รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 599 ตระกูลเสี้ยงใจสั่นเช่นกัน

บทที่ 599 ตระกูลเสี้ยงใจสั่นเช่นกัน
หลังจากส่งตัวพวกเขาออกไป ฉินหลั่งก็ครุ่นคิดว่าการทำธุรกิจนี้ไม่ค่อยเหมือนการฝึกบู๊เลย
ฝึกบู๊สามารถทำให้ล้มได้ในหมัดเดียว แต่การทำธุรกิจไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ต้องปล่อยสัก2-3หมัดถึงจะโอเค
สรุปก็คือต้องคิดให้เยอะๆ
ฉินหลั่งโทรหาฉางจื่อชง สั่งให้เขาทำอะไรบางอย่าง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉางจื่อชงก็ขับรถมาเซราติมาจอดหน้าร้านยาปุ่นฉ่าว
นี่คือเรื่องที่ฉินหลั่งสั่งไว้ เขาเชื่อใจฉางจื่อชงมาก ดังนั้นฉางจื่อชงจึงมารายงานด้วยตัวเองอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด
ฉางจื่อชงรู้สึกว่าฉินหลั่งเข้าใจฉางจื่อชงมากกว่าพ่อของฉางจื่อชงเองซะอีก ปฏิบัติต่อเขาในฐานะประธานจริงๆ ไม่ใช่ในฐานะทายาทเศรษฐีที่อยู่ภายใต้บารมีพ่อ
“พี่ใหญ่ ตาแก่นั่นชื่อเฉาสี่กวง เป็นผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ไตพังทั้งสองข้าง เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นโรคมากมาย มีชีวิตอยู่ได้มากสุดแค่2สัปดาห์”
“นี่เป็นรายงานการตรวจสุขภาพระยะเวลา1สัปดาห์ของเขา”
“แต่เขาน่าจะไม่มีความแค้นอะไรกับพี่ แค่รับเงินแล้วมาก่อเรื่องเฉยๆ”
“และผมยังสืบได้อีก ว่าความเป็นจริงเงินในบัญชีลูกชายเขาเพิ่มอีก5ล้าน”
“เงินโอนมาจากหวางหมั่นถัง ชายร่างสูงคนนั้นโอนมาต่อ”
ฉางจื่อชงส่งรายงายให้ฉินหลั่ง“ยังมีคนบงการเฉาสี่กวงอยู่เบื้องหลังอีก พี่ลองทายดูสิว่าใคร？”
ฉินหลั่งส่ายหัวเบาๆ“ศัตรูฉันเยอะมาก อาจจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น”
ฉางจื่อชงจ้องตาเขม็ง“แม่งเอ้ย จากการตรวจสอบเบื้องต้น น่าจะเป็นไอ้เสี้ยงเฟยสงนั่น และยังมีฝ่ายตรงข้ามคนอื่นๆที่ไม่เปิดเผยพวกมันน่าจะร่วมมือกัน”
ฉินหลั่งขวมดคิ้วเล็กน้อย พวกชั่วร่วมมือกันเป็นทีมเดียวกันงั้นเหรอ？
ไม่เป็นไร งั้นก็วิเคราะห์กัน แทนที่จะหมดกังวล
ฉางจื่อชงยิ้ม“พี่ทำให้พวกมันโกรธไม่น้อย พี่เปิดสำนักศิลปะการต่อสู้ที่เย็นจีน พวกมันไม่กล้ารีบร้อน แต่ถ้าพี่เปิดคลินิก ทำธุรกิจพวกมันอยู่เฉยไม่ได้หรอก แน่นอนว่าต้องมาแก้แค้น”
“เฉาสี่กวง หวางหมั่นถัง ล้วนเป็นพวกไร้สัจจะที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี”
“ทั้งดื่มเหล้าเล่นพนันเที่ยวผู้หญิง เป็นหนี้เยอะมาก จนสุดท้ายตระกูลเสี้ยงก็ซื้อตัวไป ต้องการวางแผนทำร้ายพี่ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร”
“พี่ใหญ่ ตอนนี้เรามีพลังแข็งแกร่ง เป็นพลังที่ไม่อาจประมาทได้ในเมืองเย็นจีนแล้ว ตระกูลเสี้ยงยังดูสถานการณ์ไม่ออกอีก ผมว่าพวกเราจัดการมันไปเลยเถอะ เพื่อไม่ให้เป็นกังวล”ฉางจื่อชงร้อนใจ
ฉินหลั่งหรี่ตาลง“เสี้ยงเฟยสงประเมินตัวเองสูงไป อีกทั้งยังฉันตบต่อหน้าสายตาทุกคน ขององค์การแห่งศิลปะการต่อสู้ในเย็นจีน แน่นอนว่าต้องเดือดมาก”
“แต่ช่างมันเถอะ ตอนนั้นฉันเหยียบย่ำพวกมันซะเหมือนหมา ตอนนี้ฉันก็ทำได้เช่นกัน”
พูดตามตรง ฉินหลั่งไม่เคยมีความทะเยอทะยานอะไร แต่ก็ไม่ใช่จะให้ใครมารังแกได้
ทุกอย่างล้วนมีเวลาของมัน
“อย่าชะล่าใจไป”
ฉางจื่อชงพูดแนะนำฉินหลั่งเสียงเบา ด้วยสีหน้าลังเล“ถึงแม้อำนาจตระกูลเสี้ยงจะถดถอยลงไปมาก แต่ก็ยังเป็นเจ้าถิ่นอยู่”
“พวกมันไม่กล้าทำซึ่งๆหน้า แต่ลูกไม้สกปรกๆก็อาจทำให้ปวดหัวได้”
“พวกเลวทรามต่ำช้าไร้ยางอายแบบนี้ ถ้าพวกมันคิดจะเล่นงานพี่ คงวุ่นวายน่าดู”
“ผมว่าไม่สู้เราหาโอกาสจัดการมันดีกว่า”
ฉินหลั่งยิ้มๆไม่พูดอะไร
ฉางจื่อชงพูด“ที่จริงพี่ไม่ต้องลงมือด้วยตัวเองก็ได้ มีแค่พวกเราก็พอแล้ว
ฉินหลั่งชะงัก“พวกนาย？”
“พวกนายเป็นคู่ต่อสู้กับเสี้ยงเฟยสงงั้นเหรอ？”
“ต่อให้พวกมันร้ายพวกนาย1หรือ20คนก็ล้วนไม่มีปัญหาอะไร”
“ยุทธภพนั้นซับซ้อน มันเป็นหลักทำนองคลองธรรม แต่แท้ที่จริงแล้วหมัดนั้นแข็งแกร่งกว่า ไม่งั้นไม่มีใครพูดเรื่องหลักทำนองคลองธรรมกับนายหรอก”
ฉางจื่อชงงง“พี่ใหญ่ พี่หมายความว่าไง？ผมไม่เข้าใจ”
“กลับไปตั้งใจฝึกการต่อสู้ อย่าเอาแต่คิดจะไปจัดการใคร ไปทำให้หมัดแข็งแกร่งก่อน นายตามมานี่สิ”ฉินหลั่งพูด
ขณะพูดฉินหลั่งก็เดินไปยังห้องหนึ่งของร้านยาปุ่นฉ่าว แล้วปิดประตู
ฉางจื่อชงยังไม่ทันพูดอะไร ฉินหลั่งก็รวบรวมสมาธิทำมือทั้งสองข้างเป็นท่ากรงเล็บเสือ แล้วโจมตีอาวุธของฉางจื่อชงอย่างรวดเร็ว
“พี่ใหญ่？”ฉางจื่อชงตกใจมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะโต้แย้งก็โต้แย้งไม่ทัน ฉินหลั่งล็อคคอเขาในพริบตาเดียว จนหน้าเขาแดงขึ้นมาทันที
“จื่อชง”ฉินหลั่งพูดอย่างเรียบๆ“กระบวนท่าเมื่อกี้นายจำได้รึยัง？”
ขณะพูดฉินหลั่งก็ปล่อยฉางจื่อชง แล้วทำให้ฉางจื่อชงดูอีกครั้ง
ฉางจื่อชงเหงื่อไหลพลั่กๆ ใช้ผลน้ำเต้าฝึกตาม
ที่จริงเขามีสัญชาตญาณที่ดีมาก เพียงแต่ไม่เคยเจอกับปรมาจารย์ บวกกับกระบวนท่าที่ฉินหลั่งเป็นท่าที่ฝึกง่ายที่สุด ดังนั้นฉางจื่อชงจึงฝึกได้เพียงในเวลาแค่ไม่กี่สิบนาที
“โง่ โง่จริงๆ……”ฉินหลั่งไม่พอใจ แต่ฉางจื่อชงกลับดีใจเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณครับพี่ใหญ่ๆ ！”ฉางจื่อชงดีใจมากๆ เขารู้ว่าฉินหลั่งคิดว่าศิลปะการต่อสู้เขาไม่เก่ง เลยสอนด้วยตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่ดีมากๆ
“พี่ใหญ่ ผมควรเรียกพี่ว่าอาจารย์ไหม ”ฉางจื่อชงได้คืบจะเอาศอก พูดด้วยความดีใจ
“เหอะ ค่อยว่ากัน”ยากที่จะได้เห็นฉินหลั่งไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลง
ฉางจื่อชงออกไปด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก
ฉินหลั่งก็ออกไปข้างนอกเช่นกัน แต่ก่อนออกไป ฉินหลั่งได้ให้ฉางจื่อชงเรียกลู้เป้า ซ่งเสี้ยวหยู่พวกเขามา ให้พวกเขาสับเปลี่ยนกันมาดูแลคลินิกในขณะที่เขาไม่อยู่
วันนี้สวี่ซีเหวินโชคร้ายมาก ถ้าไม่มีอิงจิ่งหลิงปกป้องคงตายไปแล้ว ดังนั้นต้องมีคนมาคอยดูแลคลินิก
ระหว่างทางฉินหลั่งครุ่นคิด หลังจากนี้ร้านยาปุ่นฉ่าวจะเกิดเรื่องวุ่นเยอะขึ้นไหมนะ ด้านล่างมีพวกอันธพาล ด้านบนก็มีตระกูลเมิ่งที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในวงการแพทย์ ถึงแม้ตระกูลเมิ่งจะหลบหนีและชดใช้ด้วยเงินจำนวนมากไปชั่วคราว แต่อย่างน้อยทางด้านวงการแพทย์คงไม่ได้คุยกันอย่างราบรื่นขนาดนั้น
ไม่อยากคิดมากแล้ว ฉินหลั่งเลยตรงไปยังสำนักงานขายคฤหาสน์ฝู่ตง
เขาเพิ่งได้เป็นหัวหน้า จึงค่อนข้างรู้สึกแปลกใหม่ เห็นอะไรก็น่าสนุกไปหมด
เมื่อก่อนฉินหลั่งไม่เคยมาที่สำนักงานขาย หลังจากมาแล้วก็พบว่ามันงดงามมาก
ขณะนั้นเองก็มีคนถามขึ้นข้างๆ
“บ้านของที่นี่ราคาตารางเมตรละเท่าไหร่เหรอ？”
น้ำเสียงดูเย่อหยิ่งมาก ข้างๆยังมีผู้ติดตามอีก2-3คน
ฉินหลั่งหันไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยิ้มออกมา พอนึกถึงก็ได้เจอพอดี เมื่อครู่ฉางจื่อชงยังบอกเขาเรื่องที่ตระกูลเสี้ยงลอบกัดอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าแค่แป๊บเดียวเสี้ยงเฟยสงก็มาซื้อบ้านที่คฤหาสน์ฝู่ตงซะแล้ว
แต่พอคิดดูก็ไม่ได้แปลกอะไร คนที่มาซื้อบ้านที่นี่ มีทั้งจงจิ่วเจิน เหลิ่งเชียนชีว และทหาร……มีแต่คนดังๆทั้งนั้น เสี้ยงเฟยสงก็ไม่ถือว่าเป็นคนที่เจ๋งที่สุด
“สวัสดีครับ ของพวกเราราคาตารางเมตรละ2.5ล้าน”พนักงานขายตอบ
พูดเช่นนั้นทำเอาเสี้ยงเฟยสงแอบขมวดคิ้ว นี่มันแพงกว่าราคาในเมืองอีก
“2.5ล้าน เจ้านายพวกนายนี่ใจดำจริงๆ นี่มันขูดรีดกันขัดๆ？”คนติดตามหัวล้านที่มาดูบ้านด้วยของเสี้ยงเฟยสง มีเสี้ยงเฟยสงคอยให้ท้าย เขาจึงกล้าพูดเช่นนี้
“คุณครับ กรุณาอย่าวิจารณ์เจ้านายเรามั่วซั่ว เราทำธุรกิจอย่างชอบธรรม ไม่ขูดรีดเงินคุณแน่นอน หากคุณคิดว่าราคาไม่สมเหตุสมผล คุณจะออกไปก็ย่อมได้”
พนักงานต้อนรับหญิงที่ดูน้ำนิ่งไหลลึกพูดแก้ต่างให้บริษัทตน