ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 143 เจ็ดร้อยปี ยอดสมบัติไท่อี่!

บทที่ 143 เจ็ดร้อยปี ยอดสมบัติไท่อี่!

ในระหว่างทางที่ลงเขา สวินฉางอันตัวแข็งทื่อ ย่างก้าวดูไม่เป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก

อีกาทองสองตัวเกาะอยู่บนไหล่เขา เขาก็รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ

หากเจ้าสองตัวนี้มีตัวใดตัวหนึ่งจุดเปลวเพลิงสุริยะแท้ออกมาโดยไม่ตั้งใจล่ะก็ เขาคงหายไปในพริบตา

ขณะที่เดินผ่านตรงไหล่เขา หยางเทียนตงที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ศิษย์น้อง เจ้าจะไปที่ใด”

“อาจารย์กล่าวว่าตรงตีนเขามีอัจฉริยะที่สามารถบ่มเพาะได้ ให้ข้าไปพาขึ้นมา” สวินฉางอันตอบตามความเป็นจริง

หยางเทียนตงได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

‘รับศิษย์อีกแล้วหรือ

ไม่ได้! ครั้งนี้ ข้าก็อยากรับศิษย์!’

คุณสมบัติของมู่หรงฉี่กับฟางเหลียงทำให้หยางเทียนตงจ้องตาเป็นมัน เขาก็อยากได้ศิษย์เช่นนั้นบ้าง

“ข้าไปดูกับเจ้าก็แล้วกัน”

“อืม”

สวินฉางอันไม่ได้โง่ เขาคาดเดาความคิดของหยางเทียนตงออก แต่ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

กล่าวตามตรง เขาไม่อยากรับศิษย์แล้วจริงๆ

เขารู้สึกว่าตนเองเป็นแค่โครงเปล่าๆ ศิษย์ของตนเองก็ได้อาจารย์เป็นผู้สอน

เห็นได้ชัดว่าศิษย์เคารพอาจารย์ของเขามากกว่า

หากวันใดวันหนึ่ง หานเจวี๋ยให้ฟางเหลียงและมู่หรงฉี่สังหารเขา เขาเชื่อว่าเจ้าเด็กหน้าเหม็นสองคนนั้นจะไม่ลังเลอย่างแน่นอน

ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองต่างก็กันคิดไปคนละแบบจนกระทั่งมาถึงตีนเขา

สวินฉางอันเปิดค่ายกลแล้วเรียกราชามังกรสามหัวเข้ามา ศิษย์คนอื่นๆ ต่างพากันมองราชามังกรสามหัวด้วยแววตาอิจฉาริษยา

ราชามังกรสามหัวมองเห็นอีกาเพลิงสองตัวบนไหล่สวินฉางอันก็ใจเต้นระส่ำ

อีกาทองทั้งสองจ้องมองเขาไม่วางตา แววตาเต็มไปด้วยเจตนาอันเป็นปฏิปักษ์

‘นี่คือนกอะไรกัน คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ข้ารู้สึกหวาดกลัวได้…’

ราชามังกรสามหัวรู้สึกถึงคลื่นที่โหมซัดสาดอยู่ภายในใจอย่างบ้าคลั่ง

ในโลกมนุษย์นี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ทำให้รู้สึกหวาดผวาจนถึงเส้นเลือด

ที่สำคัญคือหยางเทียนตงและสวินฉางอันอ่อนแอถึงเพียงนี้ แล้วพวกเขาไปได้อีกาเพลิงลึกลับสองตัวนี้มาได้อย่างไร

“ขอถามผู้อาวุโสทั้งสอง ท่านใดคือผู้อาวุโสสังหารเทพหรือ” ราชามังกรสามหัวเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

สวินฉางอันตอบด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ผู้อาวุโสสังหารเทพเป็นอาจารย์ของพวกเรา เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะได้พบเขา”

หยางเทียนตงเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “ผู้เยาว์อย่างเจ้าไม่ต้องรีบร้อนไป อาจารย์ให้พวกเราพาเจ้าขึ้นไป จะต้องเห็นความสำคัญของเจ้าแล้ว”

ท่าทีของทั้งสองแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ราชามังกรสามหัวรู้สึกฉงนเป็นอย่างมาก

ราชามังกรสามหัวได้แต่เก็บความฉงนไว้ และตามทั้งสองขึ้นไปบนเขา

อีกาทองสองตัวจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก

ไม่นานเท่าไร

พวกเขาก็มาถึงบนยอดเขา ราชามังกรสามหัวมองเห็นต้นฝูซังก็พลันตกใจเป็นอย่างมาก

นี่ต้องเป็นสิ่งที่เขาต้องการหาอย่างแน่นอน!

ราชามังกรสามหัวระงับอาการตื่นเต้นไว้

เขาสังเกตเห็นว่าบนต้นฝูซังยังมีไก่ดำอยู่ตัวหนึ่ง ที่ใต้ต้นก็ยังมีสุนัขสีขาวอยู่อีกตัว

‘ทั้งหมดนี้ก็คือสัตว์เลี้ยงปีศาจของผู้อาวุโสสังหารเทพหรือ’

“ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าฝึกบำเพ็ญอยู่ใต้ต้นฝูซังก่อน ส่วนจะได้กราบอาจารย์หรือไม่นั้น ก็ดูการแสดงออกของเจ้าแล้ว”

สวินฉางอันทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วก็เดินไปที่ริมหน้าผา เขาเหม่อมองไปทางขอบฟ้า ภาพเงาด้านหลังดูตกอับราวกับสุนัขตัวหนึ่ง

ในช่วงหลายปีนี้ เขามักจะนึกถึงเชี่ยนเอ๋อร์ ทำให้เขาไม่อาจจดจ่ออยู่กับการฝึกบำเพ็ญได้

เคราะห์ที่พุทธาเทพสร้างขึ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่หัวใจมนุษย์ธรรมดาจะสามารถต้านทานได้!

ราชามังกรสามหัวเดินไปนั่งลงที่หน้าต้นฝูซัง อีกาทองน้อยทั้งสองขึ้นไปบนต้นไม้อีกครั้ง และยังคงจ้องเขานิ่งไม่วางตา

หยางเทียนตงนั่งลงที่ด้านข้างและพูดคุยกับเขา

ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโส หยางเทียนตงเริ่มเล่าประสบการณ์ของตนเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาอยากให้ราชามังกรสามหัวเลื่อมใสในตัวเขา

แม้ราชามังกรสามหัวจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ก็ต้องอดทนไว้

เขายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเหยียดหยาม

‘ราชาปีศาจเตี่ยนซู่?

เจ้าขี้ขลาดทางตอนเหนือของต้าเยี่ยนน่ะหรือ’

ราชามังกรสามหัวกำลังเคลื่อนไหวที่จะก่อการร้าย เขาอยากครอบครองต้นฝูซัง แต่ไม่รู้ตบะที่ชัดเจนของผู้อาวุโสสังหารเทพผู้นั้น จึงทำให้เขาลังเลเป็นอย่างมาก

สติสัมปชัญญะบอกเขาว่า การที่สามารถเลี้ยงอีกาเพลิงลึกลับสองตัวนั้นได้ ผู้อาวุโสสังหารเทพผู้นี้จะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

‘รออีกหน่อย!’

ราชามังกรสามหัวแอบทอดถอนใจ

……

หลายปีผ่านไป

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน มีอักขระสามตัวปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ย

[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุเจ็ดร้อยปี ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง รีบออกจากด่านฝึกบำเพ็ญ พุ่งถลันสู่ชื่อเสียงอันดับหนึ่งในใต้หล้า จะได้รับสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น]

[สอง ฝึกบำเพ็ญต่อไป อยู่เหนือกว่าระดับมหายานในเร็ววัน จะได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

หานเจวี๋ยเลือกฝึกบำเพ็ญต่ออย่างไม่ลังเล

หินวิญญาณมรรคาสวรรค์ไม่เลว สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ของวิเศษได้

หานเจวี๋ยนำหินวิญญาณมรรคาสวรรค์ออกมา เริ่มยกระดับให้กับหนังสือแห่งความโชคร้าย

หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นของวิเศษเพียงหนึ่งเดียวที่เขาสามารถใช้ทำร้ายศัตรูบนสวรรค์ที่อยู่ในระยะไกลได้ มันคุ้มค่าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างไม่จำกัด

หลายวันผ่านไป หินวิญญาณมรรคาสวรรค์ก็หลอมรวมสำเร็จ

[หนังสือแห่งความโชคร้ายของท่านถูกเลื่อนขั้นจากสมบัติวิญญาณไท่อี่ชั้นสุดยอดเป็นยอดสมบัติไท่อี่]

[หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นของวิเศษแห่งผลกรรม โปรดใช้อย่างระมัดระวัง]

‘ยอดสมบัติไท่อี่?’

หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที

หนังสือแห่งความโชคร้ายจะพลิกกลับมาทำร้ายเขาหรือไม่

หานเจวี๋ยเริ่มใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนอย่างระมัดระวัง

เขาไม่กล้าใช้พลังวิญญาณมากเกินไป อยากจะลองดูผลลัพธ์ก่อน

เจ็ดวันต่อมา

หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง เพราะเขาสังเกตเห็นว่าอายุขัยของตนเองลดลงไปหลายสิบปีอย่างคาดไม่ถึง

ดูท่าไม่ควรใช้เกินเจ็ดวันต่อครั้ง มิเช่นนั้นอายุขัยของเขาจะลดลง

เขาเปิดค่าความสัมพันธ์เพื่อตรวจสอบดูจดหมาย

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x97884

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] 170210

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านบุกเข้าไปในหุบเหวมาร เป็นตายไม่อาจล่วงรู้]

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านดูดซับวิญญาณเทพภูต ดวงชะตาเกิดการเปลี่ยนแปลง]

[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการไล่สังหารจากสิบสำนัก หลอมรวมความชั่วร้าย]

[สิงหงเสวียนคู่บำเพ็ญเพียรของท่านเข้าใจวิธีกำหนดลมหายใจแบบบรรพกาล]

[ฉางเยวี่ยเอ๋อร์สหายของท่านเข้าใจวิธีกำหนดลมหายใจแบบบรรพกาล]

[นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่านอายุขัยลดลงหมื่นปี เกิดมารในใจเนื่องด้วยการสาปแช่งของท่าน]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านหลงเข้าไปในแดนต้องห้ามของจวนเซียนสวรรค์ รับประทานผลศักดิ์สิทธิ์หมื่นปี คุณสมบัติทะยานอย่างรวดเร็ว]

……

มองเห็นชะตากรรมของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน หานเจวี๋ยเป็นสุขขึ้นมาทันที

เขารู้สึกว่าตนเองสามารถสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนให้ตกตายได้

เขาสูญเสียอายุขัยไม่กี่สิบปี แต่สามารถทำให้นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนอายุขัยลดลงหมื่นปีได้

นี่ก็ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!

แต่หานเจวี๋ยก็ไม่กล้าเสี่ยงอันตราย

แม้เขาจะมีอายุขัยมากกว่าแสนปี แต่หากทำเช่นนี้บ่อยๆ อาจเป็นการทำร้ายตัวเองเข้าสักวัน

ครั้งต่อไปสาปแช่งมากสุดหกวันก็พอแล้ว ไม่อาจมากกว่านี้ได้!

ค่อยๆ ทรมานนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนและจูเชวี่ยให้ตกตายอย่างช้าๆ

หานเจวี๋ยคิดอย่างพึงพอใจ

เขามุ่งความสนใจไปที่นอกถ้ำเทวา ราชามังกรสามหัวยังคงฝึกบำเพ็ญอยู่ใต้ต้นฝูซัง มีหยางเทียนตงเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ

หลายปีมานี้ราชามังกรสามหัวดูว่านอนสอนง่ายเป็นอย่างมาก

หานเจวี๋ยตัดสินใจทิ้งไพ่ตายให้กับเขา

“เจ้าออกไปเรียกเด็กที่เพิ่งมาใหม่ให้เข้ามา รอเขาออกไปแล้วเจ้าค่อยกลับเข้ามา” หานเจวี๋ยเอ่ยปากสั่ง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อู้เต้าเจี้ยนก็รีบลุกไปทันที

ราชามังกรสามหัวได้ยินคำพูดที่ถ่ายทอดจากปากอู้เต้าเจี้ยน ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

หยางเทียนตงตบบ่าเขาน้อยๆ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โอกาสมาถึงแล้ว! อาจารย์จะถ่ายทอดพลังวิเศษให้กับเจ้า!”

ราชามังกรสามหัวลอบรังเกียจเหยียดหยาม แต่ก็แสร้งทำเป็นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

เขาเดินเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทานอย่างระมัดระวัง

โครม!

ประตูหินปิดลง ทำเอาราชามังกรสามหัวรู้สึกตื่นตระหนกมากกว่าเดิม

ราชามังกรสามหัวมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหานเจวี๋ย แวบแรกที่เห็นหานเจวี๋ยเขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

‘เป็นบุรุษที่รูปงามยิ่งนัก!’

เป็นครั้งแรกที่เขาเคยพบเจอกับใบหน้าที่งดงามเช่นนี้

‘ถุย!

ข้ากำลังคิดอะไรอยู่กัน’

ราชามังกรสามหัวรู้สึกว่าตัวเองติดเชื้อจากหยางเทียนตงเข้าเสียแล้ว ในใจเริ่มบิดเบือน

พอคิดได้เช่นนี้ เขาก็ยิ่งเบื่อหน่ายหยางเทียนตงมากกว่าเดิม

หานเจวี๋ยกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ราชามังกรสามหัว ระดับมหายานขั้นหก ข้าให้ตัวเลือกเจ้าสองข้อ”

“หนึ่ง กลายเป็นแม่ทัพพิทักษ์เขาของเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ในยามปกติสามารถฝึกบำเพ็ญใต้ต้นไม้เทพได้

สอง ตาย”

ราชามังกรสามหัวเงยหน้าขึ้นมาในทันที มองเขาด้วยความหวาดผวา

……………………………………….

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
Score 9.8
Status: Ongoing
อ่านระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะเนื่องจากชาติก่อนเป็นโรครักษาไม่หาย ตายก่อนวัยอันควร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่ในแดนบำเพ็ญเซียน เขาจึงมีเป้าหมายเดียว... ชีวิตอมตะ! หานเจวี๋ยพบว่าตนเองมีระบบของเกมวิถีชีวิตอยู่กับตัว หลังจากใช้เวลากว่าสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็สุ่มได้ดวงชะตาและรากวิญญาณชั้นเลิศจากระบบ ทำให้เขาสามารถเข้าสู่วิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนได้อย่างมั่นใจ เพื่อเป้าหมายการมีชีวิตเป็นอมตะ เขาตัดสินใจฝึกฝนเงียบๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้เป็นจุดสนใจ กระทั่งพันปีต่อมา แดนบำเพ็ญเซียนเปลี่ยนไปยุคแล้วยุคเล่า เมื่อเทพเซียนจะชำระล้างโลกมนุษย์ หานเจวี๋ยไม่อาจไม่ลงมือ ยามนั้นเขาจึงเพิ่งค้นพบว่า... เทพเซียนมันก็แค่นี้เอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset