รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 777 ตามหาคุณชายฉิว

บทที่ 777 ตามหาคุณชายฉิว
“ตูมตูมตูม! ”
รถหุ้มเกราะหลายคันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว โดยรถถังหนักหลายคัน รถถังเบา รถหุ้มเกราะ ปืนใหญ่อัตตาจร ปืนต่อต้านรถถังท่ามกลางเสียงของการขับเคลื่อน ได้เคลื่อนออกจากค่ายกองกำลัง มุ่งหน้าเข้าไปหาฉินหลั่ง
“หยุดขวางเขา สกัดกั้นเขาเอาไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาในค่ายกองกำลังได้”
แต่ทว่าความรวดเร็วของฉินหลั่งไม่ธรรมดา!
เพียงพริบตาเดียว ก็ได้ยินเสียง
“ตูม! ”
รถถังหนักรุ่น T-62 คันหนึ่งเริ่มระดมยิงใส่ ซึ่งมีลำกล้องปืนขนาด 116 มิลลิเมตร คล้ายกับมีดเคียวของพญามัจจุราช พริบตาเดียวก็พุ่งผ่านระยะทางกว่ากิโลเมตร เพื่อไปสกัดกั้นฉินหลั่งที่กลางอากาศ
ฐานกองกำลังของหยางจ้างกั๋วมีระบบการควบคุมอาวุธที่ทันสมัย สามารถคำนวณเส้นทางการเคลื่อนตัวของฉินหลั่งได้โดยง่าย เพื่อเตรียมระดมยิงใส่
“ตูม! ”
ลูกกระสุนปืนที่หนักกว่าห้ากิโลกรัมนั้น ถูกฉินหลั่งใช้หมัดต่อยทำลายกลางอากาศ ในขณะที่ตัวเขาอยู่ท่ามกลางการปกคลุมของควันไฟ และกระเด็นถอยหลังไปไม่กี่ก้าว
ครั้งนี้ ไม่มีหมอกควันมาบดบัง ทุกคนจึงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ฉินหลั่งรับมือกับการถูกโจมตีจากกระสุนปืนใหญ่ได้อย่างไรกัน แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจนแล้ว พวกเขาตะลึงจนจิตใจแทบจะระเบิด
ใช้หมัดต่อยทำลายลูกกระสุนปืนใหญ่?
พระเจ้า เขายังใช่มนุษย์อยู่อีกหรือนี่?
ฉินหลั่งถอยหลังไม่กี่ก้าว จากนั้นก็เริ่มเพิ่มความเร็วพุ่งเข้าใส่อีก
“ตูมตูมตูม! ”
รถถังอีกสิบกว่าคันก็เริ่มระดมยิงแล้ว ฉินหลั่งปล่อยพลังหมัดกลางอากาศ พริบตาเดียวก็ปล่อยพลังออกมาสิบกว่าหมัด พลังหมัดทะลุทะลวงอากาศ เมื่อถึงระยะห่างประมาณร้อยเมตรพลังหมัดก็แผลงฤทธิ์ทำลายลูกกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นจนแตกระเบิด มีเพียงเวลาที่ปืนใหญ่ต่อต้านรถถังระดมยิง ฉินหลั่งจึงจะเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อย เพื่อหลบหลีกกระสุนเจาะเกราะที่ยิงผ่านทะลุออกมา
สำหรับกระสุนปืนใหญ่ทั่วไป ฉินหลั่งไม่ค่อยที่จะเกรงกลัว
เป็นเพราะกระสุนปืนใหญ่ทั่วไปจะเป็นแบบระเบิด แม้มองว่าจะระเบิดกระจายไปในวงกว้างนับสิบเมตรจนถึงร้อยเมตรอย่างง่ายดาย แต่เนื่องจากพลังอานุภาพที่แตกกระจายนั้น สำหรับฉินหลั่งผู้ที่มีร่างกายจื่อย่าขั้นต้น ก็ไม่ได้รับอันตรายหรือส่งผลรุนแรงอะไรมากนัก
กลับเป็นปืนต่อต้านรถถังที่มองแล้วไม่ค่อยมีอานุภาพเท่าไหร่ ซึ่งกระสุนที่ยิงออกมานั้น คือกระสุนเจาะเกราะแกนแท่งทังสเตน ใช้สำหรับยิงทะลุรถถังโดยเฉพาะ แม้แต่แผ่นเหล็กหนาเกือบครึ่งเมตรยังยิงทะลุได้ ไม่ต้องพูดถึงร่างกายกล้ามเนื้อของคนแล้ว แม้ว่าฉินหลั่งเอง ก็ไม่ต้องการที่จะไปปะทะกับกระสุนเจาะเกราะนี้
พลังยุทธ์ที่แข็งแกร่งเกรงกลัวที่สุดก็คือการทำลายเพียงจุดเดียวก็ย่อยยับไปทั้งหมด
ทว่าปืนต่อต้านรถถังมีเพียงไม่กี่คัน อีกทั้งยิงกระสุนช้า ฉินหลั่งเพียงแค่วิ่งหลบหลีกด้วยความเร็ว พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเล็งยิงฉินหลั่งได้แน่นอน
สองกิโลเมตร
หนึ่งกิโลเมตร
เก้าร้อยเมตร
แปดร้อยเมตร……
ฉินหลั่งเข้ามาใกล้กับค่ายกองกำลังมากขึ้นแล้ว
“ตูม! ”
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เขาพุ่งตรงเข้าชนปะทะกับรถถัง ซึ่งรถถังเบาที่มีน้ำหนักยี่สิบกว่าตัน ถูกฉินหลั่งพุ่งชน จนพลิกตัวลอยขึ้นกลางอากาศ หมุนวนกลางอากาศหลายตลบ แล้วร่วงตกลงมาทับใส่รถหุ้มเกราะอีกคันหนึ่ง ทำให้รถหุ้มเกราะคันนั้น ถูกทับจนแบนหมดสภาพ
“อือหือ! ”
หลายคนสูดหายใจเข้าอย่างแรง
ใช้ร่างกายกล้ามเนื้อพุ่งชนรถถังจนพลิกคว่ำ มันคือความคิดแบบใดกัน? แม้ว่าจะเป็นเพียงรถถังแบบเบา ไม่ใช่รถถังสงครามที่มีน้ำหนักกว่าสี่ร้อยห้าสิบตัน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตะลึงตาค้างแล้ว โดยเฉพาะนักฆ่าภูตผีพบว่า ด้านบนของรถถังที่ถูกพุ่งชนจนพลิกคว่ำนั้น มีรอยยุบบุบเข้าไปเป็นลักษณะร่างคน ซึ่งนั่นคือรอยเงาร่างของฉินหลั่งที่พุ่งชนรถหุ้มเหล็กอย่างหาญกล้า
“ลุยเข้าไป อย่าตะลึงเฉยกันอยู่”
หยางจ้างกั๋วตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
รถถังนับสิบคันยึดเอาฉินหลั่งเป็นจุดศูนย์กลาง ขับพุ่งเข้ามาอย่างเร็ว ล้อมรอบฉินหลั่งเอาไว้
พวกสัตว์ประหลาดเหล็กที่มีน้ำหนักกี่สิบตันเหล่านี้ ถ้าหากปะทะกับรถยนต์ธรรมดาทั่วไปแล้ว ก็สามารถบดทับแหลกละเอียดได้โดยง่าย ต่อให้เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ ก็ไม่สามารถต้านทานการพุ่งชนของพวกสัตว์ประหลาดเหล็กนี้ได้
แต่ว่าฉินหลั่งนั้นมีความแตกต่าง
“ตูมตูมตูม! ”
ทุกก้าวที่ฉินหลั่งเดิน ร่างกายก็แวบผ่านระยะทางไปสิบกว่าเมตร จึงปล่อยหมัดออกมา
หมัดที่เขาปล่อยออกมาทุกครั้ง ต่างสามารถต่อยสัตว์ประหลาดเหล็กหนึ่งคันจนแบนเรียบ รถถังเบาและรถหุ้มเกราะถูกต่อยกระเด็นลอยออกไปไกล ส่วนรถถังหนักแม้ว่าจะถูกต่อยจนสะเทือนถอยหลังไปไม่กี่ก้าว แต่ด้วยพละกำลังที่รุนแรงมหาศาล ทำให้พลขับที่อยู่ด้านในรถถังได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างหนักจนเสียชีวิต
ก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สอง ก้าวที่สาม……
ฉินหลั่งเดินสิบก้าว ปล่อยพลังสิบหมัด ก็ทำลายรถถังไปสิบคัน
แต่ว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น
“โครมโครมโครม”
ท่ามกลางพลังหมัดของฉินหลั่งทำให้สัตว์ประหลาดเหล็กทีละคันทีละคัน ระเบิดกลางอากาศ
ต่อให้พลขับจะขับรถถังเหล่านั้น พุ่งชนเข้ามาอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง ถล่มยิงกระสุนปืน กระสุนปืนใหญ่ ใส่ฉินหลั่ง เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย ยังคงออกหมัดต่อเนื่องเสมือนกับรูปแบบการทำงานของเครื่องจักร
หนึ่งหมัดหนึ่งคัน!
เพียงเวลาสิบนาที ก็มีรถหุ้มเกราะนับสิบคัน ถูกทำลายลงด้วยพลังหมัดของฉินหลั่ง ตลอดแนวกำแพงเหล็ก ก็ถูกเขาจัดการโดยวิธีนี้จนเกิดเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ขึ้น
“โอ้คุณแม่เจ้า! ”
นักฆ่าภูตผีทั้งหมดต่างยืนตัวสั่นกันอยู่ตรงนั้น ไม่เชื่อต่อเห็นเหตุการณ์ที่เห็นเบื้องหน้านี้
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่พวกเขาภูมิใจเป็นยิ่งนัก คาดไม่ถึงว่าเมื่อใช้ต่อสู้สำหรับฉินหลั่งแล้ว จะเสมือนเป็นเพียงขนมปังที่อ่อนนุ่มเท่านั้น ถูกทำลายลงได้อย่างง่ายดาย
“ตูมตูมตูม! ”
เวลานี้ เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจำนวนมากในที่สุดก็มาถึง
ในจำนวนเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น Mil Mi-24 แม้เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้จะมีติดตั้งปืนกล ปืนจรวด แต่พลังอานุภาพไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งจะใช้ในการลำเลียงขนส่งเป็นหลัก แต่ในจำนวนนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์รุ่น Ka-50 Black Shark ที่ใช้ในการรบไม่กี่ลำรวมอยู่ด้วย ซึ่งเฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวนี้ จะใช้เฉพาะในการสู้รบเท่านั้น ในตัวเครื่องมีติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านรถถังด้วย!
“มันอะไรกันวะ! ”
หลังจากที่ถูกระดมยิงด้วยปืนกลและปืนจรวดจากเฮลิคอปเตอร์จำนวนมากแล้ว ทำให้ฉินหลั่งต้องค่อย ๆ ถอยหลังกลับเล็กน้อยและมีสีหน้าท่าทางที่ไม่สบอารมณ์
เขาจึงกระโดดขึ้นไปด้านบนของรถถังคันหนึ่ง ยืนมือออกมา และใช้พลังกำลัง ฉุดดึงกระบอกปืนใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนรถถังนั้นออกมา จากนั้นฉินหลั่งก็ใช้กระบอกปืนใหญ่ที่ยาวสามเมตรกว่านี้เป็นหอก ขว้างทะยานออกไปในอากาศ
“โครม! ”
ลำแสงสีขาวได้ถูกยิงออกจากมือของฉินหลั่ง ทำลายเส้นขอบเขตของกาลเวลา ทะลุทะลวงเฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำ จากนั้นก็ลอยพุ่งไปในอากาศ หายสาบสูญไป
“โครมโครมโครม”
เฮลิคอปเตอร์เหล่านั้นนึกไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะโจมตีพวกเขา จึงตกใจหวาดผวาโดยพลัน และบินหนีหายไปในอากาศอย่างเร่งรีบ สำหรับฉินหลั่งที่ไม่ถูกผู้ใดมาระราน จึงกลายร่างเป็นลำแสงสีม่วงที่โชติช่วง พุ่งตรงไปยังค่ายกองกำลัง
มีรถหุ้มเกราะขัดขวางสกัดกั้น เขาก็ปล่อยพลังหมัดเข้าใส่
นักฆ่าภูตผีทั่วไปนั้น ฉินหลั่งไม่ได้สนใจอะไร ก็พุ่งชนเข้าใส่เลยทันที เขาเสมือนกับไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัสที่กำลังวิ่งตะบึง ที่หากใครถูกชนเข้าใส่ ไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บ ในที่สุด กำแพงเหล็ก ก็ถูกเขาทำลายจนพลังทลายลงไปได้
ขณะที่เดินผ่านรถควบคุมสั่งการนั้น ก็ได้พบเห็นหยางจ้างกั๋วที่สีหน้าท่าทางหวาดกลัว ซึ่งเขาไม่สนใจอะไร เดินเข้าไปและลงมือฟันร่างกายขาดเป็นสองท่อน
บุกทลายกองทัพทหาร ฆ่าคน จากไป จัดการรวดเดียวเสร็จสิ้น
ราวกับเทพนักรบที่ปราศจากศัตรูผู้ต่อกร!
หลังจากที่ฉินหลั่งจากไป ทั้งสนามรบเงียบสงบไม่มีเสียงใด ๆ เลย
……
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางทะเลทรายทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่มีผู้ใดรับทราบ ฉินหลั่งประดุจดั่งเทพที่ไม่ปรากฏตัวตน และแล้วก็กลับมาสู่ปัจจุบัน!
ณ ประเทศจีน เย็นจีน
สวีเซิงกับสวีฉู่เย็นสองพ่อลูกสบตากัน แล้วทั้งสองคนก็รีบเดินเข้าไปข้างหน้า
ทั้งสองคนเดินเข้าไปอยู่ที่ด้านข้างของฉิวซียี่ แล้วแสดงความเคารพคำนับต่อฉิวซียี่: “คุณฉิวลำบากคุณแล้ว”
ฉิวซียี่สีหน้าเย็นชา หันไปมองสวีเซิงด้วยรอยยิ้มขมขื่น: “คุณสวีให้เกียรติกันขนาดนี้ ข้าคงมิบังอาจ”
“เปล่า เปล่าเลย คุณฉิวซื่อสัตย์แน่วแน่ สวีเซิงเลื่อมใส! ”
สวีฉู่เย็นมีสีหน้าท่าทางที่พะอืดพะอม
ฉิวซียี่โบกมือและพูดว่า: “ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณสวีได้ให้เกียรติกับข้าอย่างมาก ข้าจะจดจำไว้ในจิตใจ วันนี้ที่เชิญข้ามา หรือว่าข้าใกล้จะถึงวันที่ต้องสิ้นอายุขัยแล้ว? ”
สวีฉู่เย็นรีบส่ายมือปฏิเสธ: “คุณฉิวร่างกายสุขภาพแข็งแรง จะใกล้สิ้นสุดอายุขัยได้อย่างไรกัน ที่เชิญคุณฉิวมาในวันนี้ ก็เพื่อต้องการแสดงความขอโทษต่อคุณฉิว”
“ขอโทษ? ”
ในช่วงที่ผ่านมาฉิวซียี่ถูกบังคับสอบปากคำอย่างทรมาน เป็นเพราะว่าสวีเซิงต้องการทราบจากปากของเขาในเรื่องของเคล็ดลับการฝึกฝนวิชา
วันที่ฉิวซียี่ลงมาจากภูเขา ฉินหลั่งเองเป็นผู้สั่งสอนวิชาเซียนให้กับเขา ซึ่งทำให้ผู้คนริษยาไปตาม ๆ กัน เมื่อสวีเซิงรับทราบเรื่องราว ก็สั่งให้คนไปจับตัวของฉิวซียี่มา ข่มขู่สอบถามทั้งวันทั้งคืน ซึ่งฉิวซียี่นั้นได้รับการทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
สวีเซิงนึกเอาเองว่ามีหลายครั้งที่ฉิวซียี่สูญเสียการควบคุมทางจิตใจ ใกล้ที่จะพูดเคล็ดลับวิชาการฝึกฝนออกมาแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญฉิวซียี่ก็มักจะอดกลั้น ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับวิชาออกมา
สวีเซิงไม่ทราบว่า ที่ฉิวซียี่ฝึกฝนอยู่ในทุกวี่วัน ทำให้จิตใจมั่นคงแน่วแน่ รวมถึงตลอดเวลาเขาสัมผัสรับรู้ได้ถึงพลังทิพย์ที่วนเวียนอยู่ในร่างกาย ซึ่งความซื่อสัตย์ที่มีต่อฉินหลั่งนั้น แม่ว่าตายก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลง
ฉิวซียี่เชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่าฉินหลั่งไม่มีทางที่จะเสียชีวิต เขากัดฟันอย่างแน่วแน่ รู้ว่าหากฉินหลั่งกลับมา ไม่มีทางที่จะไม่สนใจตัวเขา ดังนั้นต่อให้ตายเขาก็จะไม่ยอมปริปากพูด
เป็นไปดั่งที่ฉิวซียี่คิดเอาไว้ หลังจากที่ฉินหลั่งเอาชีวิตรอดมาจากหุบเขาจ้างซิน ก็พยายามตามหาเขามาโดยตลอด หากว่าครั้งนี้มาที่บ้านของตระกูลสวีแล้วยังหาตัวไม่พบ ฉินหลั่งก็จะใช้วิชาการสะกดรอยโดยเลือด ต่อให้ตาย ก็จะต้องตามหาร่างศพของฉิวซียี่จนเจอให้ได้
ยังดีที่ ฉิวซียี่ยังไม่ตาย