รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 453 กับดักรอบทิศทาง

บทที่ 453 กับดักรอบทิศทาง
พอพูดจบ ก็มีเงาร่างหนึ่งโผล่มาตรงโคมไฟด้านหน้า ร่างนั้นหมุนมีดบินในมือพลางยิ้มน้อยๆว่า: “คุณฉินดูจะเดาได้ว่าพวกเราจะมานะ”
“พวกนายคิดจะทำอะไร?” ฉินหลั่งยักไหล่ถาม:
“พวกนายรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
เงาร่างนั่นสะท้านเดินไปที่เงามืด เป็นชายหนุ่มร่างสูงอายุยี่สิบกว่าปี มีดบินในมือหมุนติ้วรอบนิ้วประหนึ่งเส้นสีเงิน
“คุณฉิน เป้าหมายที่ผมมาวันนี้เพื่อฆ่าคุณ คุณได้ยินชัดหรือยัง?”
“เหอะเหอะเหอะ นายนี่ชัดเจนดีนะ” ฉินหลั่งยิ้มหยัน: “ดูท่าจะไม่ได้มาแค่นายคนเดียวล่ะสิ”
ชายหนุ่มไม่ตอบ รอบด้านเงียบสงัด ไม่มีเสียงใครตอบ
แต่ภายใต้ประสาทหูดีของฉินหลั่ง เขารับรู้ได้ว่าในแหวกไม้รอบข้างอย่างน้อยมีคนซุ่มอยู่สิบกว่าคนหายใจอย่างแผ่วเบา
“ฮะฮะ ฉินหลั่ง ได้ยินว่านายฆ่าทหารไปเจ็ดคนที่เฟิงโจว ดูท่าจะฝีมือไม่เลวเลยนี่” มีเสียงหัวเราะยาวดังมา จากนั้นก็เห็นเงาร่างหลายร่างเดินออกมาจากข้างทาง
คนนำหน้าดูอายุสี่สิบกว่าปี ที่เหลืออีกสองคนเป็นชายร่างใหญ่
“คุณฉิน คนที่มาไม่หวังดี จะแจ้งความไหมคะ?” หลี่เสี่ยนมองอย่างระแวง เดิมวันนี้เธอไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย บนร่างเธอยังใส่ชุดกี่เพ้าที่อวดเรือนร่างเย้ายวน แถมยังใส่รองเท้าส้นสูง เธอกำหมัดแน่นทางกลางสายลมเย็น
ตอนนี้จางต้าไห่สร่างเมาแล้ว เขาขมวดคิ้วว่า: “พวกแกเป็นใคร ในเมื่อรู้ถึงความเก่งของปรมาจารย์ฉิน งั้นก็หลีกทางไปโดยดี ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกแกจะมาเหิมเกริมได้ ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นมารับเรื่องเองด้วย!”
“ฮะฮะฮะ!”
คนหลายคนพวกนั้นหัวเราะร่าขึ้นมาทันที ผู้ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าโพกผ้าสีแดงไว้ที่หัว เขาหัวเราะพลางส่ายหน้าว่า:
“จางต้าไห่ นายคิดว่าพวกเราจะลงมือโดยไม่สืบให้ดีก่อนหรือไง ใช่ นายกับพันเอกหลี่เสียนเป็นตัวแทนประเทศ แต่ฆ่าพวกนายไปแล้วยังไงล่ะ? ตระกูลเสี้ยงของเราบ่ยั่นอยู่แล้ว”
หลี่เสี่ยนได้ยินอย่างนั้น สีหน้าซีดเผือดทันที
คนพวกนี้เจ้าเล่ห์เพทุบาย วางกับดักไว้ระหว่างทาง ที่แท้เป็นเจ้าตระกูลเสี้ยงชื่อดังนั่นสั่งการนี่เอง มิน่าถึงไม่เกรงกลัวอะไรเลย
“อ้อ ศิษย์ลูกศิษย์หลานของตระกูลเสี้ยงมาแล้วนี่เอง พวกนายก็ไม่คิดดูเลย แม้แต่เสี้ยงเฟยหลงยังเอาชนะฉันไม่ได้ พวกนายจะทำอะไรได้? มาฆ่าฟันกลางดึกแบบนี้ทำไมเนี่ย”
ฉินหลั่งถอนหายใจแผ่วเบา
“ฉันจะให้โอกาสพวกนายหนึ่งครั้ง ถอยไปตอนนี้ยังทัน ไม่งั้นอีกเดี๋ยวพวกนายทุกคนต้องเสียใจแน่” ฉินหลั่งพูด
“เหอะ ผมเสี้ยงหย่ง เป็นลูกหลานสายตรงตระกูลเสี้ยง ท่านเสี้ยงคุณปู่ผมอายุมากแล้ว บวกกับได้รับบาดเจ็บอยู่เลยโดนคุณหักขาไป วันนี้พวกเราโจมตีพร้อมกัน ไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะหนีรอดไปได้” ชายหนุ่มตัวหัวหน้าแค่นเสียงเย็น
“นี่ถึงจะเป็นกฎของวงการต่อสู้ คุณอ่อนแอกว่าผม คุณมีคนน้อยกว่าผม ผมฆ่าคุณก็เป็นเรื่องธรรมดา ตระกูลเสี้ยงของเราไม่เคยถือสากฎอยู่แล้ว”
“อ้อ? ดังนั้นเรื่องนัดประลองอะไรนั่นก็เป็นแค่อุบายอย่างหนึ่งล่ะสิ พวกนายคิดอยู่ก่อนแล้วว่าจะซุ่มโจมตีฉันใช่ไหม? น่ารังเกียจซะจริง” ฉินหลั่งยิ้มเย็น
“ใช่ ไอ้หนู ถ้าแกยอมตัดขาตัวเองโดยดี แล้วไปคุกเข่าหน้าตระกูลเสี้ยงติดต่อกันสิบวัน…พวกเราจะยอมละเว้นชีวิตแกละกัน ถ้าไม่เชื่อฟังกัน แหะๆ…” ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีคนนั้นส่ายหัวพูด
“จะพล่ามเสียเวลาอะไรกับมัน รุมเลย ปล่อยเนิ่นนานไปจะเกิดปัญหานะ” ชายร่างใหญ่หนึ่งในนั้นขมวดคิ้วพูด
ชายร่างใหญ่มองหลี่เสี่ยนด้วยสายตาโลมเลียไปทั่วร่าง ทำเอาหลี่เสี่ยนโกรธจนหน้าซีดขาวเพิ่มไปอีก “แล้วผู้หญิงคนนี้อีก ฉันจะพาไปด้วย นานๆจะได้เจอสาวเกรดดีแบบนี้สักที ต่อให้ต้องเป็นศัตรูกับแบ็คของหล่อน ฉันก็ยอมล่ะ”
ในสายตาพวกเขา จอมยุทธ์มากมายอย่างพวกเขา ต่อให้ฉินหลั่งเป็นเสมือนเทพมาเกิด ก็ยากที่จะรอดไปได้
ตอนนี้เอง ฉินหลั่งพลันพูดเสียงเย็นว่า: “จิตใจเลวร้ายประหนึ่งงูพิษ มันน่าควักหัวใจทิ้งซะ! เดิมฉันคิดว่าวงการต่อสู้อันกว้างใหญ่ จะสามารถคุยเรื่องกฎกับทุกคนได้ พูดจาด้วยเหตุผลกัน ไม่คิดว่า ฉันตะลุยไปเจ็ดย่านน้ำ สุดท้ายต้องมาอาศัยหมัดแก้ปัญหา!”
“เห็นได้ชัดว่ากำลังถือเป็นกฎหลักที่ใหญ่ที่สุดของโลกจริงๆ”
“ไอ้หนุ่ม แกพล่ามมากไปแล้ว” พวกเขาเริ่มบุกเข้ามา
มีดบินของเสี้ยงหย่ง ส่องประกายแสงสีเงินออกมา ชี้มาที่สองขาของฉินหลั่ง เห็นได้ชัดว่าอยากหักหนทางหนีรอดของเขาก่อน
“ติ๊ง!” มีดบินพุ่งไปหาฉินหลั่ง ทั้งๆที่เล็งเป้าไปที่ขาของฉินหลั่ง แต่กลับโดนสะท้อนกลับมาเหมือนพุ่งไปหาเหล็กกล้าก็ไม่ปาน
จางต้าไห่ตะคอกเสียงดัง พุ่งเข้ามาพร้อมกับหลี่เสี่ยน
“ถอยออกไป!” ฉินหลั่งตะคอกไม่พอใจที่พวกหลี่เสี่ยนเข้ามาแทรกด้วยสีหน้าสงบนิ่งท่ามกลางการห้อมล้อมของคนพวกนั้น
“นี่เป็นเรื่องของฉันเอง คงไม่รบกวนทั้งสองคน…” ฉินหลั่งตะคอกเสียงต่ำ ใช้สายตาบีบให้หลี่เสี่ยนและจางต้าไห่ถอยไป
“แย่ละ”
เสี้ยงหย่งเห็นดังนั้น เขาหรี่ตามอง
วิชามีดบินอันเลื่องชื่อนามว่าหลินหนานของเขา คือมีดที่เหมือนมีดปอกผลไม้ธรรมดาในมือเขา แต่กลับสามารถทะลุกำแพงได้โดยง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นมีดบินสีเงินของเขาสร้างขึ้นด้วยโลหะพิเศษ ในนั้นผสมแร่ธาตุหลายชนิดอาทิเช่นสังกะสี นิกเกิลเป็นต้นมาหลอมรวมกัน ต่อให้เป็นเหล็กแท่ง เสี้ยงหย่งก็มั่นใจว่าจะแทงทะลุได้
ตอนนี้กลับโดนสะบัดทิ้งเอาดื้อๆ ความสามารถที่แท้จริงของฉินหลั่งเหนือกว่าที่เขาคาดไว้ซะอีก
พอคิดอย่างนี้ เสี้ยงหย่งพลันกำลังใจหมดเอาดื้อๆ เขาค่อยๆถอยไปข้างหลังหลายก้าว
ส่วนลูกหลานตระกูลเสี้ยงคนอื่นกลับไม่สนใจเรื่องนี้ เห็นผู้ชายวัยกลางคนที่โพกผ้าสีแดงนั่นตะคอกว่า:
“เข้าไปพร้อมกันเลย! เสี้ยงเหมิ่ง รีบออกหมัดเลย!”
เสี้ยงเหมิ่งตะคอกเสียงดัง ออกหมัดประหนึ่งระเบิดปรมาณู สะเทือนฟ้าดินประหนึ่งเสียงฟ้าฟาด หนักเป็นหมื่นชั่ง พอออกหมัดเสร็จ ก็ตามด้วยเตะต่อ พอถึงกลางทาง ความแรงของหมัดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ประหนึ่งเตรียมขึ้นคันธนูนำพาความแรงของสายลม จนสุดท้ายกลับกลายมาเป็นเข็มแหลมทะลุหัวใจ ประหนึ่งมังกรพิษเข้าขย้ำควักหัวใจเลาะกระดูก
“หมัดนี้ฉันต้องทำร้ายเขาได้แน่” เสี้ยงเหมิ่งมั่นใจเต็มเปี่ยม
“พลั่ก!”
แต่เสี้ยงเหมิ่งไม่คิดเลยว่า หมัดเขาพุ่งเข้าหาหน้าอกของฉินหลั่ง แต่เหมือนปะทะเข้ากับกำแพงเหล็ก ไม่เพียงทำร้ายเขาไม่ได้ กระดูกมือของตัวเองกลับสะท้านจนเจ็บ
“เป็นไปได้ยังไง!”
เสี้ยงเหมิ่งตาเบิกโพลงด้วยความตะลึง
ส่วนฉินหลั่งตอนนี้สวนเขากลับมาหนึ่งหมัด
หมัดนี้ดูธรรมดา เหมือนหมัดที่คนธรรมดาชกเป็นปกติ
เสี้ยงเหมิ่งหลบหลีกไม่ทัน เลยได้แต่เอนตัวหลบ
แต่แล้วครึ่งร่างกายกลับโดนหมัดฉินหลั่งเฉียดโดน เขาร้องโหยหวนออกมาทันที และยังลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร ก่อนจะตกลงพื้น หน้าอกด้านซ้ายยุบลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก หัวใจโดนขย้ำจนแหละละเอียดเหมือนฟองสบู่
“ร้ายกาจมาก!”
พอคนอื่นเห็นอย่างนั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปตามๆกัน
“รีบหลบเร็ว”
ผู้ชายวัยกลางคนที่โพกหัวด้วยผ้าสีแดงรีบบอก
ชายร่างใหญ่ที่เมื่อกี้เสียมารยาทกับหลี่เสี่ยนสะดุ้ง เขาพบว่าฉินหลั่งเริ่มพุ่งมาหาเขาแล้ว
เขารู้สึกเหมือนไฟลนไปทั่วร่าง หัวใจกระตุกอย่างแรง อัพพลังทั่วร่างจนถึงระดับสูงสุด ลงพลังทีเดียวทะยานถอยออกไปทันที ในตอนที่เขากระโดดออกไปได้ครึ่งเมตร ฉินหลั่งก็กระทืบเท้าลงทันที
“บรึ้ม!”
ตรงจุดเดิมที่เขายืนอยู่โดนเท้าฉินหลั่งเหยียบจนเป็นหลุมใหญ่มาก ท่อน้ำและพื้นดินแตกกระจายลอยไปทุกทิศ
ชายร่างใหญ่ชื่อเสี้ยงกาง ตอนนี้เขาตกใจจนเหงื่อแตกซิก ถ้าเขาโดนเท้านี้เหยียบ เขาจะโดนเหยียบจนเละเป็นโคลนไหมเนี่ย?
“อ๊า!”
ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง
ในตอนที่ชายวัยกลางคนโพกผ้าแดงกำลังตะลึง นอกจากอีกสามคนแล้ว จอมยุทธ์อีกสองคนโดนฉินหลั่งเล่นงานจนเหมือนผ้าขาด เขาจับทั้งคู่ยกขึ้นโยนทุบไปบนพื้น

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset