รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 707 ความเย็นยะเยือกของส้งฉางเว้ย

บทที่ 707 ความเย็นยะเยือกของส้งฉางเว้ย
ทำตัวดีๆหน่อย?
โดนฉิวกงเฉิงสั่งสอนอย่างไม่เกรงใจแบบนี้ ทำให้สีหน้าของพวกเหอซินหย่าเหยเก แววตาฉายประกายความโมโหออกมา
เพียงแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร กวาดตามองฉินหลั่งแล้วหันหลังเดินจากไป
การกระทำข่มฉินหลั่งในตอนแรกก็หายไปจนหมด
อย่าว่าแต่ฉิวกงเฉิงให้ความเคารพฉินหลั่ง การที่ฉิวซียี่อยู่ที่นี่ คนที่พวกเธอเรียกมาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
รวมถึงภรรยาของส้งฉางเว่ยด้วย
น่าเวทนาจริงๆ
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น พวกเหอซินหย่าปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน มาถึงห้องพักของส้งหุ้ยเฉียว
ในเวลานี้เอง ส้งฉางเว่ยและส้งฉางซิงปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รอบตัวพวกเขามีเจ้าหน้าพยาบาลตามมาด้วยจำนวนมาก
เหอซินหย่ารีบเดินเข้าไปตามพวกสาที
“อื้ม อื้ม…….อื้ม…….”
เวลานี้ บนเตียงผู้ป่วย ส้งหุ้ยเฉียวหลับตาปี๋พร้อมกับร้องโอดครวญ ใบหน้าของเธอซีดขาว นิ้วมือจิกไปยังผ้าปูที่นอน เจ็บปวดทรมานมาก
เธอยังไม่ตื่นดี แต่ก็พอรับรู้บ้างแล้ว และเป็นเพราะแบบนี้ เธอจึงเริ่มแบกรับความเจ็บปวดของบาดแผล
“หุ้ยเฉียว หุ้ยเฉียว ไม่ต้องกลัวนะลูก พ่ออยู่นี่…..”
ใบหน้าของส้งฉางเว่ยเต็มไปด้วยความกังวล จับมือลูกสาวเอาไว้ ไม่สนใจว่าเธอจะได้ยินหรือไม่ ร้องเรียกด้วยความเจ็บปวด
“หุ้ยเดียว ลูกจะต้องดีขึ้น ต้องดีขึ้นแน่นอน”
“หมอฉื่อ ให้ยาแก้ปวดกับเธอสักเม็ดหนึ่งเถอะ”
ส้งฉางเว่ยมองดูท่าทีเจ็บปวดปานตายของส้งหุ้ยเฉียว อดไม่ได้ที่จะบอกกับหมอวัยกลางคน:“เธอปวดเกินไปแล้ว”
บุคคลที่ถูกเรียกว่าหมอฉื่อส่ายหน้าเบาๆ:
“กินไม่ได้แล้ว แปดชั่วโมงกินหนึ่งเม็ด เมื่อสามชั่วโมงก่อนเพิ่งกินไป ขืนกินอีกต้องเกิดเรื่องแน่ๆ”
ยาแก้ปวดหนึ่งเม็ดสามารถออกฤทธิ์ได้นานแปดชั่วโมง ส้งหุ้ยเฉียวยาหมดฤทธิ์ตั้งแต่สามชั่วโมง บอกได้เพียงว่าอาการป่วยของเธอเธอสาหัสมาก
“กินยานั้นไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ฉีดมอร์ฟีน”
หยูสู้ฉินภรรยาของส้งฉางเว่ยเห็นลูกสาวเจ็บปวดเธอก็แทบขาดใจ:“ซูเวย ซูเวย ฉีดมอร์ฟีน สมควรตาย ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอถูกฉินหลั่งไล่ออกไปแล้ว”
หมออีกคนหนึ่งเช็ดเหงื่อแล้วพูดขึ้น:“คุณผู้หญิงส้ง มอร์ฟีนก็ฉีดไม่ได้ครับ วันนี้คุณส้งฉีดไปสองเข็มแล้วครับ”
“อันนี้ก็กินไม่ได้ อันนั้นก็ฉีดไม่ได้ หรือจะทนเห็นลูกสาวของฉันเจ็บปวดจนขาดใจตายไปเลยหรือไง?”
ใบหน้าสวยของหยูสู้ฉินโมโหอย่างมาก:“โรงพยาบาลใหญ่ขนาดนี้ แม้แต่ความเจ็บปวดของลูกสาวฉันก็ไม่สามารถระงับได้เหรอ?”
หมอทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร อาการบาดเจ็บของส้งหุ้ยเฉียวรักษาหลายครั้งแล้ว ไม่มีกำลังจะทำอะไรได้แล้วจริงๆ
พวกซุนจี้เซิงเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงออกไป
“ผมเพิ่งโทรหาท่านซุน”
เวลานี้ หมอฉื่อลดที่อุดหูลงแล้วพูดขึ้น:“ท่านซุนให้ผมฝังเข็มให้กับคุณส้งเพื่อลดความเจ็บปวด ตำแหน่งฝังเข็มท่านส่งมาให้แล้ว”
“พวกคุณออกไปก่อนเถอะ ผมให้ท่านหล่านมาฝังเข็ม”
ไม่นาน ท่านหล่านเดินมาด้วยความรีบร้อน ฝังเข็มให้กับส้งหุ้ยเฉียวในตำแหน่งที่ซุนจี้เซิงบอก
ความสั่นเทาและเจ็บปวดของส้งหุ้ยเฉียวเบาบางลงไม่น้อย
หลังจากนั้นสิบนาที พวกหมอฉื่อพูดคุยกับส้งฉางเว่ยและส้งฉางซิงไม่กี่คำ
หลังจากพวกหมอฉื่อออกไป สีหน้าของพวกส้งฉางเว่ยเคร่งขรึมมาก
เหอซินหย่าเดินขึ้นหน้าแล้วพูดหนึ่งประโยค:“อาการของหุ้ยเฉียวเป็นยังไงบ้าง?”
“อาการไม่ดีเท่าไหร่ อาการไม่ทรงตัว”
สีหน้าของส้งฉางเว่ยฉายความอิดโรยออกมา:
“หลังจากวิดีโอคอลคุยกับท่านซุน ท่านซุนบอกว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป อย่างมากสุดหุ้ยเฉียวสามารถอยู่ได้อีกสองสัปดาห์”
แววตาส้งฉางซิงก็ฉายความกังวล ครุ่นคิดว่าต้องเชิญฉินหลั่งมารักษาให้ได้
“ฉินหลั่งที่สมควรตาย เป็นเพราะไอ้เหี้ยนั่น!”
เหอซินหย่าอยู่ด้านข้าง เอาความโมโหเขืองขุ่นไปลงที่ฉินหลั่ง
“ป้าคะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขารอราคาสูงแล้วค่อยรักษา ไม่ยอมช่วยรักษาหุ้ยเฉียว หุ้ยเฉียวก็ไม่มีวันเจ็บปวดทรมานแบบนี้”
“ถ้าหากหุ้ยเฉียวเป็นอะไรไป พวกเราไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่”
สีหน้าของหยูสู้ฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอในตอนนี้เวียนหัวไปหมด เชื่อในสิ่งที่ซูเวยและเหอซินหย่าพูดโน้มน้าว เธอสาบาน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกสาว เธอจะสู้กับฉินหลั่งด้วยชีวิต
“พี่สะใภ้ นี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉินหลั่ง?”
ส้งฉางซิงพูดทวงคืนความยุติธรรมให้กับฉินหลั่ง:“พี่ พี่ไปเชิญฉินหลั่งเถอะ ตอนนี้มีแค่ฉินหลั่งเท่านั้นที่จะสามารถช่วยได้”
“ขืนพี่เอาแต่ห่วงศักดิ์ศรีของตนเอง หุ้ยเฉียวต้องตายแน่ๆ”
น้ำเสียงของเขาเป็นกังวล:“หรือว่าการไปขอโทษ พูดขอโทษ สำคัญกว่าชีวิตของหุ้ยเฉียว?”
สีหน้าของส้งฉางเว่ยลังเล
“ไม่ต้องไปหาฉินหลั่งแล้ว ไม่ต้อง”
“คุณลุง เมื่อกี้ฉันไปเชิญเขาในนามของคุณป้าแล้ว บอกขอโทษแล้ว ทั้งยังให้เงินสดสิบล้านหยวน หวังว่าเขาจะมารักษาหุ้ยเฉียว”
ใบหน้าสวยของเหอซินหย่าโมโหเป็นอย่างมาก:“แต่ผลสุดท้ายเขากลับไม่ไว้หน้าพวกคุณลุงคุณป้าทั้งสอง ทั้งยังเอามีดคัตเตอร์ออกมาให้ฉันตัดนิ้วตัวเอง”
เธอถูกฉิวกงเฉิงฉีกหน้า ในใจทรมานมาก ยิ่งเกลียดฉินหลั่งมากกว่าเดิม
“เป็นไปได้ยังไง?”
ส้งฉางซิงพูดออกมา:“ฉินหลั่งไม่ใช่คนแบบนั้น”
“คนจำนวนมากเป็นพยานได้”
“ซูเวยไปเชิญแล้ว ไม่มีประโยชน์ ฉันไปเชิญแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ ในทางตรงกันข้ามซูเวยกลับเสียตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไป ส่วนฉันก็จะถูกตัดนิ้ว”
เหอซินหย่าพูดเสียดแทงส้งฉางเว่ยอย่างเจตนาและไม่เจตนา:“คุณลุง ดูท่าเขาต้องการให้คุณลุงกับคุณป้าคุกเข่าตรงหน้าเขา ตัดนิ้วตัวเอง เขาถึงจะยอมช่วยหุ้ยเฉียว”
“ให้ฉันคุกเข่าขอโทษ ทั้งยังตัดนิ้วตัวเอง?”
ส้งฉางเว่ยได้ฟังจึงหัวเราะเย็นยะเยือก:“หมอเทพฉินคนนี้ใจกล้าไม่เบาจริงๆ”
ส้งฉางซิงรีบจับมือพี่ใหญ่แล้วพูด:“พี่ใหญ่ ฉินหลั่งไม่ใช่คนแบบนั้น ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ…..”
“ฉินหลั่งไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าฉันและซูเวยพูดใส่ร้ายเขา?”
เหอซินหย่ามองส้งฉางซิงแล้วพูดเย้ยหยัน:
“หรือว่าในใจของนาย ฉันเป็นคนที่อยากเห็นหุ้ยเฉียวตาย? ไม่อย่างนั้นจะใส่ร้ายหมอที่สามารถช่วยเธอทำไม?”
ในใจของเธอ กดฉินหลั่งเพื่อรักษาให้หุ้ยเฉียว สะใจกว่าการที่ตนต้องคุกเข่าขอร้องมาก
เธอเองก็ไม่เชื่อ ฉิวกงเฉิงจะทะเลาะกับสามีเพื่อฉินหลั่ง
“เป็นหมาป่าบนภูเขา สมปรารถนาก็ยิ่งบ้าคลั่ง ฉันจะคอยดู ใครคุกเข่าขอร้องใครกันแน่”
ไม่รอให้ส้งฉางซิลพูดอีก ส้งฉางเว่ยคลายยิ้มบางๆ แววตาของฉายความเยือกเย็น
จากนั้น เขาเอามือไว้ด้านหลังแล้วเดินออกไปจากกลุ่มคน
ท่าทีนิ่งสงบ แต่กลับไม่สามารถปกปิดเส้นเลือดสีเขียวที่ปูดขึ้นมาได้……
ภรรยาส้งฉางเว่ยหัวใจบีบรัดกับการป่วยวันที่สามของลูกสาว ในห้องพักผู้ป่วยจางฉีเซิน
“ไสหัวออกไป ไสหัวออกไป ไสหัวออกไปให้หมด!”
“สวะ เป็นสวะกันหมด ปกติดูเก่งกันจัง แต่พอเวลาสำคัญให้พวกแกฆ่าไอ้ชั้นต่ำนั่น กลับกลายเป็นเต่าหดหัวกันหมด”
หลังจากผ่านการรักษามาสามเดือน มือและเท้าของจางฉีเซินประสานกลับไปแล้ว แต่ในสามเดือนห้ามลงจากเตียง
เขาที่ผ่าตัดเสร็จแล้วอาการดีขึ้น เต็มไปด้วยความโมโห ด่าทอคนดูแลติดต่อกัน
แม้แต่คนสนิทก็ถูกเขาด่ากราด
“ฉีเซิน โมโหขนาดนี้ทำไม?”
“นายกำลังหาเรื่องร่างกายของตัวเองหรือไง”
“จะโมโหแค่ไหนก็ต้องรักษาสุขภาพให้ดีก่อน”
หยางจ้างกั๋วเดินเข้ามาพร้อมกับคนของเขา หลังจากผายมือบอกให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลออกไป เขาก็เดินไปตบไหล่จางฉีเซิน
เห็นจางฉีเซินถูกพันแผลเป็นมัมมี่ มือเท้าเข้าเฝือกไม่สามารถขยับได้นั้น ใบหน้าของหยางจ้างกั๋วเย็นยะเยือกอย่างที่สุด
จางฉีเซินถือเป็นคนสำคัญในแวดวงของพวกเขา ถูกคนทำให้แขกขาหักแบบนี้ สีหน้าไม่ดีแม้แต่น้อย

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset