บทที่ 712 เงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“เป็นเพราะคุณ! เป็นเพราะคุณ! ตั้งแต่ที่คุณเข้ามาหยูฉิงกับคุณหนูก็เกิดผิดใจกัน!” คุณป้าหยูโกรธจนสั่นไปทั้งตัว
“คุณเป็นคนที่คอยยุแยงตะแคงรั่ว สาดโคลนใส่หยูฉิงมาตลอด!”
“ใส่ความให้ร้ายป้ายสี! ความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงเช่นนี้ คุณก็ยังโยนความผิดมาให้หยูฉิงอีก คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง!?”
“ฉันจะบอกคุณให้นะ ถึงแม้หยูฉิงได้รับบุญคุณล้นฟ้าจากบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน แต่เธอก็คงจะไม่สร้างตราบาปให้ตัวเองอย่างแน่นอน”
“พวกเราตระกูลหยูทำอะไรตรงไปตรงมาด้วยความสุจริต แล้วจะทำร้ายคุณหนูของตัวเองได้อย่างไรกัน!”
“คุณ คุณใส่ร้ายป้ายสีหยูฉิง ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด!” คุณป้าหยูเช็ดน้ำตา มองด้วยความโกรธแค้น รู้สึกว่าฉินหลั่งกำลังสาดโคลนใส่หยูฉิง
ฉินหลั่งพยายามรักษาความสงบไว้ “ผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นความจริง แต่ว่าความจริงมันก็น่าจะเป็นเช่นนี้ คุณป้าไปถามหยูฉิงดูก็จะเข้าใจเอง”
“หยูฉิงสามารถที่จะขโมยสูตรลับยาได้ ก็อาศัยเหตุการณ์ไฟไหม้ ไม่รู้ว่าเธอเล่าให้คุณป้าฟังบ้างหรือไม่? ไฟไหม้ตึกศูนย์วิจัยและพัฒนา เป็นเวลาเดียวกับที่พี่สาวของหยูฉิงไปทำงานวันนั้นพอดี ระหว่างนั้นหยูฉิงอาศัยช่วงชุลมุนที่ไฟกำลังลุกไหม้เข้าไปขโมยสูตรลับยาในสำนักงานของเหม่ยเฉิน หลังจากนั้นเพลิงไฟก็ได้ทำลายล้างล่องลอยหลักฐานทั้งหมดไปด้วย”
“สุดท้ายเธอตั้งใจจะเข้าไปทำงานในศูนย์วิจัยให้ได้ ยอมลดตัวจากพนักงานสำคัญคนหนึ่งลงไปเป็นคนทำความสะอาด เป้าหมายเพื่อต้องการเข้าไปสืบหาช่วงเวลาที่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินผลิตสินค้าตัวอย่าง และความลับอื่นๆ เธอเป็นคนเก่าแก่ของบริษัท การสืบหาความลับจึงค่อนข้างง่ายดาย”
“ผลิตภัณฑ์เพิ่งจะออกมา คนของสำนักงานคณะกรรมการยาก็บุกเข้ามาทันที นี่ก็เป็นฝีมือของหยูฉิงที่แอบส่งข่าวไปให้”
“ฝ่ายตรงข้ามจะต้องเสนอเงินก้อนมหาศาลที่เธอมิอาจจะปฏิเสธได้ ไม่เช่นนั้นเธอซึ่งเป็นเพื่อนตอนวัยเด็กของหลู่เหม่ยเฉิน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปลงเรือโจรลำนั้น”
“คุณป้าหยู หยูฉิงเป็นลูกสาวคุณป้า คุณป้าปกป้องเธอก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็อย่าคิดที่บิดเบือนความจริง มันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เรื่องราวทุกอย่างก็จะต้องถูกเปิดเผยให้กระจ่างขึ้น”
“ไม่ คุณโกหก! ที่คุณพูดมาทั้งหมดโกหกทั้งนั้น! ลูกสาวฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน! เธอไม่ใช่คนประเภทนั้น!” คุณป้าหยูเริ่มตะโกนร้องออกมา
ตอนนี้หลู่เหม่ยเฉินก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหว ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“พี่ฉินคะ ฉันรู้สึกว่าเป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ? นี่….ช่างโหดร้ายเกินไป….”
“ในความทรงจำของฉัน หยูฉิงทำงาน…..แท้จริง…..ที่จริงแล้วก็มีหลักการดี….”
ฉินหลั่งพูดด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้มันดูแปลก แต่ว่ามันก็ไม่แปลกนะ เงินสามารถซื้อทุกอย่างได้ คุณคอยดูไปเถอะ” พูดพลางฉินหลั่งก็ยื่นมือถือที่เพิ่งเอาออกมาวางบนมือของหลู่เหม่ยเฉิน หลู่เหม่ยเฉินเปิดอ่านดู แล้วก็ตกตะลึงทันที
เมื่อครู่เหว่ยฝ่าเทียนส่งข้อความมา ได้ตรวจพบว่ามีเงินจำนวน 500 ล้านฝากเข้ามายังบัญชีธนาคารของหยูฉิงอย่างไม่รู้สาเหตุ วันเวลาที่เงินเข้าก็ตรวจสอบแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาในเร็วๆนี้ ตอนนี้เพียงแค่หลักฐานชิ้นนี้ก็สามารถตัดสินแล้ว ข้อกล่าวหาของหยูฉิงจะไม่สามารถลบล้างออกอย่างแน่นอน
นี่ก็คือหลักฐาน ตรงกับการคาดคะเนของฉินหลั่ง ถึงแม้การคาดคะเนของฉินหลั่ง อาจจะแตกต่างจากข้อเท็จจริงบ้าง แต่ว่าเบื้องต้นสามารถสรุปว่า หยูฉิงจะต้องลับหลังบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินติดต่อแลกเปลี่ยนทำการค้ารายการใหญ่ไว้ เธอเอาอะไรมาเจรจาแลกเปลี่ยน ด้วยฐานะหน้าที่ของเธอ ก็คงมีเพียงผลประโยชน์ของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินที่จะเอาไปเป็นข้อต่อรองแลกเปลี่ยนได้
ใบหน้าสะสวยของหลู่เหม่ยเฉินรู้สึกลำบากใจมาก เธอเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาด เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน ค่าตอบแทนที่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินให้กับหยูฉิงนั้นไม่ใช่จำนวนน้อยเลย แต่ว่าเงินจำนวนมากมายพวกนี้ แล้วก็ยังเป็นเงินสดเคลื่อนไหวด้วย หยูฉิงต้องไม่มีอย่างแน่นอน”
แต่ว่าเพื่อไม่ให้คุณป้าหยูได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเกินไป หลู่เหม่ยเฉิน ก็ไม่ได้รีบเปิดเผยทันที ได้แต่ถอนหายใจ “ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ไม่มีทางอื่นแล้ว เธอตกลงแลกเปลี่ยนแล้ว คงจะต้องเป็นหยางจ้างกั๋ว”
“อึม พวกเราไปคุยกันที่อื่นเถอะ” ฉินหลั่งดึงหลู่เหม่ยเฉินแล้วพูดเสียงเบา “เมื่อกี้ได้รับข่าวมาว่า ตอนนี้หยูฉิงกลายเป็นบุคคลที่หายสาบสูญไปแล้ว ค้นหาสถานที่ที่เธอเคยไปทุกแห่งแล้ว ก็ไม่พบเธอเลย”
“โอ๊ย? เป็นไปได้อย่างไรคะ” หลู่เหม่ยเฉินเอามือป้องปากตัวเอง “เธอหนีไปอยู่ที่อื่น หรือไปเมืองนอกคะ? แต่ว่าเงินที่เธอได้มาทำไมถึงไม่ได้เอาไปด้วย?”
ตอนนี้ มารดาของหยูฉิงก็พุ่งตรงเข้ามา “พวกคุณอย่าพูดเหลวไหลนะ ฉันไม่ได้ยินแต่ก็รู้ว่าพวกคุณพูดเหลวไหล หยูฉิงเป็นเด็กดี ไม่ทำเรื่องเช่นนั้นแน่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน เธอจงรักภักดีต่อคุณหนู เป็นห่วงคุณทุกวัน เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะทำเช่นนั้นได้ พวกคุณ อย่าพูดจาเหลวไหล!”
“ทุกเรื่องก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ คุณนายหยู ผมหมายถึงเรื่องทุกเรื่อง”
ฉินหลั่งพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วไม่พูดอะไรอีก
มารดาของหยูฉิงอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าทำไมฉินหลั่งท่าทีอ่อนโยนขึ้นมาทันทีเช่นนี้ แต่หลู่เหม่ยเฉินกลับเม้มมุมปาก ท่าทางเหมือนอยากร้องไห้ออกมา
เจ้าเงินเอ๋ย มีผู้คนจำนวนมากมายที่ลุ่มหลงในตัวเจ้า ผู้คนจำนวนมากมายที่ยอมสละทุกอย่างแม้กระทั่งแตกหักกับเพื่อนฝูงญาติมิตรก็เพื่อเจ้า
แต่มีเพียงฉินหลั่งเท่านั้น ที่ไม่ได้เห็นความสำคัญของเงินทอง เห็นเงินทองราวกับกรวดหินดินทราย เงินจะไปหรือจะมาก็ไม่ได้ทำให้ฉินหลั่งเกิดความเจ็บปวดแต่อย่างไร
ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน หลู่เหม่ยเฉินเก็บความรู้สึกอัดอั้นตันใจไว้ไม่ไหว ซบลงบนไหล่ของฉินหลั่งแล้วสะอื้นร้องไห้อย่างเงียบๆ
คุณนายหยูสีหน้าไร้จุดหมาย เธอมองดูหลู่เหม่ยเฉินกับฉินหลั่งสักครู่หนึ่ง รีบวิ่งไปที่โทรศัพท์แล้วโทรไปถามหาทุกที่ แต่ก็ไม่ได้รับข่าวคราวอะไรของหยูฉิงเลย
คุณนายหยูนั่งบนโซฟาอย่างสิ้นหวัง “จะไปไหนได้นะ? เด็กคนนี้ จะไปไหนได้? โกรธงอนอะไรอีก?”
“คุณนายหยูครับ เป็นเรื่องจริงที่หยูฉิงทำผิด เพราะเรื่องเงิน” ฉินหลั่งยืนยันให้แน่อีกครั้ง น้ำเสียงคราวนี้แน่วแน่กว่าครั้งก่อน เขาลองหาวิธีที่จะช่วยหยูฉิงให้พ้นผิด
“อึม..” คุณนายหยูหยุดคิดสักครู่ แล้วหาคำแก้ตัวขึ้นมาทันที “ใช่สิ ต่อให้หยูฉิงทำเช่นนั้นจริง แต่ว่าตอนนั้นหยูฉิงไปล้างห้องน้ำคนที่เสนอไม่ใช่ท่านเถ้าแก่ฉินหรอกเหรอ? เธอมีโอกาสอีกครั้งที่ได้เข้าไปที่ศูนย์วิจัยอย่างถูกต้อง ก็เพราะเจตนาของเถ้าแก่ฉิน ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวคุณเอง หากให้เหม่ยเฉินเป็นคนตัดสินใจล่ะก็ คงไม่ให้เธอไปอยู่ที่ศูนย์วิจัยพัฒนา เพื่อใกล้ชิดกับของพวกคุณหรอก”
คุณนายหยูปกป้องมากเกินไป พูดจาเฉไฉเพื่อเอาชนะ หลู่เหม่ยเฉินรู้สึกไม่อยากจะเถียงกับคุณป้าหยูแล้ว เธอส่งยิ้มให้แล้วลากฉินหลั่งออกมา “ไปกันเถอะค่ะ พวกเราไปเถอะ………”
ฉินหลั่งถอนหายใจ เดินออกจากประตู พอพ้นประตูหลู่เหม่ยเฉินก็สวมกอดฉินหลั่งแล้วร้องไห้โฮออกมา “ฉินหลั่ง ขอโทษนะคะ ฉันไม่ดีเอง ทำให้สิ่งของล้ำค่าเช่นนี้ต้องสูญหายไป มันเป็นความผิดของฉัน….”
ใช่แล้ว บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินเดิมทีสามารถที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแนวหน้าของวงการธุรกิจยาในเมืองจีนหรือแม้กระทั่งในระดับโลกก็ได้ แต่แรกนั้นหลู่เหม่ยเฉินก็ได้ใฝ่ฝันถึงเวลาที่ผงขาวหยุนเซียนดังเป็นพลุแตก ฝันถึงเสี้ยววินาทีที่เข้าเคาะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่เสียดายทั้งหมดมันกลับกลายเป็นฟองสบู่
เธอยังเคยหวังไว้ จะอาศัยการชักนำของผงขาวหยุนเซียน เป็นสื่อให้ครองรักกับฉินหลั่ง หารู้ไม่เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในวินาทีสุดท้าย
“ฉินหลั่ง ความเสียหายของคุณ ฉันจะชดใช้ให้อย่างเต็มที่ อย่างมากก็ยกบริษัทให้คุณทั้งหมด ฉันไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว ฉันปลงแล้ว…..”
หลู่เหม่ยเฉินปิดหน้าแล้วร้องไห้ น้ำตาไหลออกมาตามซอกนิ้วของเธอ
“อย่าร้องเลยครับ เรื่องราวอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้” ฉินหลั่งขมวดคิ้วเล็กน้อย “สำหรับค่าชดเชยนั้น ทีหลังอย่าพูดถึงมันอีก ฉันไม่สนใจเรื่องเงินหรอก”
“พวกเราพูดได้เพียงว่า ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร จุดจบของหยางจ้างกั๋วไม่ดีแน่” พูดพลางฉินหลั่งเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เดิมคิดจะเอามือไปเช็ดน้ำตาให้กับหลู่เหม่ยเฉิน แต่ก็ไม่ได้ทำ จึงเอามือเสียบเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
“ทำดีทำชั่วผลกรรมย่อมตามสนอง ผลกรรมยังไม่ตามสนองเพราะยังไม่ถึงเวลา”
ฉินหลั่งกล่าว
“ฉันเชื่อค่ะ ฉันเชื่อแน่นอน” หลู่เหม่ยเฉินพูดพลางเช็ดน้ำตาตัวเอง “ฉันจะต้องจับหยูฉิงกลับมาตรวจสอบใหม่…..”
พูดพลางเธอก็รีบเช็ดน้ำตา แล้วหยิบมือถือขึ้นมา แต่ตอนนี้มีโทรศัพท์เข้ามาหาพอดี
“อะไรนะ? คุณพูดว่าอะไรนะ?” สีหน้าหลู่เหม่ยเฉิน ซีดเซียวขึ้นมาทันควัน เรื่องที่กังวลใจก็เกิดขึ้นจริง “หยูฉิง ตายแล้วเหรอ?” มือถือของหลู่เหม่ยเฉินก็พลันตกลงพื้นทันที ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
หยูฉิงตายไปแล้วจริงๆ นี่เป็นปัญหาที่ฉินหลั่งกับหลู่เหม่ยเฉินกังวลมาตลอดตั้งแต่อยู่บ้านหยูฉิงแล้ว อีกอย่างฉินหลั่งยังเคยคิดหาทางออก ที่จะลดความร้ายแรงนี้ลงไปเท่าที่จะเป็นไปได้ สุดท้ายก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของฉินหลั่ง หยูฉิงตายไปแล้ว
เมื่อเขาทั้งสองไปถึงโรงพยาบาลนั้น ศพของหยูฉิงก็ได้ยุติการช่วยให้ฟื้นคืนชีพแล้ว ร่างของเธอนอนแข็งเย็นอยู่ในโลง หลับตาแน่นสนิท ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล
เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว รถของหยูฉิงเกิดเหตุเบรกขัดข้อง ถูกรถบรรทุกชนในสถานที่แห่งหนึ่งของเมืองเยินจีน ทำให้บาดเจ็บสาหัส
ตำรวจจราจรก็นำร่างของหยูฉิงไปส่งที่โรงพยาบาล คณะแพทย์ก็ได้พยายามช่วยรักษาชีวิต แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เธอก็ได้เสียชีวิตลงในที่สุด
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…..” หลู่เหม่ยเฉินบ่นพึมพำ ดูเหมือนจะยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ ระหว่างทางเธอก็ยังร้องไห้ไม่หยุด แสดงออกถึงความหมดหนทางอย่างที่สุด
หลู่เหม่ยเฉินตอนนี้ น้ำตาก็หยุดไหลแล้ว ร่างของเธอเพียงแต่ยังสั่นสะอื้น บ่นแบบพึมพำว่า “เป็นไปได้อย่างไร…” เธอก็คิดจะเข้าไปสัมผัสอีกฝ่ายแต่สุดท้ายก็ไม่กล้าเข้าไป
เธอไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนตาย แต่เมื่อเห็นเพื่อนสนิทจากไปกะทันหันเช่นนี้ เหมือนถูกมีดกรีดตรงหัวใจ
ลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็เหมือนกับนั่งรถไฟเหาะหลู่เหม่ยเฉินรู้สึกยากที่จะรับได้ ธุรกิจการค้าตกต่ำลงอย่างกะทันหัน แล้วยังมาเจอเรื่องถูกเพื่อนสนิทหักหลัง แล้วก็ตายจากไปอย่างกะทันหัน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ราวกับดิ่งลงสู่ก้นเหว
เธอหันหลังกลับไป กอดฉินหลั่งไว้ ไม่ยอมลุกขึ้น ในคราวนี้ สีหน้าฉินหลั่งเย็นชา แต่ก็ไม่ได้ผลักเธอออกไป เพียงแต่ปลอบว่า
“ประธานหลู่ อย่าโศกเศร้าเสียใจเลยครับ”
“พี่ฉินคะ คุณว่านี่เป็นอุบัติเหตุ? หรือฆาตกรรม?” ซบบนร่างของฉินหลั่งสักครู่ หลู่เหม่ยเฉินรู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที เงยหน้ามองฉินหลั่งแล้วถามว่า “หยางจ้างกั๋วฆ่าหยูฉิงใช่ไหมคะ?”
เป็นที่รู้กันว่า หยูฉิงเป็นพยานสำคัญที่จะช่วยพลิกคดีให้กับหลู่เหม่ยเฉิน แต่ตอนนี้เธอเสียชีวิตแล้ว ทำให้หลู่เหม่ยเฉินและผงขาวหยุนเซียนเหมือนถูกผลักสู่เหวลึก แทบจะไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้เลย
“ไม่แน่ใจ” ฉินหลั่งพูด “ตำรวจกำลังสืบหาข้อเท็จจริง หลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดก็ได้นำไปพิสูจน์แล้ว เชื่อว่าใช้เวลาอีกไม่นานก็จะสรุปผลออกมาได้”
“ถ้าเป็นฝีมือของหยางจ้างกั๋ว ตำรวจไม่มีทางสืบหาเบาะแสอะไรได้หรอก” หลู่เหม่ยเฉินกัดริมฝีปากพูดด้วยความมั่นใจ “ฉันกับหยูฉิงสนิทกันมาก รถของเธอฉันก็เป็นคนซื้อให้ บีเอ็มดับเบิลยูคันนั้น เมื่อสามวันก่อนเพิ่งเอาไปอู่บำรุงรักษา เป็นไปไม่ได้ที่เบรกจะเสียได้”
“ร้าน 4S ที่รับผิดชอบบำรุงรักษานั้นกับหยูฉิงรู้จักกันดี การบำรุงรักษารถก็ทำถูกต้องตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ฉะนั้นแล้ว เบรกขัดข้องจึงไม่ใช่สาเหตุจริงที่เชื่อถือได้”
“อีกอย่างก็คือ รถบรรทุกชนจากด้านหลัง ไม่น่าจะเกี่ยวกับเบรกขัดข้องเท่าไหร่นัก เบรกรถยิ่งดี การชนก็ต้องรุนแรงมากขึ้น ทำไมจึงสรุปคดีแปลกประหลาดอย่างนี้ล่ะ?” หลู่เหม่ยเฉินพูดข้อสงสัยของตัวเอง
ฉินหลั่งพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เพียงแต่ชนจากด้านหลังอย่างง่ายดายเช่นนั้น ก็คงเป็นเช่นนั้น ดังนั้นสรุปสาเหตุการตายแบบนี้ก็ไม่แปลก มองดูจากที่เกิดเหตุก็น่าจะดูออก”
แต่หลู่เหม่ยเฉินคิดว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน
ฉินหลั่งพูดต่อไปว่า “ตอนนี้งานจราจรก็ล้วนมีกล้องวงจรปิดอยู่ ถ้าดูจากกล้องวงจรปิด เบรกรถของหยูฉิงเกิดปัญหาจริง สุดท้ายก็ต้องชนกับรถบรรทุก”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 712 เงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญ
Posted by ? Views, Released on October 22, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment