รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 540 ต่อให้มีคนห้ามนับพันนับหมื่น ก็จะยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ

บทที่ 540 ต่อให้มีคนห้ามนับพันนับหมื่น ก็จะยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
เลือดสีแดงภายใต้ดวงอาทิตย์สาดส่อง นักสู้ญี่ปุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็รวมใจกันยืนตรง
อยู่ในความสงบระลึกถึงเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง
ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการโศกเศร้า เหย่หยวนเม๋ยจื่อถึงขั้น ร้องเพลงญี่ปุ่นที่โศกเศร้าที่สุดด้วยน้ำตา
โศกเศร้าน่าสังเวช ไม่มีความเหิมเกริม ดูถูกนักสู้ประเทศจีนอย่างยิ่งผยอง เหมือนดั่งก่อนหน้านี้
เสิ่นชิงซานกับจั่วเฉินบิง ก็ยืนนิ่งงันอยู่กับที่เหมือนกัน ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะจบแบบนี้
ดูเหมือนฉินหลั่ง จะไม่เกรงกลัวอะไรเลย
ต่อให้มีคนห้ามนับพันนับหมื่น ก็จะยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
ในขณะที่สีหน้าของเสิ่นชิงซานเขียวซีด ไม่รู้จะทำอย่างไร ท่ามกลางเสียงเพลงเศร้าของเหย่หยวนเม๋ยจื่อลูกศิษย์ญี่ปุ่น ก็ดังขึ้นมาในทันใดว่า
“ฆ่าฉินหลั่ง แก้แค้นให้กับคุณเสี่ยวฉวน”
เธอตะโกนสั่งออกมาอย่างโง่เขลาที่สุด เพราะความเก่งกาจของฉินหลั่ง ทุกคนต่างก็เห็นกับตาแล้ว
ลูกศิษย์เสี่ยวฉวนต่างก็สูญเสียสติในการตัดสินใจแล้ว วิ่งล้อมขึ้นมา แสงดาบเป็นประกาย ความอาฆาตเต็มเปี่ยม คิดอยากที่จะสู้กับฉินหลั่งด้วยชีวิต
“อยากตาย?” สีหน้าฉินหลั่งเย็นชา ฉินหลั่งส่ายหมัดออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา เห็นเพียงคลื่นที่มองไม่เห็นสั่นสะเทือนอยู่ในความว่างเปล่า ลากยาวเป็นสายสีขาวลอยออกไปในอากาศ นักสู้ญี่ปุ่นคนหนึ่งที่กระโจนขึ้นมาก่อน ถูกหมัดที่มองไม่เห็นทุบตรงหน้าอกจนแตกสลาย ปลิวกระเด็นลอยออกไป ยังไม่ทันตกลงพื้นก็สิ้นใจตายแล้ว
จากนั้นก็พลิกมือส่ายไปอีกหมัด กระทบลูกศิษย์เสี่ยวฉวนที่โจมตีมาทางด้านหลัง
ไม่ได้มีการหยุดพัก สายสีขาวลอยออกไปในอากาศ กระทบถูกศัตรูสองคนจนร่างทะลุ
และก็เป็นเพียงชั่วพริบตาเดียว นักสู้ญี่ปุ่นทั้งสี่คนก็ตายแล้วอย่างอนาถ
ศัตรูคนอื่นที่เหลือถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว โกรธแค้นอย่างมาก กลับไม่กล้าทำอะไรวู่วาม
เห็นนักสู้ญี่ปุ่นทั้งสี่คนล้มลงพื้น เสิ่นชิงซานค่อยได้สติกลับมา พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ฉินหลั่ง คุณกล้าฆ่าคนไหม?”
“คุณทำผิดแล้วผิดอีก คิดจะเดินไปจนถึงเส้นทางมืดให้ได้หรือ?”
เขาพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ยังไม่ยอมวางมือยอมรับผิดอีก?”
จั่วเฉินบิงก็พูดซ้ำเติมขึ้นว่า “ฉินหลั่ง คุณยังไม่เห็นคุณเสิ่นกับสมาคมบูโดอยู่ในสายตาหรือ”
“รู้ไหมว่าสมาคมบูโดคืออะไร?”
“ถือเป็นสมาคมที่มีไว้ประสานงานกับสหพันธ์บูโดและกลุ่มสำนักที่ซ่อนอยู่ เป็นตัวแทนการใช้อำนาจและอิทธิพลของการต่อสู้ประเทศจีน”
“คุณทำเช่นนี้เป็นการไม่ไว้หน้าคุณเสิ่น ยังก่อเรื่องจนไม่สามารถยับยั้งได้แบบนี้ เป็นการทำลายความสัมพันธ์อันสงบของทั้งสองฝ่ายอย่างที่สุด มีการล่วงเกินนักสู้ที่รักในความสงบทั่วทั้งประเทศจีน”
เขาพูดกระตุ้นประสาทฉินหลั่งว่า “คุณจะทำให้ทุกคนอยากที่จะฆ่าคุณ”
จั่วเฉินบิงตะโกนพูดอยู่เช่นนี้ แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวฉินหลั่งอย่างบอกไม่ถูก ตะโกนร้องเหมือนดั่งหมาบ้าที่ไม่พอใจ
“ฮ่าๆ คุณ เป็นเพียงแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น” ฉินหลั่งหัวเราะ
“ฉินหลั่ง ไปตายเสียเถอะ”
“อ๊าก…..”
เหย่หยวนเม๋ยจื่อเห็นพรรคพวกไม่กล้าเดินไป เธอจึงกรี๊ดร้องขึ้นมา คว้าดาบมาเล่มหนึ่งแล้วก็กระโจนออกไป
ชักดาบออกมาฟัน แสงมีดเปรียบเสมือนการฝึกม้า ทางช้างเผือกตรงลงมาจากฟ้า มุ่งฟันลงไปหาฉินหลั่งอย่างจัง ด้วยพลังทั้งหมดที่มี
แววตาฉินหลั่งเยือกเย็น ตอนนี้พลังลมปราณของฉินหลั่งถูกใช้ไปจนหมดแล้ว ไม่สามารถฆ่าคนได้อย่างตามใจเหมือนอย่างเมื่อกี้แล้ว
แต่ยังไงพลังก็ยังคงมีมากมายจนน่ากลัว
เขายื่นนิ้วมือออกไป แล้วก็ขยับนิ้ว
เสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างกายของเหย่หยวนเม๋ยจื่อสั่นไหว ทั้งคนทั้งดาบปลิวลอยออกไป มุมปากมีเลือดไหลทะลัก
ดาบซามูไรที่จับไว้ไม่แน่น ร่วงหล่นไปจากฝ่ามือ
“มีพลังที่แข็งแกร่งมาก”
ในใจเหย่หยวนเม๋ยจื่อหดหู่ มีเพียงตัวเธอเองที่รู้ การโจมตีเมื่อกี้ ตนเองใช้พลังไปเท่าไหร่ เพียงแค่กระบวนท่าเดียวของฉินหลั่งก็ต้านทานไม่ไหว
คนญี่ปุ่นหลายคนต่างก็พูดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวว่า “เม๋ยจื่อ”
“อือ?”
“ยังไม่ตาย?”
สีหน้าฉินหลั่งแสดงอาการตกตะลึง เหมือนคิดไม่ถึงว่าเหย่หยวนเม๋ยจื่อจะสามารถต้านทานพลังของเขาได้
จากนั้น เขาสะบัดข้อมือ แล้วร่างกายก็ขยับไปหาเหย่หยวนเม๋ยจื่อ
หนึ่งกระบวนท่าไม่ตาย งั้นก็สองกระบวนท่า
เหย่หยวนเม๋ยจื่อเห็นแล้วสีหน้าก็แสดงอาการหมดหวัง เธอหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว ยังไม่มีแรงฟื้นขึ้นมา จะสามารถต้านทานกระบวนท่าที่สองของฉินหลั่งได้อย่างไร?
“ตัง….” ในขณะที่เหย่หยวนเม๋ยจื่อหลับตารอความตาย แสงดาบพราวสว่างวาบ กีดขวางอยู่ตรงหน้าฉินหลั่ง
จากนั้น ร่างกายอ้วนเตี้ยของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น
จั่วเถิงซานหลัง
ผู้อาวุโสนักสู้ญี่ปุ่นคนหนึ่ง ในมือถือดาบซามูไรไว้เล่มหนึ่ง ยืนขวางอยู่ตรงหน้าเหย่หยวนเม๋ยจื่อ
เขามองจ้องฉินหลั่ง พร้อมพูดขึ้นอย่างเกลียดชังว่า “ฉินหลั่ง คุณจะฆ่าอย่างไม่ปราณีหรือ?”
ฉินหลั่ง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “การต่อสู้กันอย่างยุติธรรม แพ้แล้วก็ไม่ยอมรับ ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วมาล้อมโจมตีผม ตอนนี้ยังจะมาใส่ร้ายว่าผมฆ่าอย่างไม่ปราณี”
“ถ้าตาคุณไม่บอดละก็ น่าจะรู้ว่าพวกเหย่หยวนเม๋ยจื่อเป็นคนลงมือก่อน”
จั่วเถิงซานหลัง พูดขึ้นอย่างถอนหายใจแรงว่า “เม๋ยจื่อเป็นศิษย์รักของคุณเสี่ยวฉวน คุณฆ่าคุณเสี่ยวฉวน พวกเขาอาจารย์ศิษย์ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จะลงมือกับคุณก็มีเหตุผลอยู่”
เสิ่นชิงซานและสหายหญิงอีกหลายคน แสดงสีหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ก็ถูก เสี่ยวฉวนตายแล้ว เม๋ยจื่อคิดแก้แค้น มันเป็นสัจธรรมอยู่แล้วนี่ จะไปโทษว่าคนอื่นลงมือก่อนได้อย่างไร?
“มีเหตุผลแล้วจะมาฆ่าผมได้อย่างนั้นหรือ?”
ฉินหลั่งพูดขึ้นอย่างยิ้มเยาะว่า “อีกอย่าง พวกเขาอาจารย์ศิษย์ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เกี่ยวเรื่องอะไรกับผม?”
สิ้นเสียงลง ฉินหลั่งสะบัดข้อมือ ความอาฆาตนั้นจดจ่อไปที่จั่วเถิงซานหลังทันที
มือปราศจากอาวุธ แต่ไหนแต่ไรมามือฉินหลั่งก็ปราศจากอาวุธมาตลอด
เมื่อครู่ยังมีพลังที่ไม่รู้จักหมดสิ้น ราวกับเทพในหมู่มนุษย์ มาตอนนี้พลังเหลือให้ใช้ได้อีกไม่เยอะแล้ว แต่ว่าฉินหลั่งกลับมีความมั่นใจที่ไม่รู้จักหมดสิ้น
ต่อให้มีคนห้ามนับพันนับหมื่น ก็จะยังก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ตอนนี้ถึงแม้จะไม่สามารถใช้กำลังภายใน เขาก็จะไม่ยอมถูกเชือดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ท่ามกลางเหล่าทวยเทพ ที่น่าอัศจรรย์แบบนี้
จั่วเถิงซานหลังเห็นฉินหลั่งจ้องมาทางตัวเอง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นร่องรอยของความกลัวก็ผุดขึ้นมาในใจ ยกดาบขึ้นมาเพื่อปกป้องอย่างไม่รู้ตัว
ก็ในเวลานี้ เสียงเท้าเตะอย่างแรงของเฉินหลั่ง ทำให้ดาบซามูไรแตกหักกระเด็นกระดอนออกไป
“ฉึก…” ดาบแทงทะลุ
เลือดไหลพุ่งออกมา
ร่างกายเหย่หยวนเม๋ยจื่อที่เพิ่งฟื้นตัวขึ้นมาสั่นไหว จากนั้นก็ส่งเสียงกรี๊ดร้องแล้วก็ล้มลงพื้น
มือข้างหนึ่งของเธอจับคอไว้ แต่ก็ไม่สามารถห้ามเลือดได้
เธอจ้องมองดูฉินหลั่ง พร้อมพูดขึ้นอย่างโกรธแค้นว่า
“โง่เง่า…”
ไม่ช้า เธอก็ล้มแน่นิ่งอยู่บนพื้น ดวงตาคู่สวยแฝงไปด้วยความสุขเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สีหน้าคนญี่ปุ่นทั้งหมดเปลี่ยนไป
ตอนนี้จั่วเถิงซานหลังก็ยิ่งพูดขึ้นอย่างบ้าคลั่งว่า “โง่เง่า โง่เง่า โง่เง่า”
อีกฝ่ายฆ่าเม๋ยจื่อต่อหน้าเขาอย่างไม่เปลืองแรงเลย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถเลย เหมือนเป็นดั่งหุ่นไล่กาที่ไม่มีกำลังอิทธิพล
ในใจเสิ่นชิงซานเหมือนตกอยู่ในเหวลึก เรื่องราวยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่โต เขาไม่รู้จะไปเผชิญหน้ากับญี่ปุ่นยังไงแล้ว
ฉินหลั่ง ต่อให้คุณมีพลังเหมือนดั่งเทพ จะสามารถรับมือกับทหารม้าเป็นพันเป็นหมื่น มือกับเครื่องบินปืนใหญ่ รับมือกับเสิ่นชิงซานที่มีอิทธิพลอยู่ทั่วโลกมากว่ายี่สิบปีแล้วหรือ?
คุณช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้จักตื้นลึกหนาบาง
ในสายตาเสิ่นชิงซาน ฉินหลั่งได้เปิดเผยว่าเขาได้ละเมิดข้อห้ามของศิลปะการต่อสู้ การตายไปอย่างง่ายดายเท่านั้นถึงจะเป็นการไม่สร้างเรื่องตามมาอีกมากมาย
อาศัยพวกเขาในตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวฉินหลั่งอย่างลึกซึ้ง ตามหวาดกลัวที่มีอยู่จนไม่อาจมองข้าม
พูดขึ้นอย่างอดทนไม่ได้ว่า “ฉินหลั่ง คุณอยากตายก็ตายไป เดิมผมยังอยากให้คุณตายอย่างสวยงาม ตอนนี้คุณไม่มีโอกาสนี้แล้ว”
ฉินหลั่งขี้เกียจสนใจเขา หันไปมองจั่วเถิงซานหลังพร้อมพูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า “หลีกไป ไม่เช่นนั้นคุณจะตาย”
พูดเสร็จ แล้วก็ค่อยๆเดินไปหาจั่วเถิงซานหลัง เดินไปหาพวกนักรบญี่ปุ่นทุกคนที่ถือดาบอยู่ในมือด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความกลัวอย่างนิ่งงัน
พวกนักสู้ทั้งโกรธทั้งโศกเศร้า กลับทำได้เพียงเป็นฝ่ายปกป้อง ไม่กล้าที่จะจู่โจมอย่างประมาท
จั่วเฉินบิงกลับมองเห็นสถานการณ์ทุกอย่างแต่แรกแล้ว จึงตะโกนพูดขึ้นว่า “รีบฆ่ามัน ฆ่าฉินหลั่งเสีย กำลังของเขาเสื่อมทรุดลงแล้ว”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset