รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 850 ดอกบัวหิมะหมื่นปี

อีกสองคนสีหน้าถอดสี ผู้นำกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “วิชาของท่านแข็งแกร่งจริง แต่อย่าคิดว่าฆ่าจินป่อแล้ว จะกล้าทำอะไรก็ได้ในเมืองของเรา สุสานโบราณของเรามีเซียนดินคอยบัญชาการอยู่ อาจารย์แดนระดับเทพมีห้าหกคน ลูกศิษย์มากมาย ต่อให้แกแข็งแกร่งขนาดไหน แต่จะสู้เซียนได้งั้นหรือ?”
เมื่อพูดจบ ประชากรเมืองเจี้ยนก็หน้าถอดสี แม้แต่เสี้ยวเสี้ยวและเจี้ยนอู่ เองก็หน้าถอดสีเช่นกัน
เซียนดิน!
นี่เป็นการบีบประชากรบนภูเขาทั้งหมดของโลกเทพเท็จ แต่ละสำนักใหญ่ๆ ที่สามารถเอาชนะในเทพเท็จ ครองประชากรเป็นหลายร้อยล้าน ใช้เซียนดินในการบัญชาการทุกอย่าง
มิเช่นนั้น แค่เมืองเจี้ยน ก็มียอดฝีมือพลังภายในกว่าร้อยคน ทำให้สำนักสุสานโบราณทั้งสามคนกลายเป็นผุยผงได้ง่ายดาย แดนเทพ ก็เอาประชากรจำนวนหลักแสนไม่อยู่ ส่วนคนในโลกเทพเท็จ มากน้อยก็เคยฝึกฝนพลังภายใน ฝีมือเก่งกาจกว่าในโลกมนุษย์ มีเพียงเซียนดิน ที่ไม่ต้องสนใจใดๆ ก็สามารถกดดันได้ทุกอย่าง ต่อให้มีคนมากขนาดไหน ก็ตายได้ภายในหมัดเดียว
“ฉันให้พวกแกคุกเข่าลง!”
ฉินหลั่งไม่สนใจ พลางชักตาไป แล้วตะคอก
พลังมหาศาล ทันใดนั้นได้ปล่อยไปที่พวกเขา
สำนักสุสานโบราณทั้งสาม จู่ๆก็รู้สึกเหมือนภูเขาไท่ซานทับลงมา จากนั้นนกกระเรียนอันฉลาดหลักแหลมทั้งสามตัว ก็ร้องโอดครวญออกมา พลางล้มลงกับพื้น แล้วก็กระพือปีก แต่ท่านนักพรตทั้งสาม ยังคงอยากดื้อดึง ส่วนพลังของฉินหลั่งมีมากมาย จนต้านทานไม่อยู่แม้แต่วินาทีเดียว แล้วต้องคุกเข่าลงกับพื้นทันใด
“แดนเทพ! แกเป็นแดนเทพ!”
ผู้นำกล่าวอย่างตัวสั่น
แดนสุขาวดีคือเซียนอาจารย์ สามารถเบ่งอำนาจอีกฝ่าย แต่แดนเทพ ต่อให้อยู่ในโลกเทพเท็จ ก็เป็นคนใหญ่คนโต เหมือนสำนักสุสานโบราณ ซึ่งมีเจ้าสำนักอาวุโสเพียงไม่กี่คน ที่เป็นแดนเทพเท่านั้น
ฉินหลั่งวัยรุ่นขนาดนี้ แล้วเป็นแดนเทพ มีเพียงศิษย์สำคัญของสังฆราชเท่านั้น ที่จะอัจฉริยะได้ขนาดนี้
‘หรือเขาคือศิษย์ของสำนักขั้นสูงสุดจริงๆเหรอ?’
ในใจของทั้งสามคนเริ่มตะลึง
จากนั้น ในการตะลึงของประชากรเมืองเจี้ยนมากมาย ท่านนักพรตสำนักสุสานโบราณทั้งสามผู้สูงศักดิ์ ขอโทษเจี้ยนอู่อย่างเชื่อฟัง ด้วยท่าที่เคารพอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อมอบยาทิพย์ให้ผู้นำอาวุโส ก็กล่าวกับเสี้ยวเสี้ยว ก่อนหน้านี้พวกเขาทำไม่ดีไว้ ขอให้คุณหนูเสี้ยวเสี้ยวให้อภัย
เสี้ยวเสี้ยวตาเบิกโพลง ด้วยความไม่เชื่อ
ท่านนักพรตของสำนักสุสานโบราณ ปกติจะทำตัวเหมือนเซียน ใช้อำนาจชี้เป็นชี้ตาย ต่อแต่ละเมือง เริ่มให้ความเคารพกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่? สายตาของทุกคน อดไม่ได้ที่จะมองไปยังฉินหลั่ง
เขานั่นแหละ ที่ทำให้สำนักสุสานทั้งสามคน มีความเคารพเพิ่มขึ้นได้ขนาดนี้!
“เซียนอาจารย์สำนักขั้นสูงสุด นี่เป็นเซียนอาจารย์สำนักขึ้นสูงสุดจริงๆนะ เมืองเจี้ยนของผม เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว” เจี้ยนอู่หัวเราะเสียงดัง เสี้ยวเสี้ยวก็ตาเป็นประกาย เต็มไปด้วยความชื่นชม
และขณะนี้ นักพรตทั้งสามของสำนักสุสานโบราณได้เดินเข้ามาร่วม แล้วยิ้มพลางกล่าว
“เซียนอาจารย์ เคยขอโทษแล้ว พวกเราไปได้แล้วใช่มั้ย”
ฉินหลั่งหลับตา ไม่ยิ้ม “ฉันพูดแล้วหรอ ว่าแค่ขอโทษแล้วจะปล่อยพวกแกไป?”
“หา?”
ทันใดนั้น ทั้งสามก็งงงวย
……
สำหรับฉินหลั่งแล้ว
การที่เขามาโลกเทพเท็จก็เพื่อสองเรื่อง
หนึ่งหาทางสวรรค์ สองบีบโลกเทพเท็จ ฆ่าจนกว่าพวกเขาจะไม่ดูถูกโลก และทั้งหมดนี้ ต้องฟื้นฟูถึงขั้นต้องเลื่อนขั้นจึงจะทำได้
พายุในช่องว่างน่ากลัวเกินไป แม้จะผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ฉินหลั่งฟื้นฟูเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น อยากจะหายดีเป็นปลิดทิ้ง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าสองสามเดือน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องหาวัตถุดิบยาที่เพียงพอ ในการทำยา เพื่อให้เป็นสุดยอดอีกครั้ง
“หญ้าซานเหยียน? ผลถายหยวน?ดอกบัวหมื่นปี?ของพวกนี้เป็นยาวิเศษและยากึ่งวิเศษนะ ที่โลกเทพเท็จ มีไม่เท่าไหร่ นอกจากสำนักขั้นสูงสุดหรือในแดนต้องห้ามที่มีอยู่ ที่ศิษย์พี่น้องเรา อย่าว่าแต่ชาตินี้เคยเห็นหรือเปล่า แม้แต่ได้ยินยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
ได้ยินฉินหลั่งบอกวัตถุดิบยา สำนักสุสานโบราณสามคน ก็หน้าตกใจแล้ว
“นี่ก็ไม่รู้ นั่นก็ไม่รู้ แล้วจะเก็บแกไว้ทำอะไร?”
ฉินหลั่งหรี่ตาลง ซึ่งมันเต็มไปด้วยความอาฆาต
“ช้าก่อน เซียนอาจารย์ ฉันเคยได้ยินดอกบัวหมื่นปี ได้ยินว่าอยู่ที่วังเทพหิมะ มีดอกบัวหิมะอยู่เป็นหมื่น ห้าร้อยปีบานหนึ่งครั้ง เป็นยาเวิเศษของวังเทพหิมะ ประหลาดอย่าหาที่เปรียบมิได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บมากมายเท่าไหร่ ก็สามารถรักษาได้” ผู้นำวัยกลางคนรีบพูดออกมา
เขาชื่อซีเหอ เป็นปรมาจารย์รุ่นนี้ของสำนักสุสานโบราณ ข้างๆทั้งสองคือศิษย์น้องของเขา ซี่หยวน ซี่เฟิง
ได้ยินการอธิบายของซีเหอ ฉินหลั่งก็ขมวดคิ้ว หมื่นปีไม่ร่วงโรย ตอนดอกบัวบานแสงระยิบระยับ เมื่อคนเข้าไปใกล้จะถูกแช่งแข็งเป็นน้ำแข็ง สิ่งเหล่านี้เหมือนดอกบัวหมื่นปี
“ดูๆแล้วตอนไปวังเทพหิมะ ต้องไปทางหลังเขาสักหน่อยแล้ว”
ฉินหลั่งลูบๆคาง
สำนักสุสานโบราณทั้งสามคน คาดเดายังไง ก็ไม่กล้าคิดว่าฉินหลั่งอยากได้สมบัติวิเศษของวังเทพหิมะ นั่นเป็นสำนักขั้นสูงสุด เป็นหนึ่งในเจ็ดสำนักใหญ่ของโลกเทพเท็จ มีผู้นำนั่งบัญชาการด้วยตัวเองอยู่
หลังจากที่บีบนักพรตทั้งสามของสำนักสุสานโบราณได้แล้ว ฉินหลั่งได้ลงมนต์ไว้ในตัวของพวกเขา จากนั้นก็ปล่อยพวกเขาไป หลังจากที่ทั้งสามออกจากเมืองเจี้ยนอย่างโซซัดโซเซ ซี่เฟิงที่อายุน้อยที่สุดหน้าตาเกรี้ยวกราด
“การเหยียดหยามในวันนี้ ฉันจะต้องล้างแค้นให้ได้ แล้วก็ไอ้พวกระยำเมืองเจี้ยน กล้ายโสกับฉัน มันต้องตาย!”
“เรื่องนี้หัวหน้าวางแผน ต้องรายงานหัวหน้า ฉันใต้บัญชา มีเซียนอาจารย์แดนเทพโผล่มา และยังเป็นศิษย์สำนักขั้นสูงสุด ไม่ล้างแค้นไม่ได้” ซีเหอผู้อาวุโสกล่าว แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยความแค้น
หลังจากที่ทั้งสามจากไปแล้ว ทุกคนของเมืองเจี้ยนยินดีปรีดา แล้วค่อยๆกังวล
“เซียนอาจารย์ พวกเขาคือท่านนักพรตของสำนักสุสานโบราณ ท่านคือเซียนอาจารย์ของสำนักขั้นสูงสุด ไม่หวาดกลัวแน่นอน แต่เมืองเจี้ยนของฉัน ต้านทานกับความเกรี้ยวกราดของท่านนักพรตสำนักสุสานโบราณไม่ไหวนะ”
เจี้ยนอู่ยิ้มแหยๆ
“พี่ชาย กลัวพวกมันทำไม พวกเรามีเซียนอาจารย์อยู่นะ แล้วพี่สาวก็เป็นศิษย์ของวังอู๋ซ่าง มาจากสำนักขั้นสูงสุดเหมือนกัน รอพี่สาวกลับมา ล้างบางสำนักสุสานโบราณให้หมด”
เสี้ยวเสี้ยวกล่าว
ฉินหลั่งมองไป นี่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนที่เขาได้ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดถึงพี่สาวของเธอแล้ว ได้ยินมาว่าพรสวรรค์ของเธอชั่งน่าอัศจรรย์ ถูกเซียนอาจารย์สำนักขั้นสูงสุดพาไปตั้งแต่ยังเด็ก ฝึกฝนเป็นสิบปีนานๆจะกลับบ้าน ครั้งที่แล้วกลับมา ก็เป็นแดนสุขาวดีขั้นยอดแล้ว ตอนนียากที่จะคาดเดาระดับ และยังสวยงามเกินกว่าใคร แม้แต่ผู้อาวุโสของสำนักสุสานโบราณหลายๆคน ก็ชอบเธอ
“เฮ้อ ยินยินอยู่ไกลเกินไป”
เจี้ยนอู่ส่ายหน้า
แต่จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีก แต่ทว่ายิ่งให้เกียรติฉินหลั่งมากขึ้น ช่วยฉินหลั่งทำนู่นทำนี่ ต้องการวัตถุดิบยาอะไร ก็พยายามหา ใส่ใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉินหลั่งหยุดเขา แล้วถามว่าเขาต้องการอะไร เจี้ยนอู่จึงได้พูดออกมา
“น้องสาวเสี้ยวเสี้ยว ดื้อดึงตั้งแต่เด็ก หากสามารถเป็นศิษย์ของอาจารย์ได้ อยากให้อาจารย์สั่งสอน เมืองจิ้นของฉันจะพยายามทำทุกอย่าง เพื่อรับใช้เซียนอาจารย์”
ฉินหลั่งหัวเราะ มองไปที่เสี้ยวเสี้ยว
สาวเสื้อม่วงที่อยู่ข้างๆ เอามือไขว้หลัง พลางหันหน้าไปมอง ทำเหมือนไม่ได้ยินใดๆ แต่หูทั้งสองข้าง กางออก ดูออกชัดเจนว่ากำลังรอฟังอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้……”
ฉินหลั่งกำลังจะพูด ทันใดนั้นด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้นมา
“พี่ เสี้ยวเสี้ยวฉันจะพากลับวังอู๋ซ่าง ไม่ต้องรบกวนคนอื่น”
พูดพลาง ได้เห็นหญิงสาวเยือกเย็นคนหนึ่ง เปิดประตูเข้ามา เมื่อเธอเข้ามา ทั้งห้องเต็มไปด้วยออร่า ราวกับนางฟ้าจุติลงมา มังกรลงมา มีชุดขาวดังหิมะ
“ยินยิน กลับมาแล้วเหรอ”
เจี้ยนอู่ฝืนยิ้ม
แม้แต่เสี้ยวเสี้ยวเห็น ก็ไม่กล้าทำอะไร เรียกเบาๆ
“พี่สาว”
“ฉันเดินผ่านมาได้ยิน ว่าในเมืองมีแขกมา ดังนั้นจึงกลับมา แล้วก็พาเสี้ยวเสี้ยวไป” ยินยินกล่าวอย่างสงบ สายตาเยือกเย็นของเธอ มองไปที่ฉินหลั่ง
“มิทราบว่าสหายมาจากสำนักขั้นสูงไหน? สำนักขั้นสูงมีทั้งหมดเจ็ดสำนัก สำนักไท่กู่ สำนักอัสนี สำนักชื่อเสิน ภูเขาเหลยยิน วังเทพหิมะ วังอู๋ซ่างอีกทั้งสำนักต้าซื่อ ฉันรู้จักทั้งหมดเลย ซึ่งฝีมืออย่างสหาย วัยรุ่น มีระดับ น่าจะคุ้นเคยถึงจะถูก เหตุใดก่อนหน้านี้ ไม่เคยได้เจอกันเลย?”
“ฉันฝึกเงียบๆ ไม่ค่อยโผล่หน้า ท่านไม่เคยเห็นก็ไม่แปลก”
ฉินหลั่งตอบอย่างนิ่งๆ

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset