รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 711 คุณนายหยู

บทที่ 711 คุณนายหยู
“ท่านประธานหลู่ครับ ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่า โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเป็นผู้ที่ยื่นขอจดสิทธิบัตร และพวกเขาก็เป็นคนที่แจ้งข่าวให้พวกเราทราบด้วยครับ”
“โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเหรอ” หลู่เหม่ยเฉินประหลาดใจมาก “นี่เป็นโรงงานเก่าแก่ที่จวนจะปิดแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เช่นทุกวันนี้ พวกเขายังสามารถที่จะได้รับสิทธิ์ทั้งหมดในการผลิตผงขาวหยุนเซียนเหรอ?”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ” หลู่เหม่ยเฉินไม่เข้าใจอย่างยิ่ง โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเคยเป็นบริษัทผลิตยาที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง เดิมทีเป็นโรงงานผลิตยารักษาแผลที่ใหญ่โต หลังจากที่กิจการค่อยๆตกต่ำลง ทยอยเลิกจ้างคนงาน จนถึงสภาพที่กึ่งหยุดงานกึ่งปิดกิจการ
ตอนนี้ก็อาศัยการรับงานจากบริษัทอื่นเพื่อประคองตัวให้อยู่รอด โรงผลิตยาอย่างนี้หรือจะมาฟ้องร้องบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินที่กำลังรุ่งโรจน์ มันแทบจะไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
“เมื่ออาทิตย์ก่อนพวกเขาเพิ่งจะเสี่ยงเพิ่มทุนไปจำนวนหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่านประธานหลู่ มันน่าแปลกใจมากจริงๆ” ในระหว่างที่หลู่เหม่ยเฉินกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น เหว่ยฝ่าเทียนก็หยิบมือถือขึ้นมาสอบถามข้อมูล จากนั้นก็รายงานข่าวคราว “หลังจากที่มีการเสี่ยงเพิ่มทุน 100 ล้านนี้แล้ว โครงสร้างผู้ถือหุ้นของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ พวกเขาเร่งรัดในการปรับปรุงซ่อมแซมโรงงานเก่าที่ผุพังทั้งหมดให้กลายเป็นโรงงานใหม่ แล้วยังจ้างนักวิจัยพัฒนาในการผลิตยาชุดใหม่ด้วยเงินเดือนที่สูงลิ่ว”
“เมื่อ 3 วันก่อนได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสูตรผสมยา เมื่อวานซืนก็ได้รับอนุมัติแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่ล่าสุด”
“ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่พวกเขาเพิ่งจะได้รับสูตรผสมยาเมื่อเร็วๆนี้เอง ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องเร่งรัดเวลาเหมือนพวกเราอย่างนี้”
“นี่ก็แสดงว่า มีความเป็นไปได้ที่ความลับเกิดรั่วไหลภายในพวกเรากันเอง ผมคิดว่าเป็นเรื่องความลับรั่วไหลแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์”
“จุดสำคัญอีกอย่างก็คือ ตัวแทนด้านกฎหมายของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นก็คือหล่วนฝู พ่อบ้านของบริษัทเย็นจีนตระกูลหยาง ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ทุกคนก็รู้จักบริษัท ตระกูลหยาง ก็คือผลิตยาจำหน่าย และยังเป็นโรงงานที่ผลิตยารักษาแผลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย”
หลู่เหม่ยเฉินใบหน้าเย็นชา “ หล่วนฝูเหรอ? คนของตระกูลหยางเหรอ?”
เมื่อก่อนเธอก็รู้จักหล่วนฝู เมื่อตอนเด็กเคยเล่นด้วยกันกับหยางจ้างกั๋ว หล่วนฝูคนนี้เธอเคยเห็นมาก่อนเมื่อตอนเด็ก ตอนนั้นหล่วนฝูยังอยู่ในวัยหนุ่ม ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 20 ปี
“พ่อบ้านเหรอ?” ฉินหลั่งที่นั่งเงียบอยู่นานตอนนี้ก็พูดขึ้นว่า “เรื่องก็คงชัดเจนแล้ว ต้องเป็นหยางจ้างกั๋วที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน หยางจ้างกั๋วเคยเห็นความร้ายกาจของผงขาวหยุนเซียนมาแล้ว ตอนนั้นเขาจะต้องเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมาอย่างแน่นอน”
หลู่เหม่ยเฉินนึกถึงตอนที่หยางจ้างกั๋วถูกฉินหลั่งเล่นงานจนเลอะเทอะ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ใช่แล้วค่ะ หยางจ้างกั๋วจะไม่สนใจผงขาวหยุนเซียนได้อย่างไรล่ะ ด้วยนิสัยของเขาแล้ว จะต้องวางแผนที่จะแย่งชิงผงขาวหยุนเซียนมาครอบครองแน่นอน”
“เขาเป็นผู้รับผิดชอบบริษัทตระกูลหยาง จึงมีความรู้สึกที่ไวต่อยารักษาแผลมากกว่าคนปกติทั่วไป ฉันคิดว่า เขาต้องกังวลใจที่พวกเราจะไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดของเขาแน่นอนเลยค่ะ”
“อีกอย่างคือตำแหน่งฐานะของหล่วนฝูในตระกูลหยางก็ไม่ใช่เพียงแค่คนรับใช้ธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะต้องเป็นพ่อบ้านที่มีความฉลาดหลักแหลม ดังนั้นจึงคาดเดาได้ว่าสูตรลับยานี้คงเป็นฝีมือการวางแผนของเขา”
ฉินหลั่งลูบหัวตัวเอง “เก่งมากนะ หยางจ้างกั๋ว แกแย่งโอกาสไปก่อนจนได้ ฉันประมาทที่ยังดูถูกแก”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง !” หลู่เหม่ยเฉินก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที พยักหน้าอย่างคนที่รู้แจ้งเห็นจริง
ด้วยความฉลาดหลักแหลมของหยางจ้างกั๋วแล้ว ก็ต้องรู้ถึงด้านธุรกิจการค้าและสภาวะวิกฤตของผงขาวหยุนเซียน หลู่เหม่ยเฉินขมวดคิ้ว “แต่ว่าพวกเราก็แค่ใช้ผงขาวหยุนเซียนเพียงครั้งเดียวในการทดสอบ แล้วเขาจะรู้สูตรผสมยาได้อย่างไร ถึงแม้เขาอยากจะได้ มาก เขาแค่อาศัยการดมกลิ่นยาอย่างเดียวก็สามารถรู้สูตรลับยานั้นได้ คงจะเป็นเทพแล้วล่ะมั้ง?”
“ฉันกับคุณไม่ได้ให้เขาแน่นอน นักวิจัยพัฒนาพวกนั้นก็คงไม่ได้ให้เขา ท่านประธานฉิน แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรล่ะ?”
หลู่เหม่ยเฉินไม่เข้าใจ แต่ว่าฉินหลั่งกลับพูดอย่างไม่ลังเลว่า “หยูฉิง”
หลู่เหม่ยเฉินรู้สึกตกใจ จากนั้นเธอก็ส่ายหัวไม่ยอมรับ “ฉินหลั่งคุณคิดมากไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ คุณไม่รู้หรอกค่ะ เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่ยังเด็ก ความจงรักภักดีที่มีต่อฉันเป็นที่รู้กันทั่วทั้งบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน อีกอย่างหนึ่ง เธอก็ไม่มีช่องทางและโอกาสที่จะขโมยสูตรผสมยานั้นได้”
“สูตรผสมยาอยู่ที่ศูนย์วิจัยพัฒนาภายในสำนักงานผู้บริหารของฉัน ถึงแม้เธอจะเป็นเลขานุการ แต่ว่าไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปเอาสูตรลับยาโดยลำพังได้เลย หากว่าเธอเข้าออกสำนักงานผู้บริหารเพื่อที่จะขโมยสูตรลับยานี้ แล้วตอนนี้เธอก็เป็นแค่พนักงานทำความสะอาด นับว่าอยู่ห่างไกลจากสูตรลับยานี้มากเป็นพันหมื่นลี้ เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น”
“ไม่สามารถสัมผัสได้ ไม่สามารถขโมยได้” หลู่เหม่ยเฉินตัดสินใจแน่วแน่ ถึงแม้ว่าหยูฉิงตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอแล้ว แต่ว่าเธอและหยูฉิงก็มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนกันมานาน ซึ่งแตกต่างกับคนอื่นทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
ฉินหลั่งคิดแล้วคิดอีก “หยูฉิง ยังไงก็เป็นหยูฉิง ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างอื่นแล้ว”
ทุกคนก็ล้วนตกใจ แต่ว่าหลู่เหม่ยเฉินกลับสงบนิ่งลง นั่งฟังการวิเคราะห์ของฉินหลั่งอย่างเงียบๆ
“ไฟไหม้…….” ฉินหลั่งหยุดสักครู่ “ไฟไหม้ครั้งนั้น เหม่ยเฉินคุณสังเกตเห็นว่าหยูฉิงมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
หลู่เหม่ยเฉินขมวดหิวขึ้นมาทันที “ไฟไหม้ครั้งก่อน ท่าทางหยูฉิงก็ไม่ค่อยปกติจริงๆ รถของเธอจอดอยู่ระหว่างทางที่รถดับเพลิงจอดอยู่ เหมือนเจตนาที่จะถ่วงเวลาในการช่วยดับเพลิง อีกอย่างหนึ่ง วันนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่เธอแนะนำพี่สาวให้มาทำงานที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาพอดี ฉันไม่เห็นด้วย ก็เป็นเพราะต้องการรักษาความลับ ผลสุดท้ายเธอก็……”
หลู่เหม่ยเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ “เธอยังโกรธฉันเลย เราก็เลยทะเลาะกัน”
“หยูฉิงอยู่กับฉันตั้งแต่ยังเด็ก นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเราทะเลาะกัน พวกคุณเชื่อไหมล่ะ? วันนั้นฉันยังรู้สึกหงุดหงิดมาก คิดว่าเป็นเพราะเธอรักพี่สาวตัวเองมาก จึงเป็นเช่นนี้ ตอนนี้มาคิดดู มันก็น่าสงสัยทั้งนั้น”
ขณะที่ทุกคนกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น เกิดเสียงดังจากข้างนอกเข้ามาขัดจังหวะการสนทนา “ประธานหลู่! ผลิตภัณฑ์ของพวกคุณไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ ก็ผลิตออกมาโดยพลการ ซึ่งผิดเงื่อนไขข้อกำหนดของคณะกรรมการยา!”
“วัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงยาสำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกคุณก็เหมือนกับวัตถุดิบของฝ่ายร้องเรียน พวกเราจะนำผลิตภัณฑ์พวกนี้ไปทำการเปรียบเทียบ”
“นับจากนี้เป็นต้นไป พวกคุณจะต้องหยุดการผลิตผงขาวหยุนเซียน ขณะเดียวกันพนักงานและนักวิจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผงขาวหยุนเซียนก็ต้องไปให้ปากคำกับพวกเราด้วย”
“ข้อที่ 3 ศูนย์วิจัยและพัฒนาผงขาวหยุนเซียนทั้งหมดจะต้องถูกปิดลง เพื่อเข้ารับการตรวจสอบในขั้นตอนต่อไป!”
เมื่ออ่านประกาศจบลง หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว หัวหน้าเจียวที่ทำงานมาโดยตลอดก็ได้จัดการกับผงขาวหยุนเซียนในขั้นต้นก่อน”
สินค้าถูกอายัดหมด โรงงานก็ถูกสั่งปิดกิจการ หลู่เหม่ยเฉินเจ็บปวดแทบขาดใจ
เมื่อเปรียบเทียบกับความกระตือรือร้นและฮึกเหิมตอนแรกเริ่มแล้ว ตอนนี้มันช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน หลู่เหม่ยเฉินตอนนี้รู้สึกมืดมนและโกรธเคียงมากแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
หลี่ซินใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวมีมานานเพื่อประสานกับทางการ แต่ก็ไม่ได้ผลตอบรับที่ดีกลับมา ส่วนเหว่ยฝ่าเทียนก็ได้ใช้แนวทางวิธีการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ได้เกิดผลดีอะไรขึ้นมาเหมือนกัน
หลู่เหม่ยเฉินไม่มีหนทางอะไรแม้แต่นิดเดียว ได้แต่ให้หลี่ซินตามหัวหน้าเจียวกลับไปเพื่อช่วยสืบหาข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันก็ได้มอบสิทธิ์ให้กับเหว่ยฝ่าเทียนในการจัดการเรื่องราวทุกอย่างในครั้งนี้
แต่เธอกลับพาพวกฉินหลั่งตรงไปยังบ้านพักของหยูฉิง
บ้านพักของหยูฉิงอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำในเมืองเย็นจีนตำแหน่งที่ตั้งและภูมิทัศน์ไม่เลวทีเดียว ขนาดของห้องประมาณ100ตารางเมตร ในเมืองเย็นจีนไม่ถือว่าร่ำรวยมาก แต่ก็ถือว่าเป็นห้องที่ดีทีเดียว
“หยูฉิง แกออกมานะ มาให้คำตอบกับพวกเราด้วย!” หลู่เหม่ยเฉินโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดที่ถูกเพื่อนทรยศ มุ่งตรงเข้าไปในบ้านของหยูฉิง
“ประธานหลู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ?” หญิงชราผมหงอกเดินออกมาจากห้องข้างในถามด้วยอาการตกใจ “คนพวกนี้คือใครคะ?” หญิงชราดูเหมือนตื่นตระหนก
หลู่เหม่ยเฉินรู้จักกับหญิงชรามานานแล้ว “ฉันจะหาหยูฉิง คุณป้าหยู วันนี้เธออยู่บ้านหรือเปล่าคะ? ทำไมวันนี้ฉันไปหาเธอที่บริษัท เธอก็ไม่ได้เข้าที่ทำงาน?”
พูดพลางหลู่เหม่ยเฉินตรงเข้าไปหาหยูฉิง เธอรู้จักห้องของหยูฉิงดี แต่สุดท้ายก็ไม่พบหยูฉิง
“คุณหาเธอมีเรื่องอะไรเหรอคะ? คุณหนู?” คุณป้าหยูดูเหมือนไม่รู้เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ว่าในใจก็รู้สึกร้อนรุ่ม
“เธอไม่ใช่ไปทำความสะอาดอยู่ที่ศูนย์วิจัยนั้นเหรอ?” คุณป้าหยูพูดอย่างไม่พอใจ “มันควรจะเป็นฉันที่ไปถามหาคนจากพวกคุณมากกว่านะ คุณหนู เธอเป็นอะไรไป ทำไมถึงยังไม่กลับมา?”
“คุณป้าหยูคะ ฉันเดินตรวจที่ศูนย์วิจัยทั้งหมดแล้ว พนักงานระดับรองในศูนย์วิจัย ทั้งหมดมี 45 คน มีเพียงหยูฉิงคนเดียวที่ไม่อยู่”
“ฉันโทรศัพท์ให้เธอแล้ว แต่โทรไม่ติดเลย ไม่รู้ไปไหนแล้ว” หลู่เหม่ยเฉินพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
“จะไปไหนได้ล่ะ? คุณหนู คุณอย่าทำให้ฉันตกใจ ฉันแก่แล้ว ทนรับความตื่นเต้นไม่ไหวหรอกค่ะ” คุณป้าหยูอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
ในใจหลู่เหม่ยเฉินเข้าใจดี แม่ของหยูฉิงก็คงไม่รู้การกระทำของหยูฉิง ไม่เช่นนั้นแล้ว เธอก็คงไม่อยู่แล้ว เธอเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ขัดขวางหยูฉิง แต่ว่าเธอก็รู้ว่า เรื่องทุกอย่างไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้อีก ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว
เป็นที่แน่ชัดว่าหยูฉิงได้ทรยศบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินแล้ว ตอนนี้ บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินตกอยู่ในสภาวะวิกฤตใหญ่หลวงเช่นนี้ เธอรู้ว่าฉินหลั่งจะต้องสงสัยในตัวเธอแน่นอน ดังนั้นจึงรีบหนีออกจากบริษัทเพื่อจะไปหาสถานที่หลบซ่อนตัวไว้ก่อน
“คุณหนูคะ ทำไมคุณถึงต้องตามหาหยูฉิงล่ะ? หยูฉิงเป็นอะไรไปเหรอ? ทำไมอยู่ดีๆก็หายตัวไป?” คุณป้าหยูถามอย่างไม่ลดละ กลับมาจับข้อพิรุธหลู่เหม่ยเฉิน
หลู่เหม่ยเฉินไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี “ฉันจะไปรู้ว่าเขาตอนนี้ไปมีความสุขอยู่ที่ไหนกันล่ะ สงสัยคงจะเจอแหล่งที่มีความสุขมากกว่าที่นี่แล้วมั้ง”
“อย่าหาว่าฉันว่าอะไรเลยนะ คุณหนู ฉันขอพูดหน่อย หยูฉิงอยู่กับคุณมาตั้งนาน คุณยังจะปล่อยให้เธอไปเป็นพนักงานล้างห้องน้ำ คุณไม่รู้สึกทำเกินไปเหรอ? เธอเป็นถึงเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของคุณเลยนะ” คุณป้าหยูโกรธแค้นแทน น้ำตาก็พลางไหลไม่หยุด
“ฉันรู้ ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คุณถูกเจ้าฉินหลั่งอะไรนั่นหลอกลวงแล้ว คุณยกบริษัทให้เขาไปทั้งหมด แล้วยังจัดการกับญาติพี่น้องของตัวเอง คุณช่างเลอะเลือนไปแล้วนะคะคุณหนู” คุณป้าหยูพูดอย่างไม่สนใจไยดีอะไร พูดราวกับฉินหลั่งเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความร้าวฉานให้กับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของเธอทั้งสอง
แน่นอนที่หยูฉิงได้พูดให้ร้ายฉินหลั่งให้คนในบ้านฟัง ไม่เช่นนั้นแล้วคุณป้าหยูก็คงจะไม่พูดเช่นนี้
อีกอย่างระหว่างหยูฉิงกับหลู่เหม่ยเฉินนั้น สนิทกันราวกับพี่น้องท้องเดียวกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบธรรมดาทั่วไป เพราะว่าเมื่อตอนยังเด็ก ในสายตาของเด็กจะไม่ได้แบ่งแยกระหว่างความเป็นนายกับบ่าว ดังนั้น พวกเธอจึงไม่ใช่อยู่ในสถานะนายกับบ่าวเหมือนคนทั่วไป แล้วหยูฉิงก็ยังมีอายุน้อยกว่าหลู่เหม่ยเฉินถึง2 ปี
“คืออย่างนี้ครับ คุณป้าหยู หยูฉิงได้ร่วมมือกับหยางจ้างกั๋ว พวกเขารวมหัวกันขโมยสูตรลับยาจากพวกเราไป แล้วยังไปจดทะเบียนขอรับสิทธิบัตรไว้ก่อนพวกเรา สุดท้ายยังมาฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์กับหยุนเซียน”
เมื่อเห็นคุณป้าหยูมุ่งเป้ามาที่ตัวเอง ฉินหลั่งจึงต้องพูดอธิบาย “ตอนนี้การค้านับร้อยล้านของพวกเราต้องพังพินาศลง หากเหม่ยเฉินจัดการไม่ดีก็ต้องถูกฟ้องขึ้นศาล”
“ฉะนั้น แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องเงินอย่างเดียว ที่สำคัญคือหยูฉิงสามารถที่จะลุกขึ้นมา แก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ลบล้างข้อกล่าวหาให้กับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน”
“ถ้าหากว่าเธอติดต่อกลับมาหาคุณป้า คุณป้าจะต้องบอกเรื่องนี้กับเธอ ถ้าหาหยูฉิงไม่พบแล้วล่ะก็ เรื่องราวจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งหากคุณป้ารู้ที่อยู่ของหยูฉิงแล้วไม่แจ้งเหม่ยเฉิน ก็เท่ากับกำลังปิดบังอำพรางความผิดแล้ว”
คุณป้าหยูสีหน้าตื่นตระหนกทันที “ขโมยสูตรลับยา? ฟ้องร้องข้อกล่าวหา? ปิดบังอำพราง? นี่….นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
“หยูฉิงเป็นเพื่อนเล่นกับคุณหนูมาตั้งแต่เด็กจนโต นิสัยเธอเป็นอย่างไรคุณหนูจะไม่รู้เชียวเหรอ? หยูฉิงจะเป็นเช่นนี้ได้เหรอ?”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset