รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 368 คืนที่นอนไม่หลับ

บทที่ 368 คืนที่นอนไม่หลับ
หวังเฉินขมวดคิ้วทันที เพิ่งจะระเบิด นักข่าวมากมายก็ปรากฏตัวทันที เป็นเรื่องแปลกจริงๆ สิ่งที่ฉินหลั่งพูดกับจงเส่นซานไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีเหตุผล
“คุณฉินหลั่ง คุณอย่าเข้าใจคนดีผิด พวกเรารีบมาที่นี่หลังจากได้รับสาย ถนนนี้ห่างจากสถานีโทรทัศน์ของพวกเราไม่ไกล “ผู้สื่อข่าวหลิวรีบอธิบาย ทำไมหวังเฉินเมื่อฉินหลั่งพูดถึงลม เธอก็เป็นฝนล่ะ
“ใช่ๆ คุณตำรวจ พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์นะ…….”
“ใช่ๆ พวกเราก็ได้รับสายข่าวด่วนเช่นกัน…….”
นักข่าวคนอื่นๆก็รีบอธิบายอย่างร้อนใจ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวหลิว เธอเห็นจงเส่นซานมา ก็รู้สึกหัวใจวูบขึ้นมาทันที ฟังจากน้ำเสียงของจงเส่นซานแล้ว ก็เอียงไปทางฉินหลั่งเช่นกัน เธอไม่อยากมีปัญหากับตระกูลนี้อย่างจงเส่นซาน
“เอาเถอะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกคุณก็ไปได้แล้ว” หวังเฉินพูดเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เธอรู้ว่าการตายของนักฆ่าคนนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉินหลั่ง และก็ไม่อยากจะเจาะหาแล้ว เพียงแค่ให้นักข่าวออกไปก็พอแล้ว
“อีกสักครู่บริษัทจงซื่อของพวกเราจะมีการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญ ถ้าทุกท่านสนใจก็ตามฉันไปที่ห้องประชุมชั้น12ของตึกฟู่เหา” จงเส่นซานพูด
“ไป ไปดูหน่อย” มีคนพูดอย่างตื่นเต้น
“แต่อุปกรณ์ของเราเสียแล้ว….”
“ใช่ ของฉันก็ด้วย…….”
จงเส่นซานตะลึง เขายังไม่เคยเห็นนักข่าวคนไหนถูกทุบอุปกรณ์มาก่อน พูดออกไปว่า “พวกคุณสามารถจดจำข้อมูลของพวกเราในสมองได้ ทำการสัมภาษณ์แบบพิเศษสักครั้ง พวกเรามีข่าวสารพิเศษมากมายเลย”
“ตกลง…..”
พวกนักข่าวไม่ยอมเสียโอกาสนี้ ส่วนใหญ่เดินตามจงเส่นซานไปที่ตึกฟู่เหา
แต่ผู้สื่อข่าวหลิวยืนลังเลอยู่ข้างๆ
“ฉัน……”
“ฉันอะไร ซิ่วเหวิน คุณรีบเดินเร็ว” นักข่าวคนหนึ่งดึงเธอไป
นักข่าวคนนี้รู้สึกว่าความสามารถในการแยกแยะสิ่งต่างๆของหลิวซิ่วเหวินแย่มาก ถ้ายังรั้นอยู่อาจจะต้องไปอยู่ในนั้นได้
หลิวซิ่วเหวินวางไม่ลงเล็กน้อย ผลงานที่ดีของเธอต้องมาถูกทำร้ายแบบนี้
“ซิ่วเหวินคุณจะไปจมอยู่กับมันทำไม ฉินหลั่งไม่ได้มีความผิดอะไรเลย คุณลองคิดดูนะ เมื่อความปลอดภัยสาธารณะถูกคุกคามอย่างจริงจัง การที่กล้าหาญที่จะจัดการกับนักเลงอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ไม่แน่แม้แต่นายกเทศมนตรีก็ยังต้องขอบคุณฉินหลั่ง……” นักข่าวคนนี้พูดกับหลิวซิ่วเหวินเบาๆ
หลิวซิ่วเหวินมองฉินหลั่ง ฉินหลั่งยิ้มอ่อนที่มุมปากด้วยความโกรธ พร้อมกับสายตาที่จ้องจนถึงที่สุด
แต่หวังเฉินคิ้วขมวดเล็กน้อย แสดงถึงความน่าเบื่อ ฉากตรงนั้นไม่จำเป็นต้องคัดกรอง เจ้าหน้าที่ตำรวจยุ่งมากและไม่สนใจเรื่องไร้สาระ
“ได้ ฉันไป……” หลิวซิ่วเหวินกระทืบเท้า เพราะเธอก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าไม่ควรทำให้จงเส่นซานและหวังเฉินขุ่นเคืองอีกอย่างคนที่ศูนย์เสียอุปกรณ์ก็ไม่ใช่เธอเพียงคนเดียว ทุกคนก็โดนเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่เห็นมีใครเรียกร้องสิทธิ์กับฉินหลั่งเลย
“ไม่จำเป็นจริงๆ” หลิวซิ่วเหวินพึมพำ จากนั้นเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนร่วมงานโดยไม่เต็มใจ
ขณะนี้คนส่วนใหญ่ในที่เกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกักกัน แม้แต่ลมดอกไม้หิมะพระจันทร์ก็ถูกเชิญออกไปด้านนอก
“คุณเป็นคนจุดชนวนระเบิดใช่ไหม” หลังจากที่ทุกคนออกไป หวังเฉินอดไม่ได้ที่จะถาม
“ใช่ พวกเขาจะฆ่าคนสนิทของฉัน ขอแค่คิดที่จะฆ่าคนสนิทของฉัน จะต้องมีจุดจบที่ไม่ดี” ฉินหลั่งพูดเบาๆ น้ำเสียงหนักแน่น
หวังเฉินรู้สึกมีความปลอดภัยขึ้นทันที มีความรู้สึกว่าถ้ามีฉินหลั่งอยู่ก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เธออยากถามฉินหลั่ง ตัวเธอถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของฉินหลั่งหรือไม่ แต่หน้าแดงทันที
ฉันเป็นตำรวจ แต่ต้องการความปลอดภัยจากคนอื่น นี่ไม่ใช่เรื่องที่ตลกเหรอ
ในใจคิดเช่นนี้ แต่เมื่อคำพูดมาถึงปาก น้ำเสียงของหวังเฉินเปลี่ยนเป็นโกรธ “คุณ…..คุณมีความรู้ด้านกฎหมายหรือไม่ พอเถอะ ฉันไม่อยากจะว่าคุณแล้ว” พูดอยู่ เดินหน้าเชิดไปที่ที่นักฆ่าถูกระเบิด
ฉินหลั่งเดินไปข้างๆลมดอกไม้หิมะพระจันทร์ เสียงเหมือนนกร้องเข้าใกล้เขา
“เจ้านายเก่งมาก…….”
“ระบายอารมณ์ ดูทำให้ผู้สื่อข่าวหลิวคนนั้นโกรธจน……..”
“ใครบอกให้พวกเขาถ่ายพวกเรา………ฮาๆ”
ฉินหลั่งหัวเราะ รถใหม่ที่สี่สาวซื้อมาหมดเพิ่งถูกทำลายแต่ก็หัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่ารักมาก
“เดี๋ยวพวกคุณไปที่บ้านตระกูลจง” ฉินหลั่งพูดกับสี่สาวไปด้วยและมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว บรรยากาศทุกอย่างไม่มีอะไร วันนี้แก๊งหัวชิงน่าจะส่งนักฆ่ามาแค่สามคนนี้ พวกเขาตายหมดแล้ว
แต่นี่ยังไม่พอ ฉินหลั่งต้องการตัวการที่ซ่อนอยู่ ถ้าทำลายแหล่งของเขาได้ดีที่สุด เช่นนี้ถึงจะรับรองความปลอดภัยของทุกคนได้
แต่ตอนนี้ เรื่องกำลังเกิดขึ้น
เย็นจีนตระกูลซ่งซ่งจงผิงยกเลิกงานเลี้ยงทั้งหมด กลับบ้านก่อนเลิกงาน
ลูกชาย โทรศัพท์ลูกโทรไม่ติดเลย
แต่ซ่งจงผิงก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจ
เขาไม่คิดมากเรื่องติดต่อซ่งอวี่ไม่ได้ บางทีลูกชายที่ชอบเที่ยวคนนี้อาจจะไปเกลือกกลั้วอยู่ที่ไหนสักที่ บางทีลูกชายอาจจะดีใจที่เห็นตึกบ้านตระกูลจงล้มลง ดังนั้นอาจจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่ไม่เอาไหนแล้ว
บลาบลา……
เขาจึงอดทนรอ เตรียมให้ซ่งอวี่กลับมาจะให้บทเรียนชีวิตอย่างจริงจัง นั่นคือไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหนคุณต้องนิ่งและสงบ
ซ่งจงผิงรู้สึกสบายใจมาก นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุด
จงจิ่วเจินจบแล้ว ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจในที่สุดก็ถูกย้ายออกไปแล้ว
เขายังเตรียมไวน์ฝรั่งเศสหลุยส์ปี 1930 สองขวด อยากดื่มด่ำสักครั้ง ดื่มหลายๆแก้ว
แต่เมื่อถึงเวลาตีหนึ่ง ซ่งอวี่ยังไม่กลับมา และโทรศัพท์ก็ยังโทรไม่ติด ซ่งจงผิงได้กลิ่นที่ไม่ค่อยปกติ
ไม่ว่าเขาจะตามใจมากแค่ไหนก็ตาม ซ่งอวี่ก็ควรจะรายงานความเป็นอยู่กับพ่อบ้าง โดยเฉพาะวันนี้
ซ่งจงผิงนั่งใกล้โทรศัพท์เงียบเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ตัดสินใจ โบกมือ ให้แม่บ้าน เอาสมุดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนๆของซ่งอวี่
“ฮัลโหล หลี่ซู่ใช่ไหม อ้อ ขอโทษนะ คุณชายซ่งอวี่ของพวกเรายังไม่กลับบ้านเลย คุณรู้หรือไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อืม ไม่เป็นไร ขอโทษที่รบกวน วางสายแล้วนะ…..”
ลักษณะแบบนี้โทรไปเกือบเจ็ดถึงแปดสิบสายแล้ว ซ่งอวี่เหมือนก้อนหินจบอยู่ทะเล ไม่มีข่าวเลย
ความกังวลของซ่งจงผิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืนเขาไม่ได้หลับตาลงเลย เมื่อความคิดของเขาเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นร้าย ร่างที่นอนอยู่บนโซฟาขยับตัว โบกมือให้อาฮัว หลังจากนั้นอาฮัวก็นำโทรศัพท์มาไว้ข้างๆซ่งจงผิง ก้มหัวแล้วเดินออกไป
ซ่งจงผิงหมุนหมายเลขโทรศัพท์หลายชุดอย่างชำนาญ
“อาเหมิ่งรีบออกตามหาซ่งอวี่ในเมืองด่วน ระดมคนที่ทำงานให้ตระกูลซ่ง เข้าใจไหม”
ทางโน้นมีเสียงอ่อนนุ่มของผู้หญิงส่งมา หลังจากนั้นมีเสียงชายคนหนึ่งในโทรศัพท์ที่กังวลใจ แต่กล่าวอย่างเคารพ “ได้ ได้ เจ้านายฉันรู้แล้ว……..”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset