รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 417 พฤติกรรมทั้งสองด้านของเด็กสาวสายฮิปฮอป

บทที่ 417 พฤติกรรมทั้งสองด้านของเด็กสาวสายฮิปฮอป
ทว่าฉินหลั่งไม่ได้มีท่าทีว่าจะหลบหนีแต่อย่างใด
“แซ่เฉิน แกกับฉันยังไม่หมดเท่านี้ ฉันจะฟ้องครูใหญ่…” จูจี้เหวินกุมใบหน้าที่บวมฉึ่งเอาไว้ พร้อมทั้งตะโกนกลับมาอย่างบ้าคลั่ง
เดิมทีเขาคิดว่าจะทำให้เรื่องนี้มันบานปลาย แถมตอนนี้มาถูกทำร้ายแล้ว แน่นอนว่าไม่ทางปล่อยไปง่ายๆ แน่
“สมองแกมันมีแต่ขี้เลื่อย พูดให้ตรงๆ ก็คือ พวกแกก็แค่อยากใช้หม่าเซียวเซียวมาทำให้ฉันลำบากใจใช่ไหม? ใช้เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว น่าขยะแขยงชะมัด!” ฉินหลั่งมองจูจี้เหวินอย่างขยะแขยง
ผลลัพธ์คือ เวลาผ่านไปแวบเดียว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มา
สารวัตรพาทีมเดินเข้าประตู พร้อมทั้งสายตากวาดมองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็ตะลึงไปชั่วขณะ
“คุณฉิน คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
ฉินหลั่งไม่รู้จักนายตำรวจท่านนี้ พลางเอ่ยถามทันที “คุณคือ?”
“ผมเป็นเพื่อนนักเรียนสมัยอนุบาลของหวังเฉิน เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจโรงเรียนเดียวกันมา ตอนนี้เธอเป็นรองผู้กำกับของสถานีตำรวจของพวกเรา เป็นเจ้านายโดยตรงของผม ผมแซ่เฉา”
สายตาของนายตำรวจท่านนั้นเมื่อเห็นฉินหลั่งแล้วเปล่งประกายมาก แถมยังมีแววตาเลื่อมใสแสดงออกมาให้เห็น
“ตอนนี้ถูกย้ายมาที่เขตนี้ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับคุณ” คุณตำรวจเฉาพูดอย่างเคารพยำเกรง ฉินหลั่งกระโดดตัวลอยขึ้นตึกไปตั้งสิบห้าชั้น ตัวลอยขึ้นรวดเร็วดั่งกระสุนปืนระเบิด เรื่องที่ลอยตัวขึ้นไปผู้ร้ายมือปืนเรื่องนี้ก็ดังกระฉ่อนไปทั้งในวงการตำรวจ วันนั้นนายตำรวจเฉาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“คุณตำรวจเฉา สวัสดีครับ” ฉินหลั่งยิ้มให้เล็กน้อย
“สวัสดีครับ สวัสดี…” นายตำรวจเฉาตื่นเต้นดีใจมาก “คุณฉิน วันไหนว่างผมอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ ลูกชายของผมอายุสิบสามคนนั้นถามผมทุกวันเลยว่าอยากได้รูปของคุณ เขาชื่นชอบคุณเอามาก”
นายตำรวจฉินกลัวว่าฉินหลั่งจะไม่ยอมตกลง
ไม่คิดเลยว่าฉินหลั่งตอบอย่างยินดี “ได้”
“อืม ขอบคุณมาก งั้นพวกเราไปก่อน” นายตำรวจเฉาพร้อมกับนายตำรวจอีกสองคนตะเบ๊ะท่าให้ จากนั้นก็หันหลังเตรียมตัวเดินไป
“รอเดี๋ยว!”
จูจี้เหวินที่ฟังอยู่ข้างๆ ดูมึนงง นายตำรวจท่านนี้ไปรู้จักมักจี่กับฉันหลั่งเหรอ?!
“เป็นอะไรไป?” นายตำรวจเฉาหันกลับมา สีหน้าแววตาดูไม่ยินดีสักเท่าไหร่
“สารวัตร พวกคุณยังไม่ได้จับคนเลย เขาทำร้ายคน!” จูจี้เหวินพูดอธิบาย พร้อมทั้งเอามือกุมหน้าไม่ยอมเอามือออก
นายตำรวจเฉายืนคิ้วหากัน ในใจคิดว่าคนคนนี้ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ขนาดพูดว่าจะเลี้ยงข้าวฉินหลั่งแล้วเนี่ย
นายตำรวจเฉาไม่ได้มองคนอื่นเลยตั้งแต่มา เวลานี้ยอมหยุด จากนั้นก็ยิ้มให้ฉินหลั่งอย่างขมขื่น จากนั้นก็ทำสายตาแข็งกร้าวใส่
“ได้ พวกคุณสองคน ไปให้ปากคำที่โรงพักกลับผม”
เมื่อครู่ทางตำรวจก็เข้าใจสถานการณ์ของคนสองคนแล้ว เลยเอาตัวจูจี้เหวินแล้วหลิวซูเซิงมาด้วย
อย่างน้อยเรื่องหม่าเซียวเซียวนั้น ทางนายตำรวจเฉาก็ไม่ได้ถาม ทางนายตำรวจเฉาพูดกับฉินหลั่งว่า
“ทำร้ายคนเป็นพฤติกรรมที่ทำไม่ถูก ขอเตือนหนึ่งครั้ง ปรับหนึ่งร้อย จำไว้นะคุณฉินเอาเงินมาด้วย” จากนั้นก็ให้ปากกากับกระดาษ เพื่อให้ฉินหลั่งเซ็นชื่อลงบนกระดาษ
“แยกย้าย” นายตำรวจเฉาพูดไปก็เดินออกไป
“มันแปลกๆ นี่?!” จูจี้เหวินที่รออยู่ด้านหน้าประตูตะลึงทันที
ตนเองถูกทำร้ายร่างกาย ทำไมดูเหมือนว่าตนเองไปทำร้ายคนอื่นล่ะ?
ยามเมื่อนายตำรวจเฉาเดินออกจากห้องทำงาน ก็เอาใบเสร็จนั่นขึ้นมาแล้วก็ฉีกออกจากกันพร้อมทั้งทิ้งลงถังขยะทันที
“พาตัวไป!” นายตำรวจเฉาตะคอกเสียงใส่ จากนั้นจูจี้เหวินกับหลิวซูเซิงจ้องมองรถตำรวจตาเขียวปั๊ดจนทำให้อาจารย์คนอื่นๆ ยืนตาค้าง
จูจี้เหวินกับพวกทั้งสองคนคืนนี้คงต้องนอนหนาวทั้งคืน
“เซียวเซียว หล่นเอาเงินคนอื่นมาเท่าไหร่?” ฉินหลั่งเอาตัวหม่าเซียวเซียวออกมายังห้องแคบๆ
ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมทั้งขอโทษ ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาของฉินหลั่ง แน่นอนว่าทั้งหมดนี่เป็นการดูแลให้ท้ายของฉินหลั่ง
คงไม่ทำเรื่องนี้ให้ใหญ่โต
แต่หม่าเซียวเซียวผลักฉินหลั่งออก “เรื่องของฉันคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย!” พูดจบก็วิ่งหนีไปทันที
ฉินหลั่งหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมา ประมาณหนึ่งหมื่นหยวนได้ พร้อมทั้งยื่นให้นักเรียนหญิงพวกนั้นทันที
“ไม่ ไม่ได้เยอะขนาดนี้ อาจารย์…” นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“เอาไปเถอะ กลับไปแล้วซื้อของบำรุงกิน หม่าเซียวเซียวไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไหร่ ฉันจะให้เธอมายืนต่อหน้านักเรียนและอาจารย์ทุกคน เพื่อทำการขอโทษพวกคุณ! เอาแบบนี้ก่อนนะ’ ฉินหลั่งขอโทษพวกนักเรียนหญิง
“ให้หม่าเซียวเซียวมาขอโทษเหรอ? เป็นไปไม่ได้!” นักเรียนหญิงแสดงสีหน้าว่าไม่เชื่อ คนอย่างหม่าเซียวเซียวพวกเธอเข้าใจดี จะให้หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเธอก็ไม่มีทางก้มหัวให้ใคร
“พวกหล่อนวางใจได้ เธอผิดแล้วยังไงก็ผิด ยังไงก็ต้องขอโทษ อีกอย่างยังต้องเขียนจดหมายทบทวนความผิดของตนเอง เพื่อทำการลงโทษเรื่องร้ายแรงที่เคยทำมาก่อนหน้านี้!”
“อืม งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะอาจารย์” นักเรียนหญิงต่างส่ายหน้าไปมา เมื่อเดินไปแล้ว ก็ยังคงแสดงท่าทีไม่เชื่อเช่นนั้น
“เฮ้อ อาจารย์ฉิน หม่าเซียวเซียวนิสัยนิ่งๆ พ่อของเขาเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเขตเฟิงโจว คุณให้เธอเขียนจดหมาย ความเป็นไปได้เกินครึ่งเธอควรลาออกได้แล้ว ไม่ฟังคำพูดของคุณหรอก” มีอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นคนพูดออกมา
“ฉันพูด ก็ต้องทำได้ ทำไม่ได้ฉันจะลาออกเอง” ฉินหลั่งพูดต่อล้อต่อเถียงกับบรรดาอาจารย์พวกนี้ จากนั้นก็เดินออกไป
เมื่อบรรดาเหล่าอาจารย์และนักเรียนพูดออกมาแบบนี้แล้ว ฉินหลั่งรู้สึกว่าหม่าเซียวเซียวคงมีปัญหาแต่ไม่อยากให้คนรู้ เป็นถึงลูกสาวเศรษฐีอันดับหนึ่งของเขตเฟิงโจว แต่กลับต้องมาเก็บค่าคุ้มครอง ดูไม่เหมาะกับฐานะเลย
หม่าเซียวเซียวเดินได้ไม่เร็วนัก จนฉินหลั่งสามารถเดินตามอีกฝ่ายได้ทัน ยามค่ำคืนฉินหลั่งได้แต่เดินตามอยู่ห่างๆ จนหม่าเซียวเซียวไม่สามารถรับรู้ได้
เดินตามหลังมาสิบนาทีเห็นจะได้ หม่าเซียวเซียวก็เดินเข้าไปด้านในชุมชนเล็กๆ ที่ผุพังแห่งหนึ่ง
แสงไฟสิ่งในชุมชนค่อนข้างมืดมน แต่ว่าสามารถเห็นว่าด้านในตึกเป็นสถาปัตยกรรมที่มีมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นตึกที่ค่อนข้างอันตราย ลูกสาวเศรษฐีอันดับหนึ่งอยู่ที่นี่เหรอ? ฉินหลั่งรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
ด้านล่างตึกที่ใกล้จะถล่มลงมานั้นมาห้องเล็กๆ ของชาวบ้านเรียงกันเป็นแถว หม่าเซียวเซียวเลี้ยวเข้าไปด้านในซอยในหมู่บ้านคน จากนั้นก็เปิดก๊อกน้ำ แล้วก็บีบโฟมล้างหน้า จากนั้นก็ล้างตนเอง สักเดี๋ยว หม่าเซียวเซียวที่อยู่ใต้แสงไฟก็เปลี่ยนเป็นคนละคน เส้นผมเปลี่ยนเป็นสีดำขลับ ใบหน้าที่แต่งหน้าจัดถูกล้างออกไปจนเกลี้ยงเกลา ต่างหูก็ถอดออกเรียบร้อย
หม่าเซียวเซียวเปลี่ยนไปเหมือนสาวน้อยข้างบ้านที่แสนจะเชื่อฟัง
ส่วนรอยสักที่อยู่ที่ตอนนั้น ก็ถูกล้างออกไปแล้ว แต่มันปรากฏว่าเป็นดอกไม้ติดเอาไว้แทน
จากนั้นหม่าเซียวเซียวก็ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย
เฉกเช่นนักเรียนมัธยมตอนปลายไร้เดียงสา ไม่มีความแตกต่างใดๆ เลย
สุดท้าย หลังจากที่หม่าเซียวเซียวได้ทำการล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นไปยังชั้นสามข้างตึกที่ดูอันตรายแทน
ในตัวตึกมีกลิ่นเหม็นอับลอยออกมากอบอวล หม่าเซียวเซียวหยิบกุญแจขึ้นมาไขประตูผุพังนั้น แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
ฉินหลั่งเดินตามขึ้นไปชั้นสาม เมื่อประเมินจากสิ่งที่อยู่ด้านในแล้ว ก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของหม่าเซียวเซียวเอ่ยขึ้น “แม่ หนูกลับมาจากโรงเรียนแล้ว”
ตอนที่อยู่ในโรงเรียนท่าทางนิสัยที่เย็นชาไม่สนใจใครเหมือนเป็นคนละคน
ด้านในมีเตียงหนึ่งเตียง ในห้องมีของวางไปทั่วจนเห็นชัด ด้านในมีเพียงไฟหัวเตียงเท่านั้น บนเตียงมีผู้หญิงที่สีหน้าดูเหนื่อยล้านอนอยู่บนเตียง
น่าจะเป็นมารดาของหม่าเซียวเซียว
“แคร่กๆ เซียวเซียวเลิกเรียนแล้วเหรอ? วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง? ต้องตั้งใจเรียนหนังสือนะ” ผู้หญิงคนนั้นพยายามดันตัวเองให้ลุกนั่ง น้ำเสียงดูอ่อนแอมาก แต่ถูกหม่าเซียวเซียวตัดบทแทน พร้อมทั้งยิ้มให้พลันเอ่ยออกมา “แม่ หนูอยู่โรงเรียนสุขสบายมาก แม่ไม่ต้องเป็นห่วง รักษาตัวให้หายก็พอแล้ว”
พูดไป หม่าเซียวเซียวก็หยิบยากองพะเนินออกมาจากลิ้นชัก

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset