รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 718 ไม่ฟังคำเตือน

บทที่ 718 ไม่ฟังคำเตือน
“การแสดงความคิดเห็นในหลายวันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก มีแต่คนต่อต้านพวกเรา และสนับสนุนทางฝ่ายผงขาวเฟยเยว่ พวกเราไม่มีทางที่จะเผชิญกับการแสดงความเห็นที่ดุดันในการอธิบายแก้ตัวให้กับตัวเอง อ่อนแอมาก ไม่มีใครจะรับฟังพวกเราเลย”
“อีกอย่างความคิดเห็นตอนนี้ก็เอียงไปทางนั้น ต่างก็ยอมรับว่าสูตรลับยานั้นเป็นของหยางจ้างกั๋ว”
“ท่านประธานฉินครับ ไม่รู้ว่ามีคำพูดหนึ่งจะพูดดีหรือเปล่า ผมคิดว่าพวกเราตอนนี้ต้องใช้วิธีอย่างมีสติที่สุด นั่นก็คือเจราจายอมความกับหยางจ้างกั๋ว ชดเชยค่าเสียหายส่วนหนึ่งเพื่อขอให้เขาเห็นใจ”
“เมื่อเช้านี้ทนายความของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นโทรมาหาผม ให้บอกคุณว่าหากคุณยังเที่ยวไปพูดเกี่ยวกับข้อเสียของผงขาวอีก พวกเขาก็จะฟ้องหมิ่นประมาทคุณ”
“คุณหมอฉินครับ หมากเกมนี้ เรายอมแพ้เถอะนะครับ”
เหว่ยฝ่าเทียนถอนหายใจยาว “ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนะ พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องมาใส่ใจกับเรื่องได้เสียในชั่วขณะหนึ่ง”
ถึงแม้ว่าคำพูดดูสวยหรู แต่ในใจของเหว่ยฝ่าเทียนก็ยังอดที่จะเสียดายไม่ได้ สูตรลับยาที่มีมูลค่าระดับสูงถึงหลักหมื่นล้านถูกคนอื่นเอาไปครอบครอง มีสักกี่คนที่จะไม่บ้าคลั่งมั่ง
ฉินหลั่งพูดเสียงเบา “ผลิตภัณฑ์นี้มีข้อเสียจริงๆ……”
“ฉินหลั่งคะ เรื่องราวทุกอย่างมอบให้ทนายเหว่ยเป็นคนจัดการเถอะ”
หลู่เหม่ยเฉินคล้องแขนของฉินหลั่งไว้ “คุณไปเล่นสกีพักผ่อนเป็นเพื่อนฉันเถอะ ดีไหมคะ?”
แน่นอนว่าเธอเป็นห่วงฉินหลั่งจะไม่ยอมเลิกราจนธาตุไฟเข้าแทรก
ฉินหลั่งยิ้มให้ “เกรงว่าพวกเราคงไปไม่ได้แล้วแหละ….”
“คุณหมอคะ คุณหมอคะ ช่วยด้วยค่ะ”
ในเวลานั้นเอง มีรถคันหนึ่งพุ่งตรงเข้ามายังหน้าร้านหุยชุน รถยังไม่ทันจอดสนิทประตูรถก็เปิดออก
พวกฉินหลั่งหันหน้าไปมอง
ก็เห็นสาวใหญ่แต่งตัวสดใสอุ้มเด็กคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาแล้วตะโกนว่า
“คุณหมอคะ ช่วยลูกชายฉันด้วยค่ะ”
“ลูกจ๋า ลูกอย่าขยับนะ ไม่ต้องเกานะครับ”
จากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ “ช่วยลูกฉันเร็วเข้า”
หญิงวัยอายุ 40 กว่า แต่งตัวทันสมัย ใส่เครื่องเพชรเครื่องพลอยเต็มตัว อ้อมกอดเธออุ้มเด็ก 5 ขวบคนหนึ่งไว้
เด็กน้อยรูปร่างผอมเล็ก แต่มีเรี่ยวแรงมาก ตอนนี้กำลังดิ้นไปร้องไห้ไป ท่าทางเจ็บปวดทรมานมาก
มือซ้ายของเขาเต็มไปด้วยเลือด
หลายครั้งที่มือขวาพยายามจะไปเกามือซ้าย แต่ก็ถูกหญิงฐานะดีเอามือกดไว้
เด็กชายก็ร้องไห้ไม่หยุด “แม่ครับ ลูกคัน ลูกคันมากเลย…….”
เมื่อจอดรถแล้วชายวัยกลางคนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากรถ รีบพุ่งเข้าไปโรงหมอช่วยกันจับมือของเด็กไว้ “คุณหมอ ช่วยคนด้วยเร็วครับ”
สวี่ซีเหวินพวกเขาตอบโต้ได้เร็ว กดเด็กเอาไว้แน่น แล้วช่วยล้างแผลที่แขนของเขา
เพียงแต่ว่าไม่แตะแผลก็ยังดี พอแผลถูกแตะ เด็กก็ยิ่งดิ้นมากขึ้นไม่หยุด ร้องอย่างบ้าคลั่ง “คัน คัน….”
สวี่ซีเหวินพวกเขาไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี
“เดี๋ยวฉันเอง!”
ฉินหลั่งเดินเข้าไป เอาเข็มเงินฝังเข้าไป ร่างกายของเด็กก็เริ่มอ่อนลง แขนทั้งสองก็ไม่มีแรง แต่ว่าก็ยังร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน
เฟิงเอ๋อก็สอบถามญาติว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เมื่อเห็นลูกชายไม่ดิ้นอีกแล้ว หญิงฐานะดีคนนั้นอารมณ์ก็ดีขึ้นบ้าง เพียงแต่ว่าใบหน้าสะสวยก็ยังแสดงความกังวล
“วันนี้พวกเราพาเขาไปเล่นที่สวนสนุก ออกมาได้สักพักหนึ่ง เขาก็ร้องว่าแขนของเขาคันมาก จากนั้นก็เกาอย่างเมามัน”
“แกะเกาจนเนื้อหนังถลอก ยิ่งเก่ายิ่งบ้าคลั่ง ฉันเห็นว่ามันไม่ปกติแล้ว จึงกดตัวเขาไว้”
“เห็นว่าที่นี่มีโรงหมอ จึงพาเขาเข้ามาให้หมอตรวจดูค่ะ”
ชายวัยกลางคนก็พูดเสริมขึ้น “ใช้แล้วครับ เขาพึ่งกำเริบขึ้นกะทันหัน ตอนนี้พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เขามองดูลูกชายอย่างทะนุถนอม ก็ไม่รู้ว่าลูกชายผิดปกติตรงไหน เกาแขนของตัวเองจนเป็นแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้สงบลงแล้ว เขาก็ค่อยสบายใจขึ้นมาก
ฉินหลั่งยกมือซ้ายของเด็กขึ้นมาตรวจดู “มือซ้ายเขาเคยได้รับบาดเจ็บเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน”
หญิงฐานะดีตบหัวตัวเองแล้วพูดว่า “เมื่อวานตอนบ่ายทำกระจกหน้าต่างแตก แขนถูกเศษกระจกบาดเป็นแผลค่ะ”
“แต่ว่าบาดแผลก็ไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ แค่ประมาณ 3 เซนต์เท่านั้น พวกเราก็เลยใช้ผงขาวเฟยเยว่ทาไป 2 ครั้ง เลือดหยุดไหลแผลก็แห้งด้วย”
“หายได้ไวมาก จนฉันลืมไปว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน”
เธอเงยหน้ามองฉินหลั่งด้วยความตกใจ “คุณหมอคงไม่ได้หมายถึงผงขาวเฟยเยว่มีปัญหานะคะ?”
“ใช่แล้ว ผงขาวเฟยเยว่”
ชายวัยกลางคนหยิบขวดยาขึ้นมา “เด็กตอนนี้บาดเจ็บอย่างนี้ น่าจะต้องใช้ผงขาวเฟยเยว่รักษา ทำไมฉันกลับนึกไม่ถึงนะ”
“ทาไม่ได้นะครับ!”
“ผงขาวเฟยเยว่มีข้อเสีย มันเข้าไม่ได้กับสภาพร่างกายของเด็ก”
ฉินหลั่งยื่นมือไปห้ามอีกฝ่าย “เขามีอาการคันอย่างรุนแรง ยังแกะเกาจนเลือดออก ก็เป็นเพราะอาการโรคที่เกิดจากสารตกค้างของผงขาวเฟยเยว่”
“ถึงแม้ว่าผงขาวเฟยเยว่ที่เมื่อวานทำให้แผลของลูกคุณเลือดหยุดไหลและแผลสมานแล้ว แต่เพราะว่าเกิดการต่อต้านภายในร่างกายจึงไม่สามารถซึมเข้าไปได้หมด เหลือตกค้างอยู่ใต้บาดแผล”
“วันนี้เด็กเล่นทั้งวันแล้ว เมื่อออกแรงออกเหงื่อ ก็จะกระตุ้นผงขาวขึ้นมา ทำให้เนื้อที่งอกใหม่ด้านล่างของบาดแผลนั้นได้รับการกระตุ้น”
“ลูกของคุณทนต่ออาการคันของบาดแผลไม่ไหวจึงเกาจนแผลเก่าฉีกขาด”
ฉินหลั่งพูดเตือนอีกว่า “ตอนนี้คุณยังทาผงขาวเพิ่มเข้าไปอีก ยิ่งทำให้เกิดอาการคันที่รุนแรงมากขึ้น”
“ผลเสียเหรอ?”
“คำนี้ทำไมมันคุ้นจัง?”
หญิงฐานะดีตบขาตัวเองจำฉินหลั่งได้ “อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว คุณก็คือคนที่ไปก่อความวุ่นวายที่เวทีแถลงข่าวใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว เขาก็คือคนที่ผลิตผงขาวหยุนเซียน เป็นคนที่เที่ยวป่าวประกาศให้ร้ายผงขาวเฟยเยว่ไปทั่ว”
ชายวัยกลางคนก็สะดุ้งตกใจ “ที่แท้เป็นคุณนี่เอง มิน่าพอได้โอกาสก็รีบสาดโคลนใส่ผงขาวเฟยเยว่”
“ลูกชายฉันมีอาการคันอย่างนี้ เป็นไปได้ที่อารมณ์หงุดหงิด หรือไม่ก็เพราะว่าเนื้อที่งอกใหม่มีอาการคัน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับยาผงขาวเฟยเยว่เลย”
“ถ้าผงขาวเฟยเยว่มีปัญหาจริง เมื่อวานลูกชายฉันหรือว่าช่วงเช้าก็ควรจะมีอาการคันแล้วแล้วทำไมต้องรอถึงตอนนี้ล่ะ?”
“คุณนี่ เป็นหมอประสาอะไร ใจดำชะมัด ยาวิเศษอย่างนี้ยังกล้าที่จะให้ร้ายอีก?”
“ถุย คนที่ไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์ ฝีมือการแพทย์คงไม่เท่าไหร่ล่ะมั้ง”
“ไปเถอะ พวกเราไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ อย่ามาที่นี่ถูกเขาหลอกเอาเงินแล้วยังต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงอีก”
“ไอ้หนู ฉันจะบอกให้นะ เมื่อกี้แกฝังไปหลายเข็ม ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายฉัน ฉันกับแกไม่จบแน่…..”
ชายวัยกลางคนอุ้มลูกชายขึ้นมา แล้วไม่ลืมที่หันมาชี้หน้าด่าฉินหลั่ง
“พี่เขยฉันเป็นคนของสำนักงานคณะกรรมการยา คุณก็เตรียมรับความโชคร้ายไปก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นลูกชายสงบนิ่งลงไปมากแล้ว ชายวัยกลางคนก็รีบพาลูกเมียเข้าไปในรถด้วยความมั่นใจ จากนั้นก็เหยียบคันเร่งพุ่งตรงยังไปโรงพยาบาลใหญ่
อิงจิ่งหลิงอดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะ
“นี่เป็นคนยังไงกันแน่ ช่วยรักษาคนให้เขาแล้ว ยังมาคุยโวแบบนี้”
สวี่ซีเหวินพวกเขาต่างก็ส่ายหัว
หลู่เหม่ยเฉินเดินออกมาจากด้านหลัง แล้วจับมือของผิวหลังไว้ “อย่าโกรธเลยนะคะ พวกเขาก็แค่รักลูกชายมาก พูดไม่ทันได้คิด”
“โกรธเหรอ?”
ฉินหลั่งยิ้มๆ “ฉันดีใจตากหาก!”
“ได้เวลาแล้ว ปิดจ๊อบได้…..”
ช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ชายวัยกลางคนและหญิงฐานะดีก็พาลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาล
หลังจากตรวจอาการแล้ว แพทย์ก็สรุปว่าไม่เป็นอะไรมาก เพียงแต่ว่าบาดแผลสมานเร็วเกินไป เนื้อที่งอกใหม่ทำให้เกิดอาการคันเท่านั้น
ผู้ใหญ่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ไปแกะเก่าได้ แต่เด็กควบคุมตัวเองไม่ได้ อีกทั้งยังเล่นมาทั้งวันแล้ว เหงื่อไคลไหลซึมเข้าไป ดังนั้นจึงเกาไม่หยุด
หมอก็ได้ฉีดยาลดอาการอักเสบให้เด็ก ให้น้ำเกลือและยาแก้อักเสบแล้ว แจ้งให้พักอยู่โรงพยาบาลสัก 2 วันก็จะหายดีแล้ว
ชายวัยกลางคนและหญิงฐานะดีต่างก็โล่งอก และรู้สึกยิ่งดูถูกฉินหลั่งมากขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดให้ร้ายผงขาวเฟยเยว่ของเขาแล้วก็ยิ่งโกรธเคืองมากขึ้น
ดังนั้นระหว่างที่พวกเขาให้ลูกชายพักอยู่ที่โรงพยาบาล ก็ได้ส่งข้อความเหตุการณ์ที่ได้พบมา เล่าประสบการณ์ให้ทุกคนได้รับรู้ และให้ระวังป้องกันคนอย่างฉินหลั่งไว้ให้ดี
ส่งข้อความเสร็จแล้ว พวกเขาก็ดึงเข็มเงินที่ฉินหลั่งฝังไว้ออกไป
“โอ๊ย…….”
ทันทีที่ดึงเข็มออกมา เด็กที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยร้องดังลั่นขึ้นมาอีก แล้วยื่นมือไปเกาผงขาวเฟยเยว่ที่พึ่งทาเสร็จ
เล็บมือก็ยังแคะลึกเข้าไปมากขึ้น ทำให้แขนซ้ายที่เลือดแห้งสนิทแล้วนั้น เลือดกลับไหลออกมาอีกจนบาดแผลเหวอะหวะ
หัวเข็มสายน้ำเกลือที่แขวนในมือก็ถูกดึงออก ฝ่ามือขวาที่หัวเข็มปักเข้าไปกลับไร้ความรู้สึกเจ็บปวด
เขาเพียงแต่อยากจะไปเกาแขนซ้ายของตัวเองเพื่อให้หายคันเท่านั้น
เสื้อผ้าและผ้าปูเตียงเต็มไปรอยเลือดอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเด็กก็เจ็บปวดขึ้นจนเปลี่ยนเป็นขาวซีด
ชายวัยกลางคนและหญิงฐานะดีตกใจจนมือถือตกลงไป จากนั้นก็กดตัวเด็กไว้แล้วตะโกนว่า “อย่าเกาลูก อย่าเก่า!”
“เรียกหมอแล้วเข้า เรียกหมอเร็ว”
หญิงฐานะดีมองดูแขนของลูกชายแล้วพูดตะโกนอย่างปวดใจ
พยาบาลจำนวน7-8คนรีบเข้ามาในห้อง ช่วยกันคนละไม้คนละมือกดตัวเด็กเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะช่วยจัดการกับแผลได้เร็ว แต่ว่าทำอย่างไรเด็กก็ยังไม่สงบนิ่งลงเสียที
หมอทำได้แค่ฉีดยาระงับประสาทเพื่อให้เด็กนอนหลับ……….
“คุณพี่คะ คุณพี่ ลูกเริ่มเกาอีกแล้ว ตามหมอเร็วเข้า”
ช่วงเวลารุ่งสางเวลาตีสอง หญิงฐานะดีที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อเห็นลูกชายตื่นขึ้นมาก็จะเกาอีก จึงรีบจับมือขวาเขาเอาไว้แน่น
ชายวัยกลางคนเพิ่งจะหลับตาก็ต้องตกใจตื่นขึ้น รีบออกไปเพื่อตามพยาบาล
อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ถึงแม้ว่าตอนเย็นได้ฉีดยาระงับประสาทไปแล้ว แต่เด็กนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมา จากนั้นก็ดิ้นทุรนทุรายไปมา ทำให้สองคนสามีภรรยาเหนื่อยล้าทั้งกายใจ
พยาบาลดูแลก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ไม่สามารถฉีดยาระงับประสาทซ้ำอีก ได้แต่มัดมือทั้งสองของเด็กไว้ แล้วให้ญาติคอยระวังดูแลให้ดี
แต่ว่าภายในหนึ่งคืนตื่นขึ้นมาโวยวาย 7-8 ครั้ง ทุกครั้งเด็กก็ทั้งร้องทั้งเรียก จนหมดแรงแล้วค่อยหลับไป ทุกคนจึงค่อยรู้สึกหายใจชั่วท้อง
แต่ก็ทำให้วัยกลางคนสองสามีภรรยานี้หมดเรี่ยวหมดแรงไปด้วย
“นี่มันเป็นเรื่องยังไงกันแน่?”
หญิงฐานะดีหน้าตาอิดโรยมองดูผงขาวเฟยเยว่ “หรือว่ายานี้จะมีปัญหาจริง?”
เวลารุ่งสางเวลาตีสาม ภายในคอนโดมิเนียมหรูเฝ่ยชุ่ย เหอซินหย่ากำลังห่มผ้านอนหลับอย่างสบาย รู้สึกฝ่ามือซ้ายมีอาการคันเล็กน้อย
เธอบ่นไปก็เกาไป
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร ทันใดนั้นเธอก็ส่งเสียงร้องดังขึ้นมา รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ฝ่ามือ
ยังมีของอะไรเหนียวเหนียวติดอยู่
เธอก็หายง่วงทันที รีบลุกขึ้นไปเปิดไฟ ไม่เปิดไฟยังดี พอได้เห็น ก็ตกใจขวัญหนีทีฝ่อ
เธอพบว่า แผลบนฝ่ามือซ้ายของตัวเองไม่รู้เมื่อไรถูกเกาจนแผลฉีกออก และมีรอยเล็บเกาที่บาดแผล ทำให้เลือดไหลแผลเหวอะหวะ รู้สึกเจ็บปวดมาก
หมอน ผ้าปูเตียง ผ้าห่มล้วนเต็มไปรอยเลือด
ที่ทำให้เธอตกใจมากก็คือ ฝ่ามือด้านซ้ายก็ยังคงมีอาการคันเหลือเกิน ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะต้องไปแกะเกาอีก
ทั้งแกะทั้งเกา แล้วก็รู้สึกสบายขึ้น จนไม่สามารถหยุดเกาได้ และทำให้บาดแผลยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น
“ไม่ได้ ห้ามเกาอีกแล้ว!”
เหอซินหย่ากัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น พยายามห้ามใจไม่ให้ไปเกา เป็นห่วงว่าจะทำลายมือข้างหนึ่งจนเสียไปด้วย
จากนั้น มือทั้งคู่ก็หยิบมือถือขึ้นมาด้วยอาการสั่นแล้วก็โทรไปหา 120………
ในระหว่างที่เหอซินหย่ากำลังขอความช่วยเหลืออยู่นั้น ฉิวกงเฉิงก็ตกมาจากเตียงลงไปอยู่บนพื้น มือจับกุมท้องไว้รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
บาดแผลที่เพิ่งผ่าตัดใหม่ได้ 2-3 วัน ถูกเขาแกะเกาจนปริออก เลือดไหลออกซิบๆ เห็นแล้วเป็นที่น่ากลัวยิ่งนัก
อีกทั้งหัวใจก็ยังเต้นแรงมาก ราวกับว่าเพิ่งผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักมา
ที่ทำให้หนังตาของฉิวกงเฉิงกระตุกไม่หยุดก็คือ รู้อยู่แล้วว่าบาดแผลยังเจ็บปวดอยู่ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะแกะเกาไปหลายที
เพราะว่าเขารู้สึกเหมือนมีมดจำนวนมหาศาลเดินไปเดินมาตรงหน้าท้อง หากไม่แกะเกาบ้างก็ทนอาการคันไม่ไหว อีกอย่างถ้าได้เกาแล้วก็รู้สึกสบายขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
เจ็บปวดแต่ก็รู้สึกสุขสบาย
เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?
มีปัญหา ! มีปัญหาแน่นอน!
ฉิวกงเฉิงตะโกนเรียกพยาบาล “รีบไปตามหมอเร็ว รีบไปตามหมอมา…….”
จากนั้นฉิวกงเฉิงมือทั้งสองก็เตรียมท่าเดินลมปราณ แล้วรีบเดินกำลังภายในตามวิชาศิลปะการต่อสู้บนเตียง เพื่อปกป้องเส้นลมปราณภายในร่างกายของตัวเอง