รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 546 ไม้ตาย

บทที่ 546 ไม้ตาย
จั่วเฉินบิงปากแข็งเป็นอย่างมาก
ไม่ลืมตาขึ้นมองด้วยซ้ำ “ถึงตายฉันก็จะไม่ปริปากบอกข้อมูลที่มีประโยชน์ให้กับแกแน่นอน”
“คนที่ชนะมีอำนาจทุกอย่างนี่ จะฆ่าฉันก็ฆ่าเลย”
เขาไม่ได้มีท่าทีกลัวตายเลยแม้แต่น้อย “แต่ฉันขอเตือนแกหน่อยนะ หากฉันตายไปแล้ว จะมีคนในพันธมิตรศิลปะการต่อสู้จำนวนนับไม่ถ้วนเคียดแค้นแก เกลียดชังแก และต้องการจะฆ่าแก”
“แต่หากฉันไม่ฆ่าแก เกรงว่าในพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ก็คงมีคนจำนวนมากเกลียดแค้นฉันเหมือนกัน”
ฉินหลั่งยิ้มจางๆ “ฉันอยู่ในตำแหน่งนี้ด้วยอายุเท่านี้ พวกเขายอมรับสิถึงจะแปลก อนาคตต้องคอยแทงข้างหลังฉันแน่นอน”
จั่วเฉินบิงยิ้มเย็นยะเยือก “รู้ก็ดี”
“ฉันรู้น่ะสิเลยมาหาแก มาดูว่าแกมีจุดอ่อนของพวกมันหรือไม่จะได้ทำให้พวกมันสงบเสงี่ยมสักช่วงหนึ่ง”
ฉินหลั่งก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “อย่างน้อยก็ก่อนที่ฉันจะไป พวกมันต้องเก็บหางของพวกมันให้มิดชิด”
ความจริงแล้วฉินหลั่งไม่ได้มีแผนจะอยู่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ไปตลอดชีวิต เขาเป็นเจ้านายของยาวเยว่กง รากฐานที่เขาสร้างเพื่ออาจารย์ยายต่างหากคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด เพราะว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ
เมื่อได้ยินคำว่าจุดอ่อน แก้มของจั่วเฉินบิงก็เกร็งกระตุกจากนั้นก็ส่งเสียงหึในลำคอ “ฉันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ท่านจั่ว ทำตัวเป็นแบบนี้ไม่ดีนะ”
ฉินหลั่งยกยิ้มมุมปาก “นี่แกกำลังบังคับฉันให้ใช้ไม้ตายนะ”
จั่วเฉินบิงพ่นลมออกจากจมูก “ปล่อยไม้ตายของแกมาเลย”
ฉินหลั่งจึงหันกลับไปเอ่ย “จื่อชง ให้คนเอาเข็มเงินมาให้ฉันหน่อย”
ทุกคนล้วนไม่เข้าใจการกระทำของฉินหลั่ง ด้านฉางจื่อชงก็สั่งให้คนเอาอุปกรณ์เข็มสำหรับการฝังเข็มมาชุดหนึ่ง ฉินหลั่งหยิบเข็มขึ้นมาก่อนจะปักลงไปบนร่างกายของจั่วเฉินบิงหลายจุด
จั่วเฉินบิงคิดว่าตัวเองจะถูกทรมาน ตอนนี้เขาสับสนไปหมดแล้ว ก่อนจะหันไปมองฉินหลั่งอย่างตกตะลึง
เพียงแต่ว่าฉับพลันสีหน้าเขาก็เปลี่ยนทันที ใบหน้าปรากฏความสบายถึงขีดสุดก่อนที่ร่างทั้งร่างจะสั่นสะท้าน อวัยวะด้านล่างกระตุกสอสามที
“นี่มันคืออะไร?” จั่วเฉินบิงยังรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล ทว่าวินาทีต่อมาสีหนาของเขาก็มืดครึ้ม เพราะหลังจากที่สบายถึงขีดสุดแล้วไม่ถึงสามสิบวินาทีน้ำกามก็เปียกไปทั่วช่วงล่างของเขา
สุดท้ายเว้นสิบวินาทีมาหนึ่งครั้ง จั่วเฉินบิงตกใจจนช็อกไปแล้ว กางเกงก็เปียกชื้นไปหมดและส่งกลิ่นแปลกๆ
ฉางจื่อชงเป็นคนแรกที่เข้าใจ ก่อนจะหัวเราะเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่
“ท่านจั่ว เกรงว่าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแกก็ต้องแห้งตายแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า แกตายได้อย่างสง่างามที่สุด”
จั่วเฉินบิงตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง สีหน้าปรากฏความสิ้นหวังถึงขีดสุด “ฉินหลั่ง ไม่สิ ท่านทูตฉิน แกทำอะไรกับร่างกายฉัน รีบแก้ไขเดี๋ยวนี้ เร็วๆสิ ไม่อย่างนั้นฉันตายแน่”
เขาอยู่ในตำแหน่งท่านผู้บังคับใช้กฎหมายมานานหลายปี แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบนโลกนี้ยังมีการทรมานแบบนี้ สบายแค่ไม่กี่วินาทีก็จบลง ถึงจะไม่ตายแต่ในอนาคตเขาก็ต้องเสื่อมสมรรถภาพแน่นอน ถึงแม้ตนจะอายุห้าสิบกว่าแล้วทว่าเขาก็ฟิตปึ๋งปั๋งมาโดยตลอด
“ฉันบอก ฉันบอกแล้ว……” จั่วเฉินบิงสิ้นหวังเป็นอย่างมาก “ฉันรับเงินจากประธานพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เมืองเหวินมาสามสิบล้าน เพื่อหยุดการตรวจสอบการยักยอกเงินค่าเทอมลูกศิษย์ของเขา”
“รองประธานของเมืองตงลักลอบเอายาบำรุงเลือดของสำนักแพทย์เลือดผีไปขาย ฉันรับเงินมาสิบล้านแล้วก็ปล่อยให้เรื่องมันจบไป”
“เจ้าสำนักใหญ่ทั้งสองของเมืองอานแอบต่อสู้กันเองจนทำให้ลูกศิษย์สามสิบกว่าต้องคนบาดเจ็บและเสยชีวิต หลังจากฉันรับเงินมาก็ปลอมแปลงจำนวนผู้เสียชีวิตเพื่อรักษาตำแหน่งของพวกเขาไว้”
“สามเดือนก่อน ฉันเมาสุราจนคุมสติไม่อยู่จึงได้สร้างความวุ่นวายที่คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการไม่เคารพต่อพันธมิตรศิลปะการต่อสู้”
เขาสารภาพความผิดของตัวเองต่อฉินหลั่งเสียงดัง “ลูกชายฉันล่อลวงลูกศิษย์หญิงสาวสิบกว่าคนจนทำให้มีสองคนฆ่าตัวตาย ฉันก็เป็นคนออกหน้าเหยียบเรื่องนี้ไว้”
“จั่วเฉินบิง แกยังพูดไม่หมดนี่ เห็นทีว่าการลงโทษยังคงต้องดำเนินต่อไป”
ฉินหลั่งแสร้งทำสีหน้า เห็นได้ว่าจั่วเฉินบิงหลบเลี่ยงความผิดใหญ่และยอมสารภาพเฉพาะความผิดเล็กๆเท่านั้น เขาจึงปัดมือสองสามทีเตรียมจะจากไป
“เมืองเจียง พันธมิตรศิลปะการต่อสู้เมืองเจียง……” จั่วเฉินบิงหยุดปากไว้ไม่อยู่ “ตอนนั้นนายหญิงจ้าวสำนักหมิงได้รับบาดเจ็บจนหมดสตินั้นเกิดจากลูกธนูวิเศษของประธานหลี่เซี่ยวเทียน……”
ช่วงหนึ่งทุ่ม ฉินหลั่งขับลัมโบกินี่ออกมาจากสหพันธ์บูโดหนานหลิง
อยู่มาทั้งวัน จั่วเฉินบิงก็สารภาพเรื่องทั้งหมดที่ได้ทำลงไป และยังบอกจุดอ่อนที่ตัวเองรู้ให้แก่ฉินหลั่งทั้งหมด
ฉินหลั่งมอบหมายให้ลู้เป้าจัดการเรื่องที่เหลือของแผนกบังคับใช้กฎหมายต่อไป และบันทึกความลับทั้งหมดลงในสมอง
มีข้อมูลพวกนี้อยู่ในมือฉินหลั่งก็มีความมั่นใจมากขึ้นในการกำจัดพวกคนเลว
ทว่าเรื่องที่เขาสนใจในวันนี้คือเรื่องของนายหญิงจ้าว
จากคำสารภาพของจั่วเฉินบิง หลายปีก่อนหลี่เซี่ยวเทียนได้เลื่อนขั้นจากรองประธานเป็นประธานจึงไปดื่มกับจั่วเฉินบิงอย่างสะใจ
ระหว่างที่กำลังเมาได้ที่ หลี่เซี่ยวเทียนก็หยิบลูกธนูวิเศษที่พกติดตัวตลอดเวลาออกมา และโอ้อวดถึงความเก่งกาจของตัวเองนั่นก็คือเรื่องที่ยิงโดนนายหญิงจ้าวเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน
ลูกธนูดอกนั้นไม่เพียงแต่ทำให้นายหญิงจ้าวล้มลงคาสนามแต่ยังสลบไปกว่าสองสัปดาห์
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องยิงธนูดอกนั้น นั่นก็เพราะว่ามีคนจ้างวานด้วยเงินก้อนใหญ่ โดยให้เขาอาศัยช่วงที่ศัตรูล้อมตัวนายหญิงจ้าวแล้วหาโอกาสยิงเพิ่มอีกดอก
และเขาที่ติดหนี้พนันในตอนนั้นถึงจะรู้ถึงความร้ายแรงของผลที่จะตามมา ทว่าด้วยความจนตรอกจึงยอมรับภารกิจนี้
จากนั้นหลี่เซี่ยวเทียนก็เอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้พนัน และยังใช้เส้นสายในการเข้าร่วมพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ จากนั้นก็ค่อยๆได่เต้าจนอยู่ในตำแหน่งประธานของเมืองเจียง
ส่วนสำนักหมิงนั้นเป็นองค์กรของเหลิ่งเชียนชีว เรื่องความสามารถนั้นเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว
แม้แต่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ก็ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติต่อสำนักหมิง
และนายหญิงจ้าวแห่งสำนักหมิงคือภรรยาของผู้ควบคุมสูงสุดของสำนักหมิง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ระหว่างนั้นหลี่เซี่ยวเทียนก็เคยใช้ชีวิตด้วยความระแวง ระแวงว่าสำนักหมิงจะบุกมาหาถึงที่
จั่วเฉินบิงได้ยินเรื่องนี้ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดออกไป กระทั่งหลี่เซี่ยวเทียนตื่นขึ้นมา เขาก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
หลี่เซี่ยวเทียนก็ไม่ได้ทดสอบว่าเขาได้ยินอะไรหรือเปล่า ทว่าเงินที่ได้ปีละสิบล้านก็เพิ่มเป็นสามสิบล้าน
นี่คือความจริงจากคนเมาแต่เป็นหลักฐานที่จับต้องไม่ได้
“จะบอกเรื่องนี้แก่พี่เหลิ่งดีหรือไม่?”
ระหว่างที่รถกำลังแล่นไป ฉินหลั่งก็นั่งครุ่นคิด ตั้งแต่ตนและเหลิ่งเชียนชีวกลายเป็นพี่น้องที่จริงใจต่อกัน ฉินหลั่งก็ให้ความสนใจกับเรื่องของสำนักหมิงมากขึ้น
ทว่าหลังจากที่เขาครุ่นคิดดูแล้วก็ปัดตกความคิดนี้ไป เพราะยังไงเขาก็ไมีหลักฐาน หากพูดออกไปไม่เพียงแต่ทำให้เหลิ่งเชียนชีวเคร่งเครียดเท่านั้น ยังจะทำให้พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงเกิดความโกลาหล
ฉินหลั่งตัดสินใจไปสร้างความใกล้ชิดกับหลี่เซี่ยวเทียนด้วยตนเอง หลังจากยืนยันแล้วว่าเป็นความจริงค่อยบอกเรื่องนี้แก่เหลิ่งเชียนชีว
“กริ๊ง—-”
ขณะนั้นเองมือถือของฉินหลั่งก็ดังขึ้น เขาจึงรับสายด้วยหูฟังบลูทูธ สักพักก็มีเสียงแหลมของผู้หญิงดังขึ้น “ฉินหลั่ง เป็นยังไงบ้าง?”
ฉินหลั่งชะงักไป ก่อนจะตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “คุณยายพริก โทรมาได้ยังไงครับ? คุณยายเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม?”
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคุณยายพริกจะโทรมาหาเขาได้ คุณยายท่านนี้สูญเสียการมองเห็น เขาจึงพยายามหาตำรับยาจากคัมภีร์เต่าเย่ามารักษา ทว่าอาการตาบอดของคุณยายพริกนั้นซับซ้อนมาก ไม่เหมือนอาการตาบอดทั่วไป ดังนั้นจึงหาวิธีที่ดีที่สุดมารักษาไม่ได้เสียที
ฉินหลั่งในวันนี้สามารถใช้เข็มเงินในการ “ฝังเข็ม” ให้กับจั่วเฉินบิงได้ เขาเข้าถึงหลักการและจุดฝังเข็มบนร่างกายอย่างสูงสุดอย่างที่หมอทั่วไปเข้าไม่ถึง เรียกว่าเป็นหมอเทวดาก็ไม่เกินจริงเลย
ที่น่าประหลาดใจก็คือคุณยายพริกน่าจะใช้มือถือไม่เป็นด้วยซ้ำ ทำไมถึงคิดที่จะโทรมาหาเขาขึ้นมาได้

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset