รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 562 ลงมือช่วยชีวิต

บทที่ 562 ลงมือช่วยชีวิต
อู๋เสี่ยวฮุยหันไปพูดกับหลิ่วกุ้ยต่อ: “ท่านหลิ่ว ไล่เจ้าคนทำเป็นรู้เรื่องนั่นไปเถิด มิฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีใครสามารถรับผิดชอบได้”
หลิ่วกุ้ยไม่พูดอะไร ในขณะที่ฉินหลั่งตอบกลับ: “การรักษาของคุณมันไม่ถูกต้อง ไม่งั้นมันจะเกิดเรื่องยุ่งยาก”
หลิ่วกุ้ยหันไปหาฉินหลั่ง: “เธอก็เป็นหมอหรือ?”
ฉินหลั่งส่ายหน้า: “ผมไม่ใช่หมอ”
“อ่า ไม่ใช่หมอ……”
อู่เสี่ยวฮุยแค่นหัวเราะ: “ไม่ใช่หมอแล้วยังกล้าพูดจาเรื่อยเปื่อย ช่างน่าขำ”
พ่อบ้านหลิ่วสีหน้าจริงจัง: “คือว่า ขอบคุณสำหรับความหวังดีของเธอ แต่ตรงให้เป็นหน้าที่หมออู๋ก็เพียงพอแล้ว”
เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการฉินหลั่งแล้ว
ผู้คนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
ไม่ใช่หมอแล้วเข้ามาร่วมสนุกอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย พ่อบ้านหลิ่วจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ นี่ใช่ชีวิตผักหญ้าหรือ มาทำตัวเป็นหมาป่าหางโตอยู่ได้
ส่ายหัวทีละคน กับคุณหลู่ยังกล้าคำนวณผลที่จะได้รับ ช่างไม่กลัวตายเอาเสียเลย
ยิ่งกว่านั้นคือเหล่าพยาบาลพากันปิดปากหัวเราะคิกคัก สายตาแสดงถึงความรังเกียจเหยียดหยาม:
“แต่ว่า……”
ฉินหลั่งยังคงอยากจะพูดต่อ พ่อบ้านหลิ่วไม่อดทนโบกมือไล่: “ไป ไปซะ อย่ารบกวนหมออู๋”
ฉินหลั่งแค่นหัวเราะ ยอมรับชะตากรรรม อีกฝ่ายไม่ยอมให้รักษา ไม่เชื่อในทักษะการแพทย์คุณ นั่นหมายความว่าคุณกับคนไข้ไม่มีวาสนาต่อกัน
ฉินหลั่งส่ายหัว เดินออกมาจากฝูงชน……
เหล่าพยาบาลสาวสวยมองด้วยความรังเกียจ: “เสแสร้ง”
“เดี๋ยวนี้เด็กๆ ชอบเพ้อฝัน ไม่อยู่กับความเป็นจริง”
อู๋เสี่ยวฮุยพ่นลมหายใจออกจมูก นำแอสไพรินละลายเป็นน้ำ ค่อยๆ ป้อนคุณหนูหลู่ทางปาก
คิ้วของคุณหลู่คลายปมออก ความเจ็บปวดค่อยทุเลาลงบ้าง
อู๋เสี่ยวฮุยถอนหายใจยาว ถึงอย่างไรก็เป็นถึงคุณหนูตระกูลหลู่ การรักษาเธอสร้างความกดดันอย่างมาก แต่อย่างไรไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
พ่อบ้านหลิ่วยกนิ้วโป้งให้: “คุณหมออู๋ ผมจะบอกคุณท่านแน่นอน จะบันทึกคุณงามความดีของคุณไว้อย่างดี
อู๋เสี่ยวฮุยมีความสุขยินดียิ่ง: “ขอบคุณพ่อบ้านหลิ่ว ขอบคุณ”
ผู้คนรอบทิศทางต่างก็ตบมือชื่นชม
“อ่า……”
ทันใดนั้นเอง คุณหนูหลู่เบิกตากว้างสองมือกุมไปที่ลำคอ อ้าปากกว้างเพื่อหายใจ
ความถี่กระชั้น ความทรมานนั้น แลดูเหมือนปลาที่ขาดน้ำ…….
“คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง”
พ่อบ้านหลิ่วตกใจหน้าถอดสี ตะโกนใส่อู๋เสี่ยวฮุยว่า: “รีบวินิจฉัยสิ คุณหนูเป็นอะไร?”
อู๋เสี่ยวฮุยผู้ภาคภูมิใจในตัวเองมากมายสะดุ้งโหยง รีบคลานเข้าไปหาคุณหลู่ หยิบเครื่องมือออกมาตรวจอย่างลนลาน
“หอบหืดครับ……” ในไม่ช้าอู๋เสี่ยวฮุยก็ลุกลี้ลุกลน: “เป็นเพราะปากอัปมงคลนั่นแท้ๆ คุณหนูมีอาการหอบหืดเรื้อรัง”
ผู้คนเริ่มคุยกันเสียงดัง ไม่คาดคิดว่า ทั้งหมดที่ฉินหลั่งพูดมาจะเกิดขึ้นจริง
เหล่าพยาบาลที่ตื่นตระหนกให้การพยาบาลภายใต้คำสั่งของอู๋เสี่ยวฮุย
แต่อาการของคุณหลู่ยังคงไม่ดีขึ้น กลับกันอัตราการหายใจยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม
ผู้ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรล้วนรับรู้ได้ถึงการหายใจของเธอ
ใบหน้าสวยเริ่มกลายเป็นสีแดงม่วง ราวกับกำลังจะกระอักเลือดออกมาทุกเมื่อ
สีหน้าของอู๋เสี่ยวฮุยถอดสี อัตราการเต้นหัวใจการหายใจของคุณหลู่เร็วถึงจุดวิกฤติแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอาจพรากชีวิตคนได้
พยาบาลสาวสวยทั้งหลายไม่รู้จะจัดการอย่างไร
พ่อบ้านหลิ่วจับอู๋เสี่ยวฮุยตะคอก: “รีบรักษาสิ”
อู๋เสี่ยวฮุยทำหน้าจะร้องไห้ : “สถานการณ์แบบนี้ ผมไม่รู้ควรรักษาอย่างไร……” “ท่านหลิ่ว เร็ว รีบส่งโรงพยาบาลเถิด”
“ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ ต้องตายแน่ๆ!”
อู๋เสี่ยวฮุยรู้สึกถึงความมืดมิดตรงหน้าเขา ถ้าหากว่าคุณหนูตระกูลหลู่มีอันตรายถึงชีวิต เขาจะมีกี่ชีวิตก็ไม่เพียงพอที่จะชดใช้
เพราะนี่คือตระกูลหลู่ ที่สามารถฆ่าเขาได้ทุกวินาที
“พ่องมึงสิ รู้ว่าคนกำลังจะตายยังจะมานั่งโม้”
พ่อบ้านหลิ่วโกรธจัด เตะอู๋เสี่ยวฮุยไปทีแล้วตะโกนเสียงดัง: “เรียกรถพยาบาล รีบเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า”
“เรียกรถพยาบาลก็เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว คุณควรหาตัวเด็กคนเมื่อกี้ให้เจอ”
ฝูงชนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า: “เขาสามารถดูรู้อาการป่วยของคุณหลู่ กระนั้นเขาก็น่าจะรู้วิธีรักษา”
“เขาแค่เดาถูก แค่แมวตาบอดที่บังเอิญเจอหนูที่ตายแล้ว”
อู๋เสี่ยวฮุยไม่พอใจโต้กลับ:” พ่อบ้านหลิ่ว อย่ามัวรอช้ารีบเรียกรถพยาบาลมาเถิด”
“ออกไป!”
พ่อบ้านหลิ่วรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย เรียกรถพยาบาลมาเกรงว่าคงไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงตบอู๋เสี่ยวฮุยอีกที
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปจากฝูงชนอย่างบ้าคลั่ง และไล่ตามไปในทิศทางที่ฉินหลั่งเดินออกไป
ผ่านไปกว่ากี่ร้อยเมตร พ่อบ้านหลิ่วก็มองเห็นหลังของฉิวหลั่ง
“ช้าก่อน—— “ไม่รอให้ฉินหลั่งตอบสนอง พ่อบ้านหลิ่วก็ชิงคุกเข่าลงกอดขาของฉินหลั่ง: “คุณชาย ได้โปรดช่วยคุณหนูของเราด้วย!”
“เธอเป็นหอบหืดจริงๆ ได้โปรดช่วยเธอด้วย”
ถึงแม่เขาจะมีเป็นถึงพ่อบ้านตระกูลหลู่ แต่เป็นเพียงแค่หนึ่งในผู้ดูแลบ้านเท่านั้น วันนี้รับหน้าที่พาคุณหนูออกมาข้างนอก ถ้าคุณหนูเป็นอะไรไป เขาก็คงไม่รอดเหมือนกัน
“ปล่อย!”
ฉินหลั่งได้ยินว่าหอบหืดก็ตกตะลึง แม้จะคาดเดาถึงความเสี่ยงนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง และยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
นั่นหมายความว่าคุณหนูหลู่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน
ฉินหลั่งจับพ่อบ้านหลิ่วออกไป แล้วรีบวิ่งกลับไปที่ฝูงชน
ปรัชญาทางการแพทย์ในการช่วยคนกำลังตายและรักษาผู้บาดเจ็บ ทำให้เขาเพิกเฉยต่อความโกรธเคืองก่อนหน้านี้
ฉินหลั่งเมื่อหันหลังกลับ ยอมให้จุดครอบคลุมที่อยู่ไม่ไกล สายตาอันเฉียบคมสอดส่องไปมาสองฝั่ง
“ทุกคนหลบหน่อย อย่าบังช่องให้อากาศผ่าน!”
ไม่กี่สิบวินาทีให้หลังฉินหลั่งก็กลับมาอยู่หน้าคนป่วย
เขาพบว่าใบหน้าของคุณหลู่เริ่มไร้สีเลือดแล้ว ร่างกายแข็งเกร็ง มีเพียงลมหายใจออกไม่หายใจเข้า
คายเหมิงตันเป็นยารักษาแม่ของเขา และแม้ว่าจะมีมันก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณหลู่ สิ่งนี้มีค่ามากไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้มันได้
ฉินหลั่งเมื่อเห็นสองมือที่แข็งเกร็ง ก็วางฝ่ามือลงไปที่อกของเด็กสาวโดยตรง
“เธอ……” คนของตระกูลหลู่คนหนึ่งโมโหเบิกตากว้าง นี่มันไม่ใช่การฉวยโอกาสอย่างชัดเจนหรือ
หลิ่วกุ้ยรีบจับคนผู้นั้นไว้แล้วดันไปด้านหลัง ท่าทางของฉินหลั่งที่แสดงออกมาทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอย่างน่าประหลาด
ตำรายาของบูโดนั้นซับซ้อน ความประณีตนั้นสามารถพูดได้ว่าไม่มีใครทำได้อีกแล้ว
“ฮู่ว——”
ในไม่ช้าคุณหลู่ก็หายใจออกมาเสียงดัง ร่างกายสั่นสะท้าน และอาเจียนลงบนพื้นหนึ่งกอง
ยาแอสไพรินที่เพิ่งทานเข้าไปก็ออกมาด้วยกัน
ด้วยการรักษาของฉินหลั่ง การหายใจของเด็กสาวกลับมาสม่ำเสมอ ใบหน้าสวยเริ่มมีเลือดฝาด
“เสร็จแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”
ฉินหลั่งตรวจชีพจรให้เธอ จากนั้นพูดออกมาว่า: “พักอีกหน่อยก็สามารถลุกเดินได้แล้ว”
เหมือนกับโรคหัวใจ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาให้ทันท่วงที ดีที่พ่อบ้านหลิ่วเรียกได้ทันเวลา ถ้าหากช้ากว่านี้สักนิดคาดว่าเด็กสาวผู้นี้คงไม่รอดแล้ว
เขาหันไปหาพ่อบ้านหลิ่ว:” คุณหลู่ไม่เป็นไรแล้ว พาเธอกลับบ้านได้แล้วครับ”
“ต่อไปก็อย่ามาสถานที่แบบนี้บ่อยๆ”
“เร้าใจก็ส่วนเร้าใจ แต่กลัวว่าความตึงเครียดทางจิตใจจะมากเกินไปทำให้อาการกำเริบแล้วเสียชีวิตได้”
ฉินหลั่งมองไปที่เด็กสาว ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง รู้ว่าตัวเองจิตใจไม่ไหว ยังมาที่แบบนี้ให้ใจเต้น
เมื่อเห็นว่าคุณหลู่ไม่เป็นไรแล้ว ทุกคนก็โห่ร้องแสดงความยินดี
เหล่าพยาบาลสาวสวยทั้งหลายที่เคยเยาะเย้ยฉินหลั่งเวลานี้ก็ก้มหน้าด้วยความอับอาย
ฉินหลั่งไม่ใช่หมอ แต่หมอควรศึกษาเขาเป็นแบบอย่าง ไม่ใช้ยา ไม่ใช้เข็ม แต่สุดท้ายแล้วคุณหลู่ก็ฟื้นขึ้นมา
ตอนนี้อู๋เสี่ยวฮุยที่ยืนอยู่ด้านข้างใบสีหน้าเหมือนมะเขือม่วงเข้าไปทุกที อยากจะแสวงหาความก้าวหน้าจากตระกูลหลู่ แต่เกือบจะพรากชีวิตคน แถมยังถูกฟาดอีกตั้งกี่ครั้ง ต้องกลับบ้านอย่างอัปยศจริงๆ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset