รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 307 คุณชายฉินเจ๋งเป้ง

บทที่ 307 คุณชายฉินเจ๋งเป้ง
“ไม่มีปัญหา ฉินหลั่ง นายว่ามาเลย!” จงจิ่วเจินกำลังอยู่ในบ้านตัวเอง กำลังฟังลูกน้องรายงานเรื่องการรับเย็นจีนมา เขานึกไม่ถึงเลยว่า ฉินหลั่งโทรมาหาตัวเอง ก็เพื่อยืมเงิน
ไม่ว่าฉินหลั่งจะยืมเท่าไหร่ จงจิ่วเจินก็จะยืมให้เขาแน่นอน แม้จะต้องส่งเขาก็จะทำ
ถ้าไม่มีฉินหลั่งละก็ พวกเขาตระกูลจงก็คงไม่มีที่อยู่อาศัยในเย็นจีนแล้ว
“ครั้งนี้ผมขอยืมไม่มาก ต้องการห้าพันล้าน! คุณมีไหม?” ฉินหลั่งพูด ตอนนี้ในมือหยูจื้อมีอยู่หกร้อยล้าน เขาต้องการเงินมีห้าพันล้านก็ครบแล้ว
“ห้าพันล้าน!” จงจิ่วเจินตกใจอึ้ง เยี่ยมมาก ฉินหลั่งกำลังจะทำอะไรกัน ถึงต้องการเงินมากขนาดนี้? แต่เขาตกใจไม่นาน ยังไงเงินก็ต้องเอาให้ฉินหลั่งแน่นอน
“เป็นแบบนี้ ท่านจง ประธานหยูจื้อบริษัทหัวเสร์หลินอานเป็นเพื่อนของผม ตอนนี้บริษัทกำลังเกิดปัญหาใหญ่ ต้องการเงินห้าพันล้านมาหมุน รอบริษัทฟื้นฟูตัวแล้ว ผมจะเอาเงินไปคืนในทันที!”
ฉินหลั่งอธิบายง่ายๆ เพราะยังไงตัวเองก็เคยยืมเงินให้จงจิ่วเจิน
“ได้ ที่จริงนายไม่ต้องอธิบายก็ได้ ขอแค่นายพูด ไม่ว่าจะทำอะไร ฉันก็จะเอาเงินให้นายอยู่ดี!”
จงจิ่วเจินพูดโดยไม่คิดมาก ในสมองเขาเริ่มครุ่นคิด และพูดว่า:
“เอาแบบนี้ ตอนนี้เงินสดของตระกูลจงมีไม่มาก ฉันให้นายก่อนสามพันล้าน จากนั้นค่อยขายทรัพย์สินภายใต้ชื่อของฉันโดยเร็วที่สุด ช้าสุดก็สิบวัน ฉันถึงจะเอาสองพันล้านที่เหลือให้นายได้! เป็นไง?”
“ท่านจงขอบใจคุณมาก คุณให้ผมยืมแค่สามพันล้านก็พอแล้ว อีกสองพันล้าน ผมค่อยคิดหาวิธีอื่นเอง!” ฉินหลั่งหัวเราะ เขาจะไม่ยอมให้ท่านจงขายทรัพย์สินตัวเอง เพื่อให้ตัวเองยืมเงินอยู่แล้ว!
จงจิ่วเจินไม่วางใจเอามากๆ คิดจะรวบรวมเงินอีกสองพันล้านให้ฉินหลั่งให้ได้ แต่ว่ากลับถูกฉินหลั่งปฏิเสธเสียก่อน ฉินหลั่งขอเลขบัญชีบริษัทหัวเสร์จากหยูจื้อ จงจิ่วเจินรีบโอนเงินสามพันล้านไปในทันที
ฉินหลั่งวางสายจงจิ่วเจิน และโทรไปที่เบอร์114 ค้นหาเบอร์โทรสถานทูตแห่งบรูไน
ตอนนี้ฉินหลั่งอยากจะรวบรวมให้ได้ห้าพันล้าน นอกจากตระกูลจงแล้ว ที่จริงจะยืมจากฉินเทียนก็ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่คนในตระกูลฉินแล้ว ถ้าฉินเทียนเอาเงินให้ตัวเองยืม ก็จะพลอยทำเขาเดือดร้อนด้วย ฉินหยวนคงจะนำเรื่องนี้มาพูดแน่
ฉินหลั่งยังเหลืออีกหนึ่งตัวเลือก กษัตริย์แห่งบรูไน
กษัตริย์แห่งบรูไนก่อนที่เขาจะไป เคยบอกไว้ว่า ถ้าฉินหลั่งมีเรื่องลำบากอะไร ก็สามารถไปบอกเขาได้ ฉินหลั่งคิดว่า สำหรับราชวงศ์บรูไนที่ร่ำรวยแล้ว เรื่องเงินสองพันล้านคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ผ่านทางสถานทูต ฉินหลั่งบอกไปว่าตัวเองเป็นผู้ที่เคยได้ “เหรียญเกียรติยศแห่งชาติบรูไน” สถานทูตรีบโอนสายไปในราชวังแห่งบรูไนทันที มีกษัตริย์แห่งบรูไนรับสายนี้เอง
ก่อนที่จะออกจากหัวเสร์ กษัตริย์แห่งบรูไนเคยสั่งกับสถานทูตเป็นพิเศษ ตัวเองกับผู้ที่ได้รับเหรียญเกียรติยศนี้รู้จักกันมาก ถ้าเขาโทรมา ก็โอนสายมาที่เขาทันที
“ฉินหลั่ง เพื่อนของฉัน ในที่สุดนายก็โทรมาสักที ฉันดีใจมาก” พอสายเข้าแล้วก็มีเสียงดังขึ้นทันที เป็นเสียงอ่อนโยนของหญิงสาว แปลภาษามลายูของกษัตริย์เป็นภาษาจีนในทันที
ฟังน้ำเสียงของกษัตริย์ ไม่มีความเศร้าโศกแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเดินออกมาจากความทุกข์ใจได้แล้วสินะ
“สวัสดีครับ ฝ่าบาท ได้โทรศัพท์คุยกับท่านเป็นเกียรติของกระหม่อมมาก วันนี้กระหม่อมโทรมาหวังอยากจะยืมเงินท่านหน่อย เพื่อนของกระหม่อม……ตอนนี้ยังขาดเงินอีกสองพันล้านหยวน กระหม่อมอยากจะขอให้ท่านช่วยหน่อยพ่ะย่ะค่ะ!” ฉินหลั่งพูดรวมๆ
“แบบนี้เองเหรอ ไม่มีปัญหา ตอนนี้ฉันยืมเงินให้นายได้ นายรู้ไหม คุณฉิน ก่อนที่ฉันจะออกจากหัวเสร์ ฉันให้นายเอาเงินห้าพันล้านดอลลาร์ลงทุนไปที่จีนหลิง ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ ในระยะเวลาสั้นๆ มีโครงการที่ลงทุนไปเริ่มได้กำไลแล้ว และอีกอย่าง ประเทศของฉันก็เลือกคนเก่งหนึ่งร้อยคนไปหัวเสร์ เพื่อศึกษาการพัฒนาที่ทันสมัยและความคิดทัศนคติ พวกเขาได้เรียนรู้มาเยอะมาก……ดังนั้น ฉันต้องขอบใจนายมากจริงๆ!”
กษัตริย์อดไม่ได้พูดออกไป
“ฝ่าบาทเกรงใจไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉินหลั่งพูดอย่างถ่อมตัว ได้ยินการตัดสินใจในตอนนั้นของตัวเอง นำประโยชน์ที่มั่นคงมาให้กับบรูไน ฉินหลั่งรู้สึกพอใจมาก
พอวางสายแล้ว เงินอีกสองพันล้านก็โอนเข้าบัญชีเป็นที่เรียบร้อย
หยูจื้ออึ้ง ในเวลาสั้นๆยี่สิบนาที ฉินหลั่งช่วยบริษัทเขา รวบรวมเงินจนครบห้าพันล้านแล้ว!
ในประเทศคนที่ทำแบบนี้ได้คงมีน้อยจนนับนิ้วได้!
ฉินหลั่งถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว แต่ก็ยังคงมีพลังที่ใหญ่แบบนี้ได้ ทำเอาหยูจื้อแอบกลัวเล็กน้อย
หยูหมิงกับพวกทายาทเศรษฐีคนอื่นๆ ก็ต่างประหลาดใจกับความสามารถของฉินหลั่ง พวกเขาหลังจากที่ตกใจแล้วก็ต่างดีใจขึ้นมา พอมีเงินห้าพันล้านแล้ว บริษัทหัวเสร์ก็มีความหวังกลับมาดีขึ้นอีกครั้งแล้ว
ฉาวหนิงกับหม่าฝูหรุ้ยมองทุกอย่างด้วยความตกใจ ฉาวหนิงส่ายหัวเบาๆ เป็นไปได้ยังไง? ทั้งที่เขาไม่ใช่คนตระกูลฉินแล้ว ทำไมถึงมีชื่อเสียงแบบนี้ได้?
ทำไมกัน?
เรื่องพวกนี้เป็นเพราะอะไรกันแน่?
ฉินหลั่งผลักฉาวหนิงที่อึ้งตัวแข็งทื่อเป็นไม้ เดินไปหน้าประตูห้องประชุม เปิดประตูเข้าไป มองดูพวกนักข่าวที่มองดูเขาอย่างระมัดระวัง และยิ้มอ่อนๆพูดว่า: “ด้านในกำลังมีข่าวใหญ่ พวกคุณไม่อยากเข้าไปสัมภาษณ์เหรอ?”
ข่าวใหญ่? หรือว่าตระกูลฉาวเซ็นชื่อซื้อบริษัทหัวเสร์แล้วเหรอ? รีบเข้าไปถ่ายรูปกัน!
พวกนักข่าวเหมือนชาวเม็กซิโกทางเขตชายแดดที่กำลังหนีเข้าอเมริกา พุ่งเข้าไปในห้องประชุม!
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
หยูจื้อกับฉาวหนิงเหมือนรูปปั้น และทายาทเศรษฐีคนอื่นๆก็กำลังยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อน พวกนี้คืออะไรกันแน่?
“ประธานหยู ไหนคุณบอกว่า ให้คุณห้าพันห้าร้อยล้าน ก็สามารถทำให้บริษัทหัวเสร์รอดจากความเสี่ยงนี้ไง?” ฉินหลั่งพูดเตือน
“อ้อ ใช่…ใช่แล้ว……” หยูจื้อพึ่งได้สติ เขาหยิบมือถือขึ้นมา โทรศัพท์ไปหาพันธมิตรที่ร่วมงานใหญ่สุดของบริษัทหัวเสร์: “สวัสดีครับ ประธานหวัง ผมอยากจะเจรจาเรื่องการร่วมงานของพวกเราน่ะครับ!”
“ประธานหยู คุณไม่ต้องพูดแล้ว ผมบอกกับคุณชัดเจนแล้วไง อีกฝ่ายให้ราคาผมมากกว่าคุณหนึ่งเท่า และยังจะจ่ายเงินค่าผิดสัญญาให้ผมอีกด้วย ดังนั้น ผมไม่มีทางร่วมงานกับบริษัทหัวเสร์อีกแล้ว!”
“ผมให้ราคาคุณสองเท่า คุณร่วมงานกับผมต่อ!” หยูจื้อตอนนี้ในมือมีเงินแล้ว ไม่ต้องพูดอย่างอื่นเลยด้วยซ้ำ ราคาสองเท่าสามารถทำให้อีกฝ่ายหวั่นไหวได้!
“คุณอย่าพูดอีกเลย พวกเราไม่มีทางร่วมงานกันได้อีกแล้ว……เดี๋ยวนะ คุณบอกเท่าไหร่นะ สองเท่า! โอ้มายก๊อด ทำ ผมทำ ประธานหยู ผมจะร่วมงานกับคุณต่อ! พอดีเลยการร่วมงานของพวกเรายังไม่หมดสัญญา ตอนนี้ผมมีสินค้าให้คุณพร้อมเลย!”
ผู้ร่วมงานที่ใหญ่สุด ไม่นานก็คุยกันสำเร็จแล้ว
“พวกคุณรีบไปติดต่อบริษัทที่ร่วมงานกับเราในเครือพวกคุณ อย่าทดลองใจพวกเขา พูดตรงไปเลยว่าพวกเรายอมให้ในราคาสองเท่าอยากจะร่วมงานกับพวกเขาต่อ เร็ว!” หยูจื้อหันไปบอกพวกผู้บริหารระดับสูงที่ยังไม่ได้ลาออกกับเขา
ตอนนี้ในมือเขามีอยู่ห้าพันหกร้อยล้าน รับได้กับราคาสองเท่านี้
“ครับ!” พอได้คำสั่งแล้ว พวกเขาก็รีบโทรไปหาบริษัทที่ร่วมงานด้วยทันที
เพราะก่อนหน้านี้ประมาณแปดเปอร์เซ็นต์ ที่มีผู้บริหารระดับสูงลาออกไปแล้วสามสิบกว่า บริษัทที่พวกเขารับผิดชอบไม่มีใครทำต่อ หยูหมิงก็สั่งให้เพื่อนๆทายาทเศรษฐีของเขามาช่วยงาน โทรศัพท์ให้ตระกูลหยู
ในเวลาสักพัก ในห้องประชุมก็ต่างมีเสียงดังขึ้น ทุกคนกำลังเร่งโทรศัพท์กัน
“ประธานสวี่สวัสดีครับ ผมอยากจะคุยเรื่องการร่วมงานของพวกเรา……พวกเราบริษัทหัวเสร์ยอมจ่ายในราคาสองเท่า!”
“คณบดีหลิวสวัสดีครับ ถ้าคุณซื้อยาและเครื่องมือทางการแพทย์จากบริษัทหัวเสร์ต่อ พวกเราสามารถลดราคาให้ท่านได้ครึ่งหนึ่งนะครับ……”
“นายกเทศมนตรีโจว สวัสดีครับ โครงการถนนวงแหวนซูโจว บริษัทก่อสร้างของพวกเรามีปัญหาเรื่องการเจรจาอยู่ตลอด แต่ว่าผมมีข่าวดีมาบอกกับคุณครับ ครั้งนี้พวกเราสามารถลดราคาครึ่งหนึ่งจากราคาเดิม เพื่อก่อสร้างทางหลวง ขณะเดียวกันพวกเราพวกเราจะไม่จำกัดเวลาของการจ่ายเงินให้ครบภายในหนึ่งปี พวกเราให้เวลาคุณห้าปีไปเลย……”
……
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ฉินหยวนให้ลูกน้องของเขา ใช้ผลประโยชน์จำนวนมากดึงผู้ร่วมงานของบริษัทหัวเสร์มา แต่ตอนนี้ บริษัทหัวเสร์กลับมีวิธีการที่ดึงดูดกว่า บวกกับพวกเขากับบริษัทหัวเสร์ก็มีการร่วมงานกันอยู่แล้ว!
ผลประโยชน์ของนักธุรกิจ แม้คุณจะมีอำนาจมากแค่ไหน พวกเขาไม่มีทางทำธุรกิจที่ขาดทุนแน่นอน
ในเวลานั้น พวกนักธุรกิจที่เคยร่วมงานกับบริษัทหัวเสร์ พอได้ยินข้อเสนอที่ดีขนาดนี้ ก็ต่างตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
“ได้ พวกเราจะร่วมงานกันต่อ!”
“บริษัทหัวเสร์มีความมั่นคงทางการเงิน ก่อนหน้านี้ผมทำไม่ถูกเอง พวกคุณไม่สนใจเรื่องก่อนหน้านี้ ผมก็ตกลงจะร่วมงานกับทางหัวเสร์!”
“ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง ผมตกลง พวกเราซื่อไห่กรุ๊ปตกลงร่วมงานกับบริษัทหัวเสร์ต่อไป”
“ทำผลประโยชน์ร่วมกัน เราจะรวยไปด้วยกัน!”
……
หยูหมิง พวกทายาทเศรษฐี พวกผู้บริหารระดับสูง รายงานข่าวดีกับหยูจื้อ
“ประธานหยู ซื่อไห่กรุ๊ปตกลงยอมร่วมงานกับพวกเราอีกครั้งครับ”
“บริษัทกวางหมิงตกลงซื้อสินค้าของพวกเราเหมือนเดิมครับ”
“บริษัทหลันเทียนตกลงร่วมงานกับพวกเราอีกครั้งครับ”
“โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนเมืองซูโจว บริษัทก่อสร้างหัวเสร์เริ่มต้นงานแล้วครับ”
“โรงบาทสี่ที่ในมณฑลอานได้ขอโทษกับทางเราแล้ว และยังสัญญาว่าจะซื้อยาและเครื่องมือการแพทย์ของเราต่อ! โรงพยาบาลต่างๆในเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจ้อเจียง ได้ข่าวก็เริ่มติดต่อทางเราแล้วครับ”
……
รอทุกคนรายงานจนเสร็จแล้ว หยูจื้อก็ชัดเจนแล้ว เขาถอนหายใจพูดว่า:
“บริษัทหัวเสร์ธุรกิจทุกอย่างต่างก็ฟื้นฟูได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังเหลืออีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เป็นธุรกิจที่ฝ่ายรัฐบาลเข้ามาแทรกแซง ฉันคิดว่าหากสถานการณ์ของตระกูลหยูถูกส่งต่อไปยังฝ่ายรัฐบาล ในไม่ช้าพวกเขาก็จะยกเลิกมาตรการลงโทษที่กำหนดไว้กับบริษัทหัวเสร์!”
ทุกคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจตลอดจะไม่รู้ได้อย่างไง ว่าตอนนี้ ปัญหาของบริษัทหัวเสร์ ได้คลี่คลายลงมากแล้ว!
ทุกคนเก็บซ่อนความดีใจไว้ไม่อยู่ ก็ต่างร้องส่งเสียงดังออกมา:
“เย้ สำเร็จแล้ว บริษัทหัวเสร์ไม่เป็นไรแล้ว!”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าตระกูลหยูโชคดี ไม่ถูกทำลายง่ายๆหรอก!”
“ขอบคุณเทพปกครองปกปักรักษา ขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมที่คุ้มครอง ขอบคุณท่านกวนอู ที่ช่วยให้บริษัทหัวเสร์ผ่านพ้นอันตรายไปได้ และทำประโยชน์ให้กับประชาชนหลินอานต่อไป!”
……
หลงเย้นรู้สึกดีใจอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกภูมิใจในความสามารถของฉินหลั่งเช่นกัน
เธอเดินไปหนึ่งก้าว ยิ้มอ่อนให้กับทุกคนและพูดว่า:
“ความจริงแล้วพวกคุณควรจะขอบใจฉินหลั่งมากกว่า! เป็นเขาที่รวบรวมเงินมาให้กับบริษัทหัวเสร์ได้”
หลงเย้นรู้สึกว่า ฉินหลั่งก็คือฮีโร่ ฮีโร่ควรจะได้ความเคารพนับถือของทุกคน
ทุกคนคิด นั่นสิ เรื่องนี้คนที่ทำประโยชน์มากสุดก็คือฉินหลั่ง ดังนั้นพวกเขาก็ล้อมรอบตัวฉินหลั่งไว้ คำพูดสวยหรูมากมายดังขึ้นข้างหูฉินหลั่ง
“ขอบใจคุณชายฉิน คุณชายฉินหล่อมากเลย!”
“คุณชายฉินเจ๋งเป้ง!”
“คุณชายฉินโทรไปแค่สองสายก็ได้เงินห้าพันล้านมาแล้ว คนที่ทำแบบนี้ได้ ในประเทศจีนแทบจะนับนิ้วได้เลย! เจ๋ง เจ๋งเป้งจริงๆ!”
ณ ตอนนั้น คำว่า “คุณชายฉินเจ๋งเป้ง” ก็ดังไปทั่วห้องประชุม

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset