ที่โถงกองทัพสังเกตการณ์
ตั้งแต่ที่ได้รับคำสั่งจากเก่อเย่ หนึ่งในสามยอดนายพลก็ไปตรวจสรอบการเคลื่อนไหวของทีมคังเฉียงคนของเขารายงานว่าทีมคังเฉียงได้เข้าไปยังที่พักของจินหยาง กวนเหรินจึงได้พาคนของเขามุ่งหน้าไปที่ที่พักของจินหยางทันที
เขาไม่รู้เลยว่าเก่อเย่ให้ภารกิจกับจินหยาง เขารู้แค่ว่าเก่อเย่สั่งการกับเขามาแล้วให้หาทางกันไม่ให้ทีมคังเฉียงทำภารกิจได้สำเร็จและสร้างปัญหาให้กับทีมคังเฉียง
แม้ว่าเขาจะกลัวทีมคังเฉียงอย่างมากแต่ด้วยการสนับสนุนจากเก่อเย่แล้ว เขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เป็นหนึ่งในสามยอดนายพลของกองทัพสังเกตการณ์ เขามีเกียรติและอำนาจของตัวเองอยู่ ทีมคังเฉียงแกร่งก็จริงแต่จะกล้าทำอะไรคนของกองทัพสังเกตการณ์รึ ?
แน่นอนว่าถึงจะลงมือกับเขาแต่เขาก็ไม่เกรงกลัว เท่าที่เขารู้มาแล้วทีมคังเฉียงนั้นนอกจากหัวหน้าทีมลึกลับแล้ว คนอื่นๆแกร่งแค่ระดับหัวหน้ากองและหัวหน้าหน่วย ด้วยความแข็งแกร่งระดับนายพลขั้นสูงยิ่งแล้ว เขาจึงมั่นใจตัวเองเต็มที่
โถงกองทัพสังเกตการณ์กับที่พักของจินหยางอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ไม่นานหลังจากนั้นกวนเหรินและทหารคนอื่นๆก็มาถึงบ้านของจินหยาง
ยามที่หน้าบ้านสองคนเห็นกวนเหรินและพวกก็พากันกังวลก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น นะ…นายท่าน
กวนเหรินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเฉยเมย ข้าได้รับรายงานบอกกันว่าอาจจะมีสายลับลอบเข้ามาในบ้านของจินหยาง ดังนั้นข้าจึงพาคนมาตรวจสอบ หวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นี่คือการรังแกชัดๆ ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ ตราบใดที่พวกเขาต้องการ งั้นทั้งเขตซื่อเซียวก็ไม่มีที่ไหนที่พวกเขาไม่อาจจะตรวจสอบได้
ยามทั้งสองได้แต่ตัวสั่นไม่กล้าที่จะห้าม ได้ ได้ นายท่าน
กวนเหรินไม่ได้สนใจยามทั้งสองและโบกมือให้กับลูกน้อง มันน่าจะยังไม่สายเกินไป รีบเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อได้รับอนุญาตจากคนที่นี่ กวนเหรินกับคนอื่นๆก็ได้เข้าไปในบ้านทันที พวกเขาพากันค้นหารอบๆ แม้แต่พ่อบ้านก็ยังไม่กล้าเข้ามาขัด เรื่องของกองทัพสังเกตการณ์ใครบ้างจะกล้าขัดขืน ? นี่ไม่ต้องพูดถึงพ่อบ้านเลย แม้แต่แม่ทัพ….ก็อาจจะไม่กล้าขัดขวางกองทัพสังเกตการณ์ได้
หากไม่ใช่เพราะเก่อเย่ เดาว่าจินหยางอาจจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ได้
จิงหยาง น่ะเป็นคนอารมณ์ร้อน เขาคงทนไม่ได้ไม่ใช่รึไง ?
เมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพสังเกตการณ์ทุกคนก็ได้แต่ให้ความร่วมมือโดยไม่มีเงื่อนไข มีแค่ตอนที่เกิดเรื่องกับซูจิงที่ทำให้จิงหงออกหน้าแทน นั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและอำนาจของกองทัพสังเกตการณ์
ไม่นานเหล่าทหารก็มาถึงตรงหน้าบ้านพักและค้นหารอบๆ เมื่อทุกคนกลับมาต่างก็พากันส่ายหน้าให้กับกวนเหริน
กวนเหรินคิ้วขมวดและมองไปที่หลังบ้านทันที
มีอะไรอยู่ที่นั่น ? กวนเหรินถามขึ้นมา
พ่อบ้านตอบกลับทันที ที่นั่นคือที่ที่นายของเราบ่มเพาะและสร้างอาวุธ
กวนเหรินสั่งการทหารทันที ไปค้นที่นั่นด้วย
เหล่าทหารได้เดินเข้าไปทันที
พ่อบ้านได้ยินแบบนั้นก็กังวลขึ้นมา เขารีบเข้าไปขวางแล้วพูดขึ้น ผู้อาวุโส นายท่านกำลังสร้างสมบัติชิ้นสำคัญ ไม่อาจจะรบกวนได้ กวนเหรินคิ้วขมวสดก่อนจะพูดขึ้นมา เจ้าคิดจะขัดขวางกองทัพสังเกตการณ์รึ ?
ข้าน้อยไม่กล้า พ่อบ้านตกใจและรีบอธิบายอกมา แต่ข้าไม่ได้โกหก ท่านจินหยาง กำลังสร้างสมบัติชิ้นสำคัญสำหรับคนระดับสูง หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น คนระดับสูงจะโทษเราได้ งั้นคงไม่มีใครรับผิดชอบไหว
เขาไม่กล้าจะพูดชื่อเก่อเย่ เพราะจินหยางย้ำกับเขาว่าไม่อาจจะเปิดเผยเรื่องนี้ได้
แต่คำพูดของเขาก็บอกอยู่ทางอ้อมแล้ว
นี่ถือว่าเป็นคำแนะนำและคำขู่
หากต้องการจะสร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นมา งั้นจินหยางต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน
คนพวกนี้คงไม่อาจจะรับโทษได้ไหวแน่
ใครกันจะมาลงโทษข้าได้ ? กวนเหรินหัวเราะออกมาทันที ข้าต้องกลัวใครกัน ?
เขาคือหนึ่งในสามยอดนายพลของกองทัพสังเกตการณ์และยังได้รับคำสั่งจากเก่อเย่โดยตรง บอกได้ว่าเขามีอำนาจในมือ อย่าพูดถึงการตรวจสอบจินหยางเลย การตรวจสอบกองทัพเทียนลั่วและกองทัพซื่อเซียวเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเลยแม้แต่น้อย
มีคนระดับสูงคนไหนบ้างที่กวนเหรินไม่เคยเห็น เขาจะต้องกลัวคนระดับสูงที่พ่อบ้านพูดถึงรึไง ?
คนระดับสูงนั้นจะยิ่งใหญ่กว่าหัวหน้าเขาอย่างเก่อเย่รึไง ?
รึว่าจะเป็นจักรพรรดิ ?
ด้วยการหนุนหลังจากเก่อเย่ กวนเหรินก็ไม่ได้ลนลานแม้แต่น้อย เขาถึงกับหัวเราะออกมา บ้านนี้ข้าจะตรวจสอบ ใครรับไม่ได้ก็ให้มาหาข้า ! ข้าอยากเห็นว่าคนระดับสูงที่เจ้าพูดถึงนั้นจะกล้าทำอะไรกับกองทัพสังเกตการณ์ … พูดไปแล้วเขาก็หรี่ตาลงทันที ข้าคิดว่าบางทีข้อมูลของเราอาจจะผิดไป ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะขัดขวางการตรวจสอบ งั้นมันคงต้องมีปัญหาแน่ๆ ข้ายิ่งจำเป็นต้องตรวจสอบที่นี่ ! กวนเหรินพูดจบก็ผลักพ่อบ้านออกแล้วสั่งการกับทหาร ค้น ! ไม่ว่าจะเจอใครขวางก็ไม่ต้องสน ! ห้ามให้ใครออกไปจากที่นี่ได้ !
ถ้าเป็นช่วงปกติแล้ว หากกวนเหรินคิดจะตรวจสอบคงต้องหาข้ออ้าง แต่เมื่อได้รบคำสั่งจากเก่อเย่ เขาก็ยิ่งได้ใจขึ้นไปอีก
พ่อบ้านสีหน้าบิดเบี้ยวไป เขาอยากเข้าไปขวางแต่ก็กลัวกองทัพสังเกตการณ์โดยเฉพาะกวนเหริน เขาได้แต่มองพวกนั้นเขาไปที่สวนด้านหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัว แล้วเจ้าจะรู้สึกผิดกับการกระทำของเจ้า !
โชคร้ายที่กวนเหรินไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดมา เพราะพวกเขาได้เข้าไปที่สวนด้านหลังแล้ว
ทันที่ที่เข้ามาในสวนด้านหลัง กวนเหรินก็เห็นจินหยางและทีมคังเฉียงเข้า เขาจึงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาต้องทำภารกิจที่แม่ทัพมอบหมายให้สำเร็จให้ได้ !
ทีมนี้ช่วยจินหยางในการสร้างสมบติ งั้นภารกิจของเขาก็เรียบง่าย เขาแค่สร้างปัญหาให้กับพวกนี้ สุดท้ายพวกนี้ก็ไม่อาจจะสร้างสมบัติขึ้นมาได้สำเร็จ
เมื่อคิดแบบนั้นกวนเหริน ก็กระแอมออกมาด้วยเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่า มันทำให้จินหยางและทีมคังเฉียงแปลกใจจนพลังที่ถ่ายเขาไปนั้นเกือบจะติดขัด ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อพลังติดชัดแล้ว แม้ว่าหินจะไม่ได้รับความเสียหายแต่ก็จะมีข้อบกพร่องเกิดขึ้น ดังนั้นมันจึงยากที่จะสร้างสุดยอดสมบัติโกลาหลขึ้นมาได้
จินหยางมองไปทางเสียงที่ดังขึ้นมา เขาอยากด่าออกมาแต่เมื่อเห็นกวนเหรินกับทหารคนอื่นๆ เขาก็ได้แต่ต้องอึ้ง นายพลกวนเหริน…
ความโกรธของเขาหายไปทันที จากนั้นเขาก็ได้ยิ้มออกมา ไม่รู้ว่าท่านมา ข้าจึงไม่ได้ไปต้อนรับ ขอให้ท่านเข้าใจด้วย
ข้าได้รับรายงานว่ามีสายลับลอบเข้ามาในบ้านของเจ้า ดังนั้นข้าจึงมาตรวจสอบที่นี่ กวนเหรินพูดขึ้น เจ้าควรจะหยุดมือก่อนและให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วไม่พบอะไร เจ้าก็จัดการของเจ้าต่อได้ เขาทำท่าไม่รู้จักทีมคังเฉียง ยังไงซะตราระดับราชาก็บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นแค่ทีมระดับราชาแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นทีมไหน
จินหยางพูดขึ้นมา ท่านเข้าใจผิดรึไม่ ? คนของข้าล้วนแต่บริสุทธิ์ พวกเขาไม่ใช่สายลับ
แล้วพวกเขาล่ะ ? กวนเหรินมองไปที่จางลู่และคนอื่นๆ
พวกเขา… จินหยางรีบพูดขึ้นมา คนเหล่านี้มาจากทีมคังเฉียงพวกเขายิ่งไม่อาจจะเป็นสายลับได้ !
กลับเป็นทีมคังเฉียงนี่เอง กวนเหรินเหมือนเพิ่งได้สติและแสดงท่าทีแปลกใจออกมา ทีมคังเฉียงที่ฆ่าเผ่าสวรรค์ไปหลายหมื่นคน บอกกันว่าพวกเขายิ่งใหญ่จนเราต้องชื่นชม
เขาแสดงความเคารพต่อทีมคังเฉียงแต่เมื่อพูดจบน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป แต่เราได้รับรายงานมา แม้ว่าข้าจะเชื่อว่าทีมคังเฉียงไม่อาจจะเป็นสายลับได้แต่แล้วยังไง ? พวกเผ่าสวรรค์น่ะเจ้าเล่ห์และมีวิธีการนับไม่ถ้วน ใครจะไปรับรองได้ว่าทีมคังเฉียงจะโดนพวกนั้นยึดร่างรึไม่ ?
แต่…. จินหยางจะไปพูดอะไรได้อีก
ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เจ้าแค่ต้องให้ความร่วมมือ สบายใจได้ กินเวลาไม่นานหรอก กวนเหรินยิ้มออกมา