รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 785 นายหญิงใหญ่ตระกูลเหริน

บทที่ 785 นายหญิงใหญ่ตระกูลเหริน
“พี่ใหญ่ เอาไงดี?”
เหรินหรงกวงมองเหรินหรงหมิงอย่างร้อนใจ
“ช่างมัน พวกเราเดินขึ้นบันไดไปดูกัน”
เหรินหรงหมิงปฏิกิริยาค่อนข้างดีกว่าเหรินหรงกวง ทั้งสองเดินขึ้นบันไดอย่างหอบเหนื่อย ตอนที่หาห้องเพลสซิเดนท์สูทเจอ พบว่าเจี่ยนโล่เฉินไม่อยู่แล้ว ในห้องรกไปหมด บนพื้น ยังมีรอยเลือดอยู่ ทั้งหมดว่างเปล่า
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่ว่าเหรินเจ๋ได้ถูกเจี่ยนโล่เฉินฆ่าไปแล้ว?”
ตอนที่เหรินหรงกวงเห็นเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้าก็โกรธจนตัวสั่น นึกๆตัวเองถูกไอ้บ้าคนหนึ่งหลอกเข้าให้แล้ว ยังมองข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้
“เป็นไปไม่ได้ แม้เจี่ยนโล่เฉินจะมีความคิดเหมือนเด็ก ไม่น่าเชื่อถือ แต่หลายปีมานี้เคยได้ยินมันฆ่าคนบ้างมั้ย? มากสุดก็คือทำให้พิการ”
แววตาของเหรินหรงหมิงเต็มไปด้วยปัญญา เขาเดินในห้องช้าๆ หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วก็วิ่งไปที่หน้าฟร้อนท์ ถามเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด แล้วยังย้อนดูกล้องวงจรปิด สุดท้ายมั่นใจแล้วว่า เหรินเจ๋ได้มาที่โรงแรมนี้อย่างแน่นอน แล้วยังอยู่ในห้องไม่ออกมาอีกด้วย เจี่ยนโล่เฉินเข้าไปแล้วแว็บหนึ่ง ก็ออกมาดักเขาทั้งสองไว้
จากนั้น……จากนั้นก็ไม่มีอะไรต่อแล้ว อีกฝั่งออกไปได้อย่างไร ลงบันไดหรือลงลิฟต์ ไม่มีในคลิป
“ช่างมัน รีบกลับไปบอกแม่ผู้ยิ่งใหญ่ดีกว่า ให้นายใหญ่ออกหน้าจัดการตระกูลเจี่ยนล่ะกัน!”
เหรินหรงหมิงกล่าวอย่างเบื่อหน่ายมาก
เหรินหรงกวงจะคิดออกได้ไงว่า สุดท้ายแล้วก็ต้องไปหาเย่จื่อเหยา ทั้งคู่วุ่นวายทั้งคืนแล้วต้องกลับไปที่ตระกูลเหรินอีก
เมื่อถึงอายุรุ่นราวของเย่จื่อเหยา นอนหลับน้อยลง ชอบความสงบ ทุกๆวันก็พักผ่อนตั้งแต่หัวเช้า เหรินหรงกวงยืนอยู่หน้าห้องของเย่จื่อเหยาไม่นาน เย่จื่อเหยาได้พูดออกมาจากในห้องว่า “ด้านนอกนั่นใคร? เข้ามาถึง!”
แม้เย่จื่อเหยาจะใจดำ แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่พูดกับหลานชายของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นเธอเป็นคนตัดสินเรื่องราวต่างๆของตระกูลนี้ เรื่องต่างๆนาๆล้วนต้องผ่านการตัดสินใจจากเธอ ด้านนอกมีคนยื่นอยู่ครึ่งชั่วโมง เธอก็รู้ว่าอีกฝั่งต้องมีเรื่องเร่งด่วนแน่นอน เพียงแค่ไม่กล้ารบกวนเวลาพักผ่อนของเธอเท่านั้น
ได้ยินเสียงเรียกของเย่จื่อเหยา เหรินหรงกวงยืนอยู่ด้านนอกกล่าวเสียงสั่นว่า “ท่านแม่ เหรินเจ๋เขา……”
“เหรินเจ๋ทำไม?”
เย่จื่อเหยาได้ยินเสียงของเหรินหรงกวง ก็ใจสั่น ช่วงนี้คนรุ่นหลังของตระกูลเหรินเกิดเรื่องบ่อยมาก เหรินเหลยถูกฆ่า เหรินหางถูกฆ่า วันนี้เหรินเจ๋เกิดเรื่องอีก นี่ล้วนเป็นหลานแท้ๆของเย่จื่อเหยา คุณยายที่แม้จะใจดำขนาดไหน หลานชายเกิดเรื่องไม่หยุด ก็เปรียบเสมือนเจ็บปวดเหมือนคนที่ถูกกรีดเนื้ออย่างไรอย่างนั้น
“เหรินเจ่เขา เจี่ยนโล่เฉินตระกูลเจี่ยนพาตัวไป”
เหรินหรงกวงกล่าวอย่างรวดเร็ว
“เจี่ยนโล่เฉิน? พญามารคนนั้น? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แกรีบเข้ามาเล่าให้ฉันฟังเดี๋ยวนี้!”
เย่จื่อเหยากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด!
“ครับ!”
เหรินหรงกวงรีบเข้ามาในห้อง เล่าเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียด อย่างเข้าใจหนึ่งรอบ
หลังจากที่เย่จื่อเหยาฟังจบแล้วนั้นก็ระเบิดออกมา “แกบอกว่าเจี่ยนโล่ฉินจับเหรินเจ๋ไป? ไอบ้าเอ้ย การหมั้นหมายระหว่างตระกูลเหรินของพวกเราและตระกูลเจี่ยน เป็นการตกลงกันระหว่างฉันกับคุณยายของตระกูลเจี่ยน เกี่ยวอะไรกับไอ้บ้านี่ด้วย? จัดรถ ฉันจะไปจัดการคนของตระกูลเจี่ยนเดี๋ยวนี้!”
ในตอนที่เย่จื่อเหยาจะไปที่ตระกูลเจี่ยนนั้น รปภ.หน้าประตูวิ่งมาอย่างหวาดผวา แล้วพูดกับเหรินหรงกวงเสียงเบาๆว่า “คุณชายเหรินเจ๋กลับมาแล้ว”
“อะไรนะ? เขากลับมาแล้ว?”
เหรินหรงกวงชะงัก รีบพูดกับเย่จื่อเหยาเบาๆว่า “คุณแม่ คุณพักผ่อนก่อนนะ ลูกชายกลับมาแล้ว ผมไปดูก่อนนะ”
รปภ.คนนั้นลากแขนเสื้อของเหรินหรงกวงกล่าว “คนที่กลับมากับเขา ยังมีเจี่ยนโล่เฉิน เจี่ยนอี้และเด็กวัยละอ่อนคนหนึ่ง”
“หา?”
เหรินหรงกวงงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น “เจี่ยนโล่เฉินคนนี้ มันใช้ลูกไม้อะไรกับฉัน จะเล่นกับพวกเราใช่มั้ย?”
เย่จื่อเหยาเปิดประตูออกมา ด้วยตาสองข้างที่เป็นประกาย “ไป เราไปดูที่ประตูกัน ดูว่าไอ้บ้าเจี่ยนโล่เฉินมันจะทำอะไรได้สักเท่าไหร่!”
“คุณแม่ เจี่ยนโล่เฉินนั่นเหี้ยอย่างไร้ที่ติ เราควรจะเรียกคนมามากๆหน่อยมั้ย?”
เหรินหรงกวงกล่าวอย่างเร่งรีบ
“ไม่เป็นไร แม้ตอนนี้ตระกูลเหรินของฉันจะมีปรมาจารย์แค่คนเดียว ไม่ใช่ใครจะหาเรื่องอะไรง่ายๆ เจี่ยนโล่เฉินมันทำอะไรบ้าๆข้างนอก แต่ต่อหน้าตระกูลเหริน มันบ้าไม่ได้”
เย่จื่อเหยาพูดพลาง ก็เดินไปข้างนอก
เธอเกิดในตระกูลใหญ่ในช่วงสาธารณรัฐ เป็นคุณยายเท้าเล็กที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งสองมาที่ประตูใหญ่ด้านนอกของตระกูลเหริน
ตอนที่เย่จื่อเหยามาถึงประจูใหญ่ด้วยการประคองของเหรินหรงกวงแล้วนั้น แว็บแรกที่เห็น ก็คือเหรินเจ๋คุกเขาบนพื้นอย่างน่าสลด
คนที่อยู่ด้านหน้าของเขา เป็นชายวัยละอ่อนมือไขว้หลัง เงยหน้ามองป้ายที่กว้างใหญ่ติดอยู่บนประตู ขมวดคิ้ว เหมือนกำลังศึกษาอะไรอยู่
ด้านหลังของสองคน คือเจี่ยนโล่เฉินที่ตัวสูงใหญ่และเจี่ยนอี้ผู้น่ารัก ทั้งสองเป็นตัวการที่ทำให้เกิดเรื่อง แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมหนุ่มละอ่อนคนนี้ทำไมต้องพาพวกเขามาที่ตระกูลเหริน แล้วยังปรากฏกายด้วยความเหยียดหยามตระกูลเหรินอีกด้วย แต่เรื่องนี้ในกระตุ้นความรู้สึกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเจี่ยนโล่เฉิน หรือเจี่ยนอี้ ก็ล้วนชอบการกระตุ้นความรู้สึก ดังนั้นทั้งสองจึงตามมาด้วย
“พ่อ คุณยาย!”
เหรินเจ๋เห็นเหรินหรงกวงและเย่จื่อเหยาออกมา ก็ร้องไห้อย่างสลด ชอกช้ำน้ำใจจนอยากตาย
เหรินหรงกวงเห็นบนร่างกายของเหรินเจ๋มีรอยเลือด คุกเข่าอย่างกระเซอะกระเซิง ก็ตะคอกไปที่ฉินหลั่ง “แกเป็นใคร? ทำไมต้องมาหาเรื่องถึงหน้าบ้านของตระกูลเหริน?”
ฉินหลั่งไม่แม้แต่จะดูเหรินหรงกวง แต่กลับมองไปที่เย่จื่อเหยา ด้วยความรู้สึกที่สลับซับซ้อนอย่างหาที่เปรียบมิได้
ฉินหลั่งสามารถรับรู้ได้ ภายในตระกูลเหรินขณะนี้ มีกลิ่นอายเหมือนพลังของสิงห์กำลังผันผวนอยู่
พลังนั้นเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเย่จื่อเหยา
แต่ฉินหลั่งเหมือนจะไม่สนใจ เขาเพียงแค่มองป้ายประตูตระกูลเหรินสองคำนั้น โดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
เจี่ยนโล่เฉินและเจี่ยนอี้ที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลก็งงงวย ชายที่แปลกประหลาดคนนี้ ช่างยโสโอหังจริงๆ จัดการหลานชายของเค้า แล้วยังให้เขาคุกเข่าอยู่หน้าประตูอีก แม้เจี่ยนโล่เฉินจะเหี้ยขนาดไหน ก็ไม่ทำเรื่องเอาแต่ใจแบบนี้
แต่วัยละอ่อนที่อยู่ตรงหน้านี้ทำแล้ว เขาไม่รู้จักตระกูลเหรินแห่งเมืองหลวง สูงส่งขนาดไหน แตะต้องไม่ได้?
แบบนี้นายหญิงใหญ่ของตระกูลเหรินไม่โมดหแทบบ้าเลยหรอ? หลายๆคนรู้นิสัยของเย่จื่อเหยาว่าเป็นคนขวางโลก ชอบเอาชนะที่สุด ชอบเปรียบเทียบ ชอบทะเลาะวิวาท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องดีเด่น
ครั้งนี้ ถือว่าโดนตบหน้าจริงๆแล้วล่ะ
“ฉันถามแกอยู่นะ แกเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องทำร้ายคนของตระกูลเหริน!”
เหรินหรงกวงถามอย่างเสียงแข็ง ดุออกว่าเขากำลังอดกลั้นกับความโกรธของตัวเองอยู่ ถ้าเรื่องนี้ไม่แปลกจนเกินไป เขาคงพุ่งไปชกฉินหลั่งอย่างบ้าคลั่งสักตั้งแล้วล่ะ
แน่นอน สิ่งสำคัญประการแรกคือเขาต้องชนะฉินหลั่งก่อน
ตอนนี้ฉินหลั่งเพิ่งจะมองเขา ด้วยสายตาเยือกเย็น “มาหาแม่ของผม”
“เด็กน้อย แกบ้าไปแล้วหรือเปล่า! แม่ของแก……เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเหรินของฉัน……”
เหรินหรงกวงยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออก……
“เหรินหรงหรง!”
เหรินหรงกวงตะลึง
ฉินหลั่งมองเหรินหรงกวง “คุณจะตายไม่ตายไม่เกี่ยวอะไรกับผม แต่ถ้าจะให้ผมฉินหลั่งตาย คุณยังไม่แข็งแกร่งพอ!”
ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าวัฏสงสารโบราณ สำหรับเรื่องสายเลือดฉินหลั่งมองเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญไปแล้ว
ต้องรู้ก่อนว่าการที่เป็นเทพเจ้า ในหนึ่งชาติไม่รู้ว่าต้องพบเจอกับภัยพิบัติกี่ครั้ง ช่วงหมื่นปี หลายสิ่งหลายอย่างจะค่อยๆสลายหายไป อย่าว่าแต่สายเลือดเลย เมื่อเกิดใหม่ ผิวเปลี่ยนหนังเปลี่ยนก็เป็นเรื่องทั่วไป เพื่อการอยู่รอด เทพเจ้าวัฏสงสารทำมาหมดแล้ว แล้วจะให้ความสำคัญกับเรื่องสายเลือดแค่นี้?
ชาตินี้ของเขา เพียงแค่อยากชดเชยหนี้บุญคุณของชาติที่แล้ว โดยเฉพาะแม่ของตัวเอง!
ดังนั้นที่ฉินหลั่งยืนอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลเหริน แล้วไม่รู้สึกถึงสายเลือดแต่อย่างใด ความจริงรู้สึก เป็นความรู้สึกคิดถึงแม่อย่างจับใจ!
“เหอะเหอะ ดุๆแล้วแม้แต่สายสัมพันธ์ใดๆแกก็ไม่ยอมรับแล้ว?”
เหรินหรงกวงมองไปที่ฉินหลั่งอย่างดูแคลน เบื้องหลังของพวกเขาตระกูลเหรินมีนายท่านใหญ่อยู่ ไม่มีทางกลัวฉินหลั่งในเวลานี้แน่นอน
“ผมต้องยอมรับพวกคุณด้วยหรอ? ส่งแม่ของผมมา ผมเห็นแก่การที่พวกคุณเลี้ยงดูแม่ของผมมานานหลายปี ไม่พูดพร่ำทำเพลง หันหลังแล้วจากไป”
“ตาของฉินหลั่งหลับลง ในใจเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมามากแล้ว”
“แล้วถ้าเราไม่ปล่อยเธอไปล่ะ?”
เย่จื่อเหยาก้าวออกมา ไปที่ธรณีประตูใหญ่ของตระกูลเหริน แล้วตะโกน!
‘ปัง……’
เย่จื่อเหยาเพิ่งจะเดินออกมา ป้ายใหญ่ที่ติดอยู่บนประตูใหญ่ที่เขียนคำว่า‘จวนเหริน’ไว้ได้หล่นลงมา ที่ด้านหน้าเท้าของเย่จื่อเหยาทันใด แตกหักกระจาย
“พระเจ้า! มันบ้าไปแล้ว!”
เจี่ยนอี้ปิดปากตัวเองไว้
เจี่ยนโล่เฉินตาโต แม้เขาจะเหี้ยขนาดไหน ก็ไม่นึกเลยว่าฉินหลั่งจะยโสโอหังได้ขนาดนี้ ทำลายป้ายประตูซะงั้น!
“แก……”
เย่จื่อเหยาชี้ไปที่ฉินหลั่ง แล้วตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดว่า “แกคิดจะรังแกคนตระกูลเหรินใช่มั้ย?”
ฉินหลั่งส่ายหน้า “ผมก็แค่มาหาแม่ของผม ให้ผมพาเธอกลับ อะไรก็ได้หมด ถ้าไม่ให้เธอกลับ วันนี้ตระกูลเหริน ต้องถูกล้างบาง!”
พูดจบ ฉินหลั่งยกมือขึ้น สิงโตตัวใหญ่ที่อยู่หน้าประตูเค้าเมื่อฉินหลั่งทำกิริยาที่ยกมือขึ้น เสียงแตกสลายดังขึ้น กลายเป็นหินแตกสลายมากมาย!
“ดี ดี เอาเข้าไป เอาเข้าไป!”
เย่จื่อเหยาเคยโดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ที่นี่ยังมีตระกูลเจี่ยนอยู่ข้างๆ ถ้าเรื่องถูกพูดออกไป จะเอาเกียรติของตระกูลเหรินไปไว้ที่ไหน? แล้วหน้าตาของเย่จื่อเหยาล่ะจะไปไว้ที่ไหนได้อีก?

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset