รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 35 นายหนุ่มรวยบริจาคเงินแสน

บทที่ 35 นายหนุ่มรวยบริจาคเงินแสน
ขณะที่ติงหรุ่ยสงสัยอยู่ จงยู่ก็แนะนำเธอและฉินหลั่งให้รู้จักกัน
“สวัสดี ฉันเป็นเพื่อนของจงยู่ฉินหลั่ง”ฉินหลั่งทักทายติงหรุ่ยอย่างสุขภาพ
“สวัสดีค่ะ ฉันกับจงยู่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน”พูดตามตรง ติงหรุ่ยดูถูกฉินหลั่งและไม่อยากคุยกับกับเขา เพียงแค่ตอนนี้เธอไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับฉินหลั่ง ถ้าเกิดฉินหลั่งเป็นลูกคนรวยจริงๆ เธอจะเสียใจทีหลังนะสิ?
“ฉินหลั่ง ที่บ้านนายทำอะไรเหรอ?”ติงหรุ่ยยิ้มแล้วถาม เธออยากรู้ข้อมูลของฉินหลั่ง
ขณะที่ฉินหลั่งไม่รู้จะตอบยังไง เสียงที่เย่อหยิ่งก็ดังเข้ามา
“หรุ่ยหรุ่ย ผู้ชายห่วยอย่างเขาเธอไม่มีความจำเป็นที่จะไปคุยกับเขา มีแต่เสียเวลา”ผู้ชายคนหนึ่งที่ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่โดดเด่นมีโซ่ทองห้อยอยู่ที่คอของเขาเดินขึ้นไปที่ตรงหน้าติงหรุ่ย แล้วก็ยื่นมือไปกอดเอวติงหรุ่ยโดยปริยาย แล้วตบก้มเธอสองครั้ง
เมื่อเห็นชายหนุ่ม สายตาฉินหลั่งก็ดูหดหู่ คนที่มาไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นชายหนุ่มในชั้นเรียนของเขา ครั้งก่อนที่ห้องถ่ายทอดของจางเจียซิน ถูกฉินหลั่งทำให้อับอาย
“ที่รักค่ะ ทำไมคุณเพิ่งจะมา ฉันรอคุณตั้งนาน”ติงหรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเบื่อ จากนั้นมองไปที่ฉินหลั่ง และถาม: “ที่รัก คุณรู้จักเพื่อนคนนี้ด้วยเหรอ?”
“แน่นอนว่าฉันรู้จักเขา เขาก็คือผู้ชายธรรมดาห่วยแตกในห้องห้องเรียนที่ฉันพูดถึงบ่อยๆ ไม่ใช่ห้องเราอย่างเดียว แต่แผนก!”
“ฮ่า ที่นายบอกว่าใช้จ่ายต่อเดือนแค่สี่ถึงห้าร้อย นอกจากเรียนหนังสือ เวลาที่เหลือก็ทำงานในโรงอาหาร หรือในร้านสะดวก เพียงแค่จ่ายเงิน ต่อให้งานสกปรกเหม็นเน่าแค่ไหนก็ทำได้คือเขาเหรอ?”เมื่อพูดจบ ติงหรุ่ยหัวเราะอย่างมีความสุข เธอจับท้องของและชี้ไปที่ฉินหลั่งแล้วพูด: “ถ้าเธอไม่พูด สภาพของการแต่งตัวเขา เดินไปขอทานตามถนน ฉันก็ไม่สงสัยเลย!”
“หรุ่ยหรุ่ย เธอพูดถูกแล้ว ฉันได้ยินมาว่าไอ้หมอนี่ยังคงขอเงินจากคนอื่นเหมือนขอทาน เหอะเหอะๆ เพียงนักศึกษาสมัย ก็สามารถวางศักดิ์ศรีลง และยื่นมือไปขอเงินจากคนอื่นได้ มีความสามารถ “ทุ่มเทร่างกายและขอความช่วยเหลือ”เกาหยวนหัวเราะเบาๆ และ พูดประชดประชัน
“แต่วันนี้เขาซื้อเสื้อผ้าให้จงยู่ที่CHIU·SHUI ที่รัก เมื่อไหร่คุณจะพาฉันไปซื้อ!”
“เขาแค่กินข้าวหนึ่งมื้อยังเป็นปัญหาเลย สามารถซื้อเสื้อผ้าใน ได้? ”เกาหยวนไม่เชื่อเลย เมื่อเขาเห็นว่าถุงที่จงยู่ถืออยู่นั้นเป็นของที่CHIU·SHUIแล้วตอบด้วยความถากถาง: “ไอ้หมอนี่ก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว ตอนนี้ซื้อเสื้อที่CHIU·SHUI มีทางเดียว ที่มาของเงินเขานั่นไม่สะอาด ไม่ใช่ว่าไปขโมยหรือปล้นมา โอ้ ใช่แล้ว หรือว่าเขาไปเป็นขอทานในเมือง!”
“ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง แกคงไม่ใช่โง่ใช่เปล่า? ตัวเองกินข้าวยังมาปัญหา ยังจะมีหน้ามีเอาผู้หญิงอีกเหรอ แกว่าแกกระหายหิวแค่ไหน?”ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”ทันใดนั้นติงหรุ่ยในใจเธอ ก็มีความสุขมากทันที
“จงยู่ เธอได้ยินสิ่งที่แฟนฉันพูดแล้วใช่มั้ย ผู้ชายที่เธอหามาเป็นแฟน เงินที่ซื้อเสื้อผ้าให้เธอคือไปขโมยมา ไม่ใช่เงินของเขาเลย! ผู้ชายแบบนี้เธอกล้าเอา เกิดวันใด เขาเล่นเธอจนเบื่อ ก็ขายเธอ!”
ติงหรุ่ยกล่าวอย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าเธอและจงยู่จะอยู่โรงเรียนมัธยมเดียวกัน แต่พวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้พบกับ ถ้าเกิดว่าไม่ได้ว่าไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน ติงหรุ่ยมองยังไม่อยากของยู่
ปกติเธอเป็นคนที่โดดเด่นมาตลอด แต่วันนี้จงยู่ใส่ชุดที่แพงกว่าเธอ ใจเธอรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมกัน กำลังหาโอกาส เยาะเย้ยจงยู่ เธอรู้สึกดีเมื่อได้ด่าจงยู่
“จงยู่นะจงยู่ ฉันรู้ว่าฐานะทางบ้านเธอไม่ดี เธอต้องการเปลี่ยนสภาพความเป็นอยู่ ทางลัดแบบนี้ฉันเข้าใจดี เพียงแค่เวลาเธอหาแฟนตาต้องสว่างหน่อย ไม่ใช่ว่าอะไรก็โง่ ก็แค่ผู้ชายห่วยแตก เธอถือมันไว้ในฝ่ามือคิดว่าเป็นสมบัติใช่ไหม! นี่มันน่าขำสิ้นดี!”
“คนจนขยันเรียนนั่นถือเป็นความมั่นคง อยากได้ความมั่งคั่งผ่านทางลัดอยู่เสมอ จะมีสิ่งดีๆแบบนี้ในโลกได้อย่างไร? ”
“ไม่เงินก็จะเรียนแบบเขาใส่เสื้อผ้าของใส่เสื้อข้างทางก็ดีอยู่แล้ว นั่นก็ถือว่าเป็นของเธอ
ไร้สาระแบบนี้เพื่ออะไร ยิ่งอยากแต่งตัวดี ยิ่งพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี….
……
ความจริงช่วงไม่กี่ปีมานี้จงยู่ได้ยินคำพูดเลวร้ายกว่านี้มาเยอะ ถ้าเธอคนเดียว เธอสามารถทนได้ เพียงแต่ว่าติงหรุ่ยดันพาฉินหลั่งมาโดนด่าด้วย แล้วจงยู่ไม่สามารถทนสิ่งนี้ได้
ใบหน้าเล็กๆของจงยู่แดงไปด้วยความโกรธ โดยปกติเธอก็ไม่ด่าคน แต่ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับติงหรุ่ยที่ปากคอเราะราย เธอไม่สามารถตอบโต้ หรือต่อให้ตอบโต้ได้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้ยังไง
ฉินหลั่งที่นั่งอยู่ข้างๆอดทนดูต่อไปไม่ไหว กำลังเตรียมที่จะสั่งสอนจงยู่ ในตอนนั้น มีเสียงดนตรีดังขึ้นในห้องโถง
หลังจากนั้น นั้นแสงไฟก็เต้นไปในห้องโถง และพิธีกรที่สวมชุดพิธีการบนเวทีก็เริ่มกล่าวเปิดงานว่า: “สวัสดีตอนบ่าย ท่านผู้มีเกียรติ วันนี้พวกเรามารวมตัวกันที่นี่ ทุกท่านก็คงรู้ว่าเพราะอะไร ใช่แล้ว ก็เพื่อเฉลิมฉลอง กิจกรรมบริจาคของโรงเรียนสำหรับหมู่บ้านบนภูเขาที่ยากไร้สิ้นสุดลงเรียบร้อยแล้วแน่นอนว่า ในการรวมตัวในวันนี้ นอกจากนี้เราจะขอยกย่องผู้บริจาคทุกคน สำหรับการกระทำที่มีเมตตา….”
ที่แท้ก็เป็นการกล่าวยกย่องคนบริจาคเงิน ไม่รู้ว่าจะมีตัวเองหรือเปล่า ฉินหลั่งคิดในใจ ครั้งที่แล้วเขาบริจาคไปหนึ่งแสนสามหมื่น เงินแค่นี้ในสายตาเขามันก็ไม่มากเท่าไหร่
หลังจากนั้นพิธีกรก็ได้กล่าวลำดับขั้นตอนการแสดงมี สี ถึงห้า ก็มาถึงสิ่งที่สำคัญของงาน
“ลำดับต่อไป เราจะขอประกาศชื่อยกย่องคนที่บริจาค ตอนนี้ฉันจะรายงานให้ท่านผู้มีเกียรติทราบเกี่ยวกับการบริจาคเงินบริจาคนี้ได้รับเงินบริจาคทั้งหมดห้าแสนหกหมื่นหนึ่งพัน บริจาคมากกว่าหนึ่งพันมีแปดสิบเก้าคนขึ้นไป มากกว่าสองพันมีสามสิบเจ็ดคน มากกว่าห้าพันมีสิบสองคน มากกว่าหนึ่งหยวนมีห้าคน….”
เมื่อได้ยินรายงานของพิธีกร เสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากผู้ชมก็ดังขึ้น!
“มีคนบริจาคมากกว่าหมื่นหยวน ในโรงเรียนของเราสุดยอดจริงๆ!”
“ฉันบริจาคไปแค่ห้าสิบบาท แข่งกับลูกคนรวย ห่างไกลมาก!”
“ฉันก็ด้วย ประหยัดเงินค่าครองชีพแล้วประหยัดอีก ถึงเอาออกมาได้หนึ่งร้อยหยวน แตกต่างจากลูกคนรวย ใช้จ่ายก็หนึ่งหมื่น เห้อ คนเทียบคนช่างน่าโมโหยิ่ง!”
“ทุกคนเงียบกันหน่อย ฉันยังประกาศไม่หมด นอกจากข้างบน ก็ยังมีคนบริจาคมากว่าหนึ่งแสนขึ้นไป!”
พิธีกรพูดจบ ทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่ หมื่นบาทสำหรับพวกเขามันคือมหาศาล ยังมีคนบริจาคมากกว่าหนึ่งแสน นี่คือนักเรียน?
ทุกคนพูดถึงนักเรียนที่บริจาคหนึ่งหยวน ดังนั้นทุกคนต่างคิดว่า คือลูกคนรวยอย่างแน่นอน!
เดี๋ยวต้องดูรูปแบบของเขาหน่อย
“ที่รัก คุณบริจาคไปเท่าไหร่?”ติงหรุ่ยถามอย่างอ่อนหวาน
“ไม่เยอะ แค่สองพันสองร้อยเอง”เกาหยวนกล่าวเบาๆ ความจริงสองพันสองร้อยหยวนนี้ไม่ใช่ว่าเกาหยวนอยากบริจาค มีสองพันหยวนนี้ เขาเอาไปเที่ยวผู้หญิงไม่ดีกว่าเหรอ
เป็นเพียงเพราะเขาก่อคดีในเมือง และหลังจาก ใช้เงินเพื่อเป็นหลักประกันตัว แล้วเขาต้องทำงานด้วยความสมัครใจหรือทำความดี เขาจึงบริจาคเงินสองพันสองร้อยหยวนโดยไม่เต็มใจ
“สองพันสองร้อยหยวนก็ไม่น้อยนะ น่าจะอยู่หน้าอันดับห้าสิบแล้ว!”ติงหนุ่ยก็มองไปที่จงยู่ ถามอย่างจงใจ: “จงยู่ เธอบริจาคไปเท่าไหร่เหรอ? เธอเองออกมาจากหมู่บ้านบนภูเขาที่ยากจน ในเวลานี้ เธอต้องแสดงความมีน้ำใจนะ”
“ฉันบริจาคไปห้าหยวน”จงยู่ก้มหน้าพูดด้วยความอาย
“อะไรนะ นี่ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่มั้ย เธอบริจาคแค่ห้าหยวน? คุณพระ เธอนี่มันใช้ได้เลยนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอเคยพูดว่า เรียนมหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ จะไปเป็นครูที่ ดูแล้วเธอโกหกซินะ ไม่อย่างนั้นเวลาแบบนี้ ทำไมเธอถึงบริจาคแค่ห้าหยวน? หน้าซื่อใจคดจริงๆ! ”ติงหรุ่ยยิ้มเยาะเย้ย
จงยู่รู้สึกลำบากใจ อันที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้จะบริจาคเงิน ที่บริจาคไปห้าหยวนนั้น หมายความว่าเธอต้องอดอาหารเย็นไปหนึ่งมื้อ เธอต้องการจะอธิบายให้ติงหรุ่ยว่าตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ในเวลานั้นจงยู ก็หันหน้าไปทางฉินหลั่ง
“จงยู่บริจาคน้องขนาดนี้ ฉันคิดว่าบริจาคแทนนายแน่”ติงหรุ่ยยิ้มแล้วพูด
“เขา? หรุ่ยหรุ่ย เธออย่ามาตลกนะ เขาเป็นคนในห้องพวกเราที่ห่วยที่สุด ทำงานพาร์ทไทม์ เธอคิดว่าเขาจะบริจาคเงินไหม?”เกาหยวนหัวเราะฮ่าฮ่า
ติงหรุ่ยเลียริมฝีปาก มองไปที่เกาหยวน แล้วพูด ทำไมเธอถึงดูไม่ออก ฉันเชื่อว่าฉินหลั่งบริจาคเงิน? ฉันจงใจเขาหรือเปล่า?
“นายอย่าบอกฉันนะว่านายไม่ได้บริจาคเงิน?”ติงหรุ่ยเลิกคิ้วถาม
“บริจาค”ฉินหลั่งยักไหล่ และพูดเบา ๆ
“อือ…. บริจาคไปเท่าไหร่”การบริจาคของฉินหลั่งนั้นเกินความคาดหมายของติงหรุ่ย ถ้าฉินหลั่งพูดตัวเลข ติงหรุ่ยต้องเยาะเย้ยเขาและจงยู่
“ไม่เยอะ”ฉินหลั่งอยากจะบอกว่าตัวเองบริจาคไปหนึ่งแสนสามหมื่น เพื่อให้ติงหรุ่ยและเกาหยวนหุบปาก ถ้าเกิดข้อมูลหลุดออกมา ก็คงมีเรื่องตามไม่น้อย เขาก็ตัดสินใจไม่พูด
“ไม่เยอะ?ฮ่าฮ่า ฉันรู้แล้ว ฉินหลั่งนายก็คงเหมือนกับนังนี่สินะ บริจาคห้าหยวน ไม่สิ ยากจนอย่างนายห้าหยวนก็คงไม่ยอมเสีย นายคงบริจาคไปแค่หนึ่งหยวน นายก็ยังกล้า บริจาคหนึ่งหยวนก็ยังกล้าพูด? ไร้ยางอาย!”
เกาหยวนหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ
“ว่าฉันไร้ยางอาย? ฉันเกรงว่านายยังไม่มีคุณสมบัติ?”มองไปที่เกาหยวนที่หัวเราะอย่างมีชัย ฉินหลั่งก็สามารถทนไม่ได้ แต่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา
“นายพูดอะไร! อยากตายเหรอ?”เกาหยวนโกรธเกรี้ยว
ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนที่ดูถ่ายทอดสด มีคนคนหนึ่งที่ไอดีชื่อว่าวันหนึ่งก็คือหนึ่งวัน พูดถากถางซิงเฉินว่าจะแข่งกันส่งของขวัญ คิดว่าตัวเองส่ง【ปืนธนบัตร】 5อัน คือเจ็งที่สุดแล้ว ในไลฟ์สดพูดอย่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สุดท้ายซิงเฉินส่ง【จรวด】ไป10อัน หลังจากนั้น เขาก็จ๋อยไปเลย สุดท้ายก็เหมือนกับหมาใบ้ที่เห่าไม่ได้จนต้องหนีไป คุณชายเกา คุณรู้จักไอ้เศษสวะนี่ด้วยเหรอ?
“ฉินหลั่ง แก….”เกาหยวนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่เวลาเขาชกต่อยกับใครก็ต้องหาพวกมาช่วย ตอนนี้ทำได้เพียงมองที่ฉินหลั่งด้วยความโกรธ
“ไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว มาต่อกันดีกว่าต่อมาคือนักเรียนที่บริจาคมากกว่าหนึ่งพันหยวน ขึ้นมาบนเวทีและถ่ายภาพหมู่!”
พิธีกรบนเวทีกล่าวเสียงดัง
เกาหยวนไม่ได้โมโหเหมือนเมื่อกี้แล้ว เดี๋ยวตัวเองต้องขึ้นไปถ่ายภาพหมู่ แต่ฉินหลั่งกลับนั่งที่ข้างล่าง นี่ก็ยืนยันได้ว่า ตัวเองนั้นบดขยี้ฉินหลั่งได้อย่างต่อเนื่อง? ฉินหลั่งต่อให้นายจะปากเก่งแค่ไหน สุดท้ายก็คือคนจนที่ไม่มีตัวตน เมื่อเทียบกับฉันมันห่างไกลมาก!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มุมปากเกาหยวนก็มีรอยยิ้ม

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset