ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 82 สังหารลู่หยวน (ต้น)

บทที่ 82 สังหารลู่หยวน (ต้น)

บทที่ 82 สังหารลู่หยวน (ต้น)

ไม่กี่วันต่อมา ลู่หยวนเดินออกนอกสำนักอักขระสวรรค์ด้วยใบหน้าบึ้งตึง มีคนจำนวนมากตามหลังมา แต่ไม่มีใครก้าวมาข้างหน้า พวกเขาต่างทราบดีว่าช่วงนี้นายน้อยอารมณ์ไม่ดี จึงไม่มีใครอยากหาเหาใส่หัว

ในบรรดาหลายสิบคนที่อยู่ด้านหลัง ไจ่หลิงตามมาช้า ๆ มีคำว่าไม่สบายใจเขียนอยู่บนใบหน้า

เด็กน้อยมองร่างสูงที่เดินนำหน้าอย่างขลาดกลัว ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ทันใดนั้นลู่หยวนก็หันมาชำเลืองมอง ทำให้คนตัวเล็กกว่าถอยไปสองสามก้าวด้วยความหวาดกลัว

ฉินอี่หานผู้อยู่ด้านข้างก้าวมาข้างหน้า กล่าวเสียงต่ำว่า “หากท่านเอาแต่จ้องแบบนี้ ยังไม่ทันถึงที่หมาย เด็กคนนี้คงได้กลัวจนตายกลางทางเป็นแน่”

บุตรศักดิ์สิทธิ์กลอกตา ก่อนถามว่า “มีข่าวอะไรจากหวังเหิงหรือไม่?”

“อื้ม พวกเขาซุ่มอยู่ในภูเขาฉางเจ๋อแล้ว แค่รอให้พวกเราผ่านมาเท่านั้น”

“เหอะ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเขาจะเตรียมการซุ่มโจมตีแบบไหนไว้!”

จากนั้นลู่หยวนก็สะบัดแขนเสื้อ เปิดใช้ค่ายกลก่อนทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว คนที่เหลือรีบใช้ค่ายกลเบื้องล่างเช่นกัน เพื่อไล่ตามชายหนุ่มไป

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม พวกเขามาถึงภูเขาฉางเจ๋อ

ภูเขาฉางเจ๋อสูงตระหง่านอยู่ในหมู่เมฆ ถูกห้อมล้อมด้วยพลังวิญญาณ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการบ่มเพาะ

เขาไม่รีบเข้าไปในภูเขา เพียงแค่พาผู้ติดตามสองสามคนสำรวจไปมาอยู่โดยรอบ

พวกหวังเหิงในภูเขาถืออาวุธไว้ในมือ ยังคงจับจ้องลู่หยวน

เมื่อเห็นว่าผ่านไปพักใหญ่แล้วเป้าหมายยังไม่เข้ามา ผู้อาวุโสใหญ่ก็อดสบถไม่ได้ว่า “สารเลวคนนี้มัวทำอะไรอยู่? รอมารดามันมาเชิญหรือไร!”

ต้วนคงซิวยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบ สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของนายน้อย หลังจากได้ยินคำพูดของหวังเหิง เขาก็ชำเลืองมองอีกฝ่าย แม้จะไม่ได้กล่าวอะไร แต่ในใจก็รู้สึกสมเพช

ตาเฒ่าเจ้าอารมณ์เช่นนั้นสามารถเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ในสำนักอักขระสวรรค์อยู่ได้เนิ่นนาน สำนักหลักแห่งนี้คงตกต่ำแล้วจริง ๆ

“เขามาแล้ว!”

ที่ตีนเขา หลังจากลู่หยวนเดินสำรวจ โดยไม่อาจทราบได้ว่าเขาสั่งอะไรกับฉินอี่หาน จึงเห็นนางพยักหน้าแล้วจากไป ก่อนชายหนุ่มจะนำคนขึ้นไปในป่าบนเขา

ต้วนคงซิวซ่อนเร้นกาย หยิบยันต์มาถือสองสามใบ มือขวาขยับอย่างรวดเร็ว ก่อนแถวตัวอักษรขนาดเล็กบางส่วนจะปรากฏขึ้นบนยันต์

เมื่อลดมือลง ยันต์ก็พลันหายไป

แทบจะในเวลาเดียวกัน บนภูเขาฉางเจ๋อ คนที่กำลัมซุ่มโจมตีทุกหนแห่งได้รับยันต์เช่นกัน

พวกเขาล้วนซ่อนกาย จับจ้องไปยังกลุ่มคนที่กำลังมาจากตีนเขา

ต้วนคงซิวกล่าวกับหวังเหิงจากด้านข้างว่า “รอให้พวกเขามาถึงไหล่เขาก่อน จากรากฐานการบ่มเพาะในปัจจุบัน การโจมตีของท่านต้องสังหารลู่หยวนได้แน่ ส่วนคนที่เหลือ พวกข้าจะหาทางสกัดไว้ให้เอง จำไว้ ต้องฆ่าให้ได้ในครั้งเดียว!”

หวังเหิงพยักหน้าหนักแน่น “ไม่ต้องห่วง ถ้าข้าคนนี้ลงมือ จะต้องฆ่ามันได้อย่างแน่นอน!”

ในเวลาเดียวกัน ลู่หยวนยังคงเดินขึ้นเขาอย่างเอื่อยเฉื่อย ริมฝีปากเผยรอยยิ้มออกมา พลางมองรอบข้าง ราวกับกำลังชื่นชมทิวทัศน์ร่มรื่นในป่า

ขณะมองตามฝีเท้าบุตรศักดิ์สิทธิ์ คนที่ซ่อนในความมืดก็เริ่มให้ความสนใจคนแล้วคนเล่า มองสายตาไม่กะพริบ จับจ้องนายน้อยอย่างใกล้ชิด

กร๊อบ!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เหยียบกิ่งไม้แห้ง ขณะก้าวเข้าสู่ไหล่เขา

“ลงมือ!”

ต้วนคงซิวบีบยันต์ทั้งหมดในมือจนระเบิด

ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!

สิ้นเสียงทะลวงผ่านสายลม หลายสิบร่างพลันพุ่งเข้าหาลู่หยวนจากทุกทิศทาง

“ระวัง!”

องครักษ์ด้านหลังบุตรศักดิ์สิทธิ์ตะโกนทันที ก่อนจะล้อมนายน้อยไว้ด้านหลังพวกเขาในพริบตา

บุรุษชุดสีดำที่อยู่ไกลออกไปเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับภูตผี ฝ่าฝูงชนที่กำลังโจมตีและเหล่าองครักษ์ พวกมันถือกระบี่ยาวไว้ในมือด้วยจิตสังหารแรงกล้าเข้าโจมตีลู่หยวน

องครักษ์คนหนึ่งหยิบง้าวออกมาทันที ด้วยการกระตุ้นพลังวิญญาณในมือ แรงกดดันนับไม่ถ้วนห่อหุ้มง้าวในทันใด

ง้าวยาวพลันถูกยกขึ้น พุ่งผ่านความว่างเปล่าตรงหน้า แทงเข้าใส่คนที่ตรงเข้ามาอย่างรุนแรง!

ร่างของชายถือกระบี่ยาววูบไหว ทันทีที่ผ่านง้าวอันน่าสะพรึงมาได้ เขาพลันมาอยู่ข้างองครักษ์ผู้โจมตี

ด้วยการกวัดแกว่งกระบี่ในมือ เสียง ‘ฉัวะ’ ดังขึ้น ทำให้ศีรษะขององครักษ์กระเด็นออกไป

ความเร็วของคนที่เข้ามาไม่ช้าลง ยังคงพุ่งเข้าหาลู่หยวนพร้อมกระบี่ยาว

องครักษ์ที่เหลือตั้งค่ายกลทันที วงกลมสลักอักขระจำนวนมากปรากฏขึ้นบนพื้น ปกป้องบุตรศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ข้างใน

เหล่าองครักษ์ถืออาวุธวิเศษเอาไว้ พร้อมก้าวไปข้างหน้า หยุดผู้ลอบสังหารที่พุ่งเข้ามา

การปะทะเริ่มต้นขึ้น

ลู่หยวนผู้อยู่ในค่ายกลไม่รีบร้อน สายตาของเขาจับจ้องบุรุษในชุดสีดำ ระหว่างต่อสู้ ใบหน้าอันคุ้นเคยปรากฏขึ้นในสายตาของชายหนุ่ม

“ต้วนคงซิว”

บุตรศักดิ์สิทธิ์หรี่ตา ก่อนตรวจสอบทุกคนที่นี่ แต่กลับไม่พบหวังเหิง

ทันใดนั้น กลิ่นอายเย็นเยือกพลันปรากฏขึ้นด้านหลังลู่หยวน แรงกดดันอันทรงพลังพวยพุ่งขึ้นมา

เมื่อหันหลัง เขาเห็นกระบี่ยาวอยู่เหนือศีรษะห่างออกไปสามฉื่อ ผู้ที่ถือมันไว้คือหวังเหิง

ตูม!

กระบี่ยาวพลันฟาดลงไป ค่ายกลที่ปกป้องลู่หยวนส่องแสงสว่างเจิดจ้าทันที โล่จำนวนมากปรากฏขึ้น คอยปกป้องเขาเอาไว้

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

กระบี่ยาวเคลื่อนลงมา ทะลวงผ่านโล่หลายชั้น

ตูม!

กระบี่ยาวยังคงฟาดลงไป เมื่อปราณกระบี่แทรกซึมเข้าไปในค่ายกล ทั่วทั้งภูเขาฉางเจ๋อพลันถูกแยกออกจนเป็นหุบเหวขนาดใหญ่!

หุบเหวนี้ปรากฏขึ้นจากไหล่เขา ทอดยาวไปถึงยอดเขาในชั่วพริบตา!

เทือกเขาเกือบครึ่งหนึ่งถูกกระบี่เล่มนี้แยกออก

ดินแดนรอบข้างเริ่มแตกสลาย ปฐพีเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ต้นไม้มากมายโค่นล้มลงไปในหุบเหวที่พังทลาย ตกลงสู่ความมืดไร้ก้นบึ้ง

โล่จำนวนมากที่ปกป้องลู่หยวนเอาไว้ ถูกกระบี่เล่มนี้สะบั้นจนเหลือเพียงชั้นสุดท้าย!

สายตาของหวังเหิงเอ่อล้นไปด้วยจิตสังหาร กระบี่ยาวถูกเงื้อขึ้นอีกครั้ง พลังวิญญาณในร่างกายพลุ่งพล่าน แรงกดดันอันน่าสะพรึงแทบจะบดขยี้ทุกสิ่งรอบข้าง

เขาถือฝักกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง พลังวิญญาณทั้งหมดเหมือนกับขุนเขาที่ถูกถ่ายเข้าไปในอาวุธ

ตอนนี้พื้นที่รอบข้างไม่อาจทนรับพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งนี้ได้อีกต่อไป ก่อนเริ่มพังทลายครั้งแล้วครั้งเล่า

“ลู่หยวน ตายเพื่อข้าซะ!”

หวังเหิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด กระบี่ยาวในมือส่องแสงสว่างเจิดจ้าออกมา ฟาดฟันออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง

ปราณกระบี่ทรงพลังเคลื่อนลงมาก่อนฟาดเข้าใส่โล่สุดท้ายอย่างต่อเนื่อง!

องครักษ์รอบข้างอยากพุ่งเข้ามาช่วย แต่รอบข้างมีฝ่ายผู้ลอบสังหารเข้ามาต่อสู้ ทำให้พวกเขาปลีกตัวออกมาไม่ได้

แกร๊ก!

ด้วยแรงปะทะอย่างต่อเนื่องของปราณกระบี่ ในที่สุดรอยร้าวก็ปรากฏบนโล่ชั้นสุดท้าย

สายตาของหวังเหิงเผยความคลั่งในชัยชนะ ยิ่งแรงกดดันของเขาหนักอึ้งเท่าไร ความเร็วของกระบี่ในมือยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ในสายตาของเขาตอนนี้ ลู่หยวนเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว!

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

กระบี่ยาวฟาดฟัน โล่ชั้นสุดท้ายแตกสลายในที่สุด

หวังเหิงจับจ้องลู่หยวน เขาอยากชื่นชมสีหน้าหวาดกลัวของอีกฝ่ายในตอนนี้

เมื่อสายตาจับจ้องไป สีหน้าของบุตรศักดิ์สิทธิ์กลับเฉยชา ถึงขั้นมีแววหยอกล้อในดวงตาที่จ้องมองหวังเหิง

ลู่หยวนขยับริมฝีปาก กล่าวออกมาสองคำสั้น ๆ ว่า

“เจ้าโง่”

หวังเหิงยังไม่ทันเข้าใจความหมายนี้ กระบี่ยาวในมือก็ทะลวงผ่านโล่ ตรงเข้าที่หว่างคิ้วของชายหนุ่ม!

ชิ้ง!

เสียงร้องของกระบี่ดังขึ้น กระบี่ยาวในมือของหวังเหิงคล้ายกับหวาดกลัว ก่อนหยุดอยู่กับที่ทันที ไม่ขยับไปข้างหน้าอีก!

ชายชราตกตะลึง สีหน้าบิดเบี้ยวไปในบัดดล เมื่อเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากด้านหลังของลู่หยวน

“หวังเหิง เจ้าช่างเหิมเกริมเสียจริง ถึงกับมาลอบสังหารลูกชายของข้า!”

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา
Status: Ongoing
อ่านนิยายระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset