รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 627 ทองแท้ไม่กลัวไฟ

บทที่ 627 ทองแท้ไม่กลัวไฟ
เธอหวังว่าตนเองจะสามารถจัดการฉินหลั่งและทิ้งความประทับใจเอาไว้ให้กับประธานหวางและคนอื่นๆ
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเย้นนี มองหวางเสินหนงแล้วพูดง่ายๆสั้นๆ
“ประธานหวางเสินหนง ผมไม่ได้ขโมยคำตอบ และไม่ได้ลอกข้อสอบ ดังนั้นผมไม่ไปห้องประชุม”
“ผมขอร้องให้พวกคุณตั้งคำถามผมตอนนี้ ผมจะตอบคำถามต่อหน้าประธานและทุกคน”
“ถ้าผมไม่สามารถตอบคำถามหรือตอบคำถามผิด ก็หมายความว่าผมขโมยคำตอบ”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่น“ถ้าผมตอบถูก คุณต้องถอนคำพูดต่อหน้าทุกคน รวมถึงให้บุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ!”
พวกเย้นนีต่างรู้สึกว่าฉินหลั่งบ้าไปแล้ว เมื่อกี้ตอบคำถามเพิ่งถูกตอกหน้า ตอนนี้ยังจะตอบคำถามต่อหน้าทุกคน?
นี่มันรนหาที่ตาย
“ประธานหวางเสินหนง เมื่อกี้ผมตั้งคำถามสามข้อให้กับเขา เขาทำไม่ถูกแม้แต่ข้อเดียว แต่ท่าทางของเขาก็ยังคงแย่มาก”
อู๋เสี่ยวฮุยรีบห้ามปราม“พวกเราไม่ต้องเสียเวลากับเขาแล้วครับ”
“จริงด้วยค่ะ ประธานหวางเสินหนง เมื่อก่อนฉินหลั่งเป็นแค่นักศึกษาคณะวิศวะของมหาวิทยาลัยจีนหลิง ไม่เข้าใจด้านการแพทย์แม้แต่น้อย”
เมื่อเห็นฉินหลั่งไม่ฟังคำพูดเกลี้ยกล่อมของตน เย้นนีก็เดินออกมาด้วยความโมโหพร้อมทั้งเปิดโปงข้อมูลของฉินหลั่ง
“เขามาสอบที่นี่ เพื่อเข้าหาฉันเท่านั้น ไม่ต้องทำการทดสอบเขาต่อหน้าทุกคนแล้วค่ะ เขาทำไม่ได้หรอก”
ตอนที่เย้นนีพูดแบบนี้ กลับไม่คิดว่าตนเองก็ซิ่วมาจากคณะอื่น อีกทั้งไม่ได้ซิ่วช้าไปกว่าฉินหลั่ง
“ฉินหลั่ง ตอนแรกฉันไม่อยากพูดเรื่องของนาย อยากจะให้เกียรตินาย แต่ตอนนี้นายสร้างความวุ่นวายแบบนี้ ฉันไม่สามารถปกป้องนายได้แล้ว”
สีหน้าของเธอเจ็บใจที่ไม่เป็นอย่างที่คิด“นายรีบยอมรับผิดเถอะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาจะรุนแรงมาก”
เมื่อคำพูดนี้พูดออกมา ทุกคนพาตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะเรียนด้านบริหาร เพื่อจีบผู้หญิงจึงฉวยโอกาสในตอนที่เหตุการณ์ชุลมุน
อู๋เสี่ยวฮุยหัวเราะเสียงดัง จ้องมองฉินหลั่งแล้วร้องบอก“ฉินหลั่ง มีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”
ฉินหลั่งเพียงแค่มองหวางเสินหนง“ไม่มีอะไรอยากจะพูด แค่สอบก็รู้แล้ว”
แววตาหวางเสินหนงลังเล
“ประธานหวางเสินหนง ผมคิดว่าสามารถสอบเขาต่อหน้าทุกคนได้”
จู่ๆ อู๋เสี่ยวฮุยก็พูดขึ้น“ถึงยังไงผู้คุมสอบก็อยู่ทุกคน มีข้อสอบที่เตรียมเผื่อเอาไว้อยู่แล้ว”
“อีกทั้งให้เขาได้รับโทษด้วยความสบายใจ วันข้างหน้าจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องบ้าๆขึ้นอีก
เขาพยายามพูดเกลี้ยกล่อม“แพ้ต่อหน้าทุกคน ต่อให้ฉินหลั่งจะหน้าด้านแค่ไหน ก็ไม่สามารถขี้โกงไม่ยอมรับผิดได้”
อู๋เสี่ยวฮุยรีบพูดขึ้น“ประธานหวางเสินหนง ไม่จำเป็น……”
“ตกลงตามนี้ โน้มน้าวคนด้วยคุณธรรม โน้มน้าวคนด้วยความจริง!”
หวางเสินหนงตัดสินใจ จากนั้นบอกกับฉินหลั่ง
“วันนี้นายแพ้ ต้องบอกความจริงทั้งหมด ทั้งยังต้องบอกด้วยว่าใครเป็นคนเอาคำตอบมาให้นาย”
“ถ้าหากนายชนะ ฉันจะคืนความบริสุทธิ์ให้กับนาย พร้อมทั้งขอโทษนายต่อหน้าทุกคน สอบสวนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง”
การทำงานของเขาเด็ดขาดมาโดยตลอด“อีกทั้งฉันสามารถรับปากนาย วันข้างหน้าไม่ว่านายจะแข่งขันถึงระดับไหน ฉันสามารถแนะนำนายให้เข้าสมาคม”
ฉินหลั่งยืดเหยียดตัวตรง“ครับ คำไหนคำนั้น”
อู๋เสี่ยวฮุยอยากจะพูด แต่กลับถูกหวางเสินหนงยกมือขึ้นห้ามปราม
“ผู้อำนวยการอู๋ ไม่ต้องพูดแล้ว พูดให้มากกว่านี้ ก็ไม่สู้เผชิญหน้า”
มือทั้งสองข้างของหวางเสินหนงไขว้หลัง“คุณเป็นผู้คุมสอบ ข้อแรก คุณเป็นคนตั้งคำถาม”
“ไม่ต้องเขียนไว้บนกระดาษ เขียนบนกระดานทีเดียว”
“ให้ดวงตานับพันคู่เป็นพยาน”
เขาสั่งให้คนลากกระดานดำที่สามารถเคลื่อนย้ายได้มา
อู๋เสี่ยวฮุยเม้มกัดฟันแล้วพยักหน้า จากนั้นเขียนคำถามที่อยู่ในหัวออกมา
คนที่แซ่หวาง เพศหญิง อายุสามขวบ เพราะอากาศร้อนจัด ตอนกลางคืนหนาวจนเกินไป เช้าตรู่จึงมีไข้ เหงื่อออก เลือดกำเดาไหล วินิจฉัยด้วยตนเองแล้วคิดว่าเป็นหวัด จึงกินยาจีนสำเร็จรูป
ช่วงบ่ายไข้ของเด็กเพิ่มสูงขึ้น T38.5℃ ไอ หายใจถี่ ปีกจมูกบาน ปอดทั้งสองข้างได้ยินถึงความแห้ง ริมฝีปากม่วงเขียว กระหายน้ำ ชีพจรเต้นถี่……
ป่วยเป็นโรคอะไร?
ต้องใช้ยาอะไร?
เห็นอู๋เสี่ยวฮุยเขียนร่ายยาว เย้นนีและผู้สอบทุกคนต่างตะลึงงัน
ข้อนี้เกินกว่าแนวข้อสอบอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยก็ยากกว่าที่พวกเขาสอบในตอนนี้มาก!
แพทย์แผนจีนอาวุโสหลายคนพากันขมวดคิ้วเป็นปม ถึงแม้จะมั่นใจว่าฉินหลั่งขโมยคำตอบ แต่คำถามที่อู๋เสี่ยวฮุยถามมันรังแกกันเกินไปหน่อย
เพียงแต่ฉินหลั่งไม่ได้สนใจ ขึ้นไปบนเวที หยิบชอล์กเขียนกระดานขึ้นมา เขียนคำตอบอย่างไม่รีบร้อน
วิเคราะห์อาการป่วยอาการที่แสดงออกมาเป็นกลุ่มอาการของโรคไท่หยางที่ไม่ได้รับการรักษา วินิจฉัยและรักษาผิดจะทำให้อาการแย่กว่าเดิม ปอดทำงานหนัก ทำให้ปอดร้อน ไอและหายใจหอบถี่……
ความร้อนที่ปอดทำให้เป็นไข้ ไอและหายใจเหนื่อยหอบ อุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลให้กระหายน้ำ ความร้อนทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา ลิ้นเป็นสีแดงเคลือบสีเหลืองอ่อน ชีพจรเต้นเร็วไม่คงที่บ่งบอกถึงความร้อนที่อยู่ภายใน
วิธีการรักษาคือดับความร้อนในปอด
ตำรับยาคือ น้ำยาหมาซิ่งสือกัน
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที วิเคราะห์และเขียนวิธีรักษาออกมา
ถูกทั้งหมด!
นี่มันบ้าไปแล้ว!
อู๋เสี่ยวฮุยตกตะลึง
หวางเสินหนงและแพทย์แผนจีนอาวุโสที่เหลือต่างพากันเบิกตากว้างตะลึงงัน
พวกเย้นนีสูดลมหายใจเข้า ภายในใจสั่นเทา ฉินหลั่งต้องทำถูกแล้วแปดสิบเปอร์เซ็นต์
อย่างน้อยตอนนี้เย้นนีก็เป็นอาจารย์แพทย์ของโรงพยาบาล ถ้าจะบอกว่าไม่เข้าใจด้านการแพทย์ คงเป็นไปไม่ได้
น่าจะตอบถูกแล้ว ไม่อย่างนั้น อู๋เสี่ยวฮุยคงลุกขึ้นมาจู่โจมฉินหลั่งแล้ว
พวกหวางเสินหนงพยักหน้า เพื่อสื่อให้เห็นว่าฉินหลั่งวินิจฉัยถูก
“หา ถูกแล้ว?”
“นี่มันเร็วเกินไปแล้ว ไม่มีการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน แค่กวาดตามองก็สามารถทำได้แล้ว? นี่มันบ้าไปแล้ว”
“หรือว่าเมื่อก่อนเขาเคยทำข้อนี้มาก่อน?”
ผู้เข้าสอบจำนวนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะตกใจ
“จริงด้วยๆ เมื่อก่อนเขาต้องเคยทำแล้วแน่ๆ รู้คำตอบ โกหก……”
อู๋เสี่ยวฮุยดึงสติกลับมา พูดอย่างไม่ตายใจ“อาจารย์หวัง พวกคุณมา ทดสอบเขา”
ทุกคนหันไปมองฉินหลั่งเป็นตาเดียว
ฉินหลั่งยิ้มบางๆ “สอบ!”
หวางเสินหนงรู้สึกท้าทาย“สอบ!”
แววตาหวางเสินหนงเป็นประกาย เดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เขียนคำถามยากๆหนึ่งข้อบนกระดานดำ
พวกเย้นนีแค่มองก็เวียนหัวแล้ว ยากมากยากมากจริงๆ……
ฉินหลั่งใช้เวลาหนึ่งนาทีในการเขียนอธิบาย
ถูกทั้งหมด
ผู้คุมสอบด้านยาเลิกแขนเสื้อขึ้นมาแล้วตั้งคำถาม เขียนคำถามโรคดั้งเดิมที่อยู่ในใจออกมา
แววตาของพวกเย้นนีสิ้นหวัง ไม่สามารถทำได้……
ฉินหลั่งตอบคำถามในหนึ่งนาทีอีกแล้ว
ตอบถูกทั้งหมด
ผู้คุมสอบด้านการฝังเข็ม ผู้คุมสอบด้านการนวดแบบแพทย์จีน ผู้คุมสอบด้านกายภาพสลับผลัดเปลี่ยนกันตั้งคำถาม
คำถามที่พวกเขาตั้งขึ้นมาทำลายความมั่นใจของผู้เข้าสอบ ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นครั้งแรกว่าการสอบเมื่อช่วงเช้ามันแย่แค่ไหน
เพียงแต่คำถามจะยากมากเท่าไหร่ ฉินหลั่งก็สามารถตอบคำถามได้อย่างง่ายได้ ทั้งยังใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น
สุดท้ายหวางเสินหนงยังคงไม่เชื่อ จึงตั้งคำถามที่ยากขึ้นไปอีก
ฉินหลั่งยังคงตอบคำถามในหนึ่งนาที
ผู้คุมสอบด้านการฝังเข็มยอมแพ้……
ผู้คุมสอบด้านยายอมแพ้……
พวกหวางเสินหนงเองก็ยอมแพ้แล้ว
นี่มันเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์ อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะในอัจฉริยะ เพราะต่อให้ฉินหลั่งจะดวงดีแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะท่องจำคำถามและคำตอบของผู้คุมสอบแต่ละวิชาได้
ยิ่งไปกว่านั้นคำถามที่ถาม มีสามข้อเป็นตัวอย่างโรคที่แม้แต่พวกเขายังไม่มั่นใจ ผลสุดท้ายกลับถูกฉินหลั่งวินิจฉัยออกมาอย่างชัดเจน
หวางเสินหนงเหงื่อเย็นไหลพรากเพราะตนเกือบจะสูญเสียอัจฉริยะด้านการแพทย์
ทดสอบเสร็จทั้งหมด
ทุกคนเงียบกริบ
ฉินหลั่งมองหวางเสินหนงแล้วเอ่ยถาม“ประธานหวางเสินหนง พวกคุณพูดสิครับ ผมได้ขโมยคำตอบรึเปล่า?”
หวางเสินหนงยิ้มแล้วโบกมือ“ไม่ ไม่”
“ผมได้ลอกข้อสอบไหมครับ?”
“ไม่ ไม่!”
“ผมใช่คนไม่ได้เรื่องรึเปล่าครับ?”
“พูดอะไรเหลวไหล นายคือความภาคภูมิใจของแพทย์แผนจีน”
“ถ้าอย่างนั้นคะแนน 150 ของผมยังนับไหมครับ?”
“แน่นอนว่านับสิ แน่นอนว่าสับ ทั้งยังจะประกาศ ประกาศไปทั่วทั้งเขต ประกาศไปทั่วทั้งเมือง”
หวางเสินหนงไม่แคร์สายตาของทุกคน เดินไปด้านหน้าแล้วโอบไหล่ฉินหลั่ง
“นายเป็นความภาคภูมิใจของแพทย์แผนจีน นับตั้งแต่ตอนนี้ นายต้องการอะไรสามารถมาหาฉันได้”
เขาไม่ได้น่าเกรงขามอีกต่อไปแล้ว ในทางกลับกันเขาดูมีน้ำใจมาก“ขอแค่ฉันสามารถช่วยนายได้ ฉันไม่มีวันปฏิเสธ”
แพทย์แผนจีนอาวุโสคนอื่นๆต่างเห็นชอบ บอกกับฉินหลั่ง มีความต้องการอะไรสามารถไปหาพวกเขาได้ตลอด

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset