รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 46 มีความสามารถที่จะขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต

บทที่ 46 มีความสามารถที่จะขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต
“พี่สวี่ วันนี้ถือว่าคุณเห็นแก่ฉัน ก็แล้วกัน วันนี้ข้าวมือนี้ของพวกคุณถือว่าฉันเลี้ยง……” ผู้จัดการเองก็รู้ว่าจงยู่เป็นเด็กสาวที่ดี เลยทนไม่ได้ที่จะให้สวีกาวทำลายเธอ
“ปั้ก……” ผู้จัดการยังไม่ทันจะพูดจบ สวีกาวก็กำหมัดก่อนจะต่อยไปที่จมูกของผู้จัดการ
ผู้จัดการเอามือจับจมูกของตัวเองด้วยท่าทีตัวงอ จากนั้นเลือดกำเดาสีแดงสดก็ไหลออกมาจากจมูกผ่านซอกนิ้วของเขา
“แกฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องเหรอ?” สวีกาวจ้องไปที่ผู้จัดการก่อนจะพูดด้วยความกร่าง เขาเอามือล้วงกระเป๋า ก่อนจะก้มตัวลงมาเล็กน้อย : “ตอนนี้แกยังมีเรื่องอะไรจะพูดอีกไหม?”
“พี่สวี่ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นพนักงานในร้านของฉัน……” ผู้จัดการพูดด้วยความยากลำบาก
ในตอนนั้นเอง สวีกาวยกเท้าขวาขึ้น ก่อนจะเตะไปที่หัวของผู้จัดการ
ผู้จัดการเลยถูกเตะจนล้มลงกับพื้น ในปากนั้นมีฟันหักถึงสองซี่ ในปากและที่หัวนั้นเต็มไปด้วยเลือด
สวีกาวไม่คิดจะยั้งเลยแม้แต่น้อย เขายกเท้าขึ้นสูง ก่อนจะเตรียมเตะอีกครั้ง เข้าที่คางของผู้จัดการ สวีกาวเองก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
“พี่สวี่ ฉันปล่อย ฉันปล่อย……” ผู้จัดการพูดอย่างรีบร้อน เขาไม่สามารถทำให้ตัวเองบาดเจ็บมากขนาดนั้น เพื่อปกป้องจงยู่ได้
“หึๆ ถือว่ายังรู้อะไรเป็นอะไรดี!” สวีกาววางเท้าลง ก่อนจะยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
“ไปพาจงยู่ออกมา แล้วไปซักผ้าให้พี่สวี่ด้วย” ผู้จัดการยืนขึ้นมา ก่อนจะพูดกับพนักงานชายคนหนึ่ง
พนักงานกำลังจะเดินไปที่ห้องครัวพอดี ก็มีคนหนึ่งมาขวางทางเขา
ฉินหลั่งผลักพนักงานออกมาเบาๆ
“โอ้ย นี่ประสาทดีหรือเปล่าเนี่ย?” สวีกาวเห็นฉินหลั่ง เลยยิ้มหยอกล้อ ลิ่วล้อของเขาหลายคนก็พากันหัวเราะไปด้วย
“ดูคนโง่เง่าอย่างคุณสิ รีบวิ่งหนีไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ฉันจะไว้ชีวิตแกครั้งหนึ่ง!” สายตาของสวีกาวนั้นมองไปที่พนักงานอีกครั้ง: “คุณจะรออะไรอยู่อีก?รีบไปจับจงยู่มาให้ฉัน!”
แต่ฉินหลั่งก็ยังคงขวางทางพนักงานอยู่ดี
“คุณอยากจะรนหาที่ตายใช่ไหม?มานี่!” สวีกาวพูดกับฉินหลั่งด้วยความโกรธเคือง
ฉินหลั่งยิ้มให้เบาๆ ก่อนจะเดินมาหาสวีกาว เขายังถือไวน์จากโต๊ะด้านข้างกับแก้วไวน์ติดมือมาด้วย
“ไอโง่นี่มันพัฒนาขึ้นแล้วเหรอ เมื่อครู่ถูกพี่สวี่ขู่หน่อยก็หดแล้ว ตอนนี้กลับกล้าเดินเข้ามาด้วย”
“อย่ามาพูดว่าคนอื่นโง่นะ คุณไม่เห็นหรือไง ว่าเขาเตรียมจะชนแก้วให้กับพี่สวี่นะ คุณดูสิว่าเขาหัวไวเข้าใจโลกมากแค่ไหน”
“จะมาชนแก้วเพื่อเคารพนั้นคงจะลดการโดนต่อยไปได้เพียงแค่สองสามครั้งเท่านั้นล่ะ แค่แรงมือของพี่สวี่ ถ้าตบลงไปที่หัวล่ะก็ ถึงจะไม่ใช่ไอโง่ ก็กลายเป็นไอ้งั่งได้เลยล่ะจริงไหมล่ะ พี่สวี่?”
สวีกาวถูกลิ่วล้ออวยจนตัวแทบลอย ในตอนนั้นเองเขามองฉินหลั่งโดยที่ไม่ได้โกรธเคืองเหมือนแต่ก่อนแล้ว เมื่อฉินหลั่งชนแก้วกับเขา จากนั้นก็ตบต่อยเขาสักสองทีเข้าที่กกหู ค่อยเอาเขาเข้ามาเป็นลูกน้องของตัวเอง เพราะการที่มีคนโง่แบบนี้อยู่ในกำมือมันก็ไม่ได้แย่นัก……
ตอนที่สวีกาวจินตนาการเอาไว้อย่างสวยงาม ฉินหลั่งก็เดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แถมยังเทไวน์เต็มแก้วอีกด้วย
“คนโง่ก็คือคนโง่ คุณเทเต็มแก้วขนาดนั้น จะให้ฉันดื่มมันอย่างไรล่ะ?” สวีกาวพูดก่อนจะรับไวน์มาจากมือของฉินหลั่ง แต่ว่ามือของเขานั้นไม่ได้จับโดนแก้ว เขาเห็นเพียงแค่น้ำสีม่วงแดงเต็มหน้า
ไวน์เต็มแก้วนั้นถูกฉินหลั่งสาดเข้าที่หน้าของสวีกาว ไวน์เข้าตา จมูกของเขา มันแสบมากจนเขารู้สึกแย่ จนเขาต้องงอตัวลงอย่างควบคุมไม่ได้
“โอ๊ย” สวีกาวใช้มือเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยเหล้า เขาอยากจะลืมตา แต่มันแสบจนเขาลืมตาไม่ขึ้น เขาทำได้เพียงหรี่ตา: “อยากตายมากใช่ไหม……”
เขายังไม่ทันพูดจบ หัวใจก็ต้องเต้นแรงอีกครั้ง แววตาที่มองได้ไม่ชัดของเขานั้น มีเงาดำมืดที่พุ่งเข้ามาหา เขายังไม่ทันจะรู้ตัวสักเท่าไหร่ สวีกาวเพียงแค่รู้สึกว่าบนหน้าผากนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันก็มีเสียง “เพล้ง” จากนั้นก็มีไวน์ไหลลงมาจากหัวของเขามากกว่าเดิม แต่มันมีเศษแก้วปนอยู่ด้วย
“โอ๊ย……” สวีกาวร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลวงบนพื้น เขาใช้มือเช็ดหน้าผาก เมื่อมองไปทางด้านหน้า ก็มีแต่สีแดงสดเต็มไปหมด
ในตอนนี้มือของฉินหลั่งยังถือขวดเหล้าที่เหลืออยู่ครึ่งขวด ที่พื้นก็มีเศษขวดที่หล่นอยู่ที่พื้นอีกด้วย
“พวกแกยืนอึ้งอะไรกันอยู่?จัดการเขาเดี๋ยวนี้!” สวีกาวพูดกับลูกน้องของตัวเองด้วยความโกรธเคือง จากนั้นลูกน้องหลายคนก็มองสวีกาว ก่อนจะมีท่าทีลำบากใจ พลางคุยซุบซิบกันไม่ยอมทำอะไรสักที
เมื่อครู่ท่าทีที่ฉินหลั่งทำอย่างเหนือความคาดหมาย เลยทำให้คนในสถานที่นี้ตกใจกันหมด ในตอนนั้นเองพวกเขายังไม่ทันจะอ่อนมือลง ใจของทุกๆ คนนั้นเริ่มจะเคารพฉินหลั่งทั้งหมดแล้ว แม้แต่ลมหายใจยังไม่กล้าจะพ่นออกมาเลย
“เพี๊ยะ”
ฉินหลั่งปล่อยขวดไวน์แดงที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งลงพื้น ก่อนจะทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ทุกคนต่างตกใจ
ฉินหลั่งยิ้มด้วยความเยือกเย็น ก่อนจะค่อยๆ เดินไปทางสวีกาว สวีกาวตกใจจนแทบตาย เขาขยับแขนไปด้านหลัง โดยที่ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองต่อหน้าลูกน้องแล้ว
“ฉันล่ะแปลกใจจริงๆ เลย คนอย่างคุณเป็นถึงลูกพี่ได้อย่างไรเนี่ย?” ฉินหลั่งใช้เท้าเหยียบหน้าของสวีกาว ก่อนจะมองเขาพลางพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า: “หลังจากนี้ถ้าฉันยังเจอคุณ จะลับมีดให้คมๆ เอาไว้ ตีนคู่นี้ของคุณฉันจองไว้นะ”
ฉินหลั่งบดขยี้บนหน้าของสวีกาว เมื่อสั่งสอนเขาแล้ว ก็เตรียมจะปล่อยเขาไป
“น้อง แม้ว่าฉันแพ้แล้วแต่ฉันอยากรู้ว่าคนที่เอาชนะฉันชื่ออะไร ” ฉินหลั่งเพิ่งจะเดินไปได้เพียงสองก้าว สวีกาวก็พูดขึ้น ฉินหลั่งหันหลังกลับมา เห็นเพียงแต่สวีกาวที่นั่งอยู่ที่พื้นมองตัวเองด้วยความ “เคารพ” เขากวาดสายตามองลูกน้องของสวีกาว ก็พบว่าสีหน้าของพวกเขามันมีความเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่
ฉินหลั่งหัวเราะด้วยความยินดี
“คุณยังไม่ซื่อสัตย์ใช่ไหมล่ะ?” ฉินหลั่งมองหน้าตาของคนพวกนั้น แล้วก็เดาสิ่งที่สวีกาวจะสื่อออก ว่าพยายามจะหาข้อมูลเบื้องลึกของตัวเองก่อน จากนั้นก็ค่อยรอหาคนมาทำร้าย ฉินหลั่งถอนหายใจ แต่เขาคิดตื้นเกินไป ถ้าเกิดว่าไม่จัดการสวีกาวให้กำราบ ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่จงยู่กับร้านนี้อาจจะเจอหายนะอีกมากภายหลัง
ถ้าอยากจะเล่นสนุก ฉันก็จะเล่นด้วย
“ฉันชื่อฉินหลั่ง เป็นนักเรียนจากมหาวิทยาลัยจีนหลิง ทำไมเหรอ?” ฉินหลั่งพูดด้วยความสบายใจ ในแววตามีความเหยียดหยามอยู่ไม่น้อย
“เฮ้ย ฉันก็คิดว่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่มันน่าเกรงขามเสียอีก เป็นแค่นักเรียน คุณกล้ามาหาเรื่องฉันเหรอ!” ในตอนแรกสวีกาวว่าจะแกล้งทำเป็นอ่อนลง จากนั้นก็เอาข้อมูลของฉินหลั่งออกมา คิดไม่ถึงเลยว่าจะรู้ได้ง่ายขนาดนี้ เมื่อได้ฟังว่าฉินหลั่งเป็นแค่นักเรียน แล้วเขายังจะไปแกล้งทำเป็นอ่อนแออีกทำไมล่ะ?
“ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดแล้ว รองเท้าของฉันคงจะทนไม่ไหวจนต้องไปประทับบนหน้าของคุณอีกน่ะ” ฉินหลั่งพูดด้วยความขำขันเบาๆ
“เก่งมากนักก็เข้ามาเลยสิ?ทำร้ายฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำคืนมากเป็นเท่าตัวเลยล่ะ ถ้าวันนี้ไม่ได้ถลกหนังแก ดูสิว่าแกจะได้ออกจากที่นี่ไหม!” ใบหน้าของสวีกาวนั้นเป็นไปด้วยเลือด แต่ท่าทีที่เขายิ้มอย่างร้ายกาจออกมานั้นดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน
เขามองลูกน้องของตัวเอง: “ฉันจะโทรหาท่านเสิ่นตอนนี้เลย ให้เขาจัดนักเลงตัวเก่งๆ มา!”
เมื่อได้ยินว่าสวีกาวยังรู้จักกับท่านเสิ่น คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตรงนั้นต่างถอนหายใจกันเบาๆ พลางเห็นแววตาของฉินหลั่งที่ดูเป็นกังวล
“ใครนะ?ท่านเสิ่นเหรอ?” ทำไมฉินหลั่งถึงรู้สึกว่าชื่อนี้มันคุ้นหูเสียจริง
“พ่อหนุ่ม ท่านเสิ่นก็คือเจ้าของของBerkeley Hotelชื่อเสิ่นวั่นเชียนไงล่ะ คำพูดของท่านเสิ่นนั้นยังมีประโยชน์กว่าตำรวจอีก”
“หรือไม่คุณก็ไปขอร้องพี่สวี่เถอะ ถ้ารอให้มือดีของท่านเสิ่นมา คงจะโดนหนักมากเลยนะ คุณแจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์”
……
คนรอบๆ บอกฉินหลั่งเสียงเบาๆ
เมื่อได้ยินว่าท่านเสิ่นก็คือเสิ่นวั่นเชียน ในใจฉินหลั่งอยากจะขำให้ฟันหลุด
“ไอโง่ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วใช่ไหม?ถ้ากล้ามาแตะต้องฉัน แล้วก็ไม่ดูตัวเองหน่อยเลย……” สวีกาวคิดว่าฉินหลั่งได้ยินคำพูดอื่นๆ แล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องสั่นกลัว: “คุกเข่าลงตอนนี้ เอาหัวโขก300ครั้ง แล้วก็ร้อง300ครั้ง ‘ปู่ หลานผิดไปแล้ว’ สุดท้ายก็ให้เลียพื้นให้สะอาดด้วย ฉันถึงจะคิดดูว่าจะปล่อยไปดีไหม”
“เมื่อครู่ฉันเตือนให้คุณต้องรักษาความสะอาดปากสักหน่อย” เมื่อพูดไป ฉินหลั่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสวีกาว ก่อนจะเตะเข้าไปที่ปากของสวีกาวเหมือนกับเตะฟุตบอล
“คุณ……” สวีกาวถูกฉินหลั่งเตะเข้าไปจนแทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่: “ฉันจะโทรหาท่านเสิ่นเดี๋ยวนี้ ฝากไว้ก่อน……”
ฉินหลั่งกอดแขนของตัวเอง มองสวีกาวด้วยท่าทีรอคอยเพื่อที่จะดูอะไรสนุกๆ
โทรติดแล้ว สวีกาวเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาทั้งๆ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
“ท่านเสิ่น ฉันคือสวีกาวเองนะ ไม่ใช่สวีห้าวที่เปิดร้านของเล่นผู้ใหญ่นะ… สวีห้าวที่ขายรถน่ะ ฉันสวีกาวเอง ไม่ใช่สวีห้าว ใช่ สวี เกา คุณลืมไปแล้วเหรอ คืนเมื่อครึ่งเดือนก่อน ฉันเอากระเป๋าหนังไปให้ท่านที่นั่นไง……” ใช้เวลานานมาก กว่าสวีกาวจะทำให้เสิ่นวั่นเชียนนึกออกได้ว่าเขาคือใคร
“วันนี้จะโทรมารบกวนคุณสักหน่อย ฉันเจอเรื่องลำบากใจนิดหน่อย หวังว่าคุณจะพาคนมาสักสองคนมาช่วยฉันสักหน่อย…นี่ใครกันน่ะ?” ช่วงนี้สวีกาวส่งเงินให้กับเสิ่นวั่นเชียนเป็นจำนวนหนึ่ง ถึงได้พึ่งใบบุญของเขา ถ้าเกิดว่าเขาไปมีปัญหากับคนใหญ่คนโต เสิ่นวั่นเชียนจะต้องไม่ช่วยเขาแน่นอน แต่ว่าครั้งนี้…… สวีกาวปรายตามองฉินหลั่งครู่หนึ่ง ในแววตานั้นมีความเย้ยหยันซ่อนอยู่มันมีคำว่า: “ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ก็เป็นแค่นักเรียนของมหาวิทยาลัยจีนหลิง ที่ชื่อฉินหลั่ง”
ฉินหลั่งมองสวีกาวด้วยความสบายอารมณ์ เมื่อได้ยินสวีกาวบอกชื่อของตัวเองไป มันก็เป็นไปตามที่เขาจินตนาการเอาไว้เมื่อสักครู่ ในตอนนั้นเองเขาอดไม่ได้ที่จะขำพรืดออกมา “คุณยังจะมายิ้มอีก!เดี๋ยวอีกไม่นานก็ต้องมาเลียรองเท้าฉันให้สะอาดแล้ว” สวีกาวมองฉินหลั่งพลางยิ้มด้วยความเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้น ด้วยท่าทีเหมือนกับคนกระจอกที่หลงระเริงในอำนาจ
ในตอนนั้นเองที่สวีกาวกำลังภูมิอกภูมิใจจนลืมตัว ก็มีเสียงดุดันดังขึ้นจากโทรศัพท์: “คุณกำลังทำร้ายคุณชายใหญ่อยู่นะ!ไอ้เลวเอ้ย รนหาที่ตายไหม……”
หูของสวีกาวสั่นสะเทือนจนเจ็บขึ้นมา แต่ใจนั้นเต้นรัวกว่า เหมือนกับตกใจจนแทบตาย
“ท่านเสิ่น…ทำไมมันถึง……” ในหัวของสวีกาวนั้นสับสนไปหมด ในใจของเขารู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนยืนอยู่บนหน้าผาสูงชัน
ในตอนนั้นเอง ฉินหลั่งดึงโทรศัพท์มาจากมือเขาด้วยความสบายอารมณ์
“อา…” สวีกาวมองฉินหลั่งด้วยความอึ้ง โดยที่ไม่รู้จะพูดอะไร
“คุณเสิ่น คุณวางใจเถอะ ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน” ฉินหลั่งพูดเบาๆ ผ่านโทรศัพท์ แต่ใจของเสิ่นวั่นเชียนนั้นกลับรู้สึกกังวล
“เมื่อครู่สวีกาวเพิ่งจะเสนออะไรมาบางอย่าง ฉันคิดว่ามันเข้าท่าดี ให้เขาลองทำดูก็ดีเหมือนกัน” แววตาของฉินหลั่งนั้นหันไปทางสวีกาว สวีกาวยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ เขาสั่นไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ แววตาของหนุ่มคนนี้มันเฉียบแหลม จนหนาวเหน็บไปเลย
“เขาบอกให้คุกเข่าลง เอาหัวโขก300ครั้ง แล้วเรียก300ครั้ง ‘ปู่ หลานผิดไปแล้ว’ สุดท้ายก็ให้เลียพื้นให้สะอาด วิธีนี้เหมาะกับเขาดี……” ฉินหลั่งพูดคำพูดที่สวีกาวเพิ่งจะพูดไปอีกครั้ง
“คุณ ท่านเสิ่นอยากจะคุยกับคุณ…” ฉินหลั่งเอาโทรศัพท์ให้สวีกาวเหมือนกับให้ขอทาน
สวีกาวรับโทรศัพท์มาฟังด้วยความสั่นเกรงในใจ: “ฮัลโหล ท่านเสิ่น……”
จากนั้น เสิ่นวั่นเชียนก็พูดมาประโยคหนึ่ง จนใจของสวีกาวนั้นตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับจิตวิญญาณหลุดลอยไปแล้ว เมื่อเสิ่นวั่นเชียนพูดจบ สวีกาวรู้สึกว่าวิญญาณของตัวเองหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เขาหันมาทางฉินหลั่งช้าๆ หางตาสั่นเกรง ปากเองก็สั่นไหว ขาทั้งสองข้างก็สั่นด้วยเช่นกัน เขาขาอ่อน จนลงไปนั่งคุกเข่ายู่ที่พื้น เหมือนกับทาสรับใช้: “คุณชายฉิน ขอโทษ ฉันสมควรตาย ฉันทำผิดกับคุณไปแล้ว ฉันมันโง่เอง มีตาหามีแววไม่ ขอให้คุณยกโทษให้คนโง่เขลาอย่างฉันด้วย……”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset