รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 863 การร่วมมือกันของเจ็ดเซียนดิน

หลังจากที่เห็นพลังของการสะบัดแล้ว ไม่เพียงผู้ชมจำนวนมาก แม้แต่เซียนดินจำนวนมากก็ยอมก้มหัวให้ แม้เซียนดินขึ้นชื่อว่ามีพลังเคลื่อนย้ายเขาและทะเลได้ แต่อย่างมากก็ทำได้เพียงทำลายภูเขาเล็กให้ทลายลงก็เท่านั้น
ฝีมือระดับฉินหลั่ง แป๊ปๆก็ทำลายเขาระยะห่างไปพันเมตร พลังทรงพลัง จนยากจะจินตนาการถึงได้
“ยัง……ยังเป็นคนอยู่มั้ย?”
เมื่อมองยังยอดเขาที่สูงกว่าร้อยเมตร พังลงทันใด ก่อนจะถล่มไปทางซ้ายและขวา ตรงกลางเหมือนถูกกระบี่เทพของเทพเจ้าผ่าออก พลังแบบนี้ เหนือความคาดหมายของผู้คนไปแล้ว
เทียนเสว่และคนอื่นๆตะลึง
“คุณพระ กระต่ายอะไรกัน นี่มันมังกรจริงๆนะ”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนืออ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
แต่ยินยินบ้าไปเลย พลังมหาศาลขนาดนี้ เป็นของฉินหลั่งที่คุยโวนั่นหรอ? เขายังเป็นศิษย์ไร้สำนัก? เป็นเซียนดินองค์หนึ่งแท้ๆนะ!
“เซียนอาจารย์ฉินเก่งจัง!”
มีเพียงเสี้ยวเสี้ยวที่กระโดดดีใจแล้วตะโกนออกมา ด้วยความสนุก
“แกเป็นใครกันนะ? ย่าจื่อเลื่อนไปเซียนดิน ก็ไม่มีพลังแบบแก” นางฟ้ายู่ป่อไม่มั่นใจ มองไปที่ฉินหลั่งอย่างแปลกใจ
เซียนดินของโลกเทพเท็จ มีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะฉินหลั่ง อายุเท่านี้ แล้วพลังยังอัศจรรย์ขนาดนี้อีก ไม่มีทางที่จะไม่มีชื่อเสียงแน่นอน
“ฉินหนานจง”
ฉินหลั่งเอามือไขว้หลัง แล้วกล่าว
ครั้งนี้ จะไม่มีใครกล้าดูถูกอีกต่อไป ทุกคนล้วนจำชื่อนี้เอาไว้ในใจได้อย่างแม่นยำแล้ว เพราะ นี่คือชื่อของผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่ง
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าแกจะฉินหนานจง หรือเซียนหลี่ แกฆ่าผู้กล้าสำนักขั้นสูงสุดของฉัน ท้าทายสำนักขั้นสูงสุดของฉัน สมควรตาย!”
นักพรตตะหวาดออกมา บนค้อนฟ้าผ่าม่วง สายฟ้ากำลังผ่า ขนาดใหญ่เท่าภูเขาลูกเล็ก ผ่าไปที่ฉินหลั่ง ฉินหลั่งยิ่งแข็งแกร่ง เหล่าเซียนดินสำนักขั้นสูงสุดยิ่งไม่อยากเอาไว้
“โลกเทพเท็จเป็นของสำนักขั้นสูงสุดของฉัน ไม่ใช่ที่ๆแกจะทำอะไรก็ได้”
ถ้าจะบอกว่า เมื่อก่อนมีเพียงเซียนดินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหกอยากฆ่าฉินหลั่งเท่านั้นล่ะก็ ตอนนี้แม้แต่ราชาจิ้งทิงของวังอู๋ซ่าง กับเซียนชุดขาว ก็จะฆ่าฉินหลั่งด้วยกันทั้งนั้น
“เหอะๆ”
ฉินหลั่งไม่แม้แต่จะสนใจ ชี้นิ้วที่เพรียวบางออกไป แล้วเอื้อมออกไป
“กันไว้!”
เขาใช้แค่นิ้วเดียว ก็สามารถต้านทานพลังค้อนฟ้าผ่าม่วงที่น่าตะลึงได้ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่แบบนี้ อยู่ในมือของนักพรต พลังมากกว่าเฮยเถิงและคนอื่นๆอีก มากพอที่จะทำลายยอดเขาให้แตกได้ แต่ตอนที่เผชิญกับนิ้วของฉินหลั่งนั้น กลับราวกับธรรมชาติที่กั้นทางไว้ ไร้ทางผ่านไปได้
นักพรตหน้าเคร่งเครียด พยายามโจมตีถึงที่สุด แต่ก็ไร้ทางต้านทานการดีดนิ้วนั้นได้
“รุมเข้าไป”
นางฟ้ายู่ป่อมีสีหน้าเคร่งเครียด
พวกเขาดูออกว่า นักพรตกำลังเสียเปรียบแล้ว
“ตูม!”
การโจมตีครั้งนี้ ไม่เพียงสำนักไท่กู่และเซียนดินทั้งห้า แม้แต่เซียนชุดขาวและราชาจิ้งทิง ล้วนออกโรงพร้อมกัน ทันใดนั้น การโจมตีของเหล่าเซียนดิน กระจายไปทุกหนแห่ง
ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ร่วมมือกันโจมตี เทียบกับเมื่อก่อน แล้วจะไม่ชนะได้ไงกัน
“ผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานมา ก็คงต้องยอมถอยไปกัน”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือกล่าว
“ผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน อันดับหนึ่งของเทพเท็จมา จะต้องมีสีหน้าเปลี่ยนไปแน่นอน” เทียนเสว่ยิ้มแหยๆ
พลังของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งแปด น่ากลัวจริงๆ ปรมาจารย์มากมาย ก็ไม่มีพลังมากเท่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งแปดได้ บางทีอาจจะมีเพียงอันดับหนึ่งสำนักไท่กู่สำนักใหญ่ จึงจะมีพลังแบบนี้ได้ แปดผู้ยิ่งใหญ่ร่วมมือกัน พลังระดับนี้ เพียงพอที่จะทำลายสำนักใหญ่ที่อ่อนแอได้แล้ว
เผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทำให้ภูเขาพังทลายได้
ฉินหลั่งไม่ยินดียินร้าย นิ่งสงบ เขายกมือขวาขึ้นช้าๆ กำหมัดไว้ เอานิ้วโป้งไว้ตรงกลางระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง จากนั้นก็ต่อยไป
“ตูม!”
แสงทองสว่างไสวแสงหนึ่ง ออกมาจากตัวเขา สุดท้ายในมือซ้าย รวมกันเป็นลำแสงผ่าฟ้าดิน ลำแสงนี้ มีพลังมหาศาล ทำลายได้ทุกสิ่ง พลังใดๆ ที่เจอกับหมัดนี้ จะต้องสลายไป มันเหมือนกับวิชาหมัดของเทพสงคราม ที่อยู่บนโลก
หมัดเทพเจ้าบู๊!
ปัง
เมื่อปล่อยหมัดไป ภูเขาแม่น้ำทลาย ดวงอาทิตย์พระจันทร์แปรปรวน ราวกับปลาคุนนกเผิงโจมตีสามพันโลก นกยูงแดงกางปีกสะท้านซิงเหอ
หมัดเทพเจ้าบู๊!
การร่วมมือกันเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งแปด ถูกหมัดเทพเจ้าบู๊โจมตี ทุกคนเหมือนถูกโจมตีด้วยสายฟ้า ทันใดนั้นก็ระเบิดลอยไปไกลกว่าสิบฟุต จากนั้น ต้านทานพลังหมัดไม่ไหว ไปถึงด้านหน้าของพระชิงหมัง พระชิงหมังทันได้ใช้เปลวไฟ รีบหลบไป เขาถูกหมัดสีทอง จู่โจมจนระเบิด แม้แต่จิตวิญญาณเทพก็แตกกระจาย
หมัดเดียวชนะเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งแปด! ฆ่าพระชิงหมัง!
พลังสะท้านฟ้าดิน ทำเอาทุกคนงงไปตามๆกัน
“คนที่หนึ่ง!”
ฉินหลั่งพูดอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นก้าวไปข้างหน้า พร้อมหมัด กลายเป็นมังกร ทอดยาวค้างฟ้า อ้าปากจู่โจมไปที่ทุกคน
เหลือเซียนดินอยู่เจ็ดองค์ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา แต่ก็ยังคงต้านทานอยู่เช่นเคย
“กระบี่ล้างฟ้า”
“ค้อนฟ้าผ่าม่วง”
“แสงเทพน้ำแข็ง”
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ วิชา และเครื่องราง มาจากรอบทิศทาง ก่อนจะพุ่งไปที่ฉินหลั่ง แต่หมัดเทพเจ้าบู๊นั้นน่ากลัวมากจริงๆ ความเร็วของฉินหลั่ง เร็วกว่าความเร็วเสียงสิบเท่า ไม่มีทางจับได้
เขาเพิ่งยกหมัดขึ้น วินาทีถัดมา ก็ปรากฏกาย ต่อหน้านักพรต
นักพรตคำราม ยังไม่ทันได้ใช้ค้อนฟ้าม่วง สองมือประสานกัน จับลำแสงที่ยาวกว่าสิบฟุตทั้งสองเส้นออกมา ก่อนจะฟาดไปที่ฉินหลั่งในอากาศ
วิชาสำนักต้าซื่อ ฟ้าผ่า!
“คนที่สอง”
ฉินหลั่งไม่สนใจ เพียงแค่เอ่ยปากพูด จากนั้นก็ชกไป
“ปัง”
แสงสีม่วงระเบิดออกทันใด หลังหมัดสีทอง ราวกับมังกรผงาดบนฟ้า ต้านทานพลังไม่อยู่ ทันใดนั้นพลังได้ทำลายยันต์ป้องกัน เครื่องรางทั้งหมด ทำเอานักพรต แต่กระจายมีแต่เลือด แม้แต่ชิ้นส่วนชิ้นเล็กชิ้นน้อยยังหาไม่เจอ ลมปราณปกป้องร่างกายอะไรต่างๆ เจอเข้ากับหมัดเทพเจ้าบู๊ ราวกับเศษกระดาษ
เซียนดินคนที่สอง นักพรตเสียชีวิตลงแล้ว!
ขณะนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหก ไม่ใช่แค่หวาดกลัว แต่หวาดกลัวจนอกสั่นขวัญหายแล้ว
“หนี!”
นางฟ้ายู่ป่อร้องตะโกน
ฉินหลั่งสามารถทำลายการโจมตีของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ฆ่าผู้ยิ่งใหญ่ราวกับฆ่าไก่ นี่หมายถึงพลังของฉินหลั่ง มากกว่าพวกเขาเยอะ ไปถึงอีกขั้นที่คาดไม่ถึง ต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เผชิญหน้ากับฉินหลั่ง ก็ต้องถูกฆ่าแกงอย่างเดียว ไร้ซึ่งการสู้กลับ
“คนที่สาม”
ฉินหลั่งยกมือขึ้น
กรงล้อทอง ปรากฏอยู่หลังเขา กรงล้อใหญ่เป็นฟุต ราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กก็มิปราณ ลอยอยู่บนฟ้า กรงล้อนี้ ราวกับรถรบของเทพดวงอาทิตย์อพอลโล แสงสีทองด้านบนบริสุทธิ์ แข็งแรง ทำลายไม่ได้
“ตูม!”
ฉินหลั่งปล่อยหมัดออกไป ฟ้าดินถูกแยกออก
เห็นเพียงแสงสีทองที่สว่างไสว ทอดยาวเต็มฟ้า แว็บเดียวก็ทอดยาวไปเป็นพันฟุต เจอเข้ากับกรงล้อสีทองที่แข็งแกร่ง ราวกับไม่มีอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางป้องกัน วิชากระบี่ใดๆ หรือร่างอรหันต์ เหมือนกับไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น
“ปังๆ!”
จากนั้น เซียนเจ่เจี้ยนของสำนักชื่อเสิน……ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ล้วนถูกกรงล้อทองบดขยี้ แม้แต่เครื่องรางบนร่างกาย ก็แตกกระจาย
สุดท้าย คือนางฟ้ายู่ป่อแห่งสำนักไท่กู่
นางฟ้ายู่ป่อสู้สุดแรงกาย ใช้เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงติดกันสามอัน จนสุดท้าย ใช้วิชาสุดพลัง แต่เจอเข้ากับหมัดเทพเจ้าบู๊ ทุกอย่างก็ต้องสลายไป
“ปัง”
นางฟ้ายู่ปอระเบิดกลายเป็นเลือด
สุดท้าย เหลือเพียงเซียนชุดขาวของวังเทพหิมะเพียงคนเดียว ถูกฉินหลั่งปล่อยไป จนยืนอย่างงงๆอยู่ในอากาศ เธอมึนงง อย่างไม่เชื่อ