ไม่ต้องเรียกข้าว่าจักรพรรดิคังเฉียง ข้าแค่ร่างแยก ไม่ใช่ร่างหลัก จางลู่โบกมือและพูดขึ้น พวกเจ้าเรียกข้าว่าจางลู่ก็พอ
นี่… ซิงฮัวชะงักแล้วพูดขึ้น ข้าไม่กล้าพอ
จางลู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี ไม่ใช่ว่ากล้าไม่กล้า ข้าบอกไปแล้ว ต่อจากนี้พวกเจ้าเรียกข้าว่าจางลู่ก็พอ หากพวกเจ้าเรียกข้าว่าจักรพรรดิคังเฉียง หากข้ารู้เรื่องนี้ข้ากลัวว่าข้าคงไม่พอใจแน่
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวก็ลังเลและพูดขึ้น ได้ ท่านจางลู่
นางไม่กล้าเรียกชื่อจางลู่โดยตรง ดังนั้นจึงใช้คำว่าท่านเพื่อแสดงความเคารพ
คนอื่นๆพากันตะโกนออกมา ท่านจางลู่
เมื่อเห็นแบบนั้นจางลู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหากจะให้เรียกชื่อเขาโดยตรง เดาว่าพวกนี้คงไม่กล้า ดังนั้นจางลู่จึงไม่คิดจะสนใจเรื่องนี้อีก
เพื่อจะกันไม่ให้พวกเจ้าสับสนเรากับร่างหลัก งั้นเรามาเปลี่ยนหน้าตากันดีกว่า จางลู่คิดและทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองต่อหน้าทุกคนเพื่อที่ทุกคนจะแยกเขาจากจางหยูได้
เจ้าสำนักและความว่างเปล่าตาเป็นประกายขึ้นมา พวกเขาก็พากันเปลี่ยนรูปลักษณ์เช่นกัน แม้ว่าจะดูคล้ายจางหยู อยู่แต่พวกเขาก็ดูเป็นตัวของตัวเองขึ้น
ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนี้ถึงอยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร
เซียนกระบี่พเนจร, เฒ่าเทียนจี และร่างแยกอื่นๆไม่ได้พูดอะไรเพราะตัวตนของพวกเขาในสายตาคนนอกนั้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้นั้นไม่ใช่ร่างแยกของจางหยู แต่เป็นเจ้าสำนักสาขา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ แม้ว่าจางลู่, เจ้าสำนัก และความว่างเปล่าจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไป แต่ทุกคนก็ยังเคารพพวกเขาดังเดิมราวกับเผชิญหน้ากับจักรพรรดิคังเฉียงอยู่
เมื่อเห็นท่าทีกังวลของทุกคน จางลู่ก็ได้พูดขึ้น สบายใจได้ ไม่ต้องกังวลไป เราไม่ใช่ปีศาจ
ทุกคนยิ้มแห้งๆออกมา พวกเขาจะสบายใจได้ยังไงต่อหน้าจักรพรรดิที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ?
แต่ท่าทีเป็นกันเองของจางลู่นั้นทำให้พวกเขาโล่งอกเล็กน้อย ตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียงนั้นเหมือนจะเข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี
เราไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันมาก่อน เราไม่รู้ว่าสถานการณ์นั้นเป็นยังไง จางลู่ถอนหายใจออกมา ข้าอาจจะให้เจ้าอธิบายว่าเราจะร่วมมือกันยังไง ยังไงซะการแข่งขันครั้งนี้ลูกปัดจิตทั้งหมดเราจะชิงมาให้ได้ ไม่มีใครได้มันไป เมื่อได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวและแรนดอฟกับคนอื่นๆต่างก็พากันอึ้ง
นี่… ซิงฮัวลังเลไปเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์จริงๆแล้ว นางก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา ท่านจางลู่ เขตต้นกำเนิดนั้นใหญ่อย่างมาก สถานการณ์นั้นซับซ้อน ข้าเกรงว่าคงไม่ง่ายที่จะชิงลูกปัดจิตทั้งหมดมา…
หากเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้ งั้นนางอาจจะมองว่าอีกฝ่ายบ้าไปแล้ว
แต่จางลู่ไม่คิดแบบนั้น เรื่องนี้เราจัดการได้
ปากของเหล่าแม่ทัพกระตุกไปตาม พวกเขารู้สึกว่าสมองของพวกนี้ผิดปกติไปแล้ว
ในความเห็นของพวกเขาแล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ลูกปัดจิตมาครึ่งหนึ่ง แต่จางลู่ถึงกับบอกว่าจะชิงมาทั้งหมด
ถึงอย่างนั้นก็สมกับเป็นร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียง ไม่ว่าจะแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะมีใครกล้าคิดแบบจางลู่ได้
มันแค่ว่า….ความคิดกับความเป็นจริงนั้นต่างกันอย่างมาก
ด้วยตัวตนของจางลู่ พวกเขาจึงไม่กล้าจะปฏิเสธ แม้แต่ซิงฮัวก็ได้แต่แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา เมื่อเห็นว่าจางลู่ ไม่ได้ใส่ใจ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคิ้วขมวดและบ่นในใจ จางลู่นี่พูดจาใหญ่โตจริงๆ เขาเป็นบ้างั้นรึ ?
ยังเหลือเวลาอยู่ เดินทางไปคุยไปเถอะ จางลู่พูดขึ้นมา
เสียเทียนได้พูดขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนั้น เราเดินทางไปได้เลย
ด้วยหยกของแม่ทัพกองกำลังสังเกตการณ์แล้ว เขาสามารถส่งทุกคนไปยังหมู่บ้านดั้งเดิมได้เลย
จางลู่โบกมือและพูดขึ้น เราเดินทางกันเองดีกว่า ยังไงซะเราก็ไม่ได้รีบร้อน เราบินไปและชมวิวรอบๆดีกว่า ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้วคงใช้เวลาไม่นานในการเดินทางไปที่หมู่บ้านดั้งเดิม
ทุกคนพากันมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามันยุ่งยากแต่ก็ไม่มีใครค้านออกมา เมื่อจางลู่เสนอแบบนั้นงั้นทำไมต้องพูดอะไรต่อ ?
ใช่สิ ข้ายังไม่ได้ปรึกษากับท่านจางลู่เลย ข้าไม่รู้ว่าทีมคังเฉียงจะส่งแม่ทัพเข้าร่วมกี่คนกัน? ซิงฮัวถามขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง
แม้ว่าจะได้รับการยืนยันแล้วว่าทีมคังเฉียงมีแม่ทัพ 24 คนแต่มันไม่ได้หมายความว่าทั้ง 24 คนจะเข้าร่วม
ข้ายังไม่ได้นับจำนวนแน่ชัด ข้ารู้แค่ว่ามีมากกว่า 2,000 คน เจ้าลองนับดูสิ จางลู่ชี้ไปที่กลุ่มคนด้านหลัง
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันสับสน
มากกว่าสองพันคน ? หมายความว่ายังไง ?
ท่านหมายความว่าคนพวกนี้… ซิงฮัวพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่น พวกเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันกันทั้งหมดรึ ?
แรนดอฟสับสนและพูดขึ้น ไม่ใช่ว่าพวกเขามาส่งท่านรึ ?
แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็พากันอึ้ง
พวกเขารู้สึกว่าจางลู่ปั่นหัวพวกเขาอยู่ ซิงฮัวได้ถามแม่ทัพหลายคนว่าสำนักคังเฉียงจะส่งคนมาช่วยกี่คน ย้ำว่าต้องเป็นแม่ทัพไม่ใช่จ้าวโกลาหลแต่ จางลู่กลับบอกว่ามีถึงสองพันคน จางลู่ได้ยินไม่ชัดรึจงใจปั่นหัวพวกเขา ?
ท่านจางลู่ ท่านได้ยินไม่ชัดรึ ? เสียเทียนถามขึ้นมา ซิงฮัวถามถึงแม่ทัพ….ทีมคังเฉียงคิดจะส่งแม่ทัพมาช่วยกี่คนกัน ?
แม้ว่าจางลู่จะจงใจแกล้งพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะโกรธ พวกเขาถามหาเหตุผลจากจางลู่เพื่อยืนยัน ข้ารู้แล้ว จางลู่ยิ้มออกมา ข้าก็พูดถึงแม่ทัพ แม่ทัพกว่าสองพันคน มันเป็นปัญหารึ ?
นี่…. ทุกคนไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไง
พวกเขาพากันสงสัย
มันยิ่งกว่าเป็นปัญหาเสียอีก !
นี่ไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพสองพันคนเลย แค่สองร้อยคนก็น่าตกใจอยู่แล้ว
พวกเขาคิดว่าทีมคังเฉียงจะมีแม่ทัพถึงสองพันคน !
ต้องรู้ก่อนว่าทีมคังเฉียงมีคนแค่สองพันกว่าคน !
ทุกคนจะเป็นแม่ทัพได้รึ ?
ท่านจางลู่ ซิงฮัวโกรธขึ้นมานิดๆแต่นางก็ไม่กล้าจะแสดงมันออกมามากนัก นางได้แต่พูดขึ้น ข้าหวังว่าท่านจะตอบคำถามของเราอย่างจริงจัง ไม่หยอกล้อเรา ยังไงซะเราก็ต้องวางแผนและเตรียมการตามจำนวนคนที่เข้าร่วม… แรนดอฟพูดขึ้นมา เรื่องนี้สำคัญอย่างมาก ท่านไม่ควรล้อเล่น
ใครล้อเล่นกัน ? จางลู่เข้าใจที่ทุกคนสงสัยแต่เขาไม่ได้โกหก ถึงมันจะน่ะเหลือเชื่อแต่มันคือความจริง ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเชื่อรึไม่แต่พวกเขาต่างก็เป็นแม่ทัพ หากพวกเจ้าไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ไปยืนยันดูได้
เมื่อเห็นท่าทีเยือกเย็นของจางลู่ ทุกคนก็พากันใจสั่น พวกเขาพากันมองไปที่ศิษย์และอาจารย์จากสำนักคังเฉียงด้วยท่าทีไม่มั่นใจ
ไม่.. เสียเทียนมองไปที่คนหนึ่งในกลุ่มคนของสำนักคังเฉียง หากข้าจำไม่ผิด คนนี้น่าจะเป็นคนของกองทัพเทียนลั่ว..กวนข้าได้ยินว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนเขาอยู่แค่ระดับหัวหน้าทีม เขาโดนโจมตีโดยสายลับของเผ่าสวรรค์และบาดเจ็บหนัก เขาโชคดีที่เข้าร่วมกับสำนักคังเฉียงได้
ตอนนั้นเองทุกสายตาก็พากันจับจ้องไปที่กวน
ในเวลาเดียวกันทหารในหมู่บ้านเสี่ยวอันก็พากันมองไปที่กวนด้วยความตื่นเต้นแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะมีแม่ทัพอยู่กันหลายคน
คนของหมู่บ้านเสี่ยวอันจำกวนได้ พวกเขาพากันมองกวนด้วยสายตาอิจฉา
ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้จักกวนด้วย จางลู่มองไปที่เสียเทียนด้วยความแปลกใจ ถูกแล้วเขาเคยเป็นคนของกองทัพเทียนลั่วตามที่เจ้าบอก..กวน
ชื่อเสียงของทีมคังเฉียงนั้นโด่งดังไปทั่ว จ้าวโกลาหลนับไม่ถ้วนอยากเข้าร่วมทีมคังเฉียงแต่พวกเขากลับโดนปฏิเสธ แต่กวนกลับเข้าร่วมกับทีมคังเฉียงได้ ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วเขตซื่อเซียวชื่อเสียงของเขาโด่งดังไม่น้อยกว่าคนระดับสูง ไม่แปลกเลยที่ข้าจะรู้จักเขา เสียเทียนพูดขึ้นมา แต่เท่าที่ข้ารู้มา กวนนั้นไม่ได้แกร่งเท่ากับหัวหน้าหน่วยด้วยซ้ำ แค่ไม่กี่ล้านปี ท่านจางลู่จะบอกว่าเขาขึ้นเป็นแม่ทัพแล้วรึ ?
ทุกคนพากันมองไปที่จางลู่เพื่อรอฟังคำอธิบายจากเขา
ถึงพวกเขาจะเคารพจางลู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้จางลู่ดูถูกพวกเขาได้
คนอารมณ์ร้อนแบบแรนดอฟยิ่งไม่อาจจะทนเรื่องนี้ไหวแน่