รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 57 คนที่ฉันชอบก็คือคนไงล่ะ

บทที่ 57 คนที่ฉันชอบก็คือคนไงล่ะ
จูจี้เหวินเงิบเล็กน้อย ยิ้มพูดอย่างประชด:”ยัยดอกทอง แผนแกนี่จะฉลาดดีจริงๆ เมื่อก่อนยังกินดีอยู่ดีอยู่กับผม ตอนนี้ผมลำบาก แกกลับทิ้งไปอย่างง่ายดายในแบบนี้ใช่ไหม”
เส้เหวินจี้งหัวเราะเบาๆ 1 ที ไม่พูดอะไร เธอก็หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ
ทีแรกยังคิดว่าเมื่อวานเพิ่งออกมาจากโรงพัก เธอยังจะอยู่เคียงข้างเขาอีกหลายวันเป็นการตอบแทน ก็คิดไม่ถึงว่าพอจูจี้เหวินไม่มีเงินแล้ว ก็กลายเป็นเหมือนสุนัขบ้าเลย ขนาดเงินนั่งรถแค่100หยวนยังไม่กล้าใช้ ไอ้ขยะที่ขี้เหนียวแบบนี้จะตอบแทนไปเพื่ออะไรกัน?
“ฉันพูดกับคุณชัดเจนแล้วนะ ต่อไปไม่ต้องมากวนฉันอีก” พูดจบ เส้เหวินจี้งลุกขึ้น กะว่าจะเดินจากไป แต่ ยังไม่ทันได้เดินไป จูจี้เหวินก็คว้ามือเธอไว้ จะจนมือเธอรู้สึกเจ็บ
“นังแรด กูดูออกตั้งแต่แรกแล้วก็เธอเป็นคนแบบนี้ ยังไงเธอเป็นแบบไหน คนอย่างพี่ก็เล่นจนเบื่อแล้ว”จูจี้เหวินมองจ้องเส้เหวินจี้งจากหัวจรดเท้า :”อยากไปจากผมนั้นเหรอ ได้ งั้นเธอก็ช่วยเอาเงินที่ผมให้คุณใช้คืนผมมา ห้ามขาดแม้แต่สตางค์เดียว”
“จูจี้เหวิน นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม? มาขอตังค์กับผู้หญิงอย่างฉัน แกหน้าไม่อายหรือยังไง?”เส้เหวินจี้งได้ยินจูจี้เหวินบอกจะให้ตนคืนเงิน ก็โมโหจะตายอยู่แล้ว แล้วรู้สึกอับอายขายขี้หน้าคนอีกด้วย:”ฉันอยู่กับคุณตั้งหลายเดือน ฉันให้คุณฟรีงั้นเหรอ? ฉันยังไม่บอกให้คุณชดใช้เลย แต่นายกลับมาขอกับฉัน จิตใจนายถูกสุนัขกลืนกินหมดแล้วหรือไงห๊ะ?”
“ผมให้เธอใช้เงินผมไปตั้ง6 7แสน เธอเป็นฟ่านปิงปิง หรือว่าanglebabyหรือไง? มีค่าตัวสูงขนาดนั้นเลยเหรอ? ” ตอนนี้จู้จี้เหวินเป็นหนี้ทั้ง 2 ร้าน เส้เหวินจี้งอยากหนีไปแบบนี้ ใจของเขายังไงก็ไม่ยอมอยู่แล้ว:”ได้ ในเมื่อคุณพูดถึงปัญหานี้ งั้นผมจะไว้หน้าคุณในส่วนนี้ ไม่ว่ายังไงคุณกับผมก็เคยมีความสุขด้วยกันในโรงแรมตั้งหลายครั้ง คุณคืนผมแค่ 300 บาทก็พอ ผมก็จะไม่พูดอะไรอีก”
“ประสาท!” เส้เหวินจี้งใช้สายตามองจูจี้เหวินทีนึง และทำท่าทีเหมือนคนโกงไร้สัจจะ:”คนบอกว่าเท่าไหร่ก็เท่านั้น จะให้ฉันคืนทั้ง 2 ล้านเลยก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ยังไงๆ เมื่อถึงเวลาแล้วกูยังไม่คืนเงินคนที่จะถูกตำรวจจับก็ไม่ใช่ฉันอยู่แล้ว”
“อีเวร นี่คุณจะหลอกผมงั้นหรอ?” จูจี้เหวินสายตาดุ ตบหน้าเส้เหวินจี้ง “เฟี้ยะ”แรงๆหนึ่งที บนใบหน้าของเส้เหวินจี้งมีรอยนิ้วมือทั้ง 5 นิ้วบนใบหน้า ผมยุ่งหญิงไปหมด ราวกับคนบ้าเลย:”คุณก็รู้ว่าผมรู้จักคนในสังคมเยอะ ถ้าคุณไม่รวบรวมเงินตามจำนวนให้ครบมาให้ผม คุณก็คอยรอให้พวกเขาพาตัวคุณให้ในป่าได้เลย”
“ถ้าไม่มีปัญญาคืนเงิน คนอย่างผมจูจี้เหวินขอพูดไว้ก่อนเลยว่า ถ้าผมได้เข้าไปอยู่ในคุก ก็ต้องให้เอาคุณไปเป็นเพื่อนด้วย!” จูจี้เหวินเข้าใกล้พูดข้างหูเส้เหวินจี้ง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและประชดประชัน เส้เหวินจี้งเมื่อได้ยินก็รู้สึกชาไปทั้งตัว
“ไปให้พ้นซะ!”จูจี้เหวินผลักเส้เหวินจี้งแรงๆ
จูจี้เหวินมีเส้นสายทางสังคม เส้เหวินจี้งก็รู้ ปฏิกิริยาที่โมโหร้อนของเขาแบบนี้ นี่แสดงว่าจะต้องกลืนกินตนเองให้ได้แล้วสิ สามแสนห้า ตนจะไปหาเงินตั้งเยอะขนาดนี้มาให้เขาได้จากที่ไหน?
เส้เหวินจี้งเดินผ่านฉินหลั่ง อย่างใจลอย ตอนนี้สมองเธอคิดแต่เรื่องเงินสามแสนห้า ถึงกลับไม่ทันสนใจถึงฉินหลั่งที่นั่งข้างๆ
ฉินหลั่งถอนหายใจ ในใจก็รู้สึกเสียใจแทนเส้เหวินจี้งเหมือนกัน ทีแรกตอนที่เธอเพิ่งจะไปคบกับจูจี้เหวิน ฉินหลั่งก็พยากรณ์แล้วว่าผลมันต้องเป็นแบบนี้ แค่คิดไม่ถึงว่า สภาพในวันนี้น่าเศร้ากว่าที่เขาคิดไว้ตั้งเยอะ
นี่ขอโทษใครไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวเส้เหวินจี้งที่โลภมากเกินไป ฉินหลั่งส่ายศีรษะ และทานข้าวต่อ
เส้เหวินจี้งใจลอยเดินไปถึงถนนทางเดินเล็กๆของมหาลัย เดินไร้เร็วแรงอยู่อย่างนั้น ดูไม่มีพลังเหมือนที่ผ่านมา
เงินตั้งสามแสนห้า กดดันทอจนเกือบจะหายใจไม่ออก
เส้เหวินจี้งนั่งลงบนถนน ไม่สนว่าจะทำให้กางเกงสกปรก แล้วคนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา เธอนั่งกอดเข่า และน้ำตาคลอลงมาจากดวงตา
เธอเกลียดตนเอง ทั้งๆที่รู้ว่าจู้จี้เหวินนิสัยเสียแบบนั้น ทำไมยังออกตัวเข้าหาเขาก่อน ผลลัพธ์ที่แลกมาในตอนนี้เป็นยังไงล่ะ?ไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นภรรยาของลูกเศรษฐี กลับต้องเป็นหนี้มหาศาลบ้านนี้
แล้วในตอนนี้เธอก็คิดถึงฉินหลั่งโดยธรรมชาติ ตอนที่คบกับฉินหลั่ง ฉินหลั่งจะเอาของที่ดีที่สุดให้ตน โดยไม่คาดหวังอะไร ถึงแม้เธอจะใช้วิธีที่เยาะเย้ยดูถูก เพื่อเลิกกับฉินหลั่ง แต่เขาก็ไม่เหมือนจู้จี้เหวิน ที่คิดบัญชีกับตนอย่างละเอียดแบบนี้
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ฉินหลั่งดีกว่าจู้จี้เหวินเยอะเลย
ถ้าหากฉินหลั่งเป็นลูกเศรษฐี เส้เหวินจี้งก็คงจะรักเดียวใจเดียวกับเขา
ตอนนี้ฉินหลั่งยังแคร์ฉันอยู่ไหม? ใจเส้เหวินจี้งอดที่จะคิดไม่ได้
เงิน 2 ล้านได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าจู้จี้เหวินเป็นคนเอาไป งั้นก็แสดงว่า เงินจำนวนหนึ่งล้านกว่าที่ฉินหลั่งบริจาคนั้นเป็นของตัวเขาเอง นี่ก็แสดงว่า ฉินหลั่งก็เป็นคนรวย อีกอย่าง ตอนที่อยู่งานเลี้ยงกูเจี้ยนหมิง ฉินหลั่งถูกรางวัลสร้อยคอเพชรมูลค่าแปดแสนแปดหมื่นหยวน ตอนนี้เขาไม่ได้บกพร่องทางด้านการเงินเลย
ถ้าฉินหลั่งยอมช่วยเส้เหวินจี้ง งั้นปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไป!
คิดถึงตรงนี้ ใจของเส้เหวินจี้งก็ค่อยอุ่นขึ้นมาหน่อย ราวกับว่าเธอค้นพบแสงสว่างแล้ว ปัญหาหนักในตอนนี้ก็คือ ฉินหลั่งจะยอมช่วยเธอไหม?
ยังไงเธอก็เป็นอดีตแฟนของฉินหลั่ง เมื่อก่อนตอนที่ยังคบอยู่กับเขา ไม่ว่าเธอจะขออะไร เขาก็จะยอมฉันทั้งนั้น ตอนนี้ถึงแม้ฉันจะทิ้งเขาไปแล้ว แต่ในใจเขายังมีฉันอยู่แน่ๆ ครั้งนั้นตอนอยู่ห้องสมุด ฉันก็สามารถหลอกเขาได้อย่างง่ายดายไม่ใช่หรอ?
ผู้หญิงเชยอย่างจงยู่เพิ่งจะคบกับฉินหลั่งเวลาไม่นานเท่าไหร่ ฉินหลั่งก็แค่เหงา เลยหาเธอมาเป็นตัวแทนของฉัน เมื่อเทียบกับเรื่องความงาม รสนิยมความทันสมัย การศึกษา มีเรื่องไหนบ้างที่ฉันจะชนะเธอไม่ได้? เพียงแค่ฉันกระดิกนิ้ว ฉินหลั่งก็จะกลับมาหาฉัน เหมือนหมาปั๊กไงล่ะ
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เส้เหวินจี้งก็อารมณ์ดีขึ้นมา เธอลุกยืนขึ้นจากถนน เห็นผู้ชายไปคนกำลังมองตน
“คนสวย อย่าเสียใจไปเลย จูจี้เหวินมันเลวของมันอย่างนั้นแหละ ไป พวกเราเลี้ยงคุณดื่มชานมไข่มุกกัน” ชายหนุ่มหลายคนเห็นเหตุการณ์ที่เส้เหวินจี้งกับจูจี้เหวินทะเลาะกันที่โรงอาหาร ก็เลยมาปลอบใจเธอโดยเฉพาะ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ พวกคุณก็แค่อยากจีบฉัน” เส้เหวินจี้งเยาะเย้ยชายหนุ่มพวกนั้น ไม่มีความรู้สึกเสียใจของเมื่อกี้แล้ว :” ไปให้พ้นเลย น้ำหน้าอย่างพวกคุณเนี่ยนะ ช่างกล้ามาจีบฉันอีก! ไม่ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเลย”
พูดจบ เส้เหวินจี้งเปล่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาทีนึง และเดินไปยังหอพัก เธอต้องคิดดีๆว่าจะใช้วิธีไหนทำให้ฉินหลั่งกลับตัวกลับใจมาเธอ จะได้ให้เขาช่วยตนได้ในเรื่องนี้
ฉินหลั่งกลับไปหอพักแล้วแลดูเหรินห้าวพวกเขา เหรินห้าวพวกเขาดีใจใหญ่เลย ถามโน่นถามนี่ฉินหลั่ง ฉินหลั่งไม่ได้บอกเรื่องเกาะป่ายฮัวกับพวกเขา เพียงแค่ว่าตอนไปเที่ยวพักผ่อนในเดือนนี้ ได้ข่าวว่าจับตัวคนร้ายตัวจริงที่ขโมยเงินสองล้านไปได้แล้ว จึงกลับมา
ถ้านำเรื่องที่ตนเป็นลูกมหาเศรษฐีมาบอกให้เหรินห้าวพวกเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ก็คงไม่บริสุทธิ์จริงใจเหมือนเช่นตอนนี้
นี่เป็นสิ่งที่ฉินหลั่งไม่อยากเห็นที่สุด เพราะฉะนั้น ปิดบังได้ก็ปิดบังไว้ก่อนเถอะ
ตอนกลางวันไปทานข้าวกับด้วยกันหยินห้าวพวกเขา เขาถึงยอมปล่อยฉินหลั่ง
คาบเรียนตอนบ่าย เส้เหวินจี้งไม่ได้เข้าเรียน ฉินหลั่งกลัวว่าเธอจะถูกจูจี้เหวินทำให้หวาดระแวง ทนกับการกระทบกระเทือนจิตใจไม่ได้แล้วจะทำให้เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเธอ
พอถึงตอนกลางคืน ฉินหลั่งอยากออกไปทานข้าวด้านนอกกับจงยู่ แต่จงยู่จะอยู่เรียนเพิ่มเติมเองในห้อง ไปไม่ได้ ฉินหลั่งก็ไม่กล้ารบกวนเธอด้วย
ขณะที่ กำลังคิดว่าจะออกไปทานเอง เส้เหวินจี้งก็โทรมาหา ฉินหลั่งลังเลอยู่พักนึง สุดท้ายก็รับสาย
“ฉินหลั่ง”เส้เหวินจิ้งน้ำเสียงท่าทีเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่ในใจกลับคิดมาก ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณยังไม่ลืมฉัน พอฉันโทรหา คุณถึงรีบรับสายทันที
“มีอะไร?”ฉินหลั่งกล่าวถามอย่างเบาๆ เขากลัวว่าเส้เหวินจี้งจะทำอะไรโง่ๆกับตนเอง
เส้เหวินจี้งร้องไห้คร่ำครวญเบาๆ
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากนัดเจอคุณ ได้ไหมคะ?” เส้เหวินจี้งพูดด้วยน้ำเสียงต่ำที่ดูเสียใจมาก เพื่อทำให้ฉินหลั่งรู้สึกสงสาร
ฉินหลั่งลังเลแล้ว
“ฉันก็แค่อยากเจอหน้าคุณสักครั้งก็ไม่ได้หรอ? ตอนนั้นเวลาเที่ยงคืนตีสอง คุณยังมาเจอฉันอยู่เลย หรือว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคน มันได้เจือจางถึงขั้นนี้แล้วเหรอ?” เส้เหวินจี้งรู้สึกขมขื่น:”โอเค ในเมื่อคุณไม่อยากมาพบฉัน งั้นก็คิดซะว่าตลอดระยะเวลา1 ปีที่ผ่านมาที่คุณกับฉันคบกันนั้นก็แค่เรื่องที่สูญเปล่า……”
เส้เหวินจี้งพูดเหมือนผิดหวังมาก แต่ก็ไม่วางสายสักที
“ได้ ผมจะไปพบคุณ” เวลานั้นเอง ฉินหลั่งกล่าวอย่างเบาๆ
“คุณพูดเองนะ งั้นก็ออกมาตอนนี้เลย เจอกันที่ ผับโอวโล่ด้านนอกมหาลัยนะ ไม่เจอกันข้ามแยกย้ายล่ะ”พอพูดจบ เส้เหวินจี้งก็รีบวางสายอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวว่าฉินหลั่งจะคืนคำซะอย่างนั้น
ในขณะนี้เส้เหวินจี้งที่อยู่ในผับโอวโล่ ได้ยึดกระจกออกมาแต่งหน้าเพิ่มเติม กำลังมองดวงตาของตนเองในกระจก เส้เหวินจี้งยิ้มอยากได้ใจ
ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง ไม่นึกเลยว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่เคยลืมฉันได้ลง ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายก็ไม่เอาเลย
แต่ก็โทษคุณไม่ได้หรอก ไม่ว่าผู้ชายที่ไม่ตาบอดคนไหน มาเจอกับเส้เหวินจิ้งคนสวยอย่างฉัน ใครจะไม่ตกหลุมรักบ้างล่ะ?
ถ้าฉินหลั่งอยู่ตรงนี้ คงต้องพูดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณพูดไม่ยอมจบ คนบ้าที่ไหนจะยอมมาพบคุณเล่า
ผับโอวโล่เป็นหนึ่งในผับที่มีน้อยที่อยู่นอกมหาวิทยาลัยจีนหลิง เป็นที่ที่ยอดฮิตของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก เป็นสถานที่ที่คู่รักและคนโสดล้วนชอบไปกัน
ฉินหลั่งเดินเข้าไปในผับ พอเข้าไป ก็เห็นเส้เหวินจี้งกำลังโบกมือเรียกเขาอยู่ตรงมุมที่แสงไม่ค่อยดีนัก:”อยู่ตรงนี้”
ฉินหลั่งนั่งลงบนที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามกับเส้เหวินจี้ง เส้เหวินจี้งเรียกพนักงานเข้ามา:”ฉันขอมาร์การิต้าแก้วนึง และเฮนเนสซี่voxให้เขาแก้วนึง” แค่เหล้า 2 แก้วนี้ราคาก็ประมาณ 200 หยวนแล้ว แต่เส้เหวินจี้งคิดว่ายังไงฉินหลั่งก็เป็นคนจ่ายเงิน ก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดอะไรมาก
เสิร์ฟเหล้าได้รวดเร็วมาก เส้เหวินจี้งกับฉินหลั่งนั่งบนโต๊ะเหล้าเล็กๆ ช่างได้บรรยากาศจริงๆ
“ฉันเลิกกับจูจี้เหวินแล้วล่ะ”เส้เหวินจี้งดื่มเหล้า 1คํา จู่ๆก็พูดกับฉินหลั่งว่า:”เมื่อวานฉันถึงรู้ว่าที่แท้เขาก็คือหัวขโมย และยังใส่ร้ายป้ายสีให้คน เขาช่างเร็วจริงๆ ฉันไม่มีทางใช้ชีวิตร่วมกับคนอย่างเขา เพราะฉะนั้น เมื่อวาน ตอนที่ตำรวจพิสูจน์ความจริงได้ว่าจูจี้เหวินเป็นคนขโมยเงินสองล้านนั้น ฉันก็ได้รีบบอกเลิกเขาทันทีเลย”
พวกคุณเพิ่งบอกเลิกกันตอนเช้านี้ไม่ใช่เหรอ ฉินหลั่งทำแค่เพียงยิ้มเบาๆ และมองเส้เหวินจี้ง
แววตาของเส้เหวินจี้งแสดงท่าทีที่เหมือนดูลึกซึ้งมาก
“ฉินหลั่ง เมื่อคืนตอนนอนราบอยู่บนเตียง ฉันได้คิดอะไรๆเยอะแยะ จูจี้เหวินไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่ฉันชอบ ฉันถามตนเองว่า คนที่ฉันชอบนั้นเป็นคนแบบไหนกันแน่ ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่า คนที่ฉันชอบคือคนที่ซื่อสัตย์ คนดีมีเมตตา และรักฉัน….ไม่ได้เกี่ยวว่าเขาจะร่ำรวยหรือไม่ ฉันเริ่มคิดแล้วว่า ข้างๆฉันมีคนแบบนี้อยู่ไหม ก็มีภาพใบหน้าของคนคนหนึ่งเริ่มลอยอยู่ในสมองของฉันอย่างชัดเจนมาก คุณรู้ไหมว่าคนคนนั้นคือใคร?”
“ใครล่ะ?”ฉินหลั่งให้ความร่วมมือในการพูดไปคำนึง
แล้วตาที่ลึกซึ้งของเส้เหวินจี้งก็ประกายความอ่อนโยน มือของเธอค่อยไปเลื้อยไปที่มือของฉินหลั่ง :”คนๆนั้นก็คือคนไงล่ะคะ…..”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset