รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 81 เธอยอมที่จะคบกันฉันไหม

บทที่ 81 เธอยอมที่จะคบกันฉันไหม
“แกทำอะไร อย่าโง่น่ะ ฉันดูแล้วเขาไม่เห็นจะเหมือนคนแบบที่เธอพูดถึงเลย เธอที่ดูที่เขาใส่สิ ดีกว่าขอทานข้างทางไม่เท่าไหร่เอง…” เพราะกู่ซามองฉินหลั่งอยู่แวบเดียว ก็เลยมีความทรงจำที่ไม่ดีเป็นพิเศษต่อฉินหลั่ง เธอเองก็ไม่อยากจะคิด ว่าเธอจะเริ่มเล่นตลกกับฉินหลั่งมาก่อน
“แกหยุดพูดก่อนน่ะ” เผิงเมิ่งมองกู่ซารอบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองฉินหลั่ง “เพื่อนนักเรียน สวัสดีค่ะ…”
“ขอโทษนะ ผมขอตัวก่อน” ฉินหลั่งเองก็เกิดความไม่ประทับใจต่อกู่ซาเหมือนกัน จิตใต้สำนึกของเขารู้สึกว่า เผิงเมิ่งอยู่กับกู่ซา ก็คงจะมีนิสัยแบบเดียวกัน จะกวนก็ไม่ได้จะหลบเลี่ยงก็ไม่ได้? ฉินหลั่งพูดจบ ก็ก้าวยาวๆ เดินทางด้านหน้า
“แกดูนะแก…” เผิงเมิ่งมองกู่ซาอย่างกล่าวโทษรอบหนึ่ง จากนั้นก็ดึงมือของเธอ ตามหลังฉินหลังไป
ฉินหลั่งรู้สึกคอแห้ง กำลังเดินผ่านโรงอาหารพอดี ฉินหลั่งเข้าไปซื้อน้ำเย็นๆ แก้วหนึ่งในโรงอาหาร
รับน้ำมะนาวจากคุณป้าคนหนึ่งผ่านหน้าต่างแล้ว ฉินหลั่งก็เอาบัตรโรงอาหารแตะที่เครื่อง กลับไม่มีเงิน โรงอาหารของพวกเขาแปลกมาก นอกจากบัตรโรงอาหารแล้วก็จ่ายได้แค่เงินสด วีแชทกับ Alipay ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้
เงินสดของฉินหลั่งโยนใส่หน้าคนขับรถแล้วไปวันนั้น ตอนนี้ฉินหลั่งจึงไม่มีเงินมาจ่ายตังค์ “เอ่อ ป้าครับ คือว่าผมไม่…” ฉินหลั่งกำลังจะหันไปเตรียมขอโทษ ก็ได้ยินเสียงดัง “ปิ๊ป” มาจากเครื่องข้างๆ ตัว เงินถูกชำระเรียบร้อยแล้ว
ฉินหลั่งหันหน้าไป เป็นสาวสวยสองคนที่เพิ่งคุยกับเขาก่อนหน้านี้พอดี
เพียงแค่เห็นหญิงสาวร่างบางผิวขาวราวหิมะคนนี้ ผมม้าปิดอยู่บนหน้าผากทั้งสองข้าง ดวงตาทั้งโตทั้งเป็นประกาย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากบางสีชมพู ทั่วทั้งตัวดูแล้วประณีตเป็นพิเศษ
ตอนนี้ เธอกำลังส่งยิ้มบางๆ ให้ฉินหลั่ง
ฉินหลั่งไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมเธอต้องช่วยตนเองจ่ายเงิน กำลังจะแสดงท่าทางว่าขอบคุณเธอสักหน่อย
กู่ซาดึงมือเผิงเมิ่ง ขมวดคิ้วน้อยๆ กล่าวว่า “ทำไมเธอถึงจ่ายเงินให้เขาอีกล่ะ เขาโม้ถึงเงินสิบล้านขนาดนั้น เฟอร์รารี่ก็สามารถโม้ออกมาได้ ฉันว่าเขาก็เป็นคนบ้าเงิน นิสัยใจคอก็ไม่เท่าไหร่ เธอก็ยังไปใส่ใจเขาขนาดนี้อีก…”
ไม่นับเรื่องที่ฉินหลั่งเป็นคนช่วยเผิงเมิ่งไว้ในคืนนั้น กู่ซาก็ไม่ได้สนใจฉินหลั่งแม้แต่นิดเดียว อีกอย่าง และเธอเองก็รู้สึกว่า ฉินหลั่งไม่ได้มีความเก่งกาจอะไรมากมายอย่างที่เผิงเมิ่งพูด ก็แค่คนขี้แพ้ที่คุยโม้โอ้อวดไปเรื่อย
“ซาซา!” ได้ยินกู่ซาพูดอย่างนี้ เผิงเมิ่งเริ่มโกรธขึ้นมานิดหนึ่งแล้วจริงๆ ไม่ว่าที่ฉินหลั่งคุยโทรศัพท์เมื่อครู่จะเป็นการโม้หรือเปล่า ในใจเผิงเมิ่ง ฉินหลั่งเป็นฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ของเธอ!
ฉินหลั่งได้ยินคำพูดของกู่ซา ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมา กู่ซาบอกว่า “อย่าเอาใจใส่เขา” หมายความว่ายังไง? ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเส้เหวินจี้งและหยางซือฉี ตอนที่พวกเธอสองคน “ใส่ใจ” เขา ต่างก็กำลังคิดว่าจะหลอกเงินตนเองอย่างไรดี
เป็นไปได้เหรอที่สาวน้อยที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรคนนี้ ก็กำลังโลภเงินของเขาอยู่? อันนี้น่าจะพอเป็นไปได้ เรื่องที่ฉินหลั่งบริจาคเงินมากกว่า 1 ล้านหยวนก่อนหน้านี้ ในโรงเรียนมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้
คิดถึงตรงนี้ ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะมีร่องรอยของความโกรธขึ้นมา และเขาไม่คิดที่จะโดนหลอกจากผู้หญิงคนไหนอีก ผู้หญิงคนไหนที่ตั้งใจจะหลอกลวงเขา ไม่ว่าจะดูดีสักแค่ไหน แต่ฉินหลั่งกลับมองว่าน่าเกลียดแทบตาย
เขาวางน้ำมะนาวไว้ตรงหน้าต่าง หมุนตัวเดินออกไปจากโรงอาหาร
เผิงเมิ่งตามหลังฉินหลั่งไปทันที เธอไม่รู้ประวัติความเป็นมาของฉินหลั่ง เลยไม่เข้าใจว่าทำไมฉินหลั่งถึงไม่ชอบเธอขนาดนี้
ฉินหลั่งสแกนเรียกหารถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งในวิทยาเขต คิดอยากกลับไปที่หอพัก อย่างนี้ถึงจะกำจัดพวกเผิงเมิ่งออกไปได้
คิดไม่ถึงว่าเผิงเมิ่งเองก็จะสแกนเรียกหารถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเหมือนกัน ตามหลังเขามาไม่ห่าง
“เฮ้ คุณรอก่อนสิ” เผิงเมิ่งถีบจักรยานอย่างบ้าคลั่ง น้อยมากที่เธอจะขี่รถจักรยาน ท่าทางขี่รถของเธอจึงทุลักทุเลมาก
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเธอเลย ยังคงตั้งใจปั่นจักรยานของตนเองต่อไป
“คุณหยุดก่อน ฉันมีเรื่องหนึ่งจะคุยกับคุณ” ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักมาก กว่าเผิงเมิ่งจะขึ้นไปเคียงอยู่ระดับเดียวกับฉินหลั่งได้ เธอเอียงศีรษะ พลางหอบหายใจพูดกับฉินหลั่ง
ฉินหลั่งไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อย เหยียบคันเร่งไปไม่กี่ครั้ง รถจักรยานก็พุ่งไปข้างหน้า ทิ้งห่างเผิ่งเมิ่งไว้ด้านหลังไกลๆ อีกครั้ง
“รอฉันด้วยสิ จะขี่เร็วขนาดนั้นทำไม?” เผิงเมิ่งใช้แรงขี่รถจักรยานอยู่ด้านหลัง แต่ว่าช่องว่างกับฉินหลั่งยิ่งนานยิ่งมาก
ฉินหลั่งยังคงไปต่ออย่างสบายใจ อีกฝ่ายจะมา “หลอก” เขา ทำไมเขาจะต้องให้โอกาสเธอด้วยล่ะ?
ขี่ไปจนถึงสนามหน้าห้องสมุด ฉินหลั่งเพิ่งหักเลี้ยว ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังดัง “โครม” ฉินหลั่งหันกลับไปดูทันที จักรยานของเผิงเมิ่ง พุ่งเข้าไปในสนามหญ้าสีเขียว เผิงเมิ่งเองก็ล้มลงบนสนามหญ้าเช่นกัน
ตอนนี้เอง ฉินหลั่งเลยรู้สึกผิดอยู่บ้าง ยังไงก็เป็นเพราะเผิงเมิ่งไล่ตามตนเอง ถึงได้ล้มลง
ฉินหลั่งเห็นเผิงเมิ่งที่ล้มลงบนสนามหญ้า มองมาทางตนเองอย่างน่าสงสาร ในใจฉินหลั่งก็อ่อนยวบ ท้ายที่สุดจึงขี่เลี้ยวกลับไปยังตำแหน่งของเผิงเมิ่ง จอดจักรยานอย่างดี ฉินหลั่งเดินเข้าไปหาร่างของเผิงเมิ่ง
“วิ่งหนีอีกสิ ทำไมไม่หนีไปอีกล่ะ?” เผิงเมิ่งที่ล้มอยู่บนพื้น มองฉินหลั่งพลางพูดอย่างโกรธเคือง ตอนนี้เธอโกรธฉินหลั่งเข้าจริงๆ แล้ว
“คุณเป็นยังไงบ้าง” ฉินหลั่งเอ่ยถามเบาๆ
“ขาหักแล้ว ข้อเท้าก็หักแล้ว คุณหาวิธีเอาเองเถอะ” เผิงเมิ่งพูดพลางจ้องฉินหลั่ง
ฉินหลั่งถอนหายใจแผ่วเบา ยื่นมือออกไปทางเผิงเมิ่ง
เผิงเมิ่งมองดูมือที่ฉินหลั่งยื่นออกมา ถึงแม้ว่าจะโกรธ แต่ท้ายที่สุดก็ยังจับเอาไว้ ฉินหลั่งออกแรง ดึงเผิงเมิ่งขึ้นมา
“โอเคใช่มั้ย?” ฉินหลั่งพยุงเผิงเมิ่ง สอบถามอย่างเป็นห่วง
“เจ็บข้อเท้านิดหน่อย…” ท่าทีของเผิงเมิ่งอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
“คุณช้าหน่อย…” ฉินหลั่งพยุงเผิงเมิ่งเดินกะเผลกอย่างช้าๆ ไปที่ก้อนหินข้างทาง เผิงเมิ่งถูกฉิงหลั่งพยุงอยู่ ในใจก็แอบดีใจขึ้นมา
“ข้อเท้าฉันเจ็บ คุณช่วยนวดให้ฉัน…” เผิงเมิ่งมองตาของฉินหลั่ง กล่าวเสียงอ่อน
มองท่าทางน่ารักของเผิงเมิ่งแล้ว ฉินหลั่งก็ทนปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ช่างเถอะ ยังไงซะ ตัวเองก็ทำให้เค้าล้มเองนี่นา ให้นวดก็นวดๆ ไปเถอะ
ฉินหลั่งย่อลงตรงหน้าเผิงเมิ่ง จับเท้าที่สวมรองเท้าส้นแบนของเผิงเมิ่งไว้ในมือ ขยับข้อเท้าของเผิงเมิ่งเบาๆ
ในสนามหญ้ารอบๆ นักเรียนชายไม่กี่คนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ มองเห็นฉากนี้ ไหนจะยังมีสมาธิในการอ่านหนังสือได้อีก สายตาล้วนแอบมองไปที่ตัวของฉินหลั่งกับเผิงเมิ่ง
ในใจของพวกเขาอิจฉาแทบตายแล้ว ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนก้อนหินสวยขนาดนั้น เหมือนสาวสวยใครจะไม่อยากประคองดูแลไว้ในมือล่ะ อย่างไรก็ตามตอนนี้ เธอเหมือนจะคบอยู่กับผู้ชายในชุดธรรมดาๆ ดูไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้แพ้คนหนึ่ง ที่สำคัญกว่านั้น เขากำลังจับเท้าของสาวสวยแถมนวดให้เบาๆ
ผู้ชายที่มองอยู่โดยรอบต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พวกเขาต่างหวังว่าจะเป็นตนเองที่เป็นคนนวดเท้าให้สาวน้อยคนนั้น
“เป็นยังไงบ้าง?” ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้น ถามเสียงอบอุ่น
“ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย” เผิงเมิ่งพูดเสียงเบา เดิมเธอคิดว่าฉินหลั่งจะเป็นผู้ชายแข็งกระด้าง ไม่ละเอียดอ่อน ตอนนี้ดูๆ ไปแล้ว เขาก็ยังมีด้านที่พิถีพิถันและอ่อนโยนเหมือนกัน
เผิงเมิ่งประทับใจในตัวฉินหลั่งเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
ฉินหลั่งยังย่ออยู่บนพื้น นวดเท้าให้เผิงเมิ่งอย่างระมัดระวัง
“คุณรู้สึกยังไงบ้าง?” ตอนนี้เอง จู่ๆ เผิงเมิ่งก็ถามขึ้นเบาๆ
“หมายความว่าอะไร?” การเคลื่อนไหวของฉินหลั่งหยุดชะงัก เขามองเผิงเมิ่งอย่างแปลกประหลาด
“ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่เลวล่ะก็ พวกเราลองคบกันดูหน่อยมั้ย…” ที่ถามฉินหลั่งออกไปอย่างนี้ เผิงเมิ่งก็แค่พูดตามจริง ตอนที่เห็นฉินหลั่งในคืนนั้น เธอรักฉินหลั่งตั้งแต่แรกเห็น เธออยากจะลองพยายามกับฉินหลั่งดู หากว่าไม่เหมาะสมกันล่ะก็ ค่อยเลิกกันก็ได้แล้ว
“เอ่อ…” ฉินหลั่งวางเท้าของเผิงเมิ่งลง เขายิ้มจางๆ ลุกขึ้นยืน ถ้าเป็นเหมือนอย่างที่เขาคิดล่ะก็ เผิงเมิ่งมีเรื่องแอบแฝง ตั้งใจมาเข้าใกล้เขา
ก่อนหน้านี้ตัวเองก็ไม่เคยเจอเผิงเมิ่งมาก่อน เจอหน้ากันไม่ถึง 1ชั่วโมง เผิงเมิ่งก็มาสารภาพรักกับตนเองแล้ว บนโลกนี้ยังมีความรักแบบไม่มีเหตุมีผลอยู่อีกหรอ? หรือว่าเผิงเมิ่งมาเพราะจะหลอกเงินของตนเองกันนะ
ฉินหลั่งฝืนยิ้ม จากนั้นก็หมุนตัวช้าๆ เตรียมจากไป
“เดี๋ยวก่อน…” เผิงเมิ่งลูกขึ้นจากก้อนหิน ดึงฉินหลั่งไว้ “ฉันอยากเป็นแฟนของคุณ คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”
ที่ผ่านมาล้วนเป็นคนอื่นไล่ตามเผิงเมิ่ง เผิงเมิ่งเพิ่งสารภาพรักกับคนอื่นครั้งแรก ก็ถูกทำไม่สนใจแล้ว จะไม่ให้เธอโกรธได้ยังไง?
ผู้ชายที่อยู่รอบๆ ต่างแอบฟังเผิ่งเมิ่ง หัวใจกำลังหลั่งเลือด แม่สาวที่สวยขนาดนั้นทำไมถึงไปมองผู้ชายคนขี้แพ้ได้ แล้วยังสารภาพรักกับเขาอีก! ตนเองแต่งตัวดีกว่าผู้ชายคนขี้แพ้คนนั้นตั้งมากโข ทำไมถึงไม่เจอเรื่องดีๆ แบบนี้บ้างล่ะ?
“เธอถามว่าฉันหมายความว่ายังไง? พวกเราเจอหน้ากันไม่ถึง 1 ชั่วโมง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่อว่าอะไร เธอก็มาสารภาพรักกับฉันแล้ว เธอคิดว่าฉันไม่มีสมองหรือยังไง เห็นว่าเธอสวยก็เลยให้คำตอบแบบตกลงไปง่ายๆ มั่วซั่วแบบนี้เหรอ?” ฉินหลั่งยิ้มอย่างเย็นชาแล้วมองมายังเผิงเมิ่งแล้วถาม
“เป็นฉันที่ประมาทเกินไปเอง ฉันชื่อเผิงเมิ่ง นี่คุณกำลังคิดว่าฉันหลอกคุณอยู่รึเปล่า? ไม่ใช่นะ” เผิงเมิ่งรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ที่จริงก่อนหน้านี้เราเคยเจอกันมาก่อนแล้ว”
“เคยเจอ?” ฉินหลั่งมีสีหน้าแปลกใจ สาวน้อยที่สวยขนาดนี้ ถ้าเคยเจอมาก่อนล่ะก็ ฉินหลั่งต้องมีความประทับใจถึงจะถูก
“อืม ไม่เพียงแค่เคยเจอกัน คุณยังช่วยฉันเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง…” เผิงเมิ่งพูดพลางพยักหน้า พูดถึงสถานการณ์วันนั้นของเธอกับฉินหลั่งให้ฟังออกรอบ ฉินหลั่งถึงนึกได้ขึ้นมา เหมือนที่สนามวันนั้นจะมีผู้หญิงอยู่ด้วยหนึ่งคนจริงๆ
“วันนั้นฉันไม่มีวิธีแล้วจริงๆ โชคดีที่คุณปรากฏตัวออกมาทันเวลา ไล่พวกเขาหนีไปหมดเลย ฉันรู้สึกว่าคุณหล่อมาก ก็เลยหาเบาะแสมากมาย มาหาคุณที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง”
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง…” ฉินหลั่งพยักหน้าช้าๆ เขาเพิ่งจะเชื่อตอนนี้เอง ว่าเผิงเมิ่งไม่ได้มาหลอกลวงเขา เพื่อเงินของเขา
ตอนนี้เองที่กู่ซาวิ่งมาถึงเบื้องหน้าของเผิงเมิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่เธอไม่ได้ขี่รถมา ได้แต่เดินตามหลังมา เห็นรถที่ล้มอยู่บนสนามหญ้า กู่ซาจึงถามอย่างกังวล “เผิงเมิ่ง เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เผิงเมิ่งไม่สนใจ สายตาของเธอจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของฉินหลั่งตลอด
“ดังนั้น คุณเต็มใจที่จะคบกับฉันมั้ย?” เผิงเมิ่งในตอนนี้ค่อนข้างที่จะมั่นใจ เธอรู้สึกว่าขจัดความเข้าใจผิดแล้ว ข้อเสนอของตนเอง ฉินหลั่งจะต้องตอบตกลงกับตนเองแน่นอน
“อะไรนะ เธอสารภาพรักกับเขาแล้ว เขามันก็แค่คนขี้แพ้ธรรมดาคนหนึ่งเอง…” กู่ซาพูดอย่างรีบร้อน ในสายตาของเธอ แม้แต่นิ้วเท้าของเผิงเมิ่งก็ยังดีไม่พอ แต่ว่าเธอเองก็รู้นิสัยของเผิงเมิ่งดี ขอเพียงเป็นของที่เธอหมายตาล่ะก็ ไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆ แน่
“ฉันเตือนแกนะ ว่าต้องรู้สภาพของตัวเองหน่อย อย่ามองรูปร่างที่ดูดีของเผิงเมิ่ง แค่ใช้สมองในทางที่ผิด…” กู่ซาชี้นิ้วไปที่ฉินหลั่ง กล่าวเตือนเขา
“ไม่ยินยอม” ฉินหลั่งพูดออกมาสามคำเบาๆ
“แกรู้ถึงฐานะของเผิงเมิ่งหรือเปล่าถึงได้กล้าตกลง แกนี่มันหน้าด้านจริงๆ …” กู่ซาสบถด่าฉินหลั่งไปรอบหนึ่ง ถึงจะเพิ่งรู้ตัวว่าที่ฉินหลั่งพูดคือ “ไม่ยินยอม เธอตื่นตะลึง จากที่เธอดู ด้วยฐานะของเผิงเมิ่ง ขอเพียงเป็นผู้ชายปกติทั่วไปร้อยทั้งร้อยก็ต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน
กู่ซาอดไม่ได้ที่จะมองเผิงเมิ่ง เห็นเพียงแต่เผิงเมิ่งกัดริมฝีปากเบาๆ ปรากฏท่าทางของความผิดหวัง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset