ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1984 : เรื่องน่าตกใจและน่าสงสัย

    ไม่ต้องเรียกข้าว่าจักรพรรดิคังเฉียง ข้าแค่ร่างแยก ไม่ใช่ร่างหลัก  จางลู่โบกมือและพูดขึ้น   พวกเจ้าเรียกข้าว่าจางลู่ก็พอ 

    นี่…  ซิงฮัวชะงักแล้วพูดขึ้น   ข้าไม่กล้าพอ 

  จางลู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี   ไม่ใช่ว่ากล้าไม่กล้า ข้าบอกไปแล้ว ต่อจากนี้พวกเจ้าเรียกข้าว่าจางลู่ก็พอ หากพวกเจ้าเรียกข้าว่าจักรพรรดิคังเฉียง หากข้ารู้เรื่องนี้ข้ากลัวว่าข้าคงไม่พอใจแน่ 

  เมื่อได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวก็ลังเลและพูดขึ้น   ได้ ท่านจางลู่ 

  นางไม่กล้าเรียกชื่อจางลู่โดยตรง ดังนั้นจึงใช้คำว่าท่านเพื่อแสดงความเคารพ

  คนอื่นๆพากันตะโกนออกมา   ท่านจางลู่ 

  เมื่อเห็นแบบนั้นจางลู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหากจะให้เรียกชื่อเขาโดยตรง เดาว่าพวกนี้คงไม่กล้า ดังนั้นจางลู่จึงไม่คิดจะสนใจเรื่องนี้อีก

    เพื่อจะกันไม่ให้พวกเจ้าสับสนเรากับร่างหลัก งั้นเรามาเปลี่ยนหน้าตากันดีกว่า  จางลู่คิดและทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองต่อหน้าทุกคนเพื่อที่ทุกคนจะแยกเขาจากจางหยูได้

  เจ้าสำนักและความว่างเปล่าตาเป็นประกายขึ้นมา พวกเขาก็พากันเปลี่ยนรูปลักษณ์เช่นกัน แม้ว่าจะดูคล้ายจางหยู อยู่แต่พวกเขาก็ดูเป็นตัวของตัวเองขึ้น

  ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนี้ถึงอยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร

  เซียนกระบี่พเนจร, เฒ่าเทียนจี และร่างแยกอื่นๆไม่ได้พูดอะไรเพราะตัวตนของพวกเขาในสายตาคนนอกนั้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้นั้นไม่ใช่ร่างแยกของจางหยู แต่เป็นเจ้าสำนักสาขา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์  แม้ว่าจางลู่, เจ้าสำนัก และความว่างเปล่าจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไป แต่ทุกคนก็ยังเคารพพวกเขาดังเดิมราวกับเผชิญหน้ากับจักรพรรดิคังเฉียงอยู่

  เมื่อเห็นท่าทีกังวลของทุกคน จางลู่ก็ได้พูดขึ้น   สบายใจได้ ไม่ต้องกังวลไป เราไม่ใช่ปีศาจ 

  ทุกคนยิ้มแห้งๆออกมา พวกเขาจะสบายใจได้ยังไงต่อหน้าจักรพรรดิที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ?

  แต่ท่าทีเป็นกันเองของจางลู่นั้นทำให้พวกเขาโล่งอกเล็กน้อย ตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียงนั้นเหมือนจะเข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี

    เราไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันมาก่อน เราไม่รู้ว่าสถานการณ์นั้นเป็นยังไง  จางลู่ถอนหายใจออกมา   ข้าอาจจะให้เจ้าอธิบายว่าเราจะร่วมมือกันยังไง ยังไงซะการแข่งขันครั้งนี้ลูกปัดจิตทั้งหมดเราจะชิงมาให้ได้ ไม่มีใครได้มันไป    เมื่อได้ยินแบบนั้น ซิงฮัวและแรนดอฟกับคนอื่นๆต่างก็พากันอึ้ง

    นี่…  ซิงฮัวลังเลไปเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์จริงๆแล้ว นางก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา   ท่านจางลู่ เขตต้นกำเนิดนั้นใหญ่อย่างมาก สถานการณ์นั้นซับซ้อน ข้าเกรงว่าคงไม่ง่ายที่จะชิงลูกปัดจิตทั้งหมดมา… 

  หากเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้ งั้นนางอาจจะมองว่าอีกฝ่ายบ้าไปแล้ว

  แต่จางลู่ไม่คิดแบบนั้น   เรื่องนี้เราจัดการได้ 

  ปากของเหล่าแม่ทัพกระตุกไปตาม พวกเขารู้สึกว่าสมองของพวกนี้ผิดปกติไปแล้ว

  ในความเห็นของพวกเขาแล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ลูกปัดจิตมาครึ่งหนึ่ง แต่จางลู่ถึงกับบอกว่าจะชิงมาทั้งหมด

  ถึงอย่างนั้นก็สมกับเป็นร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียง ไม่ว่าจะแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะมีใครกล้าคิดแบบจางลู่ได้

  มันแค่ว่า….ความคิดกับความเป็นจริงนั้นต่างกันอย่างมาก

  ด้วยตัวตนของจางลู่ พวกเขาจึงไม่กล้าจะปฏิเสธ แม้แต่ซิงฮัวก็ได้แต่แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา เมื่อเห็นว่าจางลู่ ไม่ได้ใส่ใจ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคิ้วขมวดและบ่นในใจ จางลู่นี่พูดจาใหญ่โตจริงๆ เขาเป็นบ้างั้นรึ ?

    ยังเหลือเวลาอยู่ เดินทางไปคุยไปเถอะ  จางลู่พูดขึ้นมา

  เสียเทียนได้พูดขึ้นมา   ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนั้น เราเดินทางไปได้เลย 

  ด้วยหยกของแม่ทัพกองกำลังสังเกตการณ์แล้ว เขาสามารถส่งทุกคนไปยังหมู่บ้านดั้งเดิมได้เลย

  จางลู่โบกมือและพูดขึ้น  เราเดินทางกันเองดีกว่า ยังไงซะเราก็ไม่ได้รีบร้อน เราบินไปและชมวิวรอบๆดีกว่า    ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้วคงใช้เวลาไม่นานในการเดินทางไปที่หมู่บ้านดั้งเดิม

  ทุกคนพากันมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามันยุ่งยากแต่ก็ไม่มีใครค้านออกมา เมื่อจางลู่เสนอแบบนั้นงั้นทำไมต้องพูดอะไรต่อ ?

    ใช่สิ ข้ายังไม่ได้ปรึกษากับท่านจางลู่เลย ข้าไม่รู้ว่าทีมคังเฉียงจะส่งแม่ทัพเข้าร่วมกี่คนกัน?  ซิงฮัวถามขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

  แม้ว่าจะได้รับการยืนยันแล้วว่าทีมคังเฉียงมีแม่ทัพ 24 คนแต่มันไม่ได้หมายความว่าทั้ง 24 คนจะเข้าร่วม

    ข้ายังไม่ได้นับจำนวนแน่ชัด ข้ารู้แค่ว่ามีมากกว่า 2,000 คน เจ้าลองนับดูสิ  จางลู่ชี้ไปที่กลุ่มคนด้านหลัง

  ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันสับสน

  มากกว่าสองพันคน ?   หมายความว่ายังไง ?

    ท่านหมายความว่าคนพวกนี้…  ซิงฮัวพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่น   พวกเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันกันทั้งหมดรึ ? 

  แรนดอฟสับสนและพูดขึ้น   ไม่ใช่ว่าพวกเขามาส่งท่านรึ ? 

  แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็พากันอึ้ง

  พวกเขารู้สึกว่าจางลู่ปั่นหัวพวกเขาอยู่ ซิงฮัวได้ถามแม่ทัพหลายคนว่าสำนักคังเฉียงจะส่งคนมาช่วยกี่คน ย้ำว่าต้องเป็นแม่ทัพไม่ใช่จ้าวโกลาหลแต่ จางลู่กลับบอกว่ามีถึงสองพันคน จางลู่ได้ยินไม่ชัดรึจงใจปั่นหัวพวกเขา ?

    ท่านจางลู่ ท่านได้ยินไม่ชัดรึ ?  เสียเทียนถามขึ้นมา   ซิงฮัวถามถึงแม่ทัพ….ทีมคังเฉียงคิดจะส่งแม่ทัพมาช่วยกี่คนกัน ? 

  แม้ว่าจางลู่จะจงใจแกล้งพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะโกรธ พวกเขาถามหาเหตุผลจากจางลู่เพื่อยืนยัน    ข้ารู้แล้ว  จางลู่ยิ้มออกมา   ข้าก็พูดถึงแม่ทัพ แม่ทัพกว่าสองพันคน มันเป็นปัญหารึ ? 

    นี่….  ทุกคนไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไง

  พวกเขาพากันสงสัย

  มันยิ่งกว่าเป็นปัญหาเสียอีก !

  นี่ไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพสองพันคนเลย แค่สองร้อยคนก็น่าตกใจอยู่แล้ว

  พวกเขาคิดว่าทีมคังเฉียงจะมีแม่ทัพถึงสองพันคน !

  ต้องรู้ก่อนว่าทีมคังเฉียงมีคนแค่สองพันกว่าคน !

  ทุกคนจะเป็นแม่ทัพได้รึ ?

    ท่านจางลู่  ซิงฮัวโกรธขึ้นมานิดๆแต่นางก็ไม่กล้าจะแสดงมันออกมามากนัก นางได้แต่พูดขึ้น   ข้าหวังว่าท่านจะตอบคำถามของเราอย่างจริงจัง ไม่หยอกล้อเรา ยังไงซะเราก็ต้องวางแผนและเตรียมการตามจำนวนคนที่เข้าร่วม…    แรนดอฟพูดขึ้นมา   เรื่องนี้สำคัญอย่างมาก ท่านไม่ควรล้อเล่น 

    ใครล้อเล่นกัน ?  จางลู่เข้าใจที่ทุกคนสงสัยแต่เขาไม่ได้โกหก ถึงมันจะน่ะเหลือเชื่อแต่มันคือความจริง   ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเชื่อรึไม่แต่พวกเขาต่างก็เป็นแม่ทัพ หากพวกเจ้าไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ไปยืนยันดูได้ 

  เมื่อเห็นท่าทีเยือกเย็นของจางลู่ ทุกคนก็พากันใจสั่น พวกเขาพากันมองไปที่ศิษย์และอาจารย์จากสำนักคังเฉียงด้วยท่าทีไม่มั่นใจ

    ไม่..  เสียเทียนมองไปที่คนหนึ่งในกลุ่มคนของสำนักคังเฉียง  หากข้าจำไม่ผิด คนนี้น่าจะเป็นคนของกองทัพเทียนลั่ว..กวนข้าได้ยินว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนเขาอยู่แค่ระดับหัวหน้าทีม เขาโดนโจมตีโดยสายลับของเผ่าสวรรค์และบาดเจ็บหนัก เขาโชคดีที่เข้าร่วมกับสำนักคังเฉียงได้ 

  ตอนนั้นเองทุกสายตาก็พากันจับจ้องไปที่กวน

  ในเวลาเดียวกันทหารในหมู่บ้านเสี่ยวอันก็พากันมองไปที่กวนด้วยความตื่นเต้นแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะมีแม่ทัพอยู่กันหลายคน

  คนของหมู่บ้านเสี่ยวอันจำกวนได้ พวกเขาพากันมองกวนด้วยสายตาอิจฉา

    ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้จักกวนด้วย  จางลู่มองไปที่เสียเทียนด้วยความแปลกใจ   ถูกแล้วเขาเคยเป็นคนของกองทัพเทียนลั่วตามที่เจ้าบอก..กวน 

   ชื่อเสียงของทีมคังเฉียงนั้นโด่งดังไปทั่ว จ้าวโกลาหลนับไม่ถ้วนอยากเข้าร่วมทีมคังเฉียงแต่พวกเขากลับโดนปฏิเสธ แต่กวนกลับเข้าร่วมกับทีมคังเฉียงได้ ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วเขตซื่อเซียวชื่อเสียงของเขาโด่งดังไม่น้อยกว่าคนระดับสูง ไม่แปลกเลยที่ข้าจะรู้จักเขา  เสียเทียนพูดขึ้นมา   แต่เท่าที่ข้ารู้มา กวนนั้นไม่ได้แกร่งเท่ากับหัวหน้าหน่วยด้วยซ้ำ แค่ไม่กี่ล้านปี ท่านจางลู่จะบอกว่าเขาขึ้นเป็นแม่ทัพแล้วรึ ? 

  ทุกคนพากันมองไปที่จางลู่เพื่อรอฟังคำอธิบายจากเขา

  ถึงพวกเขาจะเคารพจางลู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้จางลู่ดูถูกพวกเขาได้

  คนอารมณ์ร้อนแบบแรนดอฟยิ่งไม่อาจจะทนเรื่องนี้ไหวแน่

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset