รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 4 ความคาดหวังของพวกผู้หญิง

บทที่ 4 ความคาดหวังของพวกผู้หญิง
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” หลี่เสี้ยเดินไปข้างตัวฉินหลั่ง แล้วมองเขาอย่างกังวลใจ “ที่จริงก็ไม่มีอะไรน่าเสียดายหรอก ตอนนี้นายก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเส้เหวินจี้งแล้ว เสียใจเพื่อผู้หญิงแบบนี้ ไม่คุ้มค่าหรอก”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ฉินหลั่งพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม ได้เห็นสีหน้าของเส้เหวินจี้งเมื่อครู่แล้ว ใจเขาก็ยิ่งปล่อยวางได้ยิ่งกว่าเดิม
“ไปกันเถอะ ไปฉลองให้กับการจากไปของผู้หญิงเลวๆคนนั้น ฉันเลี้ยงนายเอง อย่างเกรงใจพี่สาวเลย เซียนหย่าจุนนอกมหาวิทยาลัยเป็นไง” หลี่เสี้ยก็วางใจบ้างแล้ว พูดออกมาด้วยสีหน้าสดใส
เซียนหย่าจุนเป็นร้านอาหารระดับไฮเอนด์ที่อยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัย ต้องเป็นนักเรียนที่มีฐานะของมหาวิทยาลัยจีนหลิงถึงจะไปที่นั่นบ่อยๆ
“วันนี้ไม่ดีกว่า ไม่อยากไปเจอหน้าเส้เหวินจี้ง” ฉินหลั่งจำได้ว่า เส้เหวินจี้งกับจูจี้เหวินกำลังจะไปร้านนั้น “วันหลังฉันพาเธอไปเลี้ยงที่ Sofitel Galaxy Hotel”
Sofitel Galaxy Hotel ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีระดับที่สุดในเมืองจีนหลิง สำหรับนักศึกษาแล้ว เป็นแค่สถานที่ที่เคยได้ยินผ่านหูแต่ไม่เคยได้ไปเยือนเท่านั้น
หลี่เสี้ยกลับชะงักไปครู่หนึ่ง ปกติแล้วฉินหลั่งไม่ใช่คนชอบคุยโม้ วันนี้เขาเป็นอะไรไป โม้ทีก็โม้เสียใหญ่โตขนาดนี้ หรือว่าเป็นเพราะอกหัก ก็เลยติดนิสัยชอบคุยโม้แบบนี้ไปเสียแล้ว ผ่านไปสักพักก็คงหายเองได้ล่ะมั้ง
หลี่เสี้ยหัวเราะเบาๆ แล้วช่วยแสดงตามน้ำฉินหลั่งต่อไป “ได้สิ ฉันจะรอนะ พูดตามจริง ฉันยังไม่เคยเข้าไปข้างในSofitelเลย”
หลี่เสี้ยหาได้รู้ไม่ อย่าว่าแต่โรงแรมเล็กๆอย่างSofitelเลย ถึงจะเป็นโรงแรมที่แพงที่สุดในโลกนี้ แล้วฉินหลั่งกินข้าวในนั้นทุกวันวันละสามมื้อ ทั้งชีวิตก็คงใช้ไม่ถึง1/100ของทรัพย์สินที่เขามีด้วยซ้ำ
หลี่เสี้ยถูกเพื่อนสนิทสองคนเรียกตัวไปแล้ว
เพื่อนร่วมหอสองคนของฉินหลั่งก็เดินเข้ามา แล้วลากตัวเขาไปกินข้าวที่โรงอาหาร
ตอนที่เกือบจะถึงประตูโรงอาหาร จู่ๆหยินห้าวก็หยุดเดิน จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วพูดออกมาเสียงดังว่า “พระเจ้า หวงเกอเจ้าหมอนี่มีแฟนแล้วเว้ย พวกนายรีบดูในกลุ่มของหอพักเราสิ !”
“จริงหรือเล่นเนี่ย ?” ฉินหลั่งกับยินถิงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา เปิดเข้ากลุ่มหอพัก เมื่อครู่หวงเกอเพิ่งส่งข้อความเข้ามาว่า “พี่น้อง พี่น้องฉันขอประกาศอย่างเป็นทางการ ฉันสละโสดแล้ว ! รีบกลับหอพักด่วน มื้อเที่ยงวันนี้ฉันเลี้ยงเอง !”
“ในที่สุดหมอนี่ก็มีแฟน ยังไงก็คงทนความเหงาไม่ไหวสินะ”
“ไปกันเถอะ พวกเรารีบกลับหอพักกัน มื้อเที่ยงวันนี้ต้องกินให้เจ้าหมอนี่ตายไปข้างหนึ่งเลย”
ขณะพูด ทั้งสามคนก็หันหลังแล้วเดินกลับไปทางหอพัก
พวกฉินหลั่งทั้งสามคนกลับไปถึงหอพักอย่างรวดเร็ว พอเปิดประตูปุ๊บ ก็เจอชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่บนเตียง จับมือกัน
“พวกนายกลับมาแล้วเหรอ” หวงเกอปล่อยมือจากแฟนสาว ลุกขึ้นยืน มองดูพวกฉินหลั่งทั้งสามคนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
หวงเกอเป็นนักกีฬา รูปร่างทั้งสูงทั้งผอม กล้ามเนื้อแขนก็แน่นอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันขอแนะนำให้พวกนายรู้จัก นี่คือโจวซินเป็นแฟนฉันเอง อยู่คณะดนตรี” พอหวงเกอแนะนำเสร็จ ก็เริ่มแนะนำพวกฉินหลั่ง “นี่เป็นเพื่อนร่วมหอของฉัน ฉินหลั่ง หยินห้าว ยินถิง”
โจวซินลุกขึ้นมาพยักหน้ายิ้มๆ
พอหยินห้าวได้เห็นโจวซิน ในใจก็ร้องว้าวทันที ผู้หญิงคนนี้เป๊ะมาก ผิวขาวนวล คิ้วตรง สัดส่วนของร่างกายก็ดี สมแล้วที่เป็นสาวน้อยสายดนตรี
“เดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวที่เสี่ยวเซียงหยุ้นกัน เพื่อนร่วมหอของโจวซินก็จะมาด้วย พวกนายดูก่อนว่าต้องเตรียมตัวหรือเปล่า”
หวงเกอหันไปมองฉินหลั่งก่อนจะพูดว่า “ฉินหลั่ง นายก็พาเหวินจี้งไปด้วยสิ”
สถานการณ์ของฉินหลั่ง ทุกคนในหอต่างก็รู้ ปกติฉินหลั่งแทบไม่เคยพาเหวินจี้งร้านอาหารดีๆที่ไหนเลย หวงเกออยากจะใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือพี่น้องสักครั้ง
“ฉันเลิกกับเธอแล้ว” ฉินหลั่งพูดออกเรียบๆ
“เลิกแล้ว ? เกิดอะไรขึ้น ?” หวงเกอตกตะลึง
“ยังต้องพูดอีกเหรอ” หยินห้าวชำเลืองมองหวงเกอทีหนึ่ง หวงเกอก็เข้าใจทันที ยังไงก็ต้องเป็นสาเหตุที่เห็นได้ง่ายดายอยู่แล้ว เพราะจนไง
“พวกนายรีบหน่อยแล้วกัน” โจวซินมองดูโทรศัพท์ แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อมพูดว่า “เพื่อนที่หอของฉันส่งข้อความมา ตอนนี้พวกเธอออกไปกันแล้ว พวกเพื่อนๆของฉันต่างก็เป็นพวกใจร้อน อย่าให้พวกเธอต้องรอนานดีกว่า”
“อย่างนั้นเหรอ งั้นฉินหลั่ง หยินห้าว ยินถิง พวกนายรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าแล้วไปกันเถอะ” หวงเกอรีบเร่งพวกฉินหลั่งทันที แล้วลากมือโจวซิน “พวกเราออกไปรอพวกเขาข้างนอก”
หวงเกอกับโจวซินยืนอยู่หน้าประตูหอพัก หวงเกอเห็นโจวซินกอดอกดูท่าทางไม่ค่อยพอใจ หวงเกอเลยถามว่า “เป็นอะไรไปเหรอ”
โจวซินขมวดคิ้ว “เพื่อนในหอพักของนายพวกนี้ธรรมดาเกินไปหรือเปล่า คนที่ชื่อหยินห้าวหน้าตา พูดจริงๆก็คือไม่ค่อยน่าดู ยินถิงถือว่ากลางๆ ส่วนฉินหลั่งถือว่าหน้าตาโอเค แต่ดูจากการแต่งตัว ต้องไม่ค่อยมีตังค์แน่ๆ แบบนี้จะให้ไปเจอเพื่อนๆที่หอพักฉันได้ยังไง”
ในใจของหวงเกอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ก่อนจะพูดยิ้มๆ “ก็แค่ไปกินข้าวมื้อเดียวเอง ไม่ใช่ไปงานดูตัวสักหน่อย จะไปใส่ใจภาพลักษณ์ขนาดนั้นทำไม”
“นายคิดว่าพวกเธอมาเพื่อกินข้าวจริงๆเหรอ ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่ฉันก็รู้จักพวกเธอดี ก่อนหน้านี้พวกเธอคะยั้นคะยอให้ฉันจัดเลี้ยงอะไรพวกนี้กับเพื่อนในหอนาย ก็เพราะอยากจะหาแฟนดีๆสักคน ฉันเคยให้พวกเธอดูรูปของนาย พวกเธอจะต้องคิดว่า เพื่อนที่หอนายต้องเป็นแบบเดียวกับนายแน่ๆ” โจวซินขมวดคิ้ว แล้วพูดอธิบาย
“ฉันผิดเอง ที่ไม่ได้บอกเธอก่อนว่าพวกเขาเรียนคณะชีววิทยา” หวงเกอยิ้มแห้งๆ เดิมทีเป็นเพราะหอคณะกีฬาเต็ม ถึงได้ถูกจัดให้มาอยู่กับพวกฉินหลั่ง
โจวซินยื่นข้อเสนอ “หรือนายไปบอกเพื่อนหอนายดีไหม ว่างานเลี้ยงนี้ยกเลิกแล้ว ให้พวกเขาไม่ต้องไปแล้วดีกว่า ถึงไปก็มีแต่จะอึดอัด”
“ยกเลิก ? ไม่ดีมั้ง ไปเถอะๆ” หวงเกอไม่ยอมรับ บอกให้พวกฉินหลั่งไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สุดท้ายไปบอกว่าไม่ไปแล้ว ก็ยิ่งเหมือนจงใจแกล้งกันไม่ใช่หรือไง
“นายพูดเองนะ ถึงเวลาถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รับผิดชอบนะ” โจวซินเบ้ปาก
ตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมหอก็โทรเข้ามา โจวซินเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ แล้วไปทาบข้างหู “เส่นเอ๋อ…พวกเธอไปถึงแล้วเหรอ…เป็นยังไงบ้างงั้นเหรอ เอ่อ… ถึงเวลาพวกเธอก็ดูกันเองแล้วกัน ฉันก็พูดไม่ถูก…ได้สิ ฉันจะไปเร่งพวกเขาเอง พวกเธอรอก่อนนะ”
ขณะกำลังพูด ฉินหลั่ง หยินห้าว ยินถิงก็เดินออกมาจากหอพัก
“หวงเกอ นายดูสิว่าฉันใส่แบบนี้เป็นไง” หยินห้าวดึงเสื้อแขนสั้นยี่ห้อเพลย์บอยราคาสามร้อยหยวน แล้วมองหวงเกอด้วยสายตาคาดหวัง
“หล่อ !” หวงเกอยิ้มพร้อมตบบ่าหยินห้าว ในใจรู้สึกโชคดี โชคดีที่เมื่อกี้ไม่ได้ฟังโจวซินแล้วบอกว่าจะยกเลิกงานเลี้ยงครั้งนี้ ไม่อย่างนั้นคงทำร้ายจิตใจกันมาก !
พอหวงเกอหันไปมองฉินหลั่งที่เดินตามมาด้านหลัง ก็ขมวดคิ้ว “ฉินหลั่ง ทำไมนายยังใส่ชุดนี้อยู่ล่ะ จะไปเจอสาวนะ จะไม่เปลี่ยนหน่อยหรือไง”
“ที่ฉินหลั่งใส่อยู่นี่ก็ดีสุดแล้ว นายจะให้เขาไปเปลี่ยนชุดไหนอีก” ยินถิงพูดเรียบๆ หวงเกอเรียนคณะนักกีฬา เวลาเรียนเลยต่างจากคณะชีววิทยาของพวกเขา กับสถานการณ์ของฉินหลั่ง ก็ต้องไม่มีทางรู้ดีเท่าเขากับหยินห้าว
โจวซินแอบส่ายหน้า งานเลี้ยงวันนี้ เกรงว่าเพื่อนร่วมหอของเธอคงต้องผิดหวังมากแน่ๆ
“เลิกคุยกันเถอะ รีบไปได้แล้ว” โจวซินเร่ง หวงเกอกับพวกฉินหลั่ง เดินออกมาจากประตูหอพัก
ในขณะเดียวกัน ในร้านอาหารเสี่ยวเซียงหยุ้นนอกมหาวิทยาลัย
หญิงสาวหน้าตาน่ารักสามคน นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง ทุกคนต่างหน้าตาดูดี แค่เห็นก็รู้ว่าฐานะทางบ้านคงพอใช้ได้
หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงผมยาวคลุมไหล่ สวมเสื้อชีฟองแบบปิดไหล่ บนใบหน้าเล็กๆ แต่งแต้มด้วยดวงตากลมโต ริมฝีปากบางฉ่ำน้ำ ผิวขาวอมชมพู และใบหูบางๆ และตามด้วยจมูกที่โด่งและเล็กจิ๋ว ราวกับสาวน้อยที่หลุดออกมาจากโลกการ์ตูน
เธอคือหนึ่งในคนที่สวยกว่าใครในทั้งสามคน คาดว่าฐานะทางบ้านก็คงดีที่สุดด้วย หัวข้อสนทนาส่วนมากก็วนรอบตัวเธอ
“เส่นเอ๋อ บนหน้าผากเธอมีสิวเม็ดหนึ่งโผล่ขึ้นมานะ สองวันที่ผ่านมาเธอร้อนในหรือเปล่า” ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างเส่นเอ๋อ บังเอิญเห็นเข้า ว่าบนหน้าผากของส้งเส่นเอ๋อ มีตุ่มเล็กๆตุ่มหนึ่งนูนขึ้นมา
“เหรอ” ส้งเส่นเอ๋อเอามือลูบตุ่มเล็กๆที่อยู่บนหน้าผาก บนใบหน้าหวานมีแววโกรธนิดๆ “อย่าพูดถึงเลย เมื่อเช้าฉันไปทำธุระกับคุณพ่อที่ธนาคารซิตี้แบงก์ไม่ใช่หรือไง แล้วก็ถูกคนเฮงซวยชนเข้าน่ะสิ”
“เหรอ ถูกชนเหรอ แล้วหลังจากนั้นเขาขอโทษเธอหรือเปล่า”
“นั่นสิ ก็ลูกค้าของธนาคารซิตี้แบงก์มีแต่พวกมีระดับทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ”
ส้งเส่นเอ๋อส่องโทรศัพท์ดู พบว่าก็ไม่ได้เห็นชัดเท่าไหร่ เลยวางโทรศัพท์ลง แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง “เขาก็ขอโทษแล้วแหละ แต่พวกเธอก็รู้ว่าธนาคารซิตี้แบงก์มีไว้บริการคนประเภทไหนใช่ไหม พวกเธอเดาสิว่าเขาสวมเสื้อผ้าแบบไหน ของจากร้านแผงลอยทั้งตัว ตอนที่ฉันเห็นเขาฉันก็รู้สึกอึ้งไปเลย”
“ของจากร้านแผงลอย ? เธอกำลังจะบอกว่าเขาเป็นพวกติดดิน ?”
“นั่นสิ ธนาคารซิตี้แบงก์ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำหนึ่งล้านขึ้นไปถึงจะทำบัตรได้ ดูอย่างในละคร คนที่ยิ่งติดดินก็ยิ่งรวยไม่ใช่เหรอ งั้นเขาจะต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ติดดินแน่ๆ เส่นเอ๋อ เธอรีบบอกพวกเราสองคนเร็วๆสิ”
ส้งเส่นเอ๋อตบปากเบาๆอย่างหมดคำพูด “อะไรกันยะ สุดท้ายผู้จัดการในห้องโถงเดินมาถึงได้รู้ ว่าเขาไม่มีแม้แต่บัตร ฉันว่าเขาก็แค่คนที่ยังไม่เคยออกมามองโลก และเดินไปที่ธนาคารซิตี้แบงก์เพราะความสับสนเท่านั้นแหละ”
“ฉันว่าเขาจะต้องคิดว่าบัตรของธนาคารไอซีบีซี หรือCCB ก็ไปใช้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ได้ด้วยแน่ๆเลย”
“ฉันว่าตอนนั้นเขาคงอายแย่เลย”
“ตอนหลังฉันก็ไม่ได้ดูเขาแล้ว ฉันเดินออกมาพร้อมกับคุณพ่อ ครั้งนี้คงได้รับบทเรียนแล้ว ดูสิว่าต่อไปเขาจะกล้าทำอีกไหม กล้ามุดหัวเข้าไปไม่ดูสถานที่แบบนั้น”
“ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้เด็กแล้วนะ สามัญสำนึกแค่นี้ก็ไม่มีเลยหรือไง เฮ้อ ฉันว่าต่อไปเขาจะต้องขึ้นคานแน่ๆ ใครกล้าคบผู้ชายแบบนี้คงต้องตาบอดแน่ๆ”
“เลิกพูดถึงเขาเถอะ ยังไงพวกเราก็คงไม่เจอหรอก เฮ้อ ทำไมพวกโจวซินยังไม่มากันอีกนะ จริงๆเลย” ส้งเส่นเอ๋อจับโทรศัพท์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูหน้าจอ ที่แสดงข้อความที่คุยกับโจวซิน
“แฟนของโจวซินค่อนข้างหล่อเลยนะ ทั้งสูงทั้งผอม ฉันค่อนข้างชอบแนวนั้นนะ ถ้าเพื่อนที่หอของเขาเป็นแนวนั้นเหมือนกัน พวกเธอก็อย่ามาแย่งกับฉันนะ”
“ดูเธอพูดเข้าสิ” ผู้หญิงอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “โจวซินก็บอกแล้วนี่ ว่าแฟนของเขาเรียนสายกีฬา คุณภาพก็น่าจะไม่เลวนะ อีกเดี๋ยวรอดูกันดีกว่า พวกเราถูกใจคนไหน ก็อย่าเพิ่งพูดต่อหน้าล่ะ พวกเราค่อยไปแบ่งกันแบบส่วนตัว”
หญิงสาวทั้งสามคนคุยกันพร้อมเสียงหัวเราะ ช่วยดูกันเอง เพื่อช่วยอีกฝ่ายตรวจดูความเรียบร้อย
ตอนนั้นเอง โจวซินก็พาพวกฉินหลั่ง เดินเข้ามาในเสี่ยวเซียงหยุ้นแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset