รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 683 กลิ่นหอม

บทที่ 683 กลิ่นหอม
หลังจากที่ประตูห้องเปิด ทั้งสองด้านข้างมีไม่กี่คนยืนอยู่ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทอุตสาหกรรม
ไวน์เหม่ยเฉิน คำนับแสดงความเคารพต่อฉินหลั่ง
ฉินหลั่งพยักหน้าตอบรับ แล้วเดินไปที่ด้านข้างเตียงผู้ป่วยของหลู่เหม่ยเฉิน
อาการของหลู่เหม่ยเฉินดีขึ้นมาก ความเจ็บปวดลดลงไปไม่เจ็บปวดมากเหมือนก่อนแล้ว ตอนที่ฉินหลั่งเดินไปเข้าหานั้น เธอกำลังออกกำลังกายฟื้นฟูสุขภาพอยู่
แม้ว่าเธอจะอยู่ในชุดผู้ป่วย แต่ว่ายังคงสัดส่วนรูปร่างสวยงาม ดึงดูดให้คนหลงใหลเป็นอย่างมาก
ใบหน้าเรียวงามขาวสวย ตบแต่งด้วยเครื่องสำอาง เปล่งประกายเสน่ห์แห่งความอ่อนเยาว์
“บริเวณข้อเท้ายังมีบาดแผล จะมาออกกำลังกายอะไรกัน คุณอยากจะขาพิการงั้นเหรอ? ” ฉินหลั่งกล่าวด้วยความเย็นชา
หลู่เหม่ยเฉินหยุดการเคลื่อนไหวทันที สองมือรวบผม แล้วขมวดผมมัดสูงเห็นใบหน้าอันเรียวงาม
“นอนอย่างเดียวมันค่อนข้างทรมาน ดังนั้นจึงออกกำลังกายบ้างเล็กน้อย”
“ขาของฉันตอนนี้ขยับเคลื่อนไหวไปมาได้ดีขึ้นมากแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ”
“ทานข้าวต้มก่อนเถอะ” ฉินหลั่งนำข้าวต้มที่อยู่ในมือวางลงไปบนโต๊ะ: “ถึงจะไม่อร่อยแต่ก็ต้องทานให้หมด”
หลู่เหม่ยเฉินแสดงอาการดีใจ: “โอ้โห ประธานฉิน ขอบคุณมากขอบคุณ ทำไมคุณถึงต้มข้าวต้มให้ฉันทานด้วย ฉันตะลึงที่ได้รับการเมตตาอย่างที่คาดไม่ถึง ฉันดีใจมากเลย”
ขณะที่พูด หลู่เหม่ยเฉินร้อนรนเอาทิชชู่เปียกมาเช็ดมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็สูดดมกลิ่นหอมของข้าวต้ม: “คุณต้มข้าวต้มอะไรมาเหรอ ทำไมหอมอย่างนี้ น่าจะอร่อยแน่นอน”
“อีกอย่างคือ แม้ว่าจะไม่อร่อย แม้ว่าจะเป็นยาขม ฉันก็จะทานจนหมดเกลี้ยงโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วใด ๆ ทั้งนั้น”
“คุณพูดถูกต้องแล้ว ข้าวต้มที่ช่วยบำรุงเลือด เป็นคุณหมอ ก็ต้องมีจิตใจเมตตาอารีเป็นเรื่องธรรมดา”
ฉินหลั่งยกเก้าอี้มาตัวหนึ่ง นั่งลงแล้วพูดว่า: “ข้าวฟ่าง น้ำตาลแดง ใส่เก๋ากี๊เล็กน้อย และยังมียาสมุนไพรพิเศษที่ฉันดัดแปลงขึ้นมาเอง คุณทานเถอะ มีประโยชน์ต่ออาการบาดเจ็บของคุณอย่างแน่นอน”
“หาอะไรนะ? ยาสมุนไพร? หลู่เหม่ยเฉินเบิกตาโพลง สีหน้าแสดงอาการที่เกินจริงไปหน่อย”
“ใช่สิ คุณคิดว่ากำลังจีบกันอยู่งั้นเหรอ? จะทำอาหารที่หอมกรุ่นให้คุณทาน? ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเราคือหุ้นส่วนความร่วมมือ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความสัมพันธ์ส่วนตัว คุณเข้าใจใช่ไหม? ” ฉินหลั่งกล่าวอย่างเฉยเมย
หลู่เหม่ยเฉินทำปากจู๋: “มือของฉันก็บาดเจ็บด้วยเช่นกัน? ตอนนี้ยังไม่สามารถถือถ้วยเองได้? ”
ฉินหลั่งตกใจ: “อะไรกัน? เมื่อครู่นี้คุณยังออกกำลังกายอยู่เลย? ทำไมตอนนี้ถือถ้วยเองไม่ได้แล้วเหรอ? ”
หลู่เหม่ยเฉินหน้าแดง เกือบที่จะพึมพำว่าตนเองเป็นหญิงโสดที่ไม่มีใครสนใจแล้ว
“ทานเองนะ เชื่อฟังนะ” ขณะที่พูดฉินหลั่งก็ได้ผลักถ้วยข้าวต้มออกไปด้านหน้า จ้องตาเขม็ง
หลู่เหม่ยเฉินบ่นพึมพำเล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงนำถ้วยข้าวต้มกลับมาถือไว้ ใช้ช้อนคนข้าวต้มและเป่าให้หายร้อน แล้วก็ตักข้าวต้มป้อนใส่ปากของตนเอง
หลู่เหม่ยเฉินที่กำลังโมโหนั้นดูแล้วมีความสุขเป็นอย่างมาก ใบหน้าแดงก่ำ และก็กำลังทานข้าวต้มของผู้ชายที่ตนเองเลื่อมใสทำมาให้ทาน
ใบหน้าแสดงออกถึงลักษณะท่าทางของเด็กผู้หญิงน้อย
เดิมทีเธอคิดว่ารสชาติขม ฝาด แต่เมื่อทานลงไปแล้วแววตาเปล่งประกายแสดงถึงความเอร็ดอร่อย ยิ่งทานก็ยิ่งเร็วขึ้น แต่เมื่อทานไปไม่กี่คำก็มีความรู้สึกเสียดายไม่อยากให้หมดเร็ว จึงค่อย ๆ ทานทีละคำทีละคำ ท่าทางดูน่ารักเป็นอย่างมาก
ฉินหลั่งเห็นสภาพที่เคลิบเคลิ้มของหลู่เหม่ยเฉิน ก็รู้สึกร้อนใจ: “คุณ อย่าเอาแต่ทานอย่างเดียว พี่สาวของหยูฉิงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว? ”
“โอ้โห ฉินหลั่ง คุณสามารถเป็นพ่อครัวขั้นเทพได้อย่างสบาย ๆ เลย” หลู่เหม่ยเฉินตื่นเต้นจนพูดออกมาอย่างไม่คล่องแคล่วแล้ว
“อย่ามาพูดเกินจริงไปหน่อยเลย รีบบอกมาสิ” ฉินหลั่งกล่าว
“ผ่านพ้นขีดอันตรายมาได้แล้ว แต่ยังคงไม่ฟื้นคืนสติ”
หลู่เหม่ยเฉินก็พูดต่อว่า: “สภาพของเธอค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสพอสมควร คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้น่าจะฟื้นคืนสติ แต่ว่าจะมีโรคที่ตกค้างแทรกซ้อนหรือไม่นั้นตอนนี้ยังไม่บอกไม่ได้”
“คุณหมอได้ตรวจพบเขม่าควันพิษที่บริเวณปอดของเธอ”
“คุณช่วยเธอเอาไว้ รอให้เธอฟื้นได้สติขึ้นมา ฉันจะให้เธอขอบคุณคุณ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ที่จะช่วยเหลือเธอ ฉันเพียงแต่ช่วยเหลือบริษัท ยังไม่ทันได้ทำผลกำไรก็มีคนเสียชีวิตแล้ว แบบนี้มันไม่เป็นผลดีสำหรับพวกเรา” ฉินหลั่งกล่าวอย่างไม่ได้ให้ความสำคัญ
ดวงตาของหลู่เหม่ยเฉินอ่อนโยนเป็นอย่างมาก และได้ยื่นมือออกมากุมมือของฉินหลั่งเอาไว้: “ฉินหลั่ง พวกเราคบหาดูใจกันเถอะ ฉันรักคุณมากเหลือเกิน”
“ให้โอกาสฉันสักครั้งเถอะ”
เวลานี้ภายในใจของฉินหลั่งเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ มันมีความซับซ้อนอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ว่าเพียงแวบเดียว ฉินหลั่งกลับยิ้มและพูดขึ้นว่า: “หลู่เหม่ยเฉิน ฉันจะไม่ขอพูดอะไรที่พร่ำเพรื่อ ระหว่างพวกเรานั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ มันคงไม่มีทางเป็นไปได้ตลอดไป เริ่มแรกเริ่มต้นจากความรู้สึกที่เอ็นดูสงสาร ตอนนี้เกิดจากการมีผลประโยชน์ร่วมกัน พวกเราคงจะมีความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เพียงแค่สองสิ่งนี้ มิเช่นนั้นฉันก็คงจะไม่มีความสัมพันธ์ที่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีกต่อไป”
“สมองของคุณมักชอบคิดเรื่องอะไรที่มันเรื่อยเปื่อยเช่นนี้? ฉันคงจะต้องทำการล้างสมองให้คุณหน่อยแล้ว”
“รอให้ผงขาวหยุนเซียนผลิตออกมาเรียบร้อย และถ้าหากคุณยังมีความคิดเช่นนี้อยู่อีกล่ะก็ อย่างนั้นฉันก็จะพิจารณาให้แฟนสาวของฉันเข้าร่วมหุ้นส่วนด้วย” ฉินหลั่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“แบบนี้ก็จะหลีกเลี่ยงการบาดหมางกันในหลายด้าน” ฉินหลั่งรองรับสายตาที่มองมาของหลู่เหม่ย
เฉินอย่างไม่สะทกสะท้าน: “คุณยังไม่เข้าใจอยู่อีกเหรอ? ”
ดวงตาของหลู่เหม่ยเฉินเป็นแววประกาย หัวเราะและพูดว่า: “ไม่มีอะไร ถึงอย่างไรฉันก็เคยชินแล้ว พี่ฉิน พี่สะใภ้คงจะสวยงามมากสินะ ไม่รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับคุณได้……”
หลู่เหม่ยเฉินชอบที่จะจินตนาการใฝ่ฝัน แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่จิตใจที่เศร้าหมอง ผู้หญิงแบบเธออย่างนี้ ก็นับได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เยี่ยมระดับหนึ่งเลยทีเดียวไม่ใช่เหรอ? แต่ก็ยังคงไม่ดีเท่ากับผู้หญิงที่อยู่ในใจของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งรู้สึกแปลกใจกับลักษณะท่าทีของผู้หญิงคนนี้อย่างมาก แล้วพูดว่า: “วันหลังพวกคุณจะได้พบเจอกัน”
“ดีเลย เอาตามที่คุณต้องการ” หลู่เหม่ยเฉินกล่าว
ที่จริงแล้วหลู่เหม่ยเฉินคิดว่า ชีวิตของตนเองในตอนนี้ก็คือฉินหลั่งที่ได้ช่วยเหลือเอาไว้ ยังจะมีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถปล่อยวาง และยอมรับได้อีก
“ใช่สิ พี่ฉิน สูตรลับของผงขาวหยุนเซียนวางอยู่ในห้องทำงานของประธานสถาบันงานวิจัยและพัฒนา ฉันไม่ทันได้นำมันออกมาด้วย”
หลู่เหม่ยเฉินทานข้าวต้มหนึ่งคำ แล้วก็ถอนหายใจอย่างสบาย ๆ : “แต่ว่า ตอนนี้มันคงจะกลายเป็นผงเถ้าไปเรียบร้อยแล้ว”
“ฉันได้ถ่ายภาพเก็บไว้ในมือถือแล้ว”
ฉินหลั่งได้ส่งภาพถ่ายนั้นให้กับหลู่เหม่ยเฉิน: “สูตรลับยาฉบับกระดาษมันไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่จะต้องรีบวิจัยและผลิตออกมา”
“วางใจเถอะ วันนี้ฉันได้สั่งให้หยูถิงไปหาสถานที่ผลิตแห่งใหม่แล้ว”
หลู่เหม่ยเฉินพูดว่า: “อย่างมากก็คงใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ พวกเราก็สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ ฉันรับรองว่า สินค้าลอตแรก จะผลิตออกมาได้ภายในยี่สิบวันหลังจากนี้อย่างแน่นอน”
ขณะที่กำลังพูด ประตูก็เปิดขึ้น หมอหญิงท่านหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
พนักงานของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินสกัดกั้นเธอเอาไว้: “คุณคือใคร? ”
คิ้วของฉินหลั่งขมวดขึ้นเล็กน้อย เขาได้กลิ่นของกลิ่นหอมพิเศษนั้นอีกครั้ง
“ฉันคือหมอ ญาติของผู้ป่วย ขอเชิญท่านรีบไปพบแพทย์รักษาผู้ป่วยหลัก เขาจะชี้แจงอาการป่วยของคุณหลู่ให้ทราบ”
ฉินหลั่งยืนขึ้น: “ตกลง ฉันไปเอง” หลู่เหม่ยเฉินเกิดเรื่องในครั้งนี้ คนในครอบครัวไม่ได้มาเยี่ยมเยียนแม้แต่คนเดียว ช่างน่าหดหู่ใจยิ่งนัก หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขายังไม่ได้รับทราบข่าวสาร
ฉินหลั่งพูดว่า: “แพทย์รักษาผู้ป่วยหลักอยู่ที่ไหนเหรอ? ”
ฉินหลั่งเดินตามหมอหญิงออกไป จากนั้นหมอหญิงพาฉินหลั่งเดินไปอีกไม่กี่เมตร แล้วหมอหญิงก็บอกตำแหน่งสถานที่ของแพทย์รักษาผู้ป่วยหลักให้ทราบ
“คุณหมออยู่สุดริมของระเบียง ชื่อว่าโจวหงหยู่ คุณรีบไปเถอะ เขารอคุณอยู่ ถ้าหากว่าหาไม่เจอ ก็สอบถามผู้ป่วยคนอื่น”
“อืมตกลง”
ฉินหลั่งเดินอย่างรวดเร็วไปตามเส้นทางที่หมอหญิงได้บอกเอาไว้ ไม่นานก็หายวับไปจากทางเดินของระเบียง
เมื่อหมอหญิงไม่เห็นเงาของฉินหลั่งแล้ว ก็รีบหันกลับและเดินไปยังห้องผู้ป่วยที่หลู่เหม่ยเฉินพักอยู่ หลังจากที่เปิดประตู ก็ถูกพนักงานของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินสกัดกั้นเอาไว้อีก:
“คุณหมอ ท่านยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอ? ”
หมอหญิงไม่ได้พูดอะไร แต่กลับสะบัดมือขวาของตน ผงแป้งในมือของเธอหลุดลอยกระจายลงบนใบหน้าของสองพนักงานของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน
ซ่าซ่าซ่า!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset