเอ๋อถึงยอมปล่อยที่จะตามจีบจงยู่ต่อ ที่แท้ก็มีสาวสวยใหม่แล้ว อีกอย่างยังเป็นสี่คนอีกด้วย ทั้งสี่คนนี้แต่ละคนต่างก็งดงามโดดเด่น ดูบุคลิกของพวกเขาแล้ว เหมือนไม่ใช่คนที่ออกมาจากวงศ์ตระกูลสูงๆ หวังว่าหลั่งเอ๋อไม่ต้องหวั่นไหวกับผู้หญิงสี่คนนี้อีก ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเรื่องยากอีก”
“ผู้รับผิดชอบดูแลเขตอเมริกาเหนือฉินเว๋ยเจียน ทั้งบ้านของท่านประธานฉินมาถึงแล้ว!” หน้าประตูก็มีเสียงดังส่งผ่านมาอีก
ครอบครั้งฉินหยวนเดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกันสามคน
ฉินหยวนเองก็เป็นผู้สืบทอดของทางบ้านต่อมีความสามารถที่จะแย่งชิง ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ฉินหยวนได้จบ “การทดสอบความยากลำบาก” กลับมายังบ้านตระกูลฉิน คุณปู่ฉินป๋อสงเองก็พอใจในตัวฉินหยวนมาก ได้มอบธุรกิจติดต่อกันหลายโครงการให้เขา ฉินหยวนเองก็ทำสำเร็จด้วยความสมบูรณ์
อีกอย่าพ่อแม่ของเขาผู้ดูแลเขตอเมริกาเหนือ คือส่วนที่สำคัญมากๆ ในธุรกิจของวงศ์ตระกูล คนอื่นๆ ต่างก็ให้ความเคารพกับคนทั้งบ้านของฉินหยวน
คนอื่นๆ ในตระกูลฉินรู้สึกว่า ฉินหยวนและฉินหลั่งคือคนรุ่นหลานที่น่าให้ความเคารพมากที่สุด ในอนาคตพวกเขามีสิทธิ์เป็นอย่างมากที่จะรับช่วงดูแลวงศ์ตระกูลต่อ
แต่ฉินหยวนและฉินหลั่งเทียบกันแล้ว มีความชนะมากกว่าเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงแล้วเขาก็กลับมาก่อนสามเดือน ได้รับโอกาสและได้เปรียบก่อน
เหมือนเมื่อกี้ที่ฉินหลั่งเข้ามา มีคนมากมายต่างก็ล้อมรอบอยู่ข้างกายของบ้านฉินหยวน ทักทายพูดคุยกับพวกเขา
ปกติแล้วทุกคนต่างก็ทำงานอยู่ในเขตที่ตัวเองรับผิดชอบ ตระกูลฉินได้สร้างกฎของตระกูลไว้ ห้ามมีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน หากจับได้ว่ามีการรวมกลุ่มช่วยเหลือกัน ก็จะถูกตระกูลฉินลงโทษอย่างรุนแรง
ฉะนั้น ปกติแล้วทุกคนต่างก็ระมัดระวังมาก มีเพียงแต่ตอนที่ฉินป๋อสงจัดงานวันเกิน งานปีใหม่ทุกคนจึงจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากัน คนในตระกูลฉินบางส่วนที่มีอำนาจน้อยๆ ก็จะทำการเข้าหาคนที่มีอำนาจมากๆ
พวกฉินหยวนเป็นดั่งดวงจันทร์ที่ถูกพวกดวงดาวล้อมรอบอยู่ตรงกลาง ฉินหยวนยิ้มอย่าเบิกกว้าง ทักทายกับคนในตระกูลทุกคน บุคลิกดั่งคุณชาย มองไม่เห็นถึงรูปลักษณ์โรคจิตแบบก่อนหน้านี้เลย
“ไอ่ฉินหยวนสารเลวนั่น เห็นเขาแล้วฉันก็อยากอาเจียนเลย!”
ฉินเทียนมองฉินหยวนไปทีหนึ่งด้วยความไม่พอใจ จับแก้วน้ำขึ้นมาทันที จับได้เร่งรีบเกินไป น้ำที่อยู่ในแก้วเลอะอยู่บนเสื้อของเขา เขาพูดบ่นว่า “เห็นฉินหยวนแล้วก็ซวยเลย ทำเอาเสื้อผ้าฉันเปียกหมด”
“ตัวเองระหว่างหน่อย โมโหเพราะคนแบบนี้ ไม่มีค่าเลย!” ฉินหลั่งพูดด้วยเสียงเบา
“คุณชายแปด ฉันก็รังเกียจคนแบบนั้นเช่นกัน เขาไปเป็นโทษคุณได้อย่างไรกัน?” หลินจูถาม
ปกติแล้วฉินเทียนจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่หน้าตาไม่งดงาม แต่ว่ากับหลินจูแล้ว กลับมีความสนิทสนมอย่างเป็นธรรมชาติ เขาคิดว่าอาจจะเป็นเพราะหลินจูคือเพื่อนของพี่ใหญ่
“ตอนเด็กๆ ไอ่สารเลวนั่นจะแกล้งฉันตลอดเลย หลังจากเสร็จแล้วยังทำตัวไร้เดียงสาอีก มีครั้งหนึ่งยังใช้ก้อนหินปาหัวฉันจนหัวของฉันแตก เขาไม่พูดแม่แต่คำว่าขอโทษกับฉันเลย ; พอโตขึ้นมาหน่อย เขามักจะฉลาดกว่าพวกพี่น้องส่วนใหญ่ในตระกูลเรา มักจะโอ้อวดอยู่ต่อหน้าคุณปู่ แล้วยังชอบพูดเรื่องไม่ดีกับฉันด้วย เพราะอย่างนี้ ฉันจึงถูกตำหนิมาไม่น้อย 7ปีแล้วนี่ไม่ได้เจอนายนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาก็ยังคงสภาพนี้เหมือนเดิม ฉันอยากจะใส่เขาสักมัดจริงๆ!”
ฉินเทียนมองฉินหยวนแล้วพูดด้วยความโมโห
หลังจากครอบครัวของฉินหยวนทำการทักทายกับคนในตระกูลหมดแล้ว ก็เดินมายังข้างกายของพวกฉินหลั่ง ฉินหยวนมองฉินหลั่ง ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉินหลั่ง นายพาผู้หญิง5คนนี้มาจริงๆ ด้วย? คิดว่าเมื่อคืนนายคงจะหลับสบายแน่ๆ เลย?”
สี่สาว ‘ลม ดอกไม้ หิมะ ดวงจันทร์’ ฟังออกว่าคำพูดของฉินหยวนหมายความว่าอะไร พวกเราจึงอยากจะลุกขึ้นมาสั่งสอนฉินหยวน ฉินหลั่งมองไปทางพวกเขาหนึ่งที สี่สาวจึงไม่ได้ลุกขึ้น นั่งอยู่บนที่ของตัวเอง แล้วจ้องฉินหยวน
“ฉินหยวน ใบหน้าของนายก็ยังบวมเล็กน้อยนะ!” ฉินหลั่งยิ้มแล้วพูดด้วยเสียงเบา
ฉินเทียนเห็นรอยยิ้มและท่าทีของฉินหลั่งและหลินจูแล้ว ในใจก็เดาออกแล้วว่า หน้าขอฉินหยวนต้องถูกฉินหลั่งต่อยมาแน่ๆ
เขารู้สึกดีใจในใจ ใช้โอกาสนี้พูดประชด “ใช่แล้วพี่สาม ทำไมหน้าขอพี่ถึงบวมขนาดนี้ คนที่หล่อเหล่าแท้ๆ ตอนนี้พอดูแล้ว รู้สึกเหมือนศิษย์พี่สองเลย ฮ่าๆ”
ฉินหยวนรู้สึกโกรธในใจ แต่ว่าเขาทนไว้ไม่ได้แสดงออกมา แต่กลับมองไปทางครอบครัวของฉินหลั่งทั้งสามคน ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ดี พวกนายหัวเราะดีๆ เลยนะ หัวเราะให้มีความสุขหน่อย ช่วงเวลาที่มีความสุขนั้นสั้นมาก ฉันคิดว่าคืนนี้ต้องเป็นค่ำคืนยากที่จะลืมของพวกนายนี่นอน”
“อ่อ ลืมบอกนายไป ฉันได้เพื่อนคนหนึ่งจากที่หลินอาน นายเองก็รู้จักเขา” ฉินหยวนมองไปทางหน้าประตู ฉาวหนิงยืนอยู่หน้าประตู ฉินหยวนทำการแสดงท่าทีไปทางคนใช้ของตระกูล พวกเขาจึงปล่อยฉาวหนิงเข้ามา
ฉาวหนิงเดินมาทางฉินหยวน
พอเห็นฉาวหนิงแล้ว ในใจของฉินหลั่งก็อัดแน่นขึ้นมาทันที เขาสามารถเดาได้อย่างรวดเร็วว่า ฉินหยวนรู้เรื่อง150ดอลลาร์ หากเรื่องนี้ถูกคุณปู่รู้เข้า จะมีผลกระทบต่อพวกเขาครอบครัวทั้งสามคนมาก โดยเฉพาะตัวเองและคุณแม่
“ไม่ทักทายกับเพื่อนนักศึกษาของนายหรอ?” ฉินหยวนยิ้มแล้วมองไปทางฉาวหนิง
“ใช่” ฉาวหนิงตอบกลับไปคำหนึ่ง แล้วก้มโค้งเล็กน้อยไปทางฉินหลั่ง ยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ คุณชายใหญ่”
เพื่อนนักศึกษาของฉินหลั่ง!
หัวใจของจ้าวหมิงหมิงกระตุกไปหนึ่งที เธอเห็นรอยยิ้มที่มั่นใจของฉินหยวนในแววตาแล้ว จ้าวหมิงหมิงเองก็เข้าใจแล้ว ฉินหยวนรู้เรื่องที่ตัวเองแอบให้เงิน150ล้านดอลลาร์กับฉินหลั่ง
แววตาของฉินหลั่งจ้องฉาวหนิงไว้ ไม่ได้พูดอะไร มือของเขากำอยู่ด้วยกันทันที สถานการณ์ในตอนนี้ส่งผลไม่ดีต่อเขามากๆ
“พอแล้ว ไม่รบกวนครอบครัวของพวกนายแล้ว พวกเราไปนั่งทางนู้นกันเถอะ”
เห็นว่าสีหน้าของฉินหลั่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย ฉินหยวนก็แอบยิ้มในใจ ดูเหมือนว่าพวกฉินหลั่งก็เข้าใจดี ว่าความหมายที่ตัวเองตามฉาวหนิงมาคืออะไร ในใจของฉินหยวนรู้สึกสบายใจมากๆ
ครอบครัวของฉินหยวนพาฉาวหนิงเดินไปยังโต๊ะอีกข้างหนึ่ง
“นายเป็นอะไรไป?” ฉินเว๋ยเฉิงสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของจ้าวหมิงหมิง ดึงมือของเธอ แล้วถามด้วยเสียงเบา
เรื่องที่จ้าวหมิงหมิงแอบให้เงิน150ล้านดอลลาร์กับฉินหลั่ง ไม่เคยบอกใครเลย ก็เพราะกลัวว่าจะถูกจับได้
แต่ว่าเวลานี้ ฉินหยวนรู้เข้าแล้ว เขาต้องการให้สามีรู้ คิดแผนการการรับมือ
จ้าวหมิงหมิงดึงมือของฉินเว๋ยเฉิง เดินไปยังมุมที่ไม่มีคน แล้วนำเรื่องบอกกับฉินเว๋ยเฉิง หลังจากที่ฉินเว๋ยเฉิงฟังแล้ว ก็โกรธเข้าไปใหญ่ รู้สึกว่าเรื่องนี้ยากมาก เขาขมวดคิ้ว มองดูจ้าวหมิงหมิงด้วยความโกรธแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ทำไมเธอไม่มาปรึกษากับฉันก่อน! เธอโง่เกินไปแล้วจริงๆ!”
จ้าวหมิงหมิงรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว ถูกสามีด่าแล้ว ในใจก็รู้สึกน้อยใจ พูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉันก็กลัวว่าฉินหลั่งอยู่ในโรงเรียนจะมีชีวิตไม่ดีไม่ใช่หรอ? ถ้าฉันปรึกษากับนาย นาไม่ให้แน่นอน ฉะนั้นฉันก็เลยแอบให้เงินฉินหลั่งแล้ว กลับไปนายจะด่าฉันยังไงก็ได้ ตอนนี้นายรีบคิดเถอะว่าจะทำยังไงดี….”
“เฮ้อ…” ฉินเว๋ยเฉิงถอนหายใจ เขากำลังคิดวนเวียนอยู่ในสมองว่าควรจะทำอย่างไรดี แต่ว่าไม่ว่าวิธีไหนเขาก็คิดไม่ออก
“พอแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ กลับไปนั่งเถอะ คุณปู่จะมาแล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว เดี๋ยวฉันสารภาพผิดกับคุณปู่ก็ได้แล้ว” ฉินหลั่งเดินมา จับไหล่ของคุณพ่อคุณแม่แล้วพูด
ฉินหลั่งและพ่อแม่นั่งกลับไปยังโต๊ะอาหารเหมือนเดิม พวกฉินเทียนและหลินจู ยังพูดคุยกันสบายๆ โข่งลิ่งเสียนและท่านหวงต่างก็สังเกตเห็นว่าน่าจะมีปัญหาอะไรบางอบ่าง แต่ไม่ได้เข้าไปถาม
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็ลุกขึ้น เสียงการพูดคุยเบาลง แววตากของพวกเขาต่างก็หันไปทางข้างหน้าห้องโถง คือแววตาที่เคารพและดีใจ
เจ้าบ้านตระกูลฉินฉินป๋อสงเดินเข้ามาจากหน้าห้องโถง เห็นเพียงแต่เขาสวมชุดสมัยถังสีฟ้า แขนทั้งสองอยู่ข้างหลัง นั่งอยู่บนเก้าอี้ของประมุขด้วยสีหน้าที่สูงส่ง
ข้างหลังของเขามีชายร่างผอมใส่ชุดจงซานยืนอยู่ ก็คือคนที่ติดตามฉินป๋อสงตอนที่อยู่เกาะป่ายฮัว
ปกติแล้วงานเลี้ยงวันเกิดในวงศ์ตระกูล เจ้าบ้านจะนั่งโต๊ะเดียวกับคนที่สนิท แต่ว่าตระกูลฉินนั้นใหญ่เกินไป ผลประโยชน์และอำนาจซับซ้อนเกินไป ฉินป๋อสงไม่สามารถที่จะนั่งหนึ่งในโต๊ะพวกนั้นได้ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นๆ ไม่พอใจ
ทุกครั้งที่เขาจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเขาจะมีตัวแทนของแต่ละบ้าน มาทำการดื่มชาข้างหน้าเขาด้วยความเคารพ บางครั้ง เขาก็จะเลือกสักสองสามโต๊ะ นั่งสักสองสามนาที โต๊ะที่ฉินป๋อสงนั่งลงนั้น ต่างก็เป็นโต๊ะที่เขาสนิทและให้ความสำคัญ
“ดี ดีมาก ทุกคนนั่งลงเถอะ!” ฉินป๋อสงมองไปรอบๆ ยิ้มด้วยความพอใจ มีคนมากมายขนาดนี้มางานเลี้ยงวันเกิดของตัวเอง ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ต้องดีใจ
ผู้คนตอบกลับไปคำหนึ่ง แล้วต่างก็นั่งลง
ต่อมา ทุกๆ บ้านส่งตัวแทนมาหนึ่งคน ทำงานมอบของขวัญให้ฉินป๋อสง ในงานมีประมาณ100กว่าบ้านหรือแต่ละคนที่จะมอบของขวัญ งานในส่วนนี้อย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง
ถึงแม้ว่าจะลำบาก แต่ว่านี่เป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง และก็คือโอกาสที่ฉินป๋อสงและสมาชิกอื่นๆ จะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นไม่สามารถขาดไปได้
ในขณะเดียวกัน ตอนที่ตระกูลฉินกำลังจัดงานเลี้ยง ตระกูลหยูที่อยู่หลินอาน หยูหมิงกำลังนอนอึดอัดใจอยู่บนเตียงของตัวเอง
เขาแต่งงานกับหลงหลิงมา3วันแล้ว แต่ว่าคุณพ่อไม่ยอมให้เขามีความคิดใดๆ ต่อหลงหลิง สามวันมานี้ แม้แต่มือของหลงหลิงเขาก็ไม่เคยจูง
ทุกวันที่ไปเยี่ยมหลงหลิง มองดูผู้หญิงที่งดงามอยู่ตรงหน้าของตัวเอง เขาเป็นสามีของหลงหลิงแล้ว แต่ว่าแม้กระทั่งจับเล็กน้อย จูบทีหนึ่ง ในใจของเขาก็กังวลจะตายอยู่แล้ว
แต่ว่าพอนึกถึงความโหดของฉินหลั่งที่สามารถทำลายกฎธรรมชาติได้ กับสถานการณ์แย่ๆ ในวันแต่งงาน ในใจของหยูหมิงก็มีความกลัวมากๆ
“คืนนี้ใช้อาซิงมาระบายหน่อยละกัน” หยูหมิงพูดพึมพำ
อาซิงคือสาวใช้ในบ้านของพวกเขา “กินไม่ลง” หลงหลิงทำให้ความคิดในด้านนั้นของเขาเพิ่มมากขึ้น เมื่อคืนเขาก็ใช้อาซิงระบายไปครั้งหนึ่งแล้ว ได้ลดหย่อนความต้องการไปเล็กน้อย อีกอย่างแบบนี้จะทำให้หลงหลิงจับได้ก็เป็นได้
หยูหมิงกำลังจะโทรหาซิง ประตูห้องของเขาถูกเปิดออก ร่างกายที่น่าหลงใหลคนหนึ่งเดินเข้ามา ในตอนที่มองหน้าของเธอชัดๆ หยูหมิงอึ้งไปเล็กน้อย คนที่เข้ามาคือหลงหลิง!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset