รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 688 ศัตรูของเพื่อน

บทที่ 688 ศัตรูของเพื่อน
“ไอ้สารเลว แกพูดสุ่มสี่สุ่มห้า! แก๊งแถ่จ่างจ่างคือพันธมิตรกับพวกข้า……”
เห็นเถี่ยซือพูดบอกสถานะของตนอย่างไม่ลังเล เสี้ยงย่าเยว่สีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นก็หยิบปืนพกขึ้นมา เล็งเป้าไปที่ร่างของเถี่ยซือ
ฉินหลั่งเห็นเสี้ยงย่าเยว่ต้องการที่จะฆ่าปิดปาก ก็รีบจับดาบซามูไรแล้วพุ่งไปยังด้านข้าง ใช้สันของดาบตีไปที่ข้อมือของเสี้ยงย่าเยว่ เสียงปืนดังขึ้น แต่ว่ายิงพลาดเป้า ไปเข้าที่ร่างของบอดี้การ์ดคนหนึ่งของตระกูลเสี้ยงแทน
บอดี้การ์ดตระกูลเสี้ยงร้องโอดครวญเสียงดัง กุมไปที่ต้นขาแล้วก็โซเซทรุดลงไปกองกับพื้น
จากนั้นฉินหลั่งก็เหวี่ยงดาบซามูไรอีกครั้ง ปืนพกในมือของเสี้ยงย่าเยว่ก็ถูกตีกระเด็นหลุดลอยไป
“คุณเสี้ยง ดูแล้วคุณก็ไม่บริสุทธิ์ใจ คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร รอให้เขาพูดจบก่อนแล้วเราค่อยมาจัดการก็ได้ ไม่งั้นการกระทำแบบนี้ของคุณ ใช้ปืนยิงคนต่อหน้าผู้ตายที่เคารพภายในหอพิธี ทำให้ฉันคิดได้แต่เพียงว่าคุณต้องการฆ่าเพื่อปิดปาก”
ขณะที่พูดฉินหลั่งก็ได้เตะปืนพกให้ไกลออกไป ในท่าทางที่ผ่อนคลาย ซึ่งแตกต่างกับสีหน้าท่าทางของเสี้ยงย่าเยว่ที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“ฉินหลั่ง แกโหดเหี้ยม ไอ้สารเลว แกทำแบบนี้เหมือนเป็นการยุแยงให้สองฝ่ายแตกแยกกัน แกคิดถึงความรู้สึกของแก๊งแถ่จ่างบ้างหรือไม่? การกระทำแบบนี้ของแกคงจะทำให้แก๊งแถ่จ่างเกลียดเข้ากระดูกดำ และแผนการอันชั่วร้ายของแกก็คงจะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน”
ชาวญี่ปุ่นหลายสิบคนมองไปที่เสี้ยงย่าเยว่ ในใจก็ไม่แน่ชัดว่าตกลงใครกันแน่ที่พูดความจริง
เวลานี้เสี้ยงย่าเยว่ไม่กล้าที่จะลงมือกระทำการใด ๆ อีก ทำได้แค่ร้องตะโกน: “แกมันชั่วช้า แม้แต่คนในครอบครัวของแกก็จะต้องถูกรับโทษด้วยเช่นกัน”
“เถี่ยซือ พูดต่อ เล่าเรื่องราวที่แกทราบทั้งหมดออกมา” ฉินหลั่งกล่าว
อารมณ์ที่หวั่นไหวของเสี้ยงย่าเยว่ ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย และพูดว่า: “วางใจได้ ข้าจะปกป้องดูแลความปลอดภัยของแกเอง และก็จะปกป้องคนในครอบครัวของแกให้ปลอดภัย ข้ารับประกัน”
“ตกลง” เถี่ยซือที่ชีวิตราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย ขณะนี้ได้ทำการตัดสินใจแล้ว สูดลมหายใจ พูดว่า: “แก๊งเถี่ยจ่างถูกหลินเส้าโสเตือนว่า ช่วงนี้ไม่ต้องการที่จะสูญเสียกำลังพลจากการสู้รบปะทะกันเอง จึงต้องการที่จะอาศัยตระกูลโยวโจ่เป็นผู้ล้างแค้นให้แทน”
เถี่ยซือไอจามเล็กน้อย พูดต่อว่า: “ฉันได้ทำหน้ากากจำลองเหมือนจริงตามแบบลักษณะใบหน้าของฉินหลั่ง และแต่งกายปลอมแปลงเป็นหมอ จากนั้นพกมีดผ่าตัดเพื่อใช้เป็นอาวุธแล้วเข้าไปในห้องผู้ป่วย และยังพกปืนกระบอกหนึ่งด้วย”
“เมื่อเข้าไปในโรงพยาบาล ฉันก็ลงมือปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว แทงทะลุเข้าไปที่คอหอยของโยวโจ่ชาวกาง และขณะที่ต่อสู้กันนั้นยังตั้งใจที่จะถอดหน้ากากอนามัยออก เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเป็นฉินหลั่ง แบบนี้ฉันก็สำเร็จกับแผนการที่จะใส่ร้ายโยนความผิดให้กับฉินหลั่งได้แล้ว”
“แก๊งแถ่จ่างคิดว่า การทำเช่นนี้เหมือนกับกระทำเพียงเรื่องเดียวแต่ได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่า และยังสามารถได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นที่สุด แก๊งแถ่จ่างได้รับผลประโยชน์สูงสุด หรือที่เรียกว่าสี่ตำลึงปาดพันชั่ง นั่นก็คือการใช้กำลังน้อยนิดเอาชนะกำลังมาก”
“เมื่อถึงเวลานั้น พวกคุณก็จะสู้รบปะทะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่สำหรับแก๊งแถ่จ่างและตระกูลเสี้ยงต่างก็รอคอยฉกฉวยผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงแรง”
“ไอ้สารเลว ในที่สุดแกก็เอ่ยถึงตระกูลเสี้ยงแล้ว! ข้าก็รู้ว่าแกมันปากสุนัขย่อมไม่อาจงอกงาช้าง ฆ่าคนไม่เลือกหน้า! พวกเราตระกูลเสี้ยงไปเกี่ยวข้องอะไรกับแกด้วย! ” เสี้ยงย่าเยว่ตะโกนพูดเสียงดัง
“ตระกูลเสี้ยง? ตระกูลเสี้ยงรับทราบเรื่องราวการลงมือครั้งนี้ของแก๊งแถ่จ่างทั้งหมด แผนที่โรงพยาบาลคางเจ๋และภาพสถานที่ห้องผู้ป่วยของโยวโจ่ชางกางทั้งหมดนั้นตระกูลเสี้ยงเป็นคนวาดภาพและส่งมอบมาให้ฉัน การลงมือในครั้งนี้ ตระกูลเสี้ยงและแก๊งแถ่จ่างร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด……”
เถี่ยซือพูดในสิ่งที่ตนเองทราบออกมาทั้งหมด……
“ฉันพูดออกมาตามความเป็นจริง ที่โรงพยาบาลฉันมีห้องส่วนตัว ในนั้นมีหน้ากากจำนวนมาก และยังมีภาพวาดเส้นทางที่ตระกูลเสี้ยงเป็นคนให้ฉันมา พวกคุณสามารถไปดูได้”
เถี่ยซือพูดในสิ่งที่ตนเองทราบออกมาทั้งหมด เขาหอบแหก ๆ แต่สิ่งที่เขาพูดออกมาไม่มีความขัดแย้งใด ๆ และพูดออกมาอย่างฉะฉาน ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการหลอกลวง
น้ำเสียงที่จริงใจ รายละเอียดไม่ผิดเพี้ยน และยังมีหลักฐานยืนยัน ทำให้ทุกคนในที่แห่งนั้นเงียบสงบกันไปหมด
“โอ้ ฉันคิดออกแล้ว เหมือนว่าจะเป็นเขาจริงด้วย ลักษณะท่าทางของเขา การพูดการจาของเขา ใช่เขาจริง ๆ ไม่ใช่ฉินหลั่งคนนี้” บอดี้การ์ดคนหนึ่งยืนออกมาและเริ่มแยกแยะ
“ใช่เลย ฉันฟันลงไปที่ใบหน้าเขา พวกคุณดูสิ มีรอยบาดแผลอยู่จริงด้วย”
“แขนซ้ายมีบาดแผลหรือไม่ ฉันแทงเข้าไปที่ตรงนั้น……”
พวกบอดี้การ์ดเริ่มทยอยแสดงความเห็นของตนออกมา เวลานี้โยวโจ่อันซีได้กวาดสายตามองไปหนึ่งรอบ คนเหล่านี้ต่างก็เงียบสงบ ไม่กล้าที่จะเปิดปากพูดอะไรอีก
“คุณโยวโจ่ พวกเขาพูดโกหก” เสี้ยงย่าเยว่แน่นอนว่าไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาด จับยกตัวของเถี่ยซือที่เหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วพูดว่า: “แกใส่ร้ายแก๊งแถ่จ่าง ใส่ร้ายตระกูลเสี้ยง ท่านผู้อาวุโสฉิวกงเฉิงเพิ่งจะแสดงความเสียใจกับคุณชายโยวโจ่ไปเมื่อสักครู่ แกก็มาพูดใส่ความว่าร้าย แกจะต้องถูกกรรมตามสนอง”
ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย: “วางใจได้เถี่ยซือ มีข้าอยู่”
เสี้ยงย่าเยว่ผึ่งไหล่ขึ้น เงยหน้าเล็กน้อย: “คุณชายโยวโจ่ เถี่ยซือผู้นี้คงเป็นคนชั่วที่ฉินหลั่งบงการมาเพื่อก่อกวน คนชั่วช้าชีวิตก็ชั่วช้า ก็คงเป็นเพียงนักแสดงที่ต่ำต้อยผู้หนึ่ง”
“คุณชายโยวโจ่ เพื่อนเก่าแก่กลับกลายเป็นศัตรู ฉินหลั่งคงแอบหัวเราะอยู่ในใจ คุณอย่าได้ถูกเขาหลอกลวงเป็นอันขาด”
ริมฝีปากแดงของเธอได้ถอนลมหายใจออกมา: “หากว่าแผนการชั่วร้ายสำเร็จล่ะก็ ฉินหลั่งก็คงจะกลายเป็นผู้ที่ฉกฉวยและได้รับผลประโยชน์ไปทั้งหมด”
ฉินหลั่งทำท่าทางเย้ยหยัน หัวเราะ: “ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ทางตำรวจมาเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
ทางด้านโยวโจ่อันซีหนังตากระตุก สูดหายใจลึก ลูกตากลอกกลิ้งไปมา และพูดขึ้นว่า:
“คุณเสี้ยง ขอให้คุณวางใจ ฉันจะถูกคนชั่วหลอกลวงได้อย่างไรกัน ตระกูลของเราทั้งสองเป็นเพื่อนเก่าแก่กัน และตระกูลโยวโจ่ของฉันกับแก๊งแถ่จ่างก็มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน พวกคุณจะมาให้ร้ายน้องชายของฉันได้อย่างไรกัน”
“ช่างน่าขบขันเสียยิ่งนัก! ”
“ฉินหลั่ง แกอย่ามานินทาว่ากล่าว ยุยงให้แตกแยกกันเลย”
“คืนนี้ จะปล่อยทิ้งให้เถี่ยซืออยู่ที่นี่ หรือว่าแกต้องการจะถูกฝังไปพร้อมกับโยวโจ่ชางกาง”
เมื่อพูดคำนี้ออกไป ทุกคนในที่แห่งนั้นถึงกับตะลึง เสี้ยงย่าเยว่ก็อ้าปากค้างเล็กน้อย เพราะว่าลักษณะท่าทางของโยวโจ่อันซี ทำให้ทุกคนค่อนข้างจะประหลาดใจ
ฉินหลั่งก็ตกใจเช่นกัน แล้วยิ้มและพูดว่า: “โธ่เอ้ย ก็พวกสารเลวทั้งนั้น ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า อะไรคือเห็นผลประโยชน์แล้วหลงลืมความชอบธรรม”
โยวโจ่อันซีเป็นลูกชายคนโตของโยวโจ่ลู่เหย่ และก็เป็นผู้สืบทอดคนที่หนึ่งของตระกูลโยวโจ่ และยังเป็นผู้มีฝีมือประจำสำนักหมอผี
หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า โยวโจ่อันซีไม่ใช่พวกโง่เขลา เมื่อเปรียบเทียบกับโยวโจ่ชางกางน้องชายของเขาแล้ว เขาฉลาดหลักแหลมมากกว่าเป็นสิบเท่า
ฉินหลั่งพูดว่า แม้แต่บอดี้การ์ดของตระกูลโยวโจ่เองก็สามารถที่จะมองเห็นต้นสายปลายเหตุ ส่วนเสี้ยงย่าเยว่ก็รู้ว่าข้อเท็จจริงมีอยู่จริง แต่ก็เพียงปฏิเสธข้าง ๆ คู ๆ เท่านั้น แต่เรื่องราวมันก็แปลกปลาดเช่นนี้
ด้วยอายุและประสบการณ์ของโยวโจ่อันซี สามารถมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง สามารถทราบได้ชัดเจนถึงความเป็นมาของเรื่องราวอย่างละเอียดตั้งแต่แรกแล้วว่า เถี่ยซือไม่ได้หลอกลวง
ดังนั้น เป็นการร่วมมือกันระหว่างตระกูลเสี้ยงกับแก๊งแถ่จ่าง ลงมือสังหารโยวโจ่ชาวกาง ซึ่งมันคือเรื่องจริง เพียงแค่หาหลักฐานมาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก็สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน
แต่สิ่งที่โยวโจ่อันซีคิดนั้นกลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
มิตร ศัตรู ซึ่งเป็นปัญหาประการแรกที่โยวโจ่อันซีจะต้องเผชิญหน้า
โยวโจ่อันซีตัดสินในใจว่า หากยอมรับฟังความจริงจากฉินหลั่ง ก็จะต้องสูญเสียเพื่อนทั้งสองไป แต่สำหรับนิสัยของฉินหลั่งแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่มีทางที่จะเปลี่ยนจากสงครามกลายเป็นความสงบสุขได้
แต่ถ้าหากทำให้ฉินหลั่งกลายเป็นศัตรู ทุกคนก็จะร่วมแรงร่วมใจกันจำกัดศัตรู มิตรภาพความสัมพันธ์ของทั้งสามฝ่ายก็จะกลับมากลมเกลียวและยืนยาวต่อไป
แต่มีข้อแม้ว่า โยวโจ่อันซีจำเป็นจะต้องแกล้งทำเป็นสับสนงุนงง ในเมื่อโยวโจ่ชางกางก็ตายไปแล้ว ก็ไม่มีความหมายอะไรกับตระกูลโยวโจ่แล้ว และนำเหตุการตายใส่ร้ายให้กับฉินหลั่ง ทำให้ทุกคนสามัคคีกันขึ้น กลับเป็นการสร้างประโยชน์คุณความดีให้กับตระกูลโยวโจ่
ผลประโยชน์ สิ่งแรกที่โยวโจ่อันซีพิจารณานั้นก็คือผลประโยชน์ เพราะว่าการได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบการแพทย์นั้น แสดงให้เห็นว่าตระกูลเสี้ยงและแก๊งแถ่จ่างมีอิทธิพลความสามารถในจีนอยู่พอตัว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset