รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 258 อาจารย์ฝู้คาย

บทที่ 258 อาจารย์ฝู้คาย
ตอนที่ฉินหลั่งและจงยู่กำลังจัดเตรียมงานแต่งของตนเองนั้น ที่เย็นจีน จงเส่นซานก็ทำตามที่พ่อตนเองสั่ง ไปเชิญตัวอาจารย์ฝู้คาย
จงเส่นซานนั่งรถยี่ห้อESCALADEไป มีคนขับรถให้ วิ่งออกไปทางวัดถานโท่ ชานเมืองเย็นจีน
ฝู้คายรักในศิลปะการต่อสู้ ในหนึ่งปี 1ใน3ของเวลาทั้งหมด เอามาเรียนรู้วิชาการต่อสู้ ตั้งแต่9ปีที่แล้ว ที่เขาถูกจงจิ่วเจินรับตัวเข้ามาอยู่ด้วย ก็อยู่ที่วัดถานโท่ตลอด เหตุผลก็เพราะว่า วัดถานโท่มีอากาศดี พลังงานสะอาด เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกวิชา
ตามเส้นทางขึ้นเขาที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามทาง พอขับมาถึงกลางเขาก็ถึงหน้าประตูวัดถานโท่
จงเส่นซานเดินลงมาจากรถ
หลังจากคนขับรถลงรถ แล้วก็เอากล่องกระดาษออกมาจากกระเป๋าเดินทาง ในกล่องมีเหล้าชั้นดีมากมาย เหล้าเหมาไถ เหล้าเก่าเก็บอายุ50ปี เหล้าธัญพืช5ชนิด แล้วก็พวกเหล้านอก ล้วนแต่เป็นของดี
ของชอบของฝู้คายก็คือดื่มเหล้า ทุกครั้งที่บ้านตระกูลจงมาหาเขา จะต้องพกเหล้าดีๆ มาให้เขาสมอ
มีพระมีรอยแผลเป็นที่หัว เดินออกมาเปิดประตู จงเส่นซานเดินเข้าวัดไป คนขับรถก็ตามมาด้านหลัง ส่วนกล่องเหล้านั้น ได้ถูกพระสูงรูปนั้นถือไปแล้ว
จงเส่นซานเดินมาทางด้านหลังเขาของวัดถานโท่ ได้ยินพระสงฆ์นั้นพูดว่า ฝู้คายกำลังฝึกวิชาทางด้านหลัง
เดินเหยียบต้นหญ้าและใบไม้ที่ร่วงหล่น เป็นระยะทางบนภูเขาประมาณ10นาที ในที่สุดจงเส่นซานก็มองเห็นฝู้คาย
เห็นก้อนหินตรงหน้าผา มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิด้านบน ผมของเขายาวมาก มัดไว้ง่ายๆ หลังหัว มีบางส่วนเหลือไว้ข้างๆ บดบังใบหน้าเขา เส้นผมของเขาดูเหมือนว่าจะไม่ได้สระนานแล้ว เมื่อต้องสายลมก็พลิ้วไหวไปมา
ถึงแม้เขาจะไว้ผมยาว แต่ก็ไม่เหมือนไอ้หนุ่มหน้าหวานที่แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิงดั่งในละครในยุคปัจจุบัน ร่างกายเขาเต็มไปด้วยความแข็งเกร่งของชายฉกรรจ์ ทำให้คนที่มองไปต้องกลัวและเคารพเขา
ฝู้คายสวมชุดสีกรมท่า ที่ซักจนเกิดเป็นสีขาวหม่นแล้ว แล้วก็กางเกงจีนที่สกปรก แล้วก็รองเท้าผ้าใบยี่ห้อหุยลี่สีขาว
เขานั่งหลับตา ราวกับเป็นประติมากรรมที่นั่งอยู่บนก้อนหิน
“ประธานจง จะให้ผมเข้าไปเรียกไหมครับ?” คนรับรถถามเสียงเบาๆ จงเส่นซานก็นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตาในเย็นจีนเหมือนกัน เขามาถึงแล้ว แต่ฝู้คายยังนั่งฝึกวิชาอยู่ที่นั่น คนขับรถคิดว่ามันไม่เหมาะ
จงเส่นซานมองฝู้คายที่กำลังนั่งบนหิน แล้วก็ส่ายหัวเบาๆ แล้วก็ถามกับพระสองรูปเบาๆ ว่า “อาจารย์ฝู้คายฝึกวิชา ต้องใช้เวลานานเท่าไร?”
“อาจารย์ฝู้คายจะนั่งครั้งละ12ชั่วโมง ไม่ว่าจะฝนตกฟ้าร้อง กลางวันหรือกลางคืน เขาก็จะนั่งที่นี่ อาตมาได้ยินเขาบอกว่า เขากำลังย่อยสลายสิ่งใหม่ๆ ที่บรรลุมาได้ บำเพ็ญเพียร ในขณะเดียวกันก็รับเอาพลังงานดีๆ ของธรรมชาติ มีผลดีต่อศิลปะการต่อสู้ของเขามาก”
พระมีแผลเป็นที่หัวรูปหนึ่งบอกกับจงเส่นซานว่า “วันนี้อาจารย์ฝู้คายมานั่งที่นี่6ชั่วโมงแล้ว ยังเหลืออีก6ชั่วโมง ประธานจง ท่านก็ไปนั่งรอในวัดก่อนเถิด รออาจารย์ฝู้คายฝึกเสร็จแล้ว อาตมาจะไปเรียกท่านเอง!”
“ก็ดีเหมือนกัน!” จงเส่นซานพยักหน้าพูด พูดไปดังนั้น แล้วก็หันหลังเดินเข้าไปในบริเวณวัด
ในตอนนั้นเอง จงเส่นซานก็มองเห็นว่า มีชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งเดินออกมาจากหลังวัด ใส่เสื้อผ้าก็ดูเหมือนมีประสบการณ์ ในมือของพวกเขายังถือดาบยาวด้วย ปลายดาบยังมีรอยเลือด แต่จงเส่นซานอยู่ค่อนข้างห่างออกไป มองเห็นรอยเลือดไม่ชัด สองคนนั้นเดินมุ่งมาทางจงเส่นซาน
“โยมทั้งสอง ด้านหลังเขาเป็นเขตหวงห้าม ไม่อาจจะล่วงล้ำได้ แล้วยังมีดาบในมือของท่านทั้งสองด้วย เที่ยวชมในวัดนี้ ไม่อนุญาตให้พกอาวุธ!”
พระสองรูปวางเหล้าลง แล้วเดินไปทางชายหญิงคู่นั้น พวกเขาโกรธมาก แต่ก็แปลก ว่าพระรูปอื่นๆ ทำงานกันอย่างไร ถึงให้สองคนนี้เอาดาบเข้ามาได้?
ตอนที่พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ชายหญิงคู่นั้น ถึงได้เห็นว่าบนดาบของทั้งสองคนมีรอยเลือด
“อ๋า…..พวกคุณ!” พระทั้งสองรูปตกใจ แล้วมองไปยังชายหญิงคู่นั้น
“ไอ้พระพวกนี้ มีสิทธิ์อะไรมาเรียกพวกเราสองผัวเมีย!” หญิงวัยกลางคนพูดยิ้มเย็นๆ
พูดไปดังนั้น เธอก็เดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว แล้วเห็นเป็นแสงส่องออกมา บนคอหอยของพระทั้งสองรูปก็มีรอยเลือดเป็นเส้น ไม่นาน ก็มีเลือดไหลพุ่งออกมา!
พระทั้งสองรูปยังคงมีสีหน้าที่ตกใจอยู่ “ตุบ” เสียงล้มลงที่พื้น ตายแล้ว
จงเส่นซานตกใจจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว คนขับรถก็ขาอ่อน เขามองชายหญิงคู่นั้นเป็นเหมือนยมบาลในนรก ที่เห็นแล้วต้องตัวสั่น
ชายหญิงคู่นั้นเดินมาทางจงเส่นซาน เห็นฝู้คายที่กำลังนั่งบนหิน ชายวัยกลางคนก็พูดว่า “ไอ้ฝู้คายนี่มันอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”
ชายวัยกลางคนก็หันมามองจงเส่นซาน คนขับรถถูกสายตาของชายคนนั้นทำให้กลัวจนนิ่งโง่ไป เขาขาอ่อนจนต้องนั่งลงที่พื้น พร้อมโขกหัวให้ชายคนนั้นไม่หยุด
“พี่ชาย พี่สาว ขอร้องท่านปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่มีความแค้นอะไรกับท่านเลย อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีชีวิตไม่พอเลย ให้โอกาสผมด้วย จะให้พวกเราทำอะไรให้ก็ได้ แต่อย่าฆ่าผมเลย”
จงเส่นซานมองชายหญิงวัยกลางคนคู่นั้น ภายนอกก็ยังคงยืนนิ่งไม่กลัวอะไร แต่บนหน้าผากของเขามีเหงื่อออกมา มือก็กำแน่น
“เออ ไอ้อ่อน วางใจเถอะ ตอนนี้กูยังไม่ฆ่ามึง ตอนนี้กูจะมาล้างแค้น คนที่เหลือก็หลบไปดูข้างๆ มันก็น่าสนุกดีไม่ใช่หรือ?”
ชายวัยกลางคนกล่าว “รอกูฆ่าฝู้คายแล้ว เดี๋ยวจะให้พวกมึงกลับไปเอง”
คนขับรถตกใจจนฉี่แตก อ่อนแรงทั้งตัว ในปากก็พูดเบาๆ ว่า “ไม่นะ ไม่นะ…..”
“พวกไม่ได้เรื่อง!” ชายวัยกลางคนด่าคนขับรถ แล้วก็มองไปยังฝู้คาย พร้อมพูดว่า “ฝู้คาย วันนี้กูจะมาแก้แค้นมึง!”
พูดจบ ชายวัยหญิงกลางคนก็ขยับตัว ทั้งสองคนยกดาบยาวพุ่งไปทางฝู้คาย
“แย่แล้ว” จงเส่นซานพูดในใจ ถ้าฝู้คายถูกพวกมันฆ่าตายละก็ ตนเองนั้นก็จะตกอยู่ในอันตรายมาก
ชายวัยหญิงกลางคนพุ่งมาทางด้านหน้าของฝู้คาย พวกเขายกดาบขึ้น จะฟันลงไปที่หัวของฝู้คาย ฝู้คายก็ไม่หลบ และไม่ลืมตาเสียด้วย สองคนนั้นก็แปลกใจ แต่ต่อจากนั้น ฝู้คายก็ลืมตาขึ้น สายตาเผยให้เห็นถึงชัยชนะ
ในตอนนั้นเอง ฝู้คายขยับตัวแล้ว ตัวเขาหงายหลังลงไป ส่วนขาก็ยังเตะไปที่ก้อนหิน แล้วตัวก็ลอยออกมาจากก้อนหินออกมาทางด้านหลัง ดาบของชายวัยหญิงกลางคนก็ฟันไม่โดน
ในใจชายวัยหญิงกลางคนก็โมโห ระยะห่างเพียงเท่านี้ ฝู้คายหลบได้อย่างไร? เหมือนว่าไม่ได้พบกัน12ปี ฝีมือของฝู้คายจะพัฒนาไปมากเลยทีเดียว
ฝู้คายถอยมา10เมตร แล้วยืนตัวตรง มองไปที่ชายวัยหญิงกลางคนคู่นั้น พร้อมพูดเสียงเย็นๆ ว่า “กัวเฟิง กัวอิง ไอ้สองผัวเมียบ้าคู่นี้ 12ปีที่แล้วแพ้ไปอย่างอนาถ ยังไม่พออีกหรือ? จะมารนหาที่ตายอีกหรือ!”
กัวเฟิงและกัวอิง เดิมที เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทั้งสองเรียนวิชาการต่อสู้ด้วยกัน แล้วก็รักกัน ในคืนนั้น กัวอิงท้องลูกของกัวเฟิง พวกเขาทรยศแรงกดดันของตระกูล แล้วกลายเป็นผัวเมียกัน
ลูกของพวกเขาที่เกิดมา ก็เป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่าอยู่ไม่เกิน10ปี สองผัวเมียนี้รักลูกคนนั้นมาก พวกเขาเอาความรักทั้งหมดให้แก่ลูก ภายใน10ปีนั้น
พวกเขาลุ่มหลงในการฝึกวิชา 12ปีก่อน พวกเขาไปประลองฝีมือกับฝู้คาย ที่เริ่มมีชื่อเสียงในวงการการต่อสู้
ฝู้คายใช้แค่เพียงไม่ถึง50กระบวนท่า ก็สามารถทำให้สองผัวเมียกัวเฟิงกระอักเลือดล้มลง ลูกชายอายุ5ขวบของเขาดูอยู่ข้างๆ ตอนที่เห็นพ่อแม่ตนเองกระอักเลือดนั้น ก็อาการกำเริบ โรคหัวใจกำเริบ และช่วยไว้ไม่ทัน ต้องจบชีวิตลง
สองผัวเมียกัวเฟิง ก็เอาความผิดทั้งหมดมาโยนให้ฝู้คาย
“รนหาที่ตายงั้นหรือ? เหอะ ฝู้คาย 12ปีก่อนมึงพูดเช่นนั้น กูก็ยอมรับ ตอนนั้นกูสองผัวเมียสู้มึงไม่ได้ก็จริง แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพื่อที่จะรับมือกับมึง พวกกูสองผัวเมียได้ฝึกวิชาที่ใช้คู่กันสำเร็จแล้ว ชื่อว่าวิชาดาบยวนยาง วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงมาสังเวยให้ลูกกูที่ตายไป!”
“ฝู้คาย เอาชีวิตมึงมา!” กัวอิงตะโกน
พูดดังนั้น สองผัวเมียกัวเฟิงก็บุกเข้าไป พวกเขาฝึกวิชา “วิชาดาบยวนยาง” อย่างยากลำบาก ก็เพื่อจะมาฆ่าฝู้คายในวันนี้
ทั้งสองคนก็บุกล้อมโจมตีฝู้คายเอาไว้ เห็นสองผัวเมียกัวเฟิง เดี๋ยวรุก เดี๋ยวรับ เดี๋ยวเข้า เดี๋ยวออก ทั้งฟัน แทง ปาดซ้ายขวา ทุกกระบวนล้วนบุกไปยังตัวของฝู้คาย
ดาบยาวของพวกเขาทั้งสอง กวัดแกว่งไปมาเป็นแสงสีขาว รักศมีดาบปกคลุมตัวของฝู้คาย
ร่างกายของฝู้คายก็ยืดหยุ่นเหมือนกับนักกีฬา หลบดาบได้ตลอดเวลา
ผ่านไป50กระบวนท่า ต่อให้สองผัวเมียกัวเฟิงจะได้เปรียบมากแค่ไหน แต่ดาบก็ยังฟันไม่ถูกฝู้คาย
สองผัวเมียกัวเฟิงคิดว่า จะฟันจน100กระบวนท่า จะต้องให้ฝู้คายล้มลงที่พื้นให้ได้
“พวกมึงคงจะคิดว่า กำลังเสมอกูอยู่ละสิ?” ฝู้คายพูดขึ้นมา สองผัวเมียกัวเฟิงก็นิ่ง แล้วรู้สึกว่าใบดาบถูกดีดออก สั่นสะเทือนมาถึงแขนที่จับ จนทั้งสองต้องถอยไป5เมตร แล้วก็จ้องมองฝู้คาย
“กูก็แค่อยากจะดูสิว่าพวกมึงจะเก่งสักแค่ไหน แต่พวกมึงทำให้กูผิดหวังมาก ไปศึกษามาตั้ง12ปี ได้แค่นี้นะหรือ! เหอะ น่าขำสิ้นดี!”
ฝู้คายยิ้มเย็น “กูไม่ได้ออกฝีมือมา1ปีกว่าแล้ว วันนี้จะเอาพวกมึงมาอบอุ่นร่างกายเสียหน่อย!”
สิ้นเสียงพูดของฝู้คาย สายตาจ้องเขม็ง แล้วก็พุ่งไปยังตัวของสองผัวเมียกัวเฟิง อย่างกับลูกกระสุนที่ยิงออกไป
สองผัวเมียกัวเฟิงก็เลิ่กลั่ก ฝู้คายมันเร็วมาก ชั่วพริบตา ในใจทั้งสองคนก็คิดพร้อมกันว่า ตอนเองนั้น เมื่อเทียบกับฝู้คายแล้ว ก็เหมือนกับแมวกับเสือ
แต่ทั้งสองคนก็ยังรีบยกดาบขึ้นปัดป้อง
“เพล้ง!” ฝู้คายอ้อมมือทั้งสองไปที่มือของพวกเขา แล้วตีลงที่แขน ทั้งสองทนแรงไม่ได้ ก็เลยปล่อยมือ ดาบยาวของทั้งสองคนก็ลอยขึ้น แล้วตกลงพื้น
จากนั้น ฝู้คายก็ไม่เกรงใจสองผัวเมียกัวเฟิงแล้ว แขนทั้งสองข้างที่มีกำลังของเขาก็บุกเข้าโจมตีทั้งสองคน สองผัวเมียกัวเฟิงเหลือเพียงแรงรับกระบวนท่า ปกติแล้วพวกเขารับกระบวนท่าของศัตรูนั้น ยังสามารถรับได้พร้อมกัน แต่ตอนนี้ พวกเขารู้สึกว่าตนเองยังจะรับไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงช่วยเหลืออีกตน
ในตาของพวกเขาเห็นแต่แขนและมือของฝู้คาย สับสนไปหมด เหมือนกับค้างคาวที่บินออกมาตอนกลางคืน
“ตุบ!”
สองผัวเมียกัวเฟิงก็ถูกถีบคนละตีน ที่ท้อง ตัวลอยปลิวออกไปเป็น10เมตร แล้วร่วงหล่นไปที่หน้าผาด้านข้าง
“เอื้อก!”
“เอื้อก!”
มีเสียงร้อนอย่างทรมานส่งขึ้นมาจากหน้าผา ผ่านไป10วินาที ก็มีเสียง “โครมๆ” สองครั้ง สองผัวเมียนั้นตกหน้าผาตาย ร่างกายแหลกละเอียด
12ปีก่อน ฝู้คายเอาชนะสองผัวเมียกัวเฟิงด้วย50กระบวนท่า ครั้งนี้ เขาใช้แค่10กระบวนท่า
เห็นสองผัวเมียกัวเฟิงถูกโจมตีตกหน้าผาไป จงเส่นซานก็โล่งอก เขาพบว่าในมือของเขาเองนั้นมีเหงื่อออกเต็มไปหมด
จงเส่นซานตั้งสติ แล้วเดินไปทางฝู้คาย พร้อมยิ้มพูดว่า “อาจารย์ฝู้คาย วิชาของท่านพัฒนาขึ้นอีกแล้ว เมื่อครู่ทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตามาก!”
ฝู้คายพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ประธานจงกล่าวชมเกินไปแล้ว”
ถึงแม้ประธานจงจะเป็นยอดฝีมือในวงการการต่อสู้ แต่เขาก็ยังรับเงินเดือนของบ้านตระกูลจงอยู่ เขาเคารพบ้านตระกูลจงมาโดยตลอด
“ผมเอาเหล้าชั้นดีมาให้คุณด้วย เชิญดูเลย!” จงเส่นซานชี้ไปทางกล่องเหล้าของตนเองที่อยู่บนพื้น
“เป็นเหล้าดีจริงๆ !ขอบคุณประธานจงมาก!” ฝู้คายเดินมาข้างๆ กล่องเหล้า แล้วเปิดกล่องดูขวดเหล้าด้านใน ก็ถูกใจมาก เขามองจงเส่นซานแล้วพูดว่า “ประธานจง คุณตั้งใจมาหาผมเช่นนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“มีเรื่องหนึ่ง อยากจะขอให้อาจารย์ฝู้คายช่วยเหลือ พวกเราเข้าไปคุยในห้องเถิด!” จงเส่นซานทำท่าผายมือเชิญ แล้วเดินเข้าไปในวัดพร้อมกับฝู้คาย
ส่วนคนขับรถที่ตกใจจนฉี่ราดไปนั้น ก็อุ้มกล่องเหล้า เดินโซเซตามไปข้างหลัง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset