บทที่ 561 ฟังเสียงเพื่อตัดสินโรค
สวนประตูผี
ตั้งอยู่บนเขาลูกหนึ่งในเมืองเย็นจีน บนเขาลูกนี้เต็มไปด้วยพื้นที่แห่งความสนุกสนาน ทั้งยังมีชื่อเสียงในประเทศจีน
สวนประตูผีเป็นแค่พื้นที่ส่วนหนึ่ง แต่มีราคาถึงเจ็ดร้อยล้าน ภายในมีเขตหวงห้ามกว่าหนึ่งร้อยแห่ง และมีสถานที่คลาสสิคกว่าสองร้อยแห่ง
ไม่ว่าจะโรงพยาบาลแสนหดหู่ นรกสิบแปดชั้น เส้นทางสู่โลกวิญญาณ มีทุกสิ่งทุกอย่าง เส้นทางซับซ้อนระยะทางสูงถึงห้ากิโลเมตร
20นาทีผ่านไป ฉินหลั่งก็ปรากฏตัวที่ประตูของสวนสนุก
ถึงแม้ว่าเวลานี้จะยังคงเป็นช่วงบ่าย แสงอาทิตย์สาดส่อง ผู้คนเดินผ่านไปมา แต่สวนสนุกแห่งนี้ยังคงให้ความรู้สึกมืดมน บรรยากาศชวนขนลุกขนพอง
ฉินหลั่งแปลกใจได้ไม่นานก็ซื้อตั๋วมาหนึ่งใบ พร้อมหาแผนที่มาหนึ่งฉบับ แล้วตรงไปที่นรกชั้นที่สิบ
เขาพบว่ารายการนี้ตั้งอยู่ในด้านหลังสุดของสวนสนุกทั้งหมด เป็นการสร้างจากการดัดแปลงภูเขา ระยะห่างจากประตูใหญ่ราวๆ สี่กิโลเมตร
ฉินหลั่งผ่อนฝีเท้าลงเมื่อต้องข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ใช้เวลาเดินทาง20นาทีถึงมองเห็นภาพสถานที่นรกชั้นที่สิบแปด
เขาต้องการสำรวจสิ่งรอบข้างระหว่างทาง แต่ไม่ต้องการให้เป็นที่สนใจ จึงทำได้เพียงแค่เดินไปอย่างนี้
เดินมาระยะหนึ่งฉินหลั่งพบว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลายสิบคนอยู่เกือบทุกทางเข้าเขตหวงห้าม
แต่ละคนมีท่าทีแตกต่างกันไป บ้างก็ตื่นเต้น บ้างก็ประหลาดใจ และเกาะกำแพงเดินก็มี
เห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบกับฉากสยองขวัญนั้น
แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไปนักท่องเที่ยวยิ่งน้อยลง เขตหวงห้ามก็ไม่น่าดึงดูดเท่าด้านหน้าที่ผ่านมา
“อ๊ะ คุณ เป็นอะไรไหมครับ?”
“หมอ มีคุณหมออยู่ไหม”
“มาทางนี้หน่อยครับ มีคนเป็นลม”
เมื่อฉินหลั่งเดินผ่านไปอีกหน่อย เขาก็เห็นนักท่องเที่ยวหลายสิบคนอยู่ในการจลาจลพร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวกอย่างกังวล
ฉินหลั่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ใครจะเป็นจะตายมันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือรีบหาจงยู่ให้พบต่างหาก
ฉินหลั่งฝ่าฝูงชนออกมาถึงนรกชั้นที่สิบแปด ที่ดูเหมือนจะถูกปิดไปแล้ว ช่องประตูแคบๆ นั้นปิดสนิท
เดินเข้าไปตรงๆ ถ้ายู่เอ๋อร์อยู่ในนี้อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
ครุ่นคิดชั่วครู่ ฉินหลั่งก็ตัดสินใจไม่พุ่งเข้าไปตรงๆ ครั้งนี้การช่วยอึ้งย้งต่างออกไป หนึ่งคือเขาไม่แน่ใจว่าจะอยู่ข้างในไหม อีกทั้งไม่ง่ายเลยที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว สามคือสถานที่แห่งนี้อยู่ในภูเขาทั้งหมด ค่อนข้างซับซ้อน ประตูที่ถูกปิดหากต้องการเข้าไปคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกจับได้
แต่ยังไงอีกฝ่ายก็ยังคงไม่รู้ถึงการมาของเขา ฉินหลั่งกัดฟันกรอด ตัดสินใจว่าควรอดใจไว้รอโอกาสหน้า และแล้วสายตาของฉินหลั่งก็ไปปะทะเข้ากับเด็กสาวที่กำลังนอนเหยียดอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว บางทีเด็กผู้หญิงคนนี้อาจเป็นคนทำให้สวนประตูผีถูกปิดในวันนี้?
คงจะตกใจมาก
เด็กสาวอายุประมาณ20ปี หน้าตาสะสวย ผิวขาวผ่อง รูปร่างผอมบาง ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่พื้นหลังฐานะคงดีไม่น้อย
ในตอนนี้สีหน้าและริมฝีปากของเธอซีดขาวอย่างมาก คิ้วขมวดกันเป็นปม สองมือกุมหน้าอกแน่น ลมหายใจหอบถี่
เธอไม่ได้สลบ แต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ท่าทางดูเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก
ข้างกายเธอ มีชายสูงวัยใส่ชุดสีดำที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อบ้านและบอดี้การ์ดสองคนยืนอยู่ด้วย
พวกเขาทั้งเฝ้ามองเด็กสาวด้วยความรู้สึกกังวล ทั้งตะโกนเรียกหมอทั่วทุกทิศทาง
รอบข้างมีนักท่องเที่ยวมายืนมุงจำนวนไม่น้อยพูดคุยกันว่าเด็กสาวตระหนกกลัวบ้านผีสิง
เหล่าผู้ดูแลวิ่งมา:” เรียกหมอมาเร็ว!”
ฉินหลั่งเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วพิจารณาอาการจากใบหน้าเรียวเล็กของเด็กสาว น่าจะเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
เขากำลังจะเอ่ยปาก แต่ก็ต้องขมวดคิ้ว จากเสียงหายใจของเด็กสาวเขาได้ยินเสียงอะไรสักอย่าง
“ฮู่ว——”
ก่อนที่ฉินหลั่งจะเข้าไปรักษา รถตรวจตราก็วิ่งเข้ามา ตามด้วยเหล่าพยาบาลที่กระโดดลงมาจากรถ
พวกเขาติดตามชายหนุ่มหล่อเหลารูปร่างสูงเดินเข้ามา
“แน่นหน้าอก หายใจลำบาก?”
ชายหนุ่มตรวจดูอาการแล้วพิจารณาออกมา:” กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ให้ทานยาสักหน่อย กับฉีดยาก็ไม่เป็นไรแล้ว”
ชายสูงวัยในชุดดำถามขึ้น:” คุณคือใคร?”
“ท่านนี้คือหมออู๋เสี่ยวฮุย แพทย์ระดับพรีเมี่ยมแห่งร้านเมี่ยวโส่ว”
พยาบาลผู้หนึ่งแนะนำอย่างภาคภูมิใจ: “วันนี้หมออู๋มาที่เขตพื้นที่เราเพื่อให้การบรรยาย พอดีกับได้รับการแจ้งพยาบาลที่นี่ ก็เลยมาดู”
“คุณวางใจเถอะ บุคลากรในร้านเมี่ยวโส่วล้วนมีความสามารถระดับสูงทั้งแผนจีนและตะวันตก”
พยาบาลอีกคนพยักหน้ารับ:” ถึงมือเขา คุณผู้หนูท่านนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
“เป็นหมอจากร้านเมี่ยวโส่วนี่เอง”
ชายสูงวัยชุดดำถอนหายใจโล่งอก:
“งั้นผมก็สบายใจแล้ว”
“คุณหมออู๋ ผมชื่อหลิ่วกุ้ย เรียกผมว่าพ่อบ้านหลิ่วก็ได้ ได้โปรดช่วยคุณหนูของเราด้วย”
“ขอแค่คุณทำให้เธอปลอดภัย พวกเราตระกูลหลู่จะตอบแทนให้อย่างงาม”
ตระกูลหลู่?
ชายสูงวัยชุดดำแนะนำตัวเองเสร็จ เสี้ยววินาทีทุกคนที่แห่งนั้นก็เกิดเสียงดังเกรียวกราว ทำไมนึกไม่ถึงว่าเด็กสาวผู้งดงามนี้เป็นคุณหนูตระกูลหลู่
อู๋เสี่ยวฮุยก็ตัวแข็งทื่อไปแล้วเหมือนกัน นอกจากความภาคภูมิใจแล้วยังมีความสุขจนแทบบ้า
นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ฟ้าประทานให้เขา ช่วยให้คุณหนูตระกูลหลู่ฟื้นขึ้นมา ไม่เพียงแต่ได้ชื่อเสียง แต่ยังได้รับรางวัลอย่างงามอีกด้วย
ฉินหลั่งก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คาดว่าเด็กคนนี้เป็นคนตระกูลหลู่ ในสหพันธ์บูโดเขาเคยเจอคนจากตระกูลหลู่ เรียกได้ว่ามีวาสนาได้ชนแก้วกันครั้งหนึ่ง
“พ่อบ้านหลิ่ววางใจเถอะ คุณหลู่ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ใบหน้าของอู๋เสี่ยวฮุยแสดงถึงความมั่นใจ เปิดกล่องยาของตัวเองแล้วนำยาออกมาหนึ่งชุด
แอสไพริน
“หยุด!”
ฉินหลั่งเห็นแล้วห้ามเสียงไม่ทัน เขาในตอนนี้มีความรู้เรื่องการแพทย์มากพอสมควร นี่คือผลพลอยได้พิเศษหลังจากไปแดนเทพเจ้า
แอสไพรินเป็นยาที่พบได้ทั่วไป และเขาก็รู้เภสัชวิทยาของยานี้ด้วย
“ดูจากการหายใจของผู้ป่วย นอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันแล้ว เธอยังมีอาการหอบหืดเรื้อรังด้วย”
“ถ้าเธอกินแอสไพรินเข้าไป แน่นอนว่าช่วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ แต่มันจะกระตุ้นการหายใจเข้าออกของเธอให้เร็วขึ้น”
“หนักกว่านี้หน่อยก็ทำให้หลอดลมอุดตันระบบหายใจล้มเหลว”
“เมื่ออาการหอบหืดกำเริบ ความดันโลหิตสูงขึ้น เหงื่อออกทั่วร่างกาย ผู้ป่วยจะมีอันตรายถึงชีวิต”
ฉินหลั่งไม่อยากจะยุ่งเรื่องของคนอื่นนัก แต่ทำใจดูคนป่วยที่ก้าวเข้าสู่ประตูผีไม่ไหว สุดท้ายเลยต้องเตือนสักหน่อย
ทุกคนเงียบแล้วมองไปที่ฉินหลั่ง
เด็กคนนี้ก็พูดไปเรื่อย ฟังดูเหมือนเก่ง
“ตรวจก็ไม่ได้ตรวจ แค่มองดูด้วยตากับฟังเสียงหายใจก็สามารถแน่ใจว่าคุณหลู่เป็นหอบหืดเรื้อรังเหรอ?
อู่เสี่ยวฮุยถากถางฉินหลั่งอย่างไม่เกรงใจ:” เธอไม่ได้มาเล่นตลกใช่ไหม?”
นอกจากฉินหลั่งอายุยังน้อยและท่าทางไม่เหมือนหมอแล้ว เขายังโมโหฉินหลั่งที่แสดงความคิดเห็นต่อต้านเขาต่อหน้าคนจำนวนมากอีกด้วย
ฉินหลั่งตอบกลับนิ่งๆ : “ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณก็ตรวจดูด้วยตัวเองเถอะ”
“ไม่จำเป็น!”
อู๋เสี่ยวฮุยจะยอมให้ฉินหลั่งจูงจมูกได้อย่างไร:
“คุณหนูหลู่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ทานแอสไพรินลงไปแล้วฉีดยาก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“ถ้าเธอไม่เข้าใจแต่แกล้งเข้าใจก็ออกไปไกลๆ อย่ามัวแต่มาทำให้การรักษาล่าช้า”
“เธอคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเหรอว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พอรู้ว่าเป็นคุณหนูตระกูลหลู่ ก็อยากจะสร้างความตื่นตาและได้รับการยกย่องจากตระกูลหลู่ล่ะสิ”
“เด็กน้อย ฉันจะบอกให้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ ร่างกายที่แสนมีค่าของคุณหลู่ไม่ใช่ที่สร้างชื่อเสียงของเธอ”
“เธอมาพูดจาเหลวไหล ทำพ่อบ้านหลิ่วโกรธ แล้วยังทำให้การรักษาล่าช้า ฉันแนะนำให้เธอนั่งลงอย่างสงบซะ”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 561 ฟังเสียงเพื่อตัดสินโรค
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment