รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 504 ราชินีที่เย็นชา

บทที่ 504 ราชินีที่เย็นชา
ทุกคนก็หันไปทางเสียงนั้น เห็นคนเคลื่อนตัวออกราวกับน้ำไหล
ผู้หญิงสวมชุดกี่เพ้าสีน้ำเงินรูปร่างสะสวย รีบเดินเข้ามา เธอรูปร่างสูง นับรวมกับรองเท้าส้นสูงไปด้วย น่าจะประมาณ180เซนติเมตร จ้องมองสถานการณ์ ทำให้ผู้หญิงคนอื่นๆ รู้สึกต่ำต้อยแล้วถอยหลังไป ดวงตาสวยๆ คู่นั้นมองมา ความเยือกเย็นและความเด็ดขาดภายในดวงตาทำให้คนมากมายต้องก้มหัว ราวกับเป็นจักรพรรดินีแห่งเมืองน้ำแข็งเดินออกมา
“เธอเป็นใครกัน? ดูแล้ว เหมือนว่าจะเป็นคนฝั่งของฉินหลั่งงั้นหรือ?” คนที่ดูอยู่รอบๆ หัวเราะพูดเย็นๆ
จวงจือเย้นที่อยู่ด้านข้างมองไปก็รู้ว่าเป็นใคร เขาเองก็อึ้ง สายตานิ่งไปครู่หนึ่ง ในใจก็คิดว่ายัยคนนี้มาแปลก ทำไมไม่สวมเครื่องแบบ?
สายตาของเมิ่งชิงอวี่ก็จ้องมอง แล้วถามว่า “คุณหนูหวัง คุณจะมาทำไมไม่บอกกันก่อน? ที่นี่มีรองหัวหน้าตำรวจจวงอยู่ด้วย เรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องลำบากคุณแล้วละ”
คนที่มาก็คือหวังเฉิน ปีนี้เธอมีผลงานมากมาย ปิดคดีใหญ่ๆ มาหลายคดี เป็นคนเด่นคนดังที่น่าติดตามของวงการตำรวจในเมืองเย็นจีน เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสาขาสถานีตำรวจเขตหยางซื่อ จวงจือเย้นก็เป็นใต้บังคับบัญชาของเธอ ส่วนเมิ่งชิงอวี่ เธอเองก็รู้จัก
“เหอะ ฉันไม่ใช่คุณหนูอะไรหรอก” หวังเฉินส่งเสียงไม่พอใจ เธอเป็นตำรวจ เดิมทีก็ไม่ค่อยจะเผยรอยยิ้มเท่าไร ตอนนี้ก็กำลังหัวร้อน ใบหน้าเรียวๆ ของเธอก็นิ่งเยือกเย็นเสียไม่มี
“คุณฉินเป็นเพื่อนของฉัน ทำไมพวกคุณถึงได้ยิงปืนใส่เขา?”
พอได้ยินคำของหวังเฉิน สีหน้าของเมิ่งชิงอวี่ก็เปลี่ยนไป
ไม่ใช่แค่เมิ่งชิงอวี่ สีหน้าคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เมิ่งเหมิงเหมิงและเมิ่งลี่ลี่ก็รู้จักคุณหนูตระกูลหวังคนนี้เหมือนกัน
แต่ไม่ค่อยสนิทเท่านั้นเอง
ฉินหลั่งเป็นเพื่อนกับหวังเฉินหรือนี่?
เป็นไปได้อย่างไรกัน? ต้องรู้ก่อนว่าตำแหน่งผู้อำนวยการสาขาสถานีตำรวจนั้น แล้วยังเป็นคุณหนูตระกูลหวังที่มีฐานะสูงส่ง จะมารู้จักไอ้คนงานกระจอกงอกง่อยได้อย่างไรกัน?
ความรู้สึกของคนที่มองก็เปลี่ยนไป เริ่มคิดขึ้นในใจ ว่าเมื่อครู่ที่เมิ่งเหมิงเหมิงบอกว่าฉันหลั่งเป็นไอ้กระจอกนั้น มันดูแรงเกินหรือไม่
เพียงแต่ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตของเขตหยางซื่อ หวังเฉินก็มีฐานะสูงส่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้พวกเขาหวั่นเกรงได้
เมิ่งชิงอวี่พูดนิ่งๆ ว่า “หัวหน้าตำรวจหวัง มันแทงหลานชายผมไปสองมีด คนที่อยู่ที่นี่เป็นพยานให้ได้ พวกเรายกปืนขึ้นเพื่อป้องกันตัว ทำไม่ได้หรือ?”
เมิ่งชิงอวี่พูดเช่นนี้ ก็เพื่อจะยืนสู่ฝั่งหลาน แต่เรื่องที่ยกปืนเล็งนั้น เขาไม่หลบเลี่ยงเลย ต่อหน้าตำรวจในเครื่องแบบมากมาย ไม่เพียงแสดงออก ยังพูดมากอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย
เพราะว่าเมิ่งชิงอวี่หลายปีมานี้ เคยตัวไม่กลัวเกรงกฎหมาย ทั้งทางมืดทางสว่างก็ต้องมีคนไว้หน้าเขา ถึงแม้ลูกสาวตระกูลหวังจะหาเรื่องได้ยาก แต่เขาก็ไม่กลัวเกรง
หวังเฉินเป็นคนที่ทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ได้ยินเมิ่งชิงอวี่พูดเรื่องใช้ปืนอย่างไม่กลัวเกรง ก็รีบขมวดคิ้ว แล้วก็ยิ้มให้เกียรติฉินหลั่ง
“ฉินหลั่ง ฉันมาช้าไปหน่อย ลูกน้องไม่รู้เรื่อง ถึงได้มาข่มขู่คุณ เป็นความผิดฉันเอง”
คำพูดของเธอพูดเรื่องสถานการณ์นั้น แต่สายตาของเธอนี่จ้องมองใบหน้าของฉินหลั่ง เมื่อวานฉินหลั่งต่อสู้กับหวงฮ่านโจว แล้วที่แผ่นหลังและใบหน้าได้รับบาดเจ็บ เธอเองก็เป็นห่วง ความเป็นห่วงมันปกปิดกันไม่ได้
คนอื่นๆ ไม่ได้จับจ้องสายตาของหวังเฉิน แต่เมิ่งลี่ลี่กลับมองออก ในใจก็ถึงบางอ้อ แล้วในใจก็เกิดอาการหึงหวงอะไรบางอย่าง อย่างบอกไม่ถูก
พอหวังเฉินพูดจบ ในใจก็ร้อนรุ่ม
ฉินหลั่งนั้นเป็นใครกัน? เป็นปรมาจารย์ที่หาตัวยากในโลกนี้ ยิ่งกว่าจงจิ่วเจิน ซ่งจงผิงเสียอีก เมิ่งชิงอวี่ของตระกูลเมิ่งก็ไม่ได้แย่กว่าตระกูลจงตระกูลซ่ง แต่มาถูกดูถูกในงานเลี้ยงเช่นนี้ จะยิ่งใส่ปรมาจารย์ เขาเป็นถึงยอดฝีมือ พวกคุณจะหาเรื่องได้หรือ?
ฉินหลั่งก็หน้านิ่ง ราวกับนอกจากหวังเฉินแล้ว ก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
“ไม่เป็นไร ก็แค่พวกไม่เอาไหนมาเรียกร้องก็เท่านั้น”
เขาพูดไป แล้วก็กวาดสายตาไปมองเมิ่งชิงอวี่ “ตาแก่คนนี้พูดจาไม่เกรงกลัวใคร สวรรค์น่าจะให้ชีวิตเขามาอยู่นานไปหน่อย”
ในน้ำเสียงมีความข่มขู่เล็กน้อย
เมิ่งชิงอวี่ก็ตัวสั่นๆ โกรธจนแทบจะยืนไม่อยู่
“มึง…มึงมันกระจอก……”
“เมิ่งชิงอวี่ ระวังคำพูดคุณด้วย!” หวังเฉินพูดเสียงเย็น “ตอนนี้ฉันเป็นผู้ควบคุมดูแลคดีของโรงแรมซีเอ่อ จวงจือเย้น นายนำตัวคนที่เกี่ยวข้องทุกคนออกไป”
จวงจือเย้นมีใบหน้าที่เคารพมาก ยืนตัวตรงพูดว่า “ครับ หัวหน้าตำรวจหวัง”
จากนั้น ตำรวจในเครื่องแบบก็เข้าไป ไปจับตัวฉินหลั่งไว้
ความเย็นในดวงตาของฉินหลั่งก็บังเกิดขึ้น เพราะว่าหัวไหล่ของเขาถูกจับไว้
“ทนลำบากหน่อยนะ ฉินหลั่ง นะ” หวังเฉินพูดกับฉินหลั่งในเชิงขอร้อง พูดเสียงต่ำ แล้วก็ยื่นมือไปหยิกฉินหลั่ง
“ปล่อยตัวเขา!” จากนั้นหวังเฉินก็ตบลูกน้องคนละที ลูกน้องเห็นดังนั้นก็เลยปล่อยฉินหลั่ง
โชคดีฉินหลั่งไม่ได้โมโห มือทั้งสองก็กุมเข้าด้วยกัน แล้วยืนระหว่างตำรวจทั้งสอง ใบหน้าไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
ใบหน้าเรียวๆ ของหวังเฉินก็เผยรอยยิ้มที่ไม่รู้ตัว แล้วรีบหันหน้าหลบไป
ใบหน้านั้น ก็ถูกสายตาที่เฉียบคมของเมิ่งลี่ลี่สัมผัสได้ เมิ่งลี่ลี่ก็หน้าซีด
จวงจือเย้นก็ส่งซิกให้กับเมิ่งชิงอวี่ แสดงถึงว่ามีเขาอยู่ วางใจได้
เมิ่งชิงอวี่ก็บีบหัวเราะออกมา “ไอ้เด็กน้อย มึงจบแน่ พวกกูจะคอยดู”
เมิ่งชิงอวี่โมโหที่ลูกสาวตระกูลหวังไม่มีมารยาทต่อตนเอง แต่เธอเป็นถึงตำรวจคนหนึ่ง ก็ต้องมีอำนาจจัดการเป็นธรรมดา แต่มีจวงจือเย้นเป็นกำลังให้ แล้วยังมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง ต่อให้ยัยลูกสาวตระกูลหวังนี้ไปช่วยฉินหลั่ง เขาก็ไม่กลัวว่าฉินหลั่งจะหนีไปได้
แต่ในตอนที่เมิ่งชิงอวี่กำลังได้ใจนั้น หวังเฉินก็พูดขึ้นว่า “ฉันบอกว่า ให้นำตัวคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไป รวมถึงเมิ่งชิงอวี่ด้วย!”
พอพูดออกไป ในเหตุการณ์ก็ตะลึง เมิ่งชิงอวี่นั้นเป็นใคร เขาเป็นถึงผู้มีอิทธิพลในเมืองเย็นจีนเลยนะ ไม่เห็นท่าทางของจวงจือเย้นที่ปฏิบัติกับเขาหรือ? ยอมอ่อนน้อมเสียขนาดนั้น
“ยัยหนูตระกูลหวังเอ้ย คงจะไม่เหมาะเสียกระมัง ผมไปทำผิดกฎหมายข้อไหน ถึงจะนำตัวผมไปด้วย?” เมิ่งชิงอวี่โมโห และแปลกใจ
“จะดูสิว่าใครกล้าเสียมารยาทกับอาสามฉัน?” เมิ่งฮุ่ยเสียนสายตาโมโห แล้วยกปืนขึ้นใส่พวกตำรวจ
สถานการณ์ตึงเครียด ต่อหน้ากลุ่มตำรวจ เมิ่งฮุ่ยเสียนโอหังไม่เกรงกลัว ไม่สนใจผลกระทบอะไรทั้งนั้น ความโอหังเช่นนี้ ไม่ได้จะเกิดได้ภายในวันสองวัน
ใบหน้าของหวังเฉินก็นิ่งลง อำนาจของเธอไม่อาจจะมาดูถูกได้
“ยกปืนขึ้นให้หมด ฝั่งตรงข้ามยกปืนขัดขืนการจับกุม ถ้าไม่ยอมวางปืนยอมจำนน ก็วิสามัญได้”
เสียงพูดดังชัดเจน น้ำเสียงดูเข้มแข็งขึงขัง
“คุณเมิ่ง ขอให้คุณวางปืนลงด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเราจำเป็นจะต้องทำตามกฎหมาย” จวงจือเย้นร้อนรน ก็เลยรีบตักเตือนเมิ่งฮุ่ยเสียน
“ฉันขอสั่ง ให้คุณวางปืนลง!” หวังเฉินตักเตือนครั้งที่หนึ่ง
เมิ่งฮุ่ยเสียนก็โมโหจนตาจะลุกเป็นไฟ ตระกูลเมิ่งไม่เคยถูกดูถูกเช่นนี้ ถูกกดดันเช่นนี้ เฮ้อ……… เธอร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง แต่ปืนในมือก็ไม่ยอมวางลง แต่กลับจับมันแน่นขึ้น จ้องมองคนตรงหน้าไม่ละสายตา
“ปัง!” เห็นหวังเฉินหยิบปืนมาจากรอยผ่าของกี่เพ้าตรงขา แล้วยิงไปยังเมิ่งฮุ่ยเสียน
กรี๊ด !เมิ่งฮุ่ยเสียนเจ็บปวดจนร้องออกมา ลูกกระสุนยิงไปถูกมือของเธอ ปืนในมือก็ร่วงลงพื้น
“นำตัวไป!” หวังเฉินพูดหน้านิ่ง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset