รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 373 ออกจากจำศีลสร้างวีรกรรม

บทที่ 373 ออกจากจำศีลสร้างวีรกรรม
สังคมมืดของเมืองเย็นจีนกำลังมีข่าวลือที่ดังกระฉ่อน ต่างรู้กันว่าตระกูลซ่งและบ้านตระกูลจงได้รับความสูญเสียและผลกระทบมากสุดในรอบหลายปี
หลังจากที่ซ่งอวี่ตาย ซ่งจงผิงก็ยื่นเรื่องขอลาพักยาวต่อทางการ ปิดประตูไม่พบใครนานพอสมควร ส่วนจงจิ่วเจินก็มอบหมายเรื่องราวต่างๆ ให้ลูกชายจงเส่นซาน เป็นคนจัดการ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ตัดสินใจไม่ได้ ก็ขอให้ฉินหลั่งช่วยเหลือ
แต่ยุทธภพกลับไม่เงียบสงบ อีกฝั่งของมหาสมุทร ดัลลัสไกลไปทางเหนือ จ้านอู๋หยาหัวเราะร่า ลุกขึ้นจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง ข้างๆ ทะเลสาป ด้านหลังมีลูกน้องสวมชุดสีดำยืนอยู่ 5-6คน
“ยินดีกับท่านหัวหน้าแก๊ง วันนี้ท่านได้ออกจากการจำศีลแล้ว”
“อืม” จ้านอู๋หยาสะบัดหิมะที่เกาะตามร่างกาย เฮลิคอปเตอร์หลายลำค่อยลงจอด จ้านอู๋หยาก็ขึ้นไป แล้วถามว่า
“ชิงหย่วนบอกว่า ช่วงนี้ในแก๊งไม่ค่อยเงียบสงบหรือ? ทำไมเขาถึงไม่มาด้วย? ปลีกตัวออกมาไม่ได้หรือ?”
“ท่านหัวหน้าแก๊ง คือว่า………” ผู้แก่ที่อาวุโสในแก๊งอยู่ด้านข้างอยากจะพูด แต่ก็เงียบไป
“รีบพูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จ้านอู๋หยาพูดเสียงต่ำ
“ท่าน……หัวหน้าแก๊ง ชิงหย่วนถูกฉินหลั่งฆ่าตายแล้ว……” ผู้แก่กล่าวอย่างเสียใจ
“โอ๋?” สีหน้าของจ้านอู๋หยาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย แล้วมองไปยังท้องฟ้าและทะเลเมฆด้านนอก “คนในยุทธภพ มองความเป็นตายเป็นเรื่องปกติ”
จ้านอู๋หยาตั้งใจชุบเลี้ยงเหลียงชิงหย่วน การตายของเหลียงชิงหย่วนเป็นเรื่องใหญ่ของแก๊งหัวชิง แต่สำหรับจ้านอู๋หยาแล้ว แก๊งหัวชิงมีคนนับหมื่น เหลียงชิงหย่วนก็เหมือนลูกเกาลัดในทะเล ไม่ได้กระทบอะไรต่อเขามากนัก
“ท่านหัวหน้าแก๊ง ไอ้ฉินหลั่งนั่น มันโอหังมาก พวกเราส่งนักฆ่าไปลอบฆ่ามัน60คน แต่ถูกมันฆ่าตายหมด ยังบอกกลับมาอีกว่า บอกว่า…….” ผู้แก่ลังเลมาก เพราะกลัวจะทำให้จ้านอู๋หยาโกรธ
“รีบพูดมา!” จ้านอู๋หยาตะคอก
“ครับ ฉินหลั่งบอกว่า อยากจะท้าสู้กับท่านหัวหน้าแก๊ง ออกหนังสือท้าสู้กับท่านโดยเฉพาะ เรื่องในได้ลือกันไปทั่วยุทธภพแล้ว พอดีว่าท่านกำลังจำศีล ไอ้พวกคิดไม่ซื่อ ก็ถือโอกาสบอกว่าท่านกลัวก็เลยไม่ยอมออกมารับคำท้า ตำแหน่งแก๊งหัวชิงของเรากำลังสั่นคลอน” สายตาของผู้แก่เผยความโกรธออกมา
“อืม ไอ้เด็กฉินหลั่งนั่น ก็โอหังไม่เบา ฆ่าพี่น้องแก๊งหัวชิงของเราไปไม่น้อย แถมยังมีผีเสื้อขยับปีก แต่มันก็เป็นแค่คนรักษาความปลอดที่ต้องออกมาทำหน้าที่เร่งด่วน ตำแหน่งต่างกับกูเยอะ จะลดตัวไปสู้กับไอ้กระจอกนั่นได้ทำไม…..”
จ้านอู๋หยาไม่ได้หลงกล เห็นอะไรในยุทธภพมาเยอะ ตอนตนเองหนุ่มๆ ก็ไปท้าทายคนที่มีความสามารถและตำแหน่งสูงกว่าตนเองเหมือนกัน จุดประสงค์ก็เพื่อให้ตนเองได้มีตำแหน่งหน้าตา
ผู้แก่ถอนหายใจ เหมือนว่าในใจจะไม่ค่อยพอใจ ท่าทางอยากจะให้จ้านอู๋หยารับคำท้า “ท่านหัวหน้าแก๊ง ฉินหลั่งเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่พวกเราจะได้เข้าไปยังประเทศจีน ถ้าไม่กำจัดคนนี้ ชื่อเสียงของแก๊งหัวชิงก็จะได้รับผลกระทบมาก แต่ว่าพวกเราพ่ายแพ้มาหลายครั้ง ตอนนี้ในแก๊งแทบไม่มีใครจะจัดการมันได้แล้ว ผมขอเสี่ยงตาย ขอให้ท่านหัวหน้าแก้แค้นให้พี่น้องเราด้วยครับ เพราะว่าตอนนี้ไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่ยามรักษาความปลอดภัยธรรมดาๆ แล้ว แต่เป็น…………”
“แต่เป็นอะไร?” จ้านอู๋หยาเริ่มเปลี่ยนสีหน้า เรื่องที่ฉินหลั่งมาฆ่าพี่น้องในแก๊ง เขาก็โกรธอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่ไม่อยากแสดงออกมา
“ตอนนี้มันเป็นเจ้านายของยาวเย่วกงแห่งประเทศจีน ในระดับตำแหน่ง สามารถเทียบกับท่านหัวหน้าได้เลย”
“ฮ่า ฮ่า ดี ดี ดี นับว่าเป็นข่าวดี” จ้านอู๋หยาเริ่มมีสีหน้า ตอนที่เขาเป็นหนุ่ม ก็เคยได้ยินอาจารย์บอกว่า ถึงแม้ยาวเย่วกงแห่งประเทศจีน จะไม่มีชื่อเสียงเท่ากับสำนักใหญ่ๆ แต่จริงๆ แล้วมันถ่อมตัว ถึงขนาดมีหลังฝีมือที่มากกว่าพวกสำนักบู๊ตึ๊งและเส้าหลินเสียอีก วิชาที่เขาฝึกตอนนี้ ก็ใช้เคล็ดวิชาของยาวเย่วกงมาปรับใช้
แต่ขอเพียงฝั่งตรงข้ามเป็นเจ้านายของยาวเย่วกง ที่ตนเองจะตอบรับคำท้าของฉินหลั่ง ก็ไม่นับว่าผิดระเบียบ
พอหลังจากที่ผู้แก่บอกวิธีที่ฉินหลั่งจัดการกับนักฆ่าไปนั้น สีหน้าของจ้านอู๋หยาก็เปลี่ยนไปมาก พักใหญ่ เขาก็พูดว่า
“ดูเหมือนว่า จะต้องประลองฝีมือกับเจ้านายฉินคนนี้เสียหน่อยแล้ว” พูดจบก็หัวเราะใหญ่โต ดังสนั่นลั่น
เสียงหัวเราะนั่นดังไปไกล ดังลั่นเขาหิมะของดัลลัส
ที่จ้านอู๋หยารับคำท้าของฉินหลั่ง ไม่เพียงอยากจะบอกกับชาวโลกว่าการท้าสู้กับแก๊งหัวชิงนั้นจะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร และเป็นการสู้ที่จำเป็น หลังจากที่จ้านอู๋หยาเข้าสู่ประเทศจีน ในเมื่อฉินหลั่งฆ่าลูกน้องเก่งๆ ของตนเองมากมาย ต่อให้จ้านอู๋หยาจะรู้สึกว่าเอาชนะได้ง่ายๆ ไม่ต้องออกแรงมาก แต่ก็คิดว่า จำเป็นต้องออกไปสู้ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ให้พวกวงการต่อของจีนได้รับรู้!
วันนี้จงยู่และจงจิ่วเจินก็มานั่งจัดดอกไม้ในบ้านตระกูลจง มีความสุขมาก มีหลานสาวมีน่ารักฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ ดวงใจที่มืดมิดของจงจิ่วเจินก็เริ่มเปลี่ยนมาทางที่ดีมากขึ้น เขารักลูกสาวของตนเองมาก ส่วนจงยู่ก็เหมือนแม่ของเธอมาก จงจิ่วเจินก็ยิ่งรักหลานสาวคนนี้มากกว่าใครๆ
4สาวลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์ก็ไม่อยากจะออกไปจากบ้านตระกูลจง นอกจากสาวหิมะแล้ว อีก3คนที่เหลือก็ถือโอกาสมาเยี่ยมฉินหลั่ง หลังจากถึงกำหนดกลับ ฉินหลั่งก็ตัดสินใจว่า ตนเองจะกลับยาวเย่วกงไปพร้อมกับสาวหิมะ ส่วนจงจิ่วเจินก็ให้รถมาเซราตีคันยาวไปส่งพวกเธอ ไม่ต้องพูดถึงความฟินและสบาย
หลังจากที่ฉินหลั่งจากไปครึ่งเดือน บ้านตระกูลจงก็เรียกรวมพลคนที่ยังมีชีวิตอยู่มางานเลี้ยงของตระกูลด้วยกัน วันที่จัดงานตรงกับวันเกิดของจงเสวี่ยนเย่นพอดี จงจิ่วเจินทำไปเพื่อระลึกถึงลูกสาวตนเอง
งานเลี้ยงไม่ได้เชิญคนในสังคม ผ่านเคราะห์ร้ายมามากมาย ตอนนี้บ้านตระกูลจงสามัคคีกว่าก่อนเป็นร้อยเท่า จงจิ่วเจิกฎพูดเปิดงานว่า
“วันนี้เป็นวันเกิดของจงเสวี่ยนเย่น ทุกท่านเชิญดื่มให้เต็มที่ แต่เสียดาย ที่ฉินหลั่งติดภารกิจไม่อยู่ด้วย แต่ผมขอเสนอให้ ดื่มให้ฉินหลั่ง หมดแก้ว”
ฉินหลั่งเป็นคนมีพระคุณต่อบ้านตระกูลจง ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ยกแก้วขึ้นด้วยใจ และอวยพรให้ฉินหลั่งอยู่ในใจ
“ขอบคุณจงยู่ที่มีเพื่อนดีๆ แบบนี้ จากฝีมือของฉินหลั่งแล้ว เกรงว่าน่าจะเป็นคนที่มีฝีมือสูงสุดของวงการต่อสู้ ไม่มีใครเทียบได้!” จงจิ่วเจินชื่นชมด้วยความจริงใจ
“เห็นด้วย! เห็นด้วย!เช่นนั้นก็ให้พี่ฉินหลั่งมาเป็นอาจารย์ของพวกเราเถอะ?” ทุกคนขอร้องกับจงจิ่วเจิน
“เรื่องนี้ต้องถามจงยู่ คำพูดเธอมีน้ำหนักมากกว่าผม” จงจิ่วเจินพูดยิ้มๆ
ในตอนนั้นเอง ด้านนอกประตูก็มีเสียงดังเข้ามา
“ฉินหลั่งเป็นยอดฝีมือที่เก่งที่สุดอย่างนั้นหรือ? จงจิ่วเจินก็คุยโวโอ้อวดเก่งจริงๆ ……….”
“ใครเป็นคนพูด?”
คนของบ้านตระกูลจงลุกขึ้น แล้วมองไปด้านนอกอย่างโมโห แขกที่ไหนไม่ได้รับเชิญ แล้วยังมาพูดจาท้าทายอีกด้วย?!
เดิมทีจงจิ่วเจินยังอารมณ์ดี ตอนนั้นก็ลุกขึ้นด้วย แล้วมองไปด้านนอก ด้านนอกก็มีบอดี้การ์ดดูแลอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้ หรือว่าจะเป็นนักฆ่าที่ไหนอีก?
แต่ด้านนอกมีคนผมขาวทั้งหัวเดินเข้ามา เป็นคนแก่ที่หน้าเคร่งขรึม เดินตัวตรง สายตาเป็นประกายส่องไปทั่ว ด้านหลังก็มีชายชาวตะวันตกผมสีทองเดินตามมา พอหลังจากคนแก่นั่นหยุดนิ่ง ชายชาวตะวันตกก็ยืนกุมมือสำรวม
“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร?” จงจิ่วเจินชะงักใจ คนแก่ผู้นี้ดูไม่ธรรมดา ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ แต่ตนเองก็ไม่เคยพบ
“ก่อนหน้านี้แก๊งหัวชิงเอาชนะสำนักต่างๆ ของประเทศจีนมากมาย ในช่วงเวลาสำคัญ ฉินหลั่งก็มาช่วยเหลือไว้ได้ ชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วประเทศจีน หรือว่าจะยังไม่นับว่าเป็นที่หนึ่งของวงการต่อสู้อีกหรือ?” จงจิ่วเจินขมวดคิ้วพูด
“เหอะๆ ลี่ไห่ซาอย่างนั้นหรือ?” สายตาของผู้แก่มีความประชดประชัน “มันก็เป็นแค่ผู้ค้มกฎของแก๊งหัวชิง ไม่มีชื่อเสียงอะไรในวงการต่อสู้ คนทั่วไปเยินยอสรรเสริญลี่ไห่ซาไปเอง จริงแล้วมันก็ไม่ได้เก่งอะไร ที่ฉินหลั่งเอาชนะมันได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาเท่านั้นแหละ”
“โอหังสิ้นดี!” จงเส่นซานพูดอย่างโมโห

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset