รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 488 สุสานลึกลับ

บทที่ 488 สุสานลึกลับ
“ถ้าพวกสำนักหมอผียึดอำนาจการพูดจากวงการแพทย์ของจีนไป งั้นพวกเขาก็จะได้เงินมากมาย และยังรวบรวมยีนของพวกเราชาวจีนไว้ได้มากมาย และนำไปวิจัย”
“รอประเทศจีนกับญี่ปุ่นมีการปะทะอะไรกัน ประโยชน์ของสำนักหมอผีก็จะปรากฏออกมาเอง พวกเขาตั้งใจต่อต้านพวกเราชาวจีนและวิเคราะห์ยาออกมาละก็ ก็จะทำลายร่างกายของพวกเราอย่างหนัก ถึงตอนนั้นพวกเราชาวจีนได้ตายกันหมดแน่”
“และภายนอก ดูเหมือนกับองค์กรการแพทย์ที่ช่วยชีวิตคนอื่น มาเพื่อสื่อสารและพัฒนาความสัมพันธ์กับเรา หารู้ไหมว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาก็จะเผยสีหน้าที่บิดเบี้ยวออกมา และเทงครั้งหลังหรือคอยกันท่าพวกเรา”
เหลิ่งเชียนชีวพูดแบบนี้แล้ว ทุกคนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ อีกฝ่ายดูแข็งแกร่งมาก คงต้องเตรียมตัวอย่างดีจริงๆ
เหลิ่งเชียนชีวต่อยหมัดง่ายและดิบเถื่อน แต่ความคิดกลับไม่ธรรมดา สามารถพูดความอันตรายของอีกฝ่ายได้ บอกได้ว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญและชาญฉลาด ไม่ใช่นักต่อสู้ที่เป็นแต่ฆ่าคน
“แต่เพราะต้องวิเคราะห์เรื่องอื่นๆ ในตอนที่ยังไม่มีหลักฐานใดๆ พวกเราจึงไม่สามารถทำอะไรกับองค์กรทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้ การกระทำของสำนักหมอผีนั้นค่อนข้างเป็นความลับ พวกเราทำได้เพียงรอโอกาสนี้อย่างลับๆ” เหลิ่งเชียนชีวพูดขึ้น
“ดังนั้นตอนนี้พวกเราจึงได้ทำตามอำเภอใจ นำความลำบากมาให้กับประเทศจีนมากมาย”
“แต่พวกเขามาแอบอยู่ข้างฉันกะทันหัน ไม่รู้ว่าหมายความยังไง เรื่องนี้ฉันยังคิดไม่ออก เดี๋ยวค่อยสืบทีหลัง”
“คุณเหลิ่ง ที่จริงไม่ต้องสืบแล้ว ผมเดาออก” ฉินหลั่งพูดแทรกขึ้นมา
“หื้ม?” เหลิ่งเชียนชีวอึ้ง
“ใช่ ตอนนี้สำนักหมอผีจับตามองคุณอยู่ เป้าหมายก็เพื่อควบคุมเหลิ่งชุนอวี่ เพื่อจะได้ควบคุมคุณในครั้งต่อไป พูดตามตรงก็คือ พวกเขาอยากหลอกใช้คุณเป็นหมากของพวกเขา และลูกสาวของคุณก็เป็นตัวเลือกแรกที่พวกเขาต้องควบคุมให้ได้ก่อน”
“ชีวิตของเหลิ่งชุนอวี่ อยู่ในกำมือของพวกเขา ขอแค่คุณฟังสำนักหมอผี ชุนอวี่ก็จะปลอดภัย จากนั้นพวกเขาค่อยให้ยาสูตรลับเฉพาะที่พวกสำนักหมอผีทำขึ้นมา ถึงตอนนั้นคุณก็อาจจะถูกพวกเขาดึงลงน้ำไปได้” ฉินหลั่งพูดอย่างเรียบเฉย
เหลิ่งเชียนชีวคิดตามที่ฉินหลั่งพูด ต่อมาก็เบิกตากว้าง พูดเสียงเข้มว่า“หมาป่าร้ายที่คลุมหนังแกะ!”
“ใช่แล้ว คุณฉิน เมื่อกี้คุณบอกว่าสามารถช่วยลูกสาวให้ฟื้นได้ เป็นเรื่องจริงไหมครับ?” พูดแล้วสายตาของเหลิ่งเชียนชีวก็ดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินหลั่งพยักหน้า“ได้อยู่แล้ว แต่ว่าผมอยากจะรู้ว่าสุสานครึ่งปีก่อนที่ชุนอวี่ผ่านแตกต่างกับที่อื่นยังไง และที่อยู่สุสานอยู่ไหน ต้องบอกผมมาก่อนครับ”
เหลิ่งเชียนชีวยังคงไม่เข้าใจ“ที่อยู่? ตำแหน่งที่แตกต่างของสุสาน?”
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาการของชุนอวี่จริงๆเหรอ?”
ฉินหลั่งก็เริ่มไม่พอใจเหลิ่งเชียนชีวขึ้นมาแล้ว หัวเราะพูดว่า“ที่จริงเหลิ่งชุนอวี่ไม่ได้ป่วยหนักอะไร เธอแค่ถูกพลังหยินพัวพันเท่านั้น จึงทำให้ร่างกายทำงานไม่เป็นปกติ”
“หื้ม? เป็นยังไงครับ? คุณฉินอธิบายชัดเจนกว่านี้ได้ไหม” เหลิ่งเชียนชีวรีบพูด เขายิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ
“พลังหยินที่สุสานนั้นรุนแรงเกินไป และเหลิ่งชุนอวี่ก็เป็นคนที่แพ้ง่าย ดังนั้นหลังจากที่ผ่านสุสานวันนั้น จิตก็กระจัดกระจายออกไป มีจิตหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่นั่น”
“วิญญาณของคนมีครบทั้งหมด ต่างก็ควบคุมร่างกายส่วนต่างๆของคน และจิตหนึ่งของเหลิ่งชุนอวี่ก็หลุดออกไป บังเอิญควบคุมสติของเธอพอดี ถ้าเสียสติไป เธอก็จะเหม่อลอย และยังสามารถกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ในที่สุด”
“พลังหยินของสุสานดูดจิตหนึ่งของชุนอวี่ไป”
ฉินหลั่งทำหน้าเรียบเฉย พูดเรื่องราวทั้งหมดออกไป แต่เหลิ่งเชียนชีวก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ“นี่……นี่มันเรื่องจริงเหรอ? รู้สึกเลยเถิดไปมากเลยนะ ฉันได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลย”
ตอนนี้จางหลีเย่วถูกนำตัวออกไป เหลิ่งเชียนชีวกลายเป็นคนที่สงสัยในตัวฉินหลั่งแทน
นี่คือภูตผีหญิงสาวเหรอ? นี่มันปีไหนแล้ว ทฤษฎีบรรพบุรุษเหล่านี้ควรได้รับการพิจารณาใหม่แล้วล่ะ
เหลิ่งเชียนชีวเป็นพวกที่ชอบใช้ความรุนแรง ตอนนี้อยากจะชกฉินหลั่งกระเด็นออกไปข้างนอกจริงๆ
จงยู่ยิ้มและพูดข้างๆว่า“คุณอาเหลิ่ง เสี่ยวหลั่งพูดจริงหรือไม่ พวกเราไปดูที่สุสานด้วยกันก็รู้แล้ว ใช้ความจริงและหลักฐานดีกว่า ว่าไหมคะ?”
จงยู่เชื่อใจฉินหลั่งอยู่แล้ว ฉินหลั่งพูดแบบนี้ ก็ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
เหลิ่งเชียนชีวเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ได้ยินจงยู่พูดแบบนี้ ก็รีบหันไปตะโกนว่า“รีบเตรียมรถ!”
ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่างขึ้น จงยู่ฉินหลั่งและเหลิ่งเชียนชีวนั่งรถคาดิลแลคมา รีบขับไปสถานที่หนึ่งของเจียงเป่ย พวกบอดี้การ์ดก็ขับรถออฟโรดเปิดทางด้านหน้าให้
ด้านหลังเหลิ่งชุนอวี่นอนอยู่ในรถพยาบาล ตามรถคาดิลแลคไป
เจียงเป่ยไม่ไกลจากเมืองเย็นจีนมาก ประมาณแปดโมงเช้า รถก็ขับมาถึงข้างสุสานแล้ว
พอลงรถ ฉินหลั่งสังเกตเห็นเงาสีดำล้อมรอบอยู่ที่สุสาน และหน้าผากของเหลิ่งชุนอวี่ก็มีเงาสีดำล้อมตัวอยู่
เขาสวดให้ทุกคนที่ตามมาด้วย ไม่ได้สวดให้เขาและเหลิ่งเชียนชีว เขาก็ถามอย่างสงสัยว่า“คุณเมื่อกี้คุณสวดอะไรน่ะ? ทำไมไม่สวดให้ผม?”
“พลังหยางบนตัวคุณมีมากพอแล้ว เป็นแบบดุดัน พลังหยินไม่สามารถเข้าใกล้คุณได้ ดังนั้น พวกเราก็ไม่ต้องป้องกันอะไร” ฉินหลั่งพูด
เหลิ่งเชียนชีวฟังแบบไม่รู้เรื่อง
ฉินหลั่งเดินเข้าสุสานไป เห็นเพียงสุสานนี้ผุพังมาก ดินของหลุมศพแต่ละหลุมก็เป็นดินแก่แล้ว ด้านบนมีหญ้าขึ้นอยู่เต็ม สัตว์ต่างๆขุดหลุมอยู่เต็ม
เขาเดินรอบๆ ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่หลุมฝังศพที่มีดินหนาอยู่ตรงกลางพูดว่า“ขุดตรงนี้ออก!”
เหลิ่งเชียนชีวกับคนที่เขาพามาก็อึ้งกันหมด“ขุดออกเหรอ?”
“คุณบอกว่าขุดหลุมศพเหรอ?”
“หลุมฝันศพของคนอื่น?”
เหลิ่งเชียนชีวหน้าตึงทันที พวกเขานั่งรถมาสามชั่วโมง ก็เพื่อขุดหลุมศพงั้นเหรอ?
ฉินหลั่งพยักหน้า ทำหน้าเข้มงวด
เหลิ่งเชียนชีวเห็นสีหน้าแบบนี้ ก็ปัดมือพูด“พวกนายมาตรงนี้ ขุดออก!” ไม่ลังเลเลยสักนิด
ลูกน้องของเขารีบวิ่งมา ไม่พูดอะไรก็เริ่มทำงานทันที ไม่นานก็ขุดหลุมนั้นเสร็จแล้ว
พูดตามตรง ในตอนที่ลูกน้องขุด เหลิ่งเชียนชีวกับคนอื่นๆก็เห็นว่าหลุมศพไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ดินที่ปิดด้านบนไม่ใช่ทรงกลม และไม่เหมือนชาวบ้านคนอื่นที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่เป็นทรงหกเหลี่ยม แตกต่างกับหลุมศพประเทศจีนอยู่มาก
ทุกคนคิดว่าดินของสุสานนี้อยู่มานานแล้ว ไม่ใช่หลุมฝังใหม่แน่ และพอขุดออกทุกคนก็ต้องอึ้ง โลงศพใหม่เอี่ยมเลย ไม่มีความเสียหายเลยเล็กน้อย
เปิดโลงออก ภาพด้านใน ทุกคนก็ต้องยิ่งตกใจ แปลกมากจริงๆ!
เห็นด้านในไม่มีกระดูกเลย แต่เป็นบทสวดแปลกๆด้านใน ตัวหนังสือในโลงไม่มีคนรู้จักเลย
“นั่นคืออะไรน่ะ?” จงยู่กรีดร้องเสียงดัง ไม่อยากมองอีกต่อไป กลับหลังหันขึ้นรถไปทันที

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset