รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 660 คลับหมิงติ่ง

บทที่ 660 คลับหมิงติ่ง
ฉินหลั่งอึ้งเล็กน้อย แล้วยิ้มออกมา:“อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย กินข้าวดีอยู่”
“ในอนาคตถ้าพวกคุณหาเงินได้ ก็กินข้าวนะ”ฉินหลั่งและทุกคนกินกันอย่างอิ่มหมีพีมัน
หลู่เหม่ยเฉินยิ้มออกมา ไม่เคยเห็นคนกินจุขนาดนี้
“อ้อ จริงสิ วันนั้นคุณจัดการโอวโจ่ยังไงเหรอ ไม่เห็นคุณใช้อาวุธอะไรเลย”
หลู่เหม่ยเฉินสงสัยมาก และเพื่อปรับบรรยากาศ
“ง่ายมาก ในตัวผมมีชี่แท้ ผมใช้มันแค่นิดเดียว เล็งไปที่หน้าท้องโยวโจ่ เขาก็ล้มลงแล้ว”ฉินหลั่งไม่ปิดบัง พูดตามความจริง
“เก่งขนาดนั้นเลย?ชี่แท้คืออะไรเหรอ?”หลู่เหม่ยเฉินเปิดโลกมากๆ เขาไม่รู้เรื่องศัพท์เฉพาะของศิลปะการต่อสู้เลย
คนอื่นๆที่นั่งอยู่ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินว่าแค่ปล่อยพลังไปที่ท้อง อีกฝ่ายก็ล้มลงแล้ว ทุกคนก็ตกตะลึงทันที กลัวพลาดที่ฉินหลั่งเล่าไปแม้แต่คำเดียว
“ใช่ ชี่แท้คือแบบนี้ สามารถเปลี่ยนเป็นดาบและธนู และเร็วมาก ถ้าผมไม่ชอบขี้หน้าใคร ผมก็จะใช้ชี่แท้กับเขา แค่นี้เขาก็จบเห่แล้วยังไงตำรวจก็ตรวจสอบไม่เจอ”ฉินหลั่งพูดอย่างไม่มีความผิด แต่คนอื่นล้วนตกตะลึง เขายังคงหาของยัดใส่ปาก ไม่มีความสำรวม น่าเกรงขามอย่างประธานแม้แต่น้อย
จุดสำคัญคือฉินหลั่งไม่อยากน่าเกรงขาม อยากให้ทุกคนหาเงินกันอย่างมีความสุข ทำไมต้องทำหน้าแข็งทื่อทั้งวัน พอทำหน้าแข็งทื่อใครจะไปกินข้าวลง
“มิน่าล่ะ ฉันว่าฉันเข้าใจแล้ว”หลู่เหม่ยเฉินตกตะลึงอย่างมาก เห็นฉินหลั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ตนอยากอาหารขึ้นมาทันที พลางยัดผักและเนื้อกิน:“ปรมาจารย์ งั้นคงไม่มีใครต่อกรคุณได้ใช่ไหม ใช้พลังฆ่าคน น้อยคนที่จะทำได้?”
“ใช่ ประธาน ผมคิดจริงๆนะว่าคุณมาถึงขั้นนี้ คงไม่มีศัตรูที่ไหนแล้ว”ผู้อำนวยการข้างๆพูดด้วยความตื่นตะลึง
“ไม่ใช่หรอก มีแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่เคยเจอจริงๆ ดังนั้นพวกเขาคงตายหมดแล้ว”ฉินหลั่งพูดยอมรับว่าตนไม่มีใครต่อกรได้
ทุกคนต่างอายจนเหงื่อตก ไม่พบคู่ต่อสู้ นั่นก็เท่ากับว่าไม่มีใครต่อกรได้น่ะสิ ประธานที่ดูเหมือนถ่อมตน แต่จริงแล้วไม่ได้ถ่อมตนเลย แต่บอกว่าตนเป็นที่หนึ่งในโลกหล้า
ไม่มีคู่ต่อสู้ ฉินหลั่งไม่เคยเจอคู่ต่อสู้จริงๆ คู่ต่อสู้ล้วนโดนเขากำจัดไม่ก็ยอมจำนน ตอนนี้เขาเป็นอิสระ ศิลปะการต่อสู้ไม่มีใครอาจเทียบเทียม มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้โม้
“อีกทั้งวันนั้นผมรู้ว่าโยวโจ่ชาวกางมีโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้ โรคอะไรนะ?แบบตับไตไม่ดีมาตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นผมจึงเล็งชี่แท้ไปที่จุดอ่อนของเขา มันอันตรายแฝงถึงชีวิต ผมเลยไม่ต้องแตะต้องเขา เขาก็จบเห่ไปเอง ……”
หลู่เหม่ยเฉินอ้าปากค้างเล็กน้อย พระเจ้า แบบนี้ก็ยังดูออก ทักษะการแพทย์ของปรมาจารย์ฉินไม่ธรรมดาจริงๆ
คนอื่นๆดั่งฟังคัมภีร์สวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ประธานพูดแบบนี้ พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าโดนหลอก แต่ตอนนี้พวกเขาต่างศรัทธา ประธานพูดได้อย่างไร้ความผิด ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะไม่มีท่าทีเช่นนี้
ฆ่าคนด้วยชี่แท้ เท่ากับฆ่าคนอย่างไร้ร่องรอย แม่เจ้า ทุกคนล้วนรู้สึกได้ถึงความน่ากลัว และรู้สึกว่าได้ว่าทำไมฉินหลั่งถึงเก่งกล้าเช่นนี้พวกเขาคุยกันอย่างสนุก ขณะกำลังทำความเข้าใจ ใครก็คาดไม่ถึงว่าตอนนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน
ท่ามกลางความมืด สำนักงานใหญ่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินที่การป้องกันหละหลวม มีเงาดำๆแอบเข้าไปในห้องทำงานประธาน
เงาดำนี้สง่างามมากในความมืด นั่นก็คือหยูฉิง เลขาคนสนิทของหลู่เหม่ยเฉิน
หลังจากหยูฉิงจัดอาหารเย็นให้ทุกคนเสร็จ ตนก็แสร้งทำเป็นยุ่งกับงาน อยู่ในบริษัทต่อ เพื่อเข้าไปเอาของบางอย่างในห้องทำงานประธาน
เมื่อเช้าที่ต่งเต๋อเผยโดนไล่ออกไป ตอนหยูฉิงเข้ามาทำความสะอาด เธอแอบติดเครื่องบันทึกเสียงไว้ใต้โต๊ะ
เพราะก่อนเธอเข้ามาในห้องทำงานประธาน ได้ยินคนสองคนกำลังคุยกัน ฉินหลั่งหยิบผงขาวหยุนเซียนออกมา หยูฉิงก็พูดปรึกษา
และการสนทนาหลังจากนั้นก็ถูกบันทึกในเครื่องบันทึกเสียง หยูฉิงเตรียมอาหารเพื่อสิ่งนี้ ตนแอบเข้ามาในห้องทำงาน แล้วหยิบเครื่องบันทึกเสียงใต้โต๊ะ
ไม่ต้องเปิดไฟเลย หยูฉิงคุ้นเคยกับห้องทำงานประธานดี จากนั้นก็ออกไปด้านนอกอย่างไว แล้วซ่อนเครื่องบันทึกเสียงไว้ในเสื้ออย่างระมัดระวัง
เรียกได้ว่าทำได้อย่างรอบคอบ คนก็ดูไม่ออก ต่อให้เจอคนในบริษัท ก็ไม่มีใครโยงไปในทางที่ไม่ดี
หยูฉิงรีบเดินมาล่างตึกสำนักงานใหญ่ จากนั้นเข้าไปในรถบีเอ็มของตน รถบีเอ็มคันนี้คุณผู้หญิงเป็นคนซื้อให้ ล้วนเป็นเงินหลวง ดูมีระดับมาก
เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด หยูฉิงจึงจอดรถไกลจากบริษัทตลอด แล้วเธอก็ปิดไฟในรถ ตั้งใจฟังทุกรายละเอียดในความมืด
เงียบ เงียบจนน่าแปลก หยูฉิงสีหน้ายากจะคาดเดา
“ผงขาวหยุนเซียน มีมูลค่าในตลาดเป็นแสนล้าน?”
“ถ้าส่งออกนอกประเทศ อาจถึงหลักล้านล้าน?”
หยูฉิงที่กำลังฟังเสียงบันทึกพึมพำกับตัวเอง สีหน้าไม่แสดงความตื่นเต้นหรือโศกเศร้า
ผ่านไปนานมาก หยูฉิงค่อยๆออกมาจากรถ พลางกดโทรออก เสียงปลายสายฟังไม่ค่อยชัด แต่เห็นได้ว่าหยูฉิงพยักหน้าอยู่ตลอด
พอขึ้นรถหยูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วรีบออกรถ พลางกดเปิดลำโพง:
“ฮัลโหล?ใช่คุณชายหยางรึเปล่า?”
รถแล่นไปพร้อมกับเสียงการสนทนา……
20นาทีต่อมา คลับหมิงติ่งทั้ง3ชั้นว่างเปล่า มีเพียงหยูฉิงผู้หญิงเพียงคนเดียวเดินเข้าไปด้านใน
ความโอ่อ่างดงามไม่ต้องพูดถึง มันดูโอ่อ่าเว่อร์ไปเล็กน้อย แม้แต่พื้นยังใช้โลหะคล้ายทองคำแท่งมาปู เวลาเดินให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
“คุณบอกว่าบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน จะร่วมมือกับฉินหลั่งผลิตยารักษาบาดแผลงั้นเหรอ?”
หยางจ้างกั๋วเดินเข้ามาอย่างดูดีมีระดับ มือพลางถือแก้วไวน์ แล้วปิดประตู ดูเหมือนว่างานที่ทำลับๆก็ลับพอๆกับ
หยางจ้างกั๋วภายใต้แสงไฟ สวมชุดสูทสีหมึก ที่มีหางนกนางแอ่นเย็บเข้าด้วยกัน ทำให้ทั้งดูหนุ่มและหล่อเหลา นาฬิกาปาเต๊ะฟิลลิปบนข้อมือส่องแสงระยิบระยับ
หยูฉิงไม่พูดเสียเวลา เปิดเครื่องบันทึกเสียงแล้วเชื่อมต่อกับลำโพง ให้หยางจ้างกั๋วฟังด้วยตัวเอง
สีหน้าหยางจ้างกั๋วไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ฟังจบก็พูดขึ้น:“บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินตอบตกลงแล้วเหรอ?”
“ใช่ ตอบตกลงแล้ว”หยูฉิงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ตอบอย่างปกติ:“ไม่ใช่แค่ตอบตกลง แต่ยังเซ็นสัญญากันแล้วด้วย”
หยางจ้างกั๋วยังคงดูไม่ออกว่าอยู่อารมณ์ไหน แต่มือที่ถือแก้วไวน์เริ่มกำแน่น
เงียบสนิท จากนั้นก็เงียบสนิท
หยางจ้างกั๋วนั่งครุ่นคิดบนเก้าอี้ สีหน้าค่อยๆแสดงความโกรธเคือง
เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเร็วขนาดนี้ กะทันหันตั้งรับไม่ทัน
“เนื้อหาในข้อตกลง คุณรู้หรือเปล่า?”หยางจ้างกั๋วถามอย่างเคร่งขรึม พลางกระดกไวน์แดง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset