รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 99 คืนนี้ของฉินหลั่ง

บทที่ 99 คืนนี้ของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ไม่นานนักก็ได้มาถึงสนามบิน
“ฉินหลั่ง ตรงนี้” เห็นเงาของฉินหลั่ง เย้นนีก็โบกมืออย่างดีใจ ฉินหลั่งสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย เดินไปยังข้างกายของเย้นนี เห็นมุมปากที่ช้ำของเย้นนี ฉินหลั่งค่อนข้างประหลาดใจ เขายังนึกว่าเย้นนีบาดเจ็บที่ขาหรือแขน เธอเป็นสมาชิกในเกิร์ลกรุ๊ป ปากทำไมถึงได้รับบาดเจ็บละ?
ไม่ว่ายังไง สิ่งที่ฉินหลั่งคาดคิดไม่ถึง ปากของเย้นนีนั้นฉินเทียนเป็นคนตบเอง
“ไปเถอะ บ้านเธออยู่ไหน?” ฉินหลั่งถือกระเป๋าของเย้นนี ได้เดินไปที่ข้างถนนพร้อมกันเย้นนี เรียกรถแท็กซี่ได้คันหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังบ้านของเย้นนี
ฉินหลั่งได้ช่วยเย้นนี้ยกกระเป๋าไปในบ้าน เย้นนีพักอยู่ที่คอนโดคนเดียว
“ขอบคุณนายมากเลย ฉินหลั่ง อยู่กินข้าวที่บ้านก่อนเถอะ แป๊บเดียวฉันก็ทำเสร็จแล้ว……..” เย้นนีมองไปทางฉินหลั่งอย่างกระตือรือร้น
“ไม่แล้ว หากไม่มีอะไร ฉันไปก่อนล่ะ…………” ขณะที่พูด ฉินหลั่งก็ได้เดินไปทางประตู
“ช้าก่อน เย้นนีรีบห้ามอย่างตื่นเต้น โอกาสที่ดีแบบนี้ เย้นนีจะปล่อยไปได้อย่างไร มองดูฉินหลั่งที่อึดอัด สมองของเย้นนีก็สับสนไม่น้อย นายดื่มน้ำก่อนค่อยไปเถอะ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะไม่สบายใจ อย่างไรเสียนายก็ได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้……..”
“อ่อ ได้” ฉินหลั่งพยักหน้า ดื่มแค่น้ำยังพอจะรับได้ ดูท่าทางของเย้นนีแล้ว หากไม่ได้ขอบคุณตัวเอง ดูเธอจะไม่ค่อยสบายใจ
“งั้นก็ดี นายนั่งตรงนี้ก่อน ฉันไปรินน้ำให้นาย……..” ได้ยินฉินหลั่งตกลงแล้ว เย้นนีก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที เธอหยิบแก้วใบหนึ่ง เดินไปที่เครื่องกรองน้ำ สังเกตว่าฉินหลั่งกำลังเล่นโทรศัพท์ เธอได้หยิบยาสลบที่ขอมากับหลี่หรุ่ย เทลงไปในแก้วนิดหน่อย รินน้ำแล้ว เขย่าเล็กน้อย จนกระทั่งตัวยาได้ละลายไปหมด เย้นนีรินนำเต็มแก้ว แล้วยกไปให้ฉินหลั่ง
“ขอบคุณ” ฉินหลั่งกล่าวขอบคุณ รอจนกระทั่งน้ำเย็น ก็ได้ดื่มหมดภายในอึกเดียว: “เอาละ ฉันไปละ………”
ขณะที่ฉินหลั่งยืนขึ้นนั้น จู่ๆเขาก็รู้สึกหนักหัวอย่างมาก ก็ได้นั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง
“ฉินหลั่ง นายเป็นอะไรเหรอ?” เย้นนี ถามอย่างฉินหลั่งอย่าง “เป็นห่วง”
“ไม่เป็นไร……..” ฉินหลั่งไม่รู้เลย ว่าเย้นนีเป็นคนที่วางยาตัวเอง ยังนึกว่าเป็นปัญหาของตัวเองเสียอีก เขาลูบที่หน้าอกต่อสู้กับตัวเองไปสักพัก สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว ค่อยๆนอนลงไปที่โซฟา แล้วหลับตาลง
“ฉินหลั่ง ฉินหลั่ง………” เย้นนีเรียกที่ข้างหูฉินหลั่งไปสองสามครั้ง ฉินหลั่งไม่ตอบสนองเลย เย้นนียิ้มที่มุมปาก เธอสอดแขนไปที่ใต้รักแร้ของฉินหลั่ง ใช้แรงลากร่างที่หนักของฉินหลั่ง ค่อยๆลากทีละนิดๆเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง…….
ในเวลาเดียวกัน หลี่หรุ่ยที่แอบอ้างเป็น “เพื่อนของฉินหลั่ง” ใช้คำรมหลอกล่อจงยู่จนยอมไปทานข้าวกับเขา ข้าวยังไม่ทันกินเสร็จ จงยู่ก็เหมือนกับฉินหลั่ง ได้สลบอยู่บนโต๊ะ
ก่อนหน้านี้หลี่หรุ่ยแสดงเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด จนมาถึงเวลานี้ จึงได้แสดงรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา เขาได้เช็ดบิลอย่างรวดเร็ว พยุงร่างของจงยู่เดินไปขึ้นรถ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่เขาใช้เป็นประจำ
เขาพยุงร่างของจงยู่ เดินไปที่ห้องพักอย่างใจร้อน ผลักจงยู่ที่สลบอยู่ลงไปนอนที่โต๊ะวงกลมขนาดใหญ่ จงยู่นอนอยู่บนเตียง แต่ว่าเธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เหมือนนอนหลับไปอย่างนั้น
สายตาของหลี่หรุ่ยมองสำรวจร่างกายของจงยู่ไปหนึ่งรอบ เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เดินไปในห้องน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ หลี่หรุ่ยก็ใช้ผ้าเช็ดตัวสีขาวพลางเช็ดน้ำที่อยู่บนตัว พลางเดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องน้ำ
มองดูจงยู่ที่อยูบนเตียง ร่างกายของเขาเหมือนลุกโชนด้วยไฟ หลี่หรุ่ยทิ้งผ้าเช็ดตัวลงบนพื้น ได้เปิดกล้องออกมา ให้หน้ากล้องหันมาทางเตียง จึงได้ขึ้นไปบนเตียง นอนอยู่ข้างกายของจงยู่
เขาเคยมีอะไรกลับผู้หญิงมาสิบกว่าคน ไม่มีคนไหนเหมือนจงยู่เลย สามารถทำให้ความปรารถนาในร่างกายของเขาลุกเป็นไฟ เขาไม่สามารถที่จะรอได้ อยากที่จะค่อยๆกินจงยู่ทีละนิด “อาหารเลิศรส”
หลี่หรุ่ยใช้หลังมือค่อยๆลูบไปที่หน้ารูปไข่ของจงยู่ สัมผัสผิวที่ละเอียดทำให้หลี่หรุ่ยหลับตาลง ค่อยๆสัมผัสความรู้สึกตอนนี้ที่เหมือนกับการเสพยาเสพติด
มองดูปากน้อยๆของจงยู่ที่ได้รับผลกระทบ แล้วค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นเนื้อสีชมพูและฟันที่ขาวใส ดวงตาของหลี่หรุ่ยยิ่งอยู่ยิ่งเปิดกว้าง
เขาค่อยๆยื่นมือไปที่หน้าอกของจงยู่ จงยู่ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว นิ้วชี้ขวาของเขาจับอยู่ตรงตำแหน่งคอเสื้อ ค่อยๆดึงลงไป คอเสื้อของจงยู่ยิ่งอยู่ยิ่งกว้าง หลี่หรุ่ยเห็นไหปลาร้าของจงยู่ ข้างในเป็นยกทรงสีดำ…….
ดวงตาของหลี่หรุ่ยเลือดไหลพลุ่งพล่าน มือของเขาเริ่มสั่น เขาได้วิจัยผู้หญิงมาไม่รู้เท่าไหร่ จงยู่เป็นประเภทที่ปลุกอารมณ์ของเขาได้ดีที่สุด เด็กอายุสิบเก้าปีที่ไร้เดียงสา ร่างกายที่ขาวดั่งหิมะ และรูปร่างที่เพิ่งจะเติบโตเต็มที่……..
หลี่หรุ่ยอดทนไม่ไหวแล้ว หมาป่าชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เวลาต่อมา หลี่หรุ่ยกำลังจะถอดเสื้อของจงยู่ออกอย่างบ้าคลั่ง…….
“ก๊อกก๊อกก๊อก……..” เวลานี้ ประตูห้องได้ดังขึ้น หลี่หรุ่ยนึกว่าเป็นพนักงานของทางโรงแรม ก็ได้คำรามด่าออกไป: “ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องมารบกวนผม!”
“ก๊อกก๊อกก๊อก……..” เสียงเคาะประตูยังคงดังอยู่ กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง? กูบอกให้ไสหัวไปไง—” หลี่หรุ่ยด่าอย่างโมโห
“หลี่หรุ่ย คุณลองด่าอีกครั้งซิ!” ด้านนอกดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวกว่าของหลี่หรุ่ยเสียอีก
ได้ยินเสียงนี้ อารมณ์ทางเพศบนร่างกายของหลี่หรุ่ยได้หายไปทันที สิ่งที่มาแทนที่คือความลนลาน เพราะว่าคนที่พูดตะโกนอยู่ด้านนอกคือภรรยาของเขา หลี่หรุ่ยอาศัยบารมีของบ้านภรรยา จึงใช้ชีวิตสุขสำราญเช่นทุกวันนี้ได้ หากไม่มีภรรยา อยากบอกว่าไปตกสาวเลย แค่กินข้าวยังเป็นปัญหาเลย
“เมียจ๋า คุณมาได้ไงเนี่ย?” หลี่หรุ่ยรีบลงจากเตียง หากให้ภรรยาเห็นเข้า เขามาเล่นชู้ที่โรงแรม เขาต้องจบเห่แน่ๆ: “คุณรอแป๊บ ผมเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ………”
ได้ยินเสียงเคาะประตูของเมีย หลี่หรุ่ยกลัวจะตายอยู่แล้ว เขาอุ้มจงยู่ขึ้นมาอย่างลนลาน ดึงผ้าปูลงมา พันจงยู่ตั้งแต่ใต้รักแร้ เพื่อมัดตัวจงยู่เอาไว้ ตอนนี้ทำได้เพียงซ่อนจงยู่เอาไว้ก่อน
เขาได้ผูกเงื่อนบนตัวของจงยู่อย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มจงยู่ไปทางหน้าต่าง เปิดหน้าต่างออก แขวนจงยู่ลงไป เมื่อก่อนเขาเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน สามีของคนอื่นกลับมานั้น เขาก็ใช้วิธีการนี้ในการหลบหนี
ตรงนี้คือชั้นสี่ ด้านนอกหน้าต่างมีแท่นที่ยื่นออกมา หลี่หรุ่ยได้แขวนจงยู่ไว้บนแท่นนั้น อาศัยแท่นนี้รับน้ำหนัก น่าจะไม่มีปัญหา เขาก็ได้นำผ้าปูอีกด้านมารั้งกับหน้าต่างไว้ ขอเพียงไม่เปิดหน้าต่าง จงยู่ก็จะไม่ตกลงไป
หลี่หรุ่ยปิดม่านหน้าต่าง แล้วก็ไปจัดระเบียบหมอนและผ้าห่มอย่างรวดเร็ว เก็บโทรศัพท์ จึงได้ไปเปิดประตูให้กับภรรยา
ภรรยาเข้ามาก็ได้ตบที่หัวของหลี่หรุ่ยหลายที ถามเขาทำไมไม่กลับบ้านแต่กลับมาเปิดห้องที่นี่ หลี่หรุ่ยหาข้ออ้างโกหก ภรรยาได้ตรวจค้นห้องไปหนึ่งรอบ แต่ก็ไม่พบคนอื่น ยังไงก็ไม่ได้เชื่อคำพูดของหลี่หรุ่ยมากนัก
“คืนนี้ฉันก็จะนอนที่นี่ด้วย คุณก็ “เอาเงินและบัตรเครดิต” มาให้ฉันทั้งหมด เพื่อไม่ให้คุณไปมั่วข้างนอก ภรรยาจ้องมองหลี่หรุ่ยแล้วกล่าว เธอเห็นม่านหน้าต่างถูกปิดไว้อย่างมิดชิด ก็ขมวดคิ้ว: “ปิดม่านทำไมเนี่ย มองวิวกลางคืนสวยดีออก………”
ขณะที่พูดก็ได้เดินไปที่หน้าต่าง ใช้มือดึงม่านออก
“เฮ้ย นี่มัน………” ภรรยาเห็นผ้าปูที่หน้าต่าง
“เมียจ๋า อย่าขยับ………” เวลานี้หลี่หรุ่ยอดไม่ไหวจนต้องตะโกนห้าม เขารีบร้อนเดินเข้าไปขัดขวางภรรยา เพียงแต่หน้าต่างได้ถูกภรรยาเปิดไปก่อนแล้ว
ทั้งสองคนมองออกไปพร้อมกัน ก็เห็นเพียงเงาสีขาวได้ตกลงไปด้านล่าง “ป้าง” ดังขึ้นที่พื้น
“หลี่หรุ่ย นายทำไมต้องเล่นชู้………” ภรรยาชี้ด่าหลี่หรุ่ยอย่างเจ็บแสบ
“เมียจ๋า กลับไปผมค่อยอธิบายกับคุณนะ ตอนนี้คนก็ได้ตกลงไปแล้ว หลี่หรุ่ยไม่เหมือนกับภรรยา ยังมาสนใจเรื่องเล่นชู้อีก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคน หากตกลงไปตายจะทำยังไง? ถูกรถทับตายจะทำยังไง?
“ใช่ คุณยังมายืนบื้อทำไมละ? ยังไม่รีบลงไปอีก!” เวลานี้ ภรรยาก็ได้ตะโกนไปทางหลี่หรุ่ย
สองสามีภรรยารีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างร้อนรน กว่าลิฟต์จะลงไปถึงชั้นหนึ่ง ก็ใช้เวลาไปสามสี่นาที ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงตำแหน่งตรงหน้าของตัวเองแล้ว
เพียงแต่มาถึงตรงนี้ ทั้งสองคนก็อึ้งไปทันที เพราะบนพื้นไม่มีคน บนถนนก็เงียบสงบ ราวกับว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นทั้งนั้น
“หลี่หรุ่ย คนล่ะ?” ภรรยาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ผมจะไปรู้ได้อย่างไร? หรือว่ารถที่ผ่านมาเจอได้พาเธอไปโรงพยาบาลแล้ว หรืออาจจะโดนคนอื่นช่วยไปแล้ว…….” หลี่หรุ่ยกล่าวอย่างคาดเดา ในใจเขานั้นกระวนกระวายมาก หากจงยู่ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้วนั้น ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนทำอย่างแน่นอน
“ไปเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน………” หลี่หรุ่ยกล่าวอย่างโง่เขลา
คุณเล่นชู้ ยังทำให้คนตกลงมาจากชั้นบนยังอยากจะกลับบ้านอีก ภรรยาด่าหลี่หรุ่ยอย่างโมโห
“คุณว่าผมควรจะทำยังไง? อย่าลืมนะ มันเป็นเพราะคุณ เธอจึงได้ตกลงมาจากข้างบน ทางที่ดีคุณควรขอพรให้เธออย่าเป็นอะไร!” หลี่หรุ่ยต่อว่าภรรยาอย่างรุนแรง
เวลานี้ภรรยาจึงได้เงียบลง ทั้งสองคืนห้อง แล้วกลับบ้าน ถนนที่เงียบสงบนี้ก็มีรถแล่นผ่านไปสองสามคัน คนในโรงแรมก็ได้มาตรวจดูว่าเสียงที่ดังก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ไม่มีใครเห็นว่า เมื่อกี้ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้ตกลงมาจากชั้นสี่
วันที่สอง ฉินหลั่งลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อคืนนอนฝันร้าย ทำให้ตอนนี้ในใจของเขากังวลเล็กน้อย
ไม่นานนัก เวลานี้ จู่ๆฉินหลั่งพบว่า ที่นี่ไม่ใช่หอพัก และก็ไม่ใช่วิลล่า แล้วมันคือ……..
หัวอีกฝั่งของฉินหลั่ง กลับปรากฏด้วยไหล่ของผู้หญิงที่หอมคนหนึ่ง นอนทับอยู่บนอกของเขา ฉินหลั่งขยับร่างกาย รีบร้อนลุกขึ้น ร่างกายเขานั้นว่างเปล่า ใจของฉินหลั่งสั่นขึ้นมาทันที เขาดึงผ้าห่มบนร่างกายออก เห็นสภาพร่างกายท่อนร่างของตัวเอง ฉินหลั่งตกใจไปทันที ร่างกายทั้งบนและร่าง ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว
“ฉินหลั่ง นายตื่นแล้วเหรอ” เวลานี้ เย้นนีก็ได้ลุกขึ้นมานั่ง ฉินหลั่งรีบหันหน้ากลับไป เขาจำได้แล้ว เมื่อคืนเขาได้มาช่วยเย้นนียกกระเป๋า จากนั้นก็ดื่มน้ำไปหนึ่งแก้ว หัวสมองของเขาก็หนักขึ้นมาทันที สุดท้ายก็จำอะไรไม่ได้เสียแล้ว………
“เธอเจตนา!” ฉินหลั่งกล่าวอย่างโมโห
“ใช่ ฉันเจตนา” เวลานี้ เย้นนียอมรับแล้ว เธอไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้อีกแล้ว
“อีแพศยา–” ฉินหลั่งด่าอย่างโมโห ผู้หญิงคนนี้กลับใช้วิธีที่น่ารังเกียจไร้คุณธรรมแบบนี้กับตัวเอง แบบนี้เขาจะบอกกับจงยู่ยังไงดี?
“นายด่าเถอะ นายคงไม่รู้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกับนาย ฉันก็ชอบนายแล้ว แต่ทุกครั้งที่นายมาส่งจงยู่ นายไม่มองฉันแม้แต่หางตา ในใจฉันอิจฉา ฉันไม่ได้แย่ไปกว่าจงยู่ เพราะอะไรเขาถึงได้ตัวนาย แต่ไม่ใช่ฉัน ดังนั้นเมื่อวานฉันจึงวางยานาย…….” เย้นนีเริ่มหาเหตุผลให้กับพฤติกรรมของตัวเอง
“เรื่องนี้ให้ถือเสียว่ามันไม่เคยเกิขึ้น หากเธอให้จงยู่รู้เรื่องนี้ ฉันจะทำให้เธอเสียใจ ต่อไปนี้เธอคือเธอ ฉันคือฉัน อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก…….” ฉินหลั่งคิดใคร่คราวดูแล้ว จึงได้พูดกับเย้นนีอย่างเรียบเฉย ขณะที่พูด ฉินหลั่งได้ดึงผ้าห่มออก แล้วเริ่มใส่เสื้อผ้า
“ฉินหลั่ง นายทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง ฉันได้มอบตัวเองให้ไปนายแล้ว………” ฉินหลั่งหันหลังให้เย้นนีที่กำลังร้องไห้ ฉินหลั่งหันไปมองด้วยสัญชาตญาณ ก็เห็นเย้นนีค่อยๆดึงผ้าห่มออก ผ้าปูที่สีขาว มีคราบเลือดที่เด่นเข้าตา……..

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset