รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 420 ความเป็นไปไม่ได้ที่เป็นไปได้

บทที่ 420 ความเป็นไปไม่ได้ที่เป็นไปได้
ฉินหลั่งขึ้นไปบนเวที เขาพูดกระชับคำ
“อันดับแรกฉันขออภัยเป็นอย่างสูงกับชั้นเรียนของฉันด้วยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ฉันขอโทษนักเรียนหลายคนที่เป็นผู้เสียหายอีกครั้งจากใจจริง!”
“เมื่อคืนวาน ฉันได้ตกลงกับนักเรียนหญิงหลายคนนั้น ว่าจะให้หม่าเซียวเซียวเขียนจดหมายสำนึกผิดด้วยตนเอง มาขอโทษพร้อมต่อหน้าทุกคน ตอนนี้ หม่าเซียวเซียว เชิญขึ้นเวทีมาขอโทษทุกคน!”
น้ำเสียงอันทรงพลังของฉินหลั่งดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งสนาม ทุกคนได้ยินเสียงคำพูดที่ฉินหลั่งพูดออกมา ต่างตกตะลึงไปทั่วทั้งสนาม!
“เป็นไปได้อย่างไร หม่าเซียวเซียวจะมาขอโทษเนี่ยนะ?”
“ฉินหลั่งสมองมีปัญหาหรือเปล่า ใครไม่รู้ว่านิสัยหม่าเซียวเซียวชอบโมโหเกรี้ยวกราดจนชื่อเสียงดังกระฉ่อน ให้เธอมาขอโทษต่อหน้าทุกคน ชิ ฝันไปเถอะ”
“ทำตัวกร่างกับนักเรียนหญิงไปทั่ว สนแต่ตัวเอง ขนาดลงมือทำร้ายยังทำมาแล้ว แต่ว่าการขอโทษเรื่องนี้มันดูเป็นไปไม่ได้ ครูประจำชั้นคนนี้ถามตัวเองก่อนไหมว่ามันน่าเบื่อหรือเปล่า”
ไม่ว่านักเรียนหรือว่าอาจารย์ก็ตาม ต่างตลกขบขันกับสิ่งที่ฉินหลั่งตัดสินใจ สำหรับพวกเขาแล้ว การให้หม่าเซียวเซียวออกมาขอโทษ ขนาดน้ำในแม่น้ำยังไม่อาจไหลย้อนกลับซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
ถ้าหม่าเซียวเซียวเป็นคนที่ซื่อสัตย์ขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ก็คงไม่ทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องพูดว่าครูประจำชั้นเลย แค่ครูใหญ่ ยังไม่สามารถให้หม่าเซียวเซียวลุกขึ้นมาขอโทษต่อหน้าสาธารณะได้เลย”
มีอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นคนพูด เพราะว่าเขาเคยเห็นหม่าเซียวเซียวอยู่ต่อหน้าครูใหญ่แล้วไม่ค่อยยำเกรงสักเท่าไหร่ แถมยังด่าทอครูใหญ่อยู่หลายครั้ง
เวลานี้ครูใหญ่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา หวังว่าฉินหลั่งคงจะไหวนะ แต่ว่าเขาย่อมรู้ตัวดีว่ามันหมดหวัง
จนตอนนี้นักเรียนในห้องหกต่างเริ่มโห่ร้องขึ้นมาแล้ว
“ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม เซียวเซียวเนี่ยนะ? ให้แกขึ้นไปขอโทษเหรอ? ฮ่าๆๆ”
“เซียวเซียว ฉันจะดูว่าแกจะจะทำยังไงให้เขาลงมาจากเวที” เพื่อนนักเรียนอีกคนพูดขึ้นมาพร้อมทั้งขบขันไปพร้อมกัน
ห้องหกทั้งห้องไม่เชื่อว่าหม่าเซียวเซียวจะเชื่อฟังคำสั่งแล้วเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมทั้งขอโทษคนอื่น เพราะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนนักเรียนของหม่าเซียวเซียวมาตั้งแต่เด็ก ย่อมรู้จักนิสัยของหม่าเซียวเซียวเป็นอย่างดี
ทุกคนต่างเฉยเมย เย็นชาและหยิ่งใส่กันจนไม่มีใครยอมใคร
หม่าเซียวเซียวเวลาที่ทำร้ายร่างกายคนก็เหมือนจะไม่คิดชีวิตอีกแล้ว ไม่ยินยอมและไม่ก้มหัวให้ใคร นี่เป็นสิ่งที่เธอได้รับสมญานามอย่างสมเกียรติ นี่เป็นเหตุผลสำคัญอันแข็งแกร่งในนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย
เมื่อจูจี้เหวินได้ยินเสียงสงสัยที่ดังกระฉ่อนไปทั่ว ใบหน้าที่บวมฉึ่งมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แซ่เฉินเอ๊ย แกถูกฉันเล่นงานมาสองครั้งแล้ว
แต่ว่าเขากำลังยิ้มอยู่นั้น พลันรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวอยู่เหมือนมีสิ่งที่เปลี่ยนไป
ห้องหกทั้งห้องถึงกลับยิ้มไม่ออก
หม่าเซียวเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังเริ่มขยับตัวแล้ว
“พระเจ้า เซียวเซียวจะขึ้นไปจริงเหรอ?”
“เซียวเซียวแกทำไร?” จ้าวซิงที่อยู่ด้านข้างคว้าเสื้อของหม่าเซียวเซียวเอาไว้ แต่ว่าก็ถูกหม่าเซียวเซียวปัดออก
“ขอโทษด้วยนะทุกคน!” ท่าทางการเดินของหม่าเซียวเซียวช่างไม่เหมือนกับเด็กสาวทั่วไปเลย เป็นการก้าวเดินที่โตเป็นผู้ใหญ่และไม่สนใจสิ่งใด มองดูก็เหมือนพี่สาวคนโตเช่นนั้น
เธอเดินไปก็หยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมา พอเดินมาด้านหน้าของเฉินเหมิงเลี่ยง พลันพูดขึ้นว่า
“เหมิงเลี่ยง ทางที่ดีนายควรเก็บอาการไว้ให้ดี ฉันขอเตือนนาย ครูประจำชั้นคนใหม่ของเราไม่ใช่อาจารย์คนธรรมดา พฤติกรรมของแกสำหรับเขาแล้วไม่มีประโยชน์อันใดเลย”
เฉินเหมิงเลี่ยงถึงกับเอ๋อเหรอไปชั่วขณะ หม่าเซียวเซียวขึ้นไปบนเวทีจริงๆ
บรรดาลูกศิษย์และอาจารย์ต่างตะลึง พร้อมทั้งพูดคุยกันไปทั่ว มีบางคนรู้สึกว่าตนเองตาพร่ามัวไปแล้ว?
เหมือนว่าพระอาทิตย์มันขึ้นจากทางทิศตะวันตกเช่นนั้น
เมื่อเห็นภาพทั้งหมด จูจี้เหวินเกิดอาการวูบกับภาพตรงด้านหน้า อีกนิดก็จะเป็นลมล้มลงไปแล้ว
“เป็นไปไม่ได้!” จูจี้เหวินพูดพร่ำเพ้อออกมาจากใจ “เป็นไปไม่ได้! น่าจะ… น่าจะเป็นเพราะว่าหม่าเซียวเซียวจงใจแสดงออกมา ต้องการใช้โอกาสนี้ในการใช้ชื่อแล้วก่อเรื่องวุ่นวายในสนาม? ถึงเวลานั้นฉินหลั่งคงต้องรีบลงจากเวทีอย่างเร่งด่วน!”
จูจี้เหวินมองเห็นกระดาษที่อยู่ในมือหม่าเซียวเซียว ในใจจึงได้มั่นใจเช่นนั้น
เวลานี้เองพลันมีเสียงหม่าเซียวเซียวดังออกมาจากลำโพง
“เรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน”
“ฉันขอโทษกับเรื่องที่ฉันทำ ทุกสิ่ง…”
“……”
จากนั้นก็เป็นจดหมายขอโทษตามมา
พรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย แถมยังซาบซึ้งกินใจมาก ไม่ใช่คำพูดในทางส่อเสียด และยิ่งไม่ใช่สิ่งที่จูจี้เหวินคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ในการก่อเรื่อง แต่มันเป็นความจริงใจ พอได้ยินแล้วคำพูดที่พรั่งพรูออกมามันเป็นความรู้สึกรับผิดชอบจากจิตใจของตนเองอย่างแท้จริง
“สิ่งสุดท้าย ฉันขอขอบคุณอาจารย์ฉินผู้ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของฉันเอง เขาให้ความหวังในการกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาช่วยฉันออกมาจากความมืดหม่น ฉันขอบพระคุณอาจารย์ฉิน ที่นี่ ฉันจะไม่ทำเรื่องเลวร้ายเหมือนก่อนหน้านี้อีก!”
เมื่อพูดจบ หม่าเซียวเซียวก็เดินลงไปจากเวที
ทุกคนที่อยู่ในสนามต่างเงียบฉี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดานักเรียนห้องหก ต่างอ้าปากค้างอยู่นาน จนไม่ยอมหุบปากเสียที
ส่วนจูจี้เหวินสติหลุดไปนานยังไม่สามารถตั้งสติได้ สมองยังคงมึนงง
ตกลงว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? สมองของจูจี้เหวินผุดเรื่องที่พลิกไปวนมาจนหลุดคำพูดนี้ออกมา
ไม่เพียงแต่พวกเขา ทั้งโรงเรียนก็ต่างตกใจมาก
“ให้ความหวัง ดึงออกมาจากความมืดหม่น” ถ้าไม่ได้ยินกับหูของตัวเอง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เป็นคำพูดของหม่าเซียวเซียว
นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่สนิทสนมกับหม่าเซียวเซียวเป็นคนพูดเพ้อออกมา
“เซียวเซียว ความหมายของแก เขาช่วยแก้ปัญหาให้แกใช่ไหม?!” เฉินเหมิงเลี่ยงเหมือนสัมผัสอะไรได้บางอย่าง ความจริงแล้วเฉินเหมิงเลี่ยงก็รู้ความลับของหม่าเซียวเซียว แต่ไม่ได้บอกคนอื่นเท่านั้นเอง
หม่าเซียวเซียวทำท่าพยักหน้าอยู่สองครั้ง แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เหี้ยแม่ง! เป็นไปไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะหักหลังอีกแล้ว! พวกเราต้องรีบลงมือแล้ว!”
เฉินเหมิงเลี่ยงกำหมัดแน่น พร้อมทั้งหันไปทางจ้าวซิงที่เป็นหัวหน้าห้องที่กำลังยืนบื้ออยู่
“ทำได้นี่ อาจารย์ฉิน เรื่องยากแสนเข็ญขนาดนี้คุณยังแก้ปัญหาได้สำเร็จ คุณช่วยเหลืออนาคตชีวิตคนคนหนึ่งเอาไว้ได้” มีอาจารย์ท่านหนึ่งออกปากชื่นชม พร้อมทั้งอวยพรให้ฉินหลั่ง
“จริงด้วย อาจารย์ฉิน พวกเรายังคิดว่าคุณว่าเป็นวัยรุ่นใจร้อนคิดอะไรไม่รอบคอบ ความจริงแล้วคงไม่เข้าใจเรื่องงานด้านสอนเลย ตอนนี้มองเห็นแล้วว่า ช่างน่าชมจากใจจริงๆ ต้องชื่นชมเลยนะ!” อาจารย์อีกคนเดินขึ้นมาหาทางด้านหน้า พร้อมทั้งชื่นชมไม่หยุดปาก
พลันเห็นว่าจูจี้เหวินกับหลิวซูเซิงเดินลิ่วหนีไป ไม่พูดอะไรเลย แถมสีหน้ายังดำคร่ำเครียดอีกต่างหาก
“ทำให้คุณผิดหวังแล้ว คณบดีจู” ฉินหลั่งพูด
“หึ อย่าเพิ่งได้ใจ!” จูจี้เหวินพยายามเปล่งคำพูดออกมาจากใบหน้าที่บวมฉึ่ง จากนั้นก็รีบเดินหายไป
อารมณ์ของฉินหลั่งดีมาก การเป็นครูสอนหนังสือ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวเลย
ทว่าเวลานี้เองมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ห้องหกเกิดเรื่องอีกแล้วเหรอ
ที่แท้ก็เฉินเหมิงเลี่ยงทำตัวกร่างอีกแล้ว เขาด่าอาจารย์ที่มาสอนแทนในวิชาภาษาอังกฤษ จากนั้นก็ต่อยอาจารย์จนหัวแตกเลือดไหลนอง พอก่อเรื่องแล้วก็ทำว่าไม่มีเรื่องเกิดขึ้น
ตอนนี้ในห้องเรียนเหมือนทำเรื่องผิดพลาดมายาวนานแล้ว
รอเวลาจนฉินหลั่งไปถึงห้องหก จูจี้เหวินก็มาถึงแล้ว นี่เป็นโอกาสของฉินหลั่ง เขาก็ต้องมา โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ห้องหกก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น เวลานั้นเขาได้แต่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“นายอยากจะทำอะไร?” ฉินหลั่งเดินมายังด้านหน้าของเฉินเหมิงเลี่ยงพร้อมทั้งพูดด้วยเสียงแข็ง
“ทำไร? เล่นสนุกไง” เฉินเหมิงเลี่ยงตีหน้าทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจสิ่งใดสักนิด
“นายรู้สึกว่าการที่ทำเช่นนี้จะเป็นการยั่วยุฉันงั้นสิ” ฉินหลั่งพูด
“ใช่แล้วจะยังไง? ตอนนี้คุณก็น่าจะรู้แล้ว ห้อง6/6ใครเป็นคนพูดแล้วเป็นไปตามนั้น! ถึงแกจะเก่งกาจขนาดไหน แกก็ต้องเชื่อฟังฉันให้ดี จะไปทำอะไรก็ไปทำ!” เฉินเหมิงเลี่ยงเป็นคนที่ “กวนตีน” สุดๆ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset