รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 410 ความท้าทายของอัจฉริยะ

บทที่ 410 ความท้าทายของอัจฉริยะ
“ถ้าผ่านด่านฉันไปไม่ได้ ฉันจะทำให้เขาอยู่อย่างไม่เป็นสุขตลอดไปเลย” คนตัวสูงพอเห็นพวกครูเหนื่อยหอบจนวิ่งไม่ไหว ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
และบนสนามมีคนสลบไปเรื่อยๆ พวกเขาขาดวินัยการวิ่งมากเกินไปแล้ว
พวกครูที่วิ่งไม่กี่รอบก็กำลังจะวิ่งหนีออกไป แต่ฉินหลั่งเตรียมตัวไว้แล้ว ให้ครูใหญ่คอยจับตาดูไว้เป็นกรรมการ ครูใหญ่ก็ต้องทำตาม จดไว้ว่าพวกครูวิ่งไปกี่รอบแล้ว
แต่ว่าไม่มีคนเกลียดครูใหญ่ ต่างก็เกลียดฉินหลั่งกันหมด และฉินหลั่งก็ไม่สนใจอะไร ไม่สนใจสายตาพวกนั้นด้วยซ้ำ
“โครม!”
จูจี้เหวินล้มลงไป นอนอยู่บนสนาม แทบจะเป็นลมไม่มีสติอยู่แล้ว
แต่เขาไม่ใช่เพราะไม่มีแรง แต่ล้มลงไปเพราะโกรธต่างหาก
ลุงตัวเองเป็นถึงคนสำคัญในเฟิงโจว ตัวเองก็เป็นคนระดับสูงในมหาลัยจีนหลิง อยากแย่งแฟนใครมาก็แค่กระดิกนิ้ว มาถึงโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยก็เรียบร้อยดี ตอนนี้กลับถูกเหยียบย่ำแบบนี้
ครูสิบกว่าคนที่วิ่งมาพร้อมกับจูจี้เหวิน ตอนนี้ใจอยากตายก็ยังมีเลย ก่อนจะตายก็อยากจะฆ่าฉินหลั่งก่อนนะ
ศักดิ์ศรีของครู หน้าของครู ถูกบดขยี้เละในวันนี้แล้วล่ะ
พอถึงวันที่สอง พวกครูที่วิ่งเมื่อวานก็ต่างพากันลาหยุด เหนื่อยจนลุกไม่ไหวแล้ว
และวันที่สองมอหกห้องหกได้เข้าเรียนพละคาบแรกของฉินหลั่ง
คาบพละทุกคนต่างก็ชอบคาบนี้มาก เพราะเล่นได้เต็มที่และวิชานี้ก็เป็นคาบอิสระด้วย
“นี่ อาเหมิง ห้องน้ำสูบบุหรี่ได้ไหม”
“นี่ ไปเล่นไพ่กัน”
ตอนที่เป็นกิจกรรมอิสระ คนส่วนใหญ่ก็เริ่มวางแผนแล้วว่าคาบนี้จะทำอะไรบ้าง
และในตอนนี้ก็มีนักเรียนที่ร่างกายกำยำเดินมา
“จินหู่ คาบพละนายจะทำอะไรเหรอ?” เฉินเหมิงเลี่ยงถาม
จ้าวซิงที่อยู่ข้างๆก็นึกถึงคำพูดที่เมื่อวานจินหู่บอกว่า ฉินหลั่งจะต้องผ่านด่านเขาไปก่อน
“จินหู่ วันนี้ไม่เล่นบาสเหรอ?” จ้าวซิงก็ถามด้วยความลุ้น
“วันนี้ไม่เล่น ฉันมีธุระอื่นต้องทำน่ะ” จินหู่กวาดตามองรอบโรงยิม
จินหู่เป็นคนที่มีนิสัยเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องคะแนนก็เละจนไม่มีใครอยากดู ที่บ้านก็มีเงินมีอำนาจ แต่ชอบกีฬาเพียงสิ่งเดียว สวรรค์ยังประทานร่างกายที่แข็งแรงให้กับเขาอีก อายุแค่สิบเจ็ดสิบแปด ไม่ว่าจะหน้าตาหรือร่างกายก็ดูสมบูรณ์มากจริงๆ
เมื่อก่อนเวลาคาบพละ มีแต่จินหู่ที่ตั้งใจคนเดียว ไม่กระโดดก็วิ่งทางไกล และยังเล่นบาสเกตบอลเก่งเป็นที่หนึ่งด้วย
ไม่เพียงแค่โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย ในเมืองเย็นจีนจินหู่ก็มีชื่อเสียงมากเหมือนกัน เคยได้ที่หนึ่งด้านการวิ่งมาราธอน มีพวกทีมกีฬามาเชิญจินหู่นานแล้ว หลังว่าจบไปเขาจะมาร่วมทีมได้
“เรื่องอะไร?” พอเห็นจินหู่เหมือนกำลังหาคนอยู่ เฉินเหมิงเลี่ยงก็มองตามอย่างสงสัย
“ฉันบอกแล้วไง วันนี้จะทดลองทักษะของครูประจำชั้นคนใหม่ พวกนายเดี๋ยวคอยเชียร์ด้วยล่ะ รอดูได้เลย” จินหู่หักข้อนิ้วข้อมือ ดังกรอบแกรบ
“ได้! กล้ามาก! ทำให้เขาอับอายจนไม่มีหน้าเจอใครเลยนะ!” พวกนักเรียนต่างกรู่กันเข้ามา พร้อมเชียร์จินหู่เต็มที่
ทุกคนต่างเชื่อในความสามารถด้านกีฬาของจินหู่ ขนาดพวกนักกีฬามืออาชีพยังต้องแพ้ให้กับจินหู่เลย
เขายังได้รับเชิญจากทีมชาติด้วย!
และตอนนี้ฉินหลั่งก็เดินมาช้าๆ
“เข้าแถว!” ฉินหลั่งพูด
เสียงไม่ดัง แต่ก็มีพลังมาก นักเรียนทุกคนรีบมาเรียงแถวกัน แต่ทุกคนกลับยืนคอตก ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย
“ไม่ได้กินข้าวหรือไง!? ทำตัวให้สดชื่นเข้าไว้ ไปวิ่งห้ารอบก่อนไป!” ฉินหลั่งพูดเสียงดังขึ้น
“สวัสดีครับคุณครู!”
จินหู่ลุกขึ้นยืน เขายืนตัวตรงอกผายไหล่ผึ่ง
หุ่นของจินหู่ลองเทียบกับฉินหลั่งดูแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกันเลย
“ทำไมเหรอ?” ฉินหลั่งทำหน้านิ่ง และถาม
“ครูฉินเป็นครูพละใช่ไหมครับ?” เสียงของจินหูเหมือนตะโกนเสียมากกว่า ได้ยินแล้วก็รู้เลยว่าเป็นเสียงคนหาเรื่อง
“พูดไร้สาระอะไรเนี้ย?” ฉินหลั่งพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“งั้นดี ผมเป็นคนเก่งด้านกีฬามากที่สุดในห้อง ผมจะขอท้าทายครูแทบทุกคนในห้อง! ครูกล้ารับคำท้าไหมครับ?” จินหู่ชี้ไปที่ฉินหลั่ง คำพูดและหน้าตาที่ดูถูกปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนบนใบหน้า
ฮูเล่!
นักเรียนทั้งห้องต่างตื่นเต้นขึ้นมาทันที!
“ได้สิ!”
ฉินหลั่งสีหน้าไม่เปลี่ยน แต่น้ำเสียงดูจะเฉยๆผ่อนคลายมาก
“ฮ่าๆๆ ฉินหลั่งไม่รอดแน่ครั้งนี้!”
“ใครกล้ารับคำท้าของจินหู่ คนนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่! เพราะเขาเป็นคนเก่งรอบด้าน ทุกคนก็รู้กันดี!”
“จินหู่วิธีการกดดัน เขาติดกับแล้ว!”
“ฉันจะบอกให้นะ จินหู่ท้าทายกับคนเก่งทุกคนในเย็นจีนหมดแล้ว ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง ฉันว่าครูประจำชั้นคนใหม่ต้องบ้าไปแล้วแน่……”
ทุกคนต่างส่ายหน้ากัน ต่างรอดูว่าฉินหลั่งจะเสียหน้ายังไง
“ครูไม่ถามก่อนเหรอว่าผมจะท้าอะไรครู?” จินหลั่งก็ดีใจมาก เพราะอีกฝ่ายแป๊บเดี๋ยวก็ติดกับเขาแล้ว
“อะไรก็ได้” ฉินหลั่งยักไหล่
“ได้! นายพูดเองนะ! ถ้าใครแพ้……”
จินหลั่งมองไปที่ประตูโรงเรียน
“นายมาจากไหนก็กลับไปทางนั้นเลย เป็นยังไง?!”
“ถ้านายแพ้ล่ะ?” ฉินหลั่งถามกลับ
“แพ้? ไม่มีทาง! ฉันเป็นแม่ทัพที่ไม่เคยแพ้ ไม่มีลิ้มรสของความแพ้เลยสักครั้ง!” จินหู่พูดอย่างมั่นใจ
“แม้จะเป็นนักกีฬาทีมชาติ พอเจอฉันก็ต้องระวังกันทั้งนั้น ฉันเป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์ นายก็แค่ครูต่ำต้อยที่ไม่มีชื่อเสียง จะชนะได้ยังไง?”
หัวเราะเย็นชา สีหน้าของจินหู่เต็มไปด้วยความดูถูก
“ได้ งั้นนายก็เตรียมลิ้มรสความพ่ายแพ้แล้วกัน” ฉินหลั่งพูดอย่างหยอกล้อว่า: “ฉันแค่พูดว่าถ้าหาก ถ้าหาก!”
“ถ้าหาก? ได้ ถ้าหาก นายอยากทำอะไรก็ทำไปเลย!” จินหู่ไม่สนใจ เขาไม่มีคำว่าถ้าหากในสมองอยู่แล้ว
“ได้!” ฉินหลั่งพยักหน้า
และในตอนนี้เอง จูจี้เหวินกับหลิวซูเซิงก็เข้ามาเห็นพอดี
“ครูฉิน นายจะแข่งกับจินหู่เหรอ?” จูจี้เหวินยิ้มหน้าบาน เขาก็รู้ว่าจินหู่เก่งแค่ไหน ไม่ใช่นักเรียนกีฬาธรรมดาทั่วไป
“ไปไกลๆ” ฉินหลั่งขี้เกียจที่จะสนใจพวกแมลงหวี่พวกนี้เต็มทน
“นาย?……” จูจี้เหวินโกรธจนหน้าซีดขาวไปหมด
เขาเห็นว่าฉินหลั่งเอาเขาเป็นตัวตลก ไม่มีความเคารพหลงเหลืออยู่เลย
“เหอะ ความเก่งของจินหู่ นายคงจะไม่รู้สิท่า เขาเก่งกว่าเสือเสียอีก!” จูจี้เหวินพูดโอ้อวด
ฉินหลั่งรนหาที่ตายเอง เขาก็ต้องมานั่งดูอยู่แล้วสิ
“กระโดดไกล สถิติโลกคือแปดเมตรสี่สิบเก้า จินหู่กระโดดได้ถึงแปดเมตรเก้าสิบสอง!”
“วิ่งแปดร้อยเมตร สถิติโลกคือหนึ่งนาทีสี่สิบวิแปดเก้า และนักเรียนจินหู่ของพวกเราทำสถิติได้หนึ่งนาทีสี่สิบเอ็ดวิ นี่ไม่เพียงแต่เทียบกับทีมชาติได้ และยังเทียมกับระดับเหรียญเงินนานาชาติได้อีกด้วย”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset