รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 88 หัวหน้าและนักร้องนำ

บทที่ 88 หัวหน้าและนักร้องนำ 
เมื่อตอนที่ฉินหลั่งและเผิงเมิ่งตกตะลึงเล็กน้อย  เสียงวีแชตของฉินหลั่งก็ดังขึ้น เขาหยิบออกมาดู เป็นวิดีโอคอลล์โทรมาจากจงยู่ 
ฉินหลั่งก็มองไปที่เผิงเมิ่งอย่างวิตกกังวล แล้วรับสายวิดีโอคอลล์
รูปลักษณ์ที่สวยงามของจงยู่ ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอมาถึงที่เซี่ยงไฮ้เพิ่งจะเก็บข้าวของเสร็จ แทบทนรอไม่ไหวที่จะโทรวิดีโอคอลล์ให้ฉินหลั่งทันที  
“ฉินหลั่งนายอยู่ที่ไหนเหรอ?”บนหน้าจอ มีรอยยิ้มหวานของจงยู่อยู่  
“ฉันกินข้าวอยู่ในโรงอาหาร เธอดู กินผัดบะหมี่”ฉินหลั่งถ่ายไปที่ผัดบะหมี่บนโต๊ะอาหาร  
“เอ๊ะ ทำไมถึงมีตะเกียบสองคู่ล่ะ?”จงยู่ถามด้วยความสงสัย  
“อ่อ….”ใบหน้าของฉินหลั่งก็แสดงออกมาถึงความตื่นตระหนก จากนั้นก็ยิ้มอย่างผ่อนคลาย: “เมื่อกี้ฉันไม่ทันได้ระวังทำตะเกียบตกลงไปบนพื้น ก็เลยเปลี่ยนคู่ใหม่มา”  
เมื่อเห็นท่าทางฉินหลั่งที่พูดโกหกกับบนหน้าจอโทรศัพท์ แววตาเผิงเมิ่งก็สั่นไหวเบาๆ  
“นายระวังหน่อยซิ”จงยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วหล่อนก็ถ่ายสภาพแวดล้อมของตัวเอง: “นายดูนี่ นี่คือห้องซ้อมที่พี่จิ้งหามาให้พวกเรา ก่อนที่จะไปเข้าร่วมแข่งขันในรายการ พวกเราก็จะฝึกซ้อมกันที่นี่……”
“อืม ดูไปแล้วสภาพแวดล้อมก็ไม่เลวนะ”ฉินหลั่งก็ถามอย่างเป็นห่วง: “พี่เฉินบอกว่าพวกเธออยู่ที่เซี่ยงไฮ้กี่วันนะ? ไม่ให้ฉันไปหาเธอที่เซี่ยงไฮ้จริงๆเหรอ?” 
“ก็น่าจะประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่านะ ฉันบอกแล้วว่านายไม่ต้องมา ถ้านายมาฉันยังต้องดูแลนายอีก”จงยู่พูดแบบติดตลก  
“ก็ได้ อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ก็ดูแลตัวเองดีๆนะ ถ้าเกิดกลับมาเห็นว่าเธอไม่สบาย เธอรอดูเลยนะ”ฉินหลั่งพูดอย่างหลงใหล 
พูดกับฉินหลั่งต่อไม่กี่คำ จงยู่ก็วางสายไป  
“นายรักแฟนนายมากซินะ”เผิงเมิ่งยิ้มบางๆแล้วถาม  
“ใช่ ดังนั้นเธอก็น่าจะเข้าใจแล้วนะ?”หลังจากที่โทรวิดีโอคอลล์กับจงยู่ ในใจของฉินหลั่งก็มั่นคงขึ้น เขาต้องการที่จะรักษาเว้นระยะสถานะกับเผิงเมิ่งให้ชัดเจน เวลานี้จิตใต้สำนึกของฉินหลั่ง ไม่ได้กลัวว่าเผิงเมิ่งจะถลำลึกเข้าไปกว่านี้ แต่กลัวว่าตัวเองจะชอบเผิงเมิ่ง 
“ฉันเข้าใจ แต่ว่าฉันก็ยังจะจีบนายต่อไป ฉันเคยบอกแล้ว เดี๋ยวเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง นายก็จะพบว่า ฉันเป็นคนเหมาะสมกับนายมากกว่า”เผิงเมิ่งไม่ได้หลบเลี่ยงความเป็นจริง และไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่มีต่อฉินหลั่ง  
เผิงเมิ่งทำให้ฉินหลั่งพูดไม่ออก  
ทันใดนั้นฉินหลั่งก็โกรธเล็กน้อย และเหมือนเผิงเมิ่งจงใจทำลายเขาและจงยู่  
ฉินหลั่งมองเผิงเมิ่งด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ลุกขึ้นและออกจากโรงอาหาร  
ใบหน้าของเผิงเมิ่งยังคงมีรอยยิ้มจางๆ  ดวงตาของเธอค่อยๆเลื่อนไปอยู่ที่ผัดบะหมี่จานนั้นบนโต๊ะอาหาร  หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆกินลงไป ในใจที่รู้สึกเศร้าเล็กน้อย 
ในเวลานี้ห้องซ้อมที่เซี่ยงไฮ้   
เฉินจิ้งอี๋เรียกให้จงยู่พวกหล่อนทั้งหลายคนมาพร้อมแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่เด็กสาวทั้งห้าเดินทางมาถึงที่เซี่ยงไฮ้ ในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น  
เหตุผลที่พวกเขามาเป็นศิลปินในบริษัทช่างเมิ่งมิวสิค จำกัด ก็เพื่อจะได้มีชื่อเสียง สร้างรายได้ ตอนนี้มาเข้าร่วมการแข่งขันแสดงที่เซี่ยงไฮ้ ก็ถือว่าพวกเขาได้ก้าวสู่วงการ พวกเขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษคุ้มค่าและคาดหวังกับการมาเซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้ 
“ทุกคนอยู่ในสภาพจิตใจที่ดีมาก ฉันหวังว่าในช่วงหลายวันนี้ จะรักษาสภาพจิตใจเช่นนี้ไว้ได้เสมอ จนถึงวันที่พวกเราเข้าร่วมการแข่งขันแสดงในรายการนี้จนสำเร็จ”ยืนอยู่ที่ด้านหน้าจงยู่พวกหล่อน เฉินจิ้งอี๋แน่ใจสภาพท่าทางของพวกเขาก่อนแล้ว  
“พวกเธอก็รู้ 《Hello,girls》เป็นรายการแสดงความสามารถที่โด่งดังที่สุดบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคือผู้สนับสนุนของรายการ《Hello,girls》คือเห้อหยู่เฉิน การแสดงครั้งนี้ที่เซี่ยงไฮ้ พวกเขาตั้งใจเชิญJay Chou Nicholas Tse Joey Yung  จางเลี่ยงอิ่งซูเปอร์สตาร์ทั้งสี่คนมารับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสิน และเป็นที่น่าสนใจมากในแวดวงบันเทิง…..”  
เห้อหยู่เฉินเป็นทายาทมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในประเทศ แม้ว่าจะไม่โด่งดังเท่าหวางซือชง แต่ทั้งสองคนก็สร้างความสำเร็จและความมั่งคั่งด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเอง เห้อหยู่เฉินก็ยังเหนือกว่าหวางซือชง   
สิ่งที่เฉินจิ้งอี๋พูด จงอยู่พวกหล่อนเคยพอจะดูรู้มาบ้างในอินเทอร์เน็ต  
เย้นนีพวกหล่อนทั้งสามคน ตั้งแต่ลงเครื่องบินมา ก็แทบจะหายใจไม่ออก พวกเขาต้องแสดงตัวเองให้ดีในรายการนี้ และมุ่งมั่นที่จะโด่งดังให้ได้! 
เย้นนีพวกหล่อนได้แต่งหน้าอย่างสวยงาม พวกหล่อนรู้สึกว่า การแสดงนี้ได้รับความสนใจเป็
นอย่างสูง แม้แต่ตอนที่พวกหล่อนฝึกซ้อม อาจมีนักข่าวมาสัมภาษณ์พวกหล่อน และพวกหล่อนต้องแสดงตัวเองให้ดีที่สุดต่อหน้านักข่าว  
ขณะที่ฟังคำพูดของเฉินจิ้งอี๋ นิ้วมือของเย้นนีก็ม้วนผมเล่นเบาๆ มโนเพ้อฝัน ถึงฉากตอนที่ฉันถูกสัมภาษณ์ และตอนที่อยู่ตรงหน้ากรรมการผู้ตัดสิน จะวิธีไหนที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้  
“…..ตอนนี้ก็กำลังจะได้เข้าสู่วงการบันเทิง ก็ถึงเวลาที่หัวหน้าทีมและนักร้องนำของพวกเราDream girlsแล้ว….” 
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความสนใจของเย้นนีก็ถูกดึงกลับมาทันที และสายตาของคนอื่นๆก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของเฉินจิ้งอี๋  
ตัวตนของหัวหน้าทีมนั้นมีความสำคัญมาก สถานการณ์ทั่วไป หัวหน้าทีมจะพูดแทนทีมในระหว่างการสัมภาษณ์ และหัวหน้าทีมจะต้องเป็นคนที่คลับแฟนเรียกชื่อได้มากที่สุด; รองลงมาจากหัวหน้าทีมก็เป็นนักร้องนำ เมื่อตอนที่ร้องเพลง สายตาของผู้ชมส่วนใหญ่จับจ้องไปที่นักร้องนำ  
เย้นนีอยากได้สองตำแหน่งนี้มาโดยตลอด ในขณะเดียวกัน หล่อนรู้ว่า ปกติการแสดงของตัวเอง เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสองตำแหน่งนี้ ความกังวลของหล่อนในตอนนี้ก็คือ เฉินจิ้งอี๋จะปล่อยให้หล่อนรับทั้งสองตำแหน่งนี้หรือไม่  
“หลังจากร่วมฝึกซ้อมกันมาหลายวัน สำหรับความสามารถ ในใจพวกเธอก็น่าจะมีปทัฏฐานอยู่แล้ว ผลของการเลือกวันนี้ฉันและอาจารย์ทุกคนได้เลือกออกมาแล้ว ฉันก็ว่าในใจของพวกเธอก็จะยอมรับผลของความถูกต้อง หากว่าไม่ได้รับเลือก ก็ไม่ได้หมายความว่าความสามารถของพวกเธอไม่ดี  แต่อีกฝ่ายเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่า ความพยายามทั้งหมดของพวกเราก็ทำเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งทีม…”  
เย้นนีมองไปที่เฉินจิ้งอี๋ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย พี่เฉินคู่ควรกับการเป็นผู้นำ ถ้าเกิดเลือกฉันเป็นหัวหน้าทีม ในใจคนอื่นๆก็คงไม่พอใจแน่ๆ นี่คือการดักทางพวกหล่อนไว้  พูดให้มันน่าฟังหน่อยก็คือปลอบใจพวกหล่อน แบบนี้มันก็จะไม่น่าเกลียดเกินไป เพื่อที่พวกหล่อนจะตั้งอกตั้งใจเสริมให้ฉันเด่นขึ้นมา ต่อไปฉันก็จะได้พูดคุยกับพวกหล่อนได้ง่ายขึ้น ทำให้ฉันไร้ความกังวลมาก พี่เฉินก็ทำเช่นนี้ก็เพื่อช่วยฉัน
“อะแฮ่ม….”เฉินจิ้งอี๋กระแอมในลำคอ: “จากที่ฉันและอาจารย์ทุกท่านร่วมกันตัดสินใจ มีย่าหนานเป็นหัวหน้าทีม และจงยู่เป็นนักร้องนำ…..”  
 หืม….รอยยิ้มบนใบหน้าของเย้นนีแข็งทื่อ เธอไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วขณะ เมื่อกี้พี่เฉินพูดว่าอะไรนะ? กัวย่าหนานเป็นหัวหน้าทีม จงอยู่เป็นนักร้องนำ ส่วนเธอไม่ได้เป็นอะไรเลย?
แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย  
“พี่เฉิน คุณพูดผิดหรือเปล่า พวกเธอ….ฉัน…”เย้นนีมองไปที่กัวย่าหนานและจงยู่ไม่อยากจะเชื่อเลย  
เฉินจิ้งอี๋ถอนหายใจเบาๆ เธอรู้ว่าเย้นนีจะตั้งคำถามกับการตัดสินใจของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงจงใจพูดคำพูดก่อนหน้านี้  
“เย้นนี เธอฟังฉันนะ ย่าหนานเป็นคนวัยกลางที่มีอายุมากที่สุดในหมู่ของพวกเธอ ที่สำคัญตอนที่หล่อนอยู่ในมหาลัยยังเป็นพิธีกรด้วย  และมีความสามารถที่ดีมากในการตอบสนองอย่างตรงจุด….”  
“ย่าหนานฉันยอมรับได้” 
สายตาของเฉินจิ้งอี๋ถูกจับจ้องมองไปที่บนใบหน้าของจงยู่: “แต่ตำแหน่งนักร้องนำ ทำไมถึงให้หล่อนมาเป็น พี่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของทักษะการร้องเพลง หรือความรู้ทางด้านดนตรี พื้นฐานด้านดนตรี ฉันมีตรงไหนที่สู้หล่อนไม่ได้ ทำไมถึงเป็นหล่อนไม่ใช่ฉัน?”  
“เย้นนี นี่มันท่าทีอะไรของเธอ รู้สึกว่าฉันและอาจารย์ทุกคนไม่ยุติธรรมใช่มั้ย?”ถามอย่างเปิดเผยต่อท่าทีของเย้นนี เฉินจิ้งอี๋ไม่พอใจมาก: “หรือเธอคิดว่าเธอจะได้เป็นนักร้องนำเหรอ? อย่างนั้นก็ดี เธอไปร้องเองเลย คนอื่นๆก็ไม่ต้องไปร้องกับเธอ วันที่การแสดงโชว์ เธอไปเข้าร่วมการแข่งขันคนเดียวเลย!”  
“พี่เฉิน ฉันผิดไปแล้ว”เย้นนีรีบยอมรับผิดกับเฉินจิ้งอี๋ เฉินจิ้งอี๋เป็นผู้จัดการของพวกหล่อน ถ้าเกิดเธอไม่เชื่อฟัง หล่อนมีสิทธิ์ที่จะลงโทษเย้นนี อย่างเช่นไม่ให้โอกาสขึ้นวีที หรือเปลี่ยนคน  
เฉินจิ้งอี๋มองไปที่เย้นนีอย่างหงุดหงิดเกลียดชัง เมื่อกี้เธอก็เพิ่งจะบอกไป ทุกอย่างก็ทำเพื่อทีมทั้งหมด เห็นได้ชัด เย้นนีไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลย  
“การร้องเพลงของเธอดีมาก แต่เสียงของจงยู่เป็นที่น่าจดจำได้มากกว่า ที่สำคัญการเต้นของจงยู่ดีกว่าของเธอเล็กน้อย เมื่อมองดูโดยรวมแล้ว ฉันและอาจารย์หลายคนตัดสินใจ ให้จงยู่เป็นนักร้องนำ”เฉินจิ้งอี๋ชี้แจงกับเย้นนีอย่างจริงใจ จงยู่พวกหล่อนก็เป็นคนที่เธอขุดค้นมา ดังนั้นเฉินจิ้งอี๋จะเข้าข้างกันได้อย่างไร: “ เย้นนี นักร้องนำก็เป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้นเอง ตราบใดที่ตัวเองยังมีความสามารถ  พวกเธอสามารถโดดเด่นได้ ฉันหวังว่าเธอ และพวกเธอทุกคนจำไว้ด้วย พวกเธอคือทีมเดียวกัน….”  
“ฉันเข้าใจแล้ว พี่เฉิน”เย้นนีก้มหัวให้เฉินจิ้งอี๋ แต่ในใจก็ยังไม่พอใจนัก  
“รู้ว่าผิดก็ดีแล้ว”เฉินจิ้งอี๋ยิ้มแล้วลูบแก้มทั้งสองข้างของเย้นนี จากนั้นก็พูดกับพวกหล่อนต่อสองสามคำ สุดท้ายก็ปรบมือ: “โอเค สิ่งที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนเริ่มฝึกซ้อมได้แล้ว เวลาที่เหลือของพวกเราก็มีไม่มากแล้ว”  
จงยู่พวกหล่อนก็เริ่มฝึกซ้อมไปกับอาจารย์ เฉินจิ้งอี๋เฝ้าดูการฝึกซ้อมอยู่สักพัก  ก็ออกไปทำธุระ  
เก้าโมงตอนกลางคืน  
จงยู่พวกหล่อนฝึกซ้อมเสร็จแล้ว พวกหล่อนก็เริ่มเดินออกจากห้องฝึกซ้อม  
“อย่าคิดว่าเป็นนักร้องนำแล้วจะยอดเยี่ยมนะ ตอนที่อยู่บนเวที กรรมการและผู้ชมจะชอบดูใครก็ยังไม่แน่!”เย้นนีและก่องเจียว จางเสี่ยวหย่าเดินมาด้วยกัน ตอนที่เดินผ่านจงยู่ ก็เหลือบไปมองเธออย่างดูถูก  
จงยู่มองไปที่เย้นนีอย่างเงียบๆ ทั้งๆที่นี่เป็นการตัดสินใจของอาจารย์ทุกท่าน ทำไมเย้นนีความแค้นมาลงที่บนหัวตัวเองได้ล่ะ?
“นังตัวดี อย่าคิดว่าตัวเองเป็นนักร้องนำก็กล้ามาแย่งซีนฉันนะ อยู่ต่อหน้าฉัน  ยังไงเธอมันก็เป็นได้แค่ดอกหญ้าข้างทางที่ไม่มีความสำคัญอะไร เข้าใจหรือยัง!”เย้นนีกอดอก เดินเข้าไปหาและจ้องมองไปที่จงยู่อย่างโหดเหี้ยม  และกล่าวอย่างน่ากลัว   
จงยู่ทำได้เพียงแค่มองดูหล่อนยังลำบากใจ   
“ดูนังตัวดีนี้ ถูกฉันทำให้ตกใจจนกลัวเลย!”เย้นนีผลักจงยู่ ยิ้มอย่างมีชัย และก่องเจียวพวกหล่อนก็เดินออกจากอาคารห้องซ้อม  
“ปี๊บๆๆ”รถปอร์เช่สีเหลืองสดใสคันหนึ่งค่อยๆหยุดลงตรงหน้าเย้นนี ประตูรถเปิดออกมา แฟนหนุ่มของเย้นนี—-ถังปอ ลงมาจากบนรถ เขาก็ชอบดนตรี  ครั้งนี้เขาตั้งใจรีบมาจากจินหลิงก็เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเย้นนี  
“ที่รัก นายมาสักทีนะ”เย้นนีเดินไปตรงหน้าถังปอ แล้วตีเขา  
“เป็นอะไรเหรอที่รัก ทำไมพวกเธอสามคนดูท่าทางไม่มีความสุขเลย?”ถังปอหยิกแก้มสองข้างของเย้นนีแล้วถาม 
“ก็เป็นเพราะว่าทีมของพวกเรามีสาวบ้านนอกมาจากบนดอย พี่เฉินก็ให้หล่อนเป็นนักร้องนำด้วย ก็รู้ว่าฉันร้องเพลงได้ดีมากกว่าหล่อน ฉันเดาว่านังตัวดีนี้ต้องคุยเป็นการส่วนตัวแน่ๆ หล่อนต้องทำเรื่องอะไรไม่ดีในห้องพักอาจารย์ของพวกเรา ไม่อย่างนั้นเพราะพวกเขาจะเลือกหล่อนแต่ไม่เลือกฉันได้ยังไง”เย้นนีถอนหายใจ แล้วพูดอย่างโกรธๆ  

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset