จางลู่เปลี่ยนเรื่องทันที จึงไม่มีใครกล้าถามอะไรอีก
ซิงฮัวยั้งอารมณ์ของนางเอาไว้และคิดก่อนจะพูดขึ้นมา การแข่งขันชิงก้อนแก่นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มันต้องย้อนกลับไปตอนกำเนิดจักรพรรดิรุ่นแรก จักรพรรดิซื่อเซียว, จักรพรรดิเย่าหยาง, จักรพรรดิหว่านเก่อ และจักรพรรดิอู่หมิงได้ก้าขึ้นเป็นจักรพรรดิในตอนนั้น
ข้าได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว จางลู่พยักหน้า
ซิงฮัวพูดต่อ อะไรที่ทำให้เกิดก้อนแก่นขึ้นมานั้นไม่มีใครรู้ แม้แต่จักรพรรดิเองก็ไม่รู้ เรารู้แค่ว่าก้อนแก่นนั้นกลับปรากฏขึ้นมา ในตอนที่ก้อนแก่นปราฏขึ้นมา ลูกปัดจักรพรรดิ 9 ลูกก็กำเนิดขึ้นมาและได้สร้างจักรพรรดิทั้ง 9 ขึ้น ทุกๆ 100 ล้านปีก้อนแก่นจะกำเนิดขึ้นมาให้กำเนิดลูกปัดจิตจำนวนต่างๆกันไป จากนั้นก้อนแก่นก็เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนลูกปัดจิตก็มากขึ้นตาม ตอนนี้จำนวนลูกปัดจิตมีมากกว่าร้อยลูก….
ก่อนที่ซิงฮัวจะพูดจบ จางลู่ก็ขัดขึ้นมา เรารู้เรื่องนี้หมดแล้ว พูดเรื่องอื่นดีกว่า ยกตัวอย่างเช่นลูกปัดจิตก่อตัวขึ้นมายังไง เราจะได้มันมาได้ยังไง
ซิงฮัวตัวสั่นและพูดขึ้นมา ลูกปัดจิตอัดแน่นขึ้นจากพลังจิตปั่นป่วนในเขตต้นกำเนิดหลังจากที่สั่งสมมานาน การกำเนิดลูกปัดจิตนั้นต่างกันออกไป ระหว่างนั้นก้อนแก่นกำเนิดขึ้นมา ลูกปัดจิตอาจจะปรากฏขึ้นมาตอนไหนก็ได้ เวลานั้นไม่แน่นอน บางอันมาตั้งแต่ที่ก้อนแก่นกำเนิดขึ้น บางอันมาตอนที่ก้อนแก่นจะหายไป
หลังจากที่เงียบไปสักพักซิงฮัวก็พูดขึ้นต่อ ระยะเวลาของก้อนแก่นนั้นไม่ได้แน่นอนแต่มันมีกฎหนึ่งอยู่ ก้อนแก่นแรกอยู่ได้ 15 นาที ก้อนแก่นที่สองอยู่ได้นานกว่าเล็กน้อย ครั้งที่สามและสี่….ยิ่งอยู่ได้นานกว่าเก่า ครั้งที่แล้วก้อนแก่นอยู่ได้กว่า 3 ปี ครั้งนี้น่าจะนานกว่านั้น
จากระยะเวลาที่ก้อนแก่นอยู่ได้นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขตต้นกำเนิดกำลังเปลี่ยนแปลงไป
มันแค่ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลดีรึร้ายก็ไม่อาจจะมีใครรู้ได้
แต่สำหรับจักรพรรดิแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าส่งผลดี เพราะพวกเขาจะได้ลูกปัดจิตมาเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง
นอกจากระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขนาดของก้อนแก่นก็เปลี่ยนไปด้วย ซิงฮัวพูดขึ้น ข้าเคยได้ยิน จักรพรรดิเย่าหยางบอกว่าขนาดของก้อนแก่นหดตัวลง เขตต้นกำเนิดนั้นเล็กลงเรื่อยๆ ตอนที่ก้อนแก่นปรากฏขึ้นมาครั้งแรก เขตต้นกำเนิดหดตัวลงไปกว่าครึ่ง ขนาดของมันเหลือแค่ 1 ใน 5 ของขนาดทะเลโกลาหลเท่านั้น
จางลู่ยักคิ้ว หดตัวลงขนาดนั้นเลยรึ ?
มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับระยะเวลาของก้อนแก่นกับขนาดของการหดตัวรึไม่ ?
มันเพราะอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเขตต้นกำเนิด ?
มันจะเป็นแบบนี้นานแค่ไหน ?
มันดีรึร้ายกันแน่ ?
จางลู่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เหมือนไม่ใช่เรื่องดี มันอาจจะบ่งบอกว่าอาจจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น
ซื่อเซียวบอกว่าเขตต้นกำเนิดคือต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่งที่แท้จริง หากทะเลโกลาหลคือต้นกำเนิดของทุกสิ่ง งั้นเขตต้นกำเนิดก็เป็นต้นกำเนิดของทะเลโกลาหล หากเขตต้นกำเนิดหดตัวลงไป สักวันมันอาจจะหายไปโดยสมบูรณ์… สีหน้าของจางลู่เคร่งเครียดขึ้นมา เมื่อเขตต้นกำเนิดหายไป มันหมายความว่าทะเลโกลาหลจะหายไปด้วยรึไม่ ?
ซื่อเซียวไม่ได้พูดถึงการที่เขตต้นกำเนิดจะหายไปรึไม่ แต่หากเขตต้นกำเนิดยังหดตัวเช่นนี้อยู่ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาก่อนที่มันจะหายไป
หากเขตต้นกำเนิดหายไป มันจะเกิดอะไรขึ้นกับทะเลโกลาหล ?
หากทะเลโกลาหลหายไป งั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิและสิ่งมีชีวิตในทะเลโกลาหล ?
เรื่องนี้น่าคิด !
เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าหากก้อนแก่นปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆแล้วสักวันทะเลโกลาหลจะหายไป? จางลู่มองไปที่ซิงฮัวกับคนอื่นๆก่อนจะถามขึ้นมา
ซิงฮัวพยักหน้า ไม่นานเขตต้นกำเนิดจะหายไป จักรพรรดิเย่าหยางเคยบอกข้าแต่ถึงเขตต้นกำเนิดจะหายไป มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเรา อย่างมากก็อาจจะสร้างปัญหาบ้าง มันไม่มีทางที่จะเดินทางจากเขตตัวเองไปเขตอื่นได้
แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็พากันแสดงสีหน้าเฉยเมย
ยังไงซะเมื่อไม่มีเขตต้นกำเนิด มันก็ไม่มีลูกปัดจิต สำหรับแม่ทัพแล้ว ลูกปัดจิตนั้นไร้ค่า ถึงพวกเขาจะได้มันมาแต่ก็ไม่อาจจะดูดซับมันได้ จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ใส่ใจ
มันไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ได้ใส่ใจ ยังไงซะทุกครั้งที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ พวกเขาก็ยังได้รางวัลแต่หากเทียบกับจักรพรรดิแล้ว การหายไปของเขตต้นกำเนิดนั้นแทบจะไม่ส่งผลอะไรต่อพวกเขาเลย
พวกเจ้าคิดกันไม่ถี่ถ้วน หากเขตต้นกำเนิดหายไป ทะเลโกลาหลจะหายไปด้วยรึไม่ ? จางลู่ถามขึ้นมา
เขาไม่อาจจะเข้าใจความคิดของแม่ทัพเหล่านี้ได้ เขตต้นกำเนิดเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่ง ! หากเขตต้นกำเนิดหายไป งั้นก็ต้องเกิดเรื่องใหญ่กับทะเลโกลาหล แม้ว่ามันจะไม่ได้หายไปกับเขตต้นกำเนิดแต่ก็ต้องมีหายนะหลายอย่างเกิดขึ้น….
แรนดอฟสีหน้าแข็งทื่อไป หือ…ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ?
แม่ทัพอีกคนพูดขึ้นมา เขตต้นกำเนิดนั้นเป็นเขตลับที่มีความพิเศษ มันจะเกี่ยวข้องอะไรกับทะเลโกลาหลกัน ? นอกจากเขตต้นกำเนิดแล้ว มันยังมีเขตลับอีก 9 แห่งในทะเลโกลาหล งั้นแต่ละเขตก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของทะเลโกลาหลรึ ?
กลับกันแล้วซิงฮัวกลับรู้สึกผิดปกติขึ้นมา นางมองไปที่จางลู่ด้วยความสงสัย ทำไม ท่านจางลู่ถึงได้บอกว่าการหายไปของเขตต้นกำเนิดนั้นจะทำให้ทะเลโกลาหลหายไปด้วย ?
จางลู่ส่ายหน้า ข้าแค่กังวล ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…
ท่านจางลู่คิดมากไป มันใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น ซิงฮัวพูดขึ้นมา
เจ้าหมายความว่ายังไง ? จางลู่ตกใจ เขตต้นกำเนิดเคยหายไปแล้วรึ ?
ท่านลืมเรื่องฉิวหวังไปแล้วรึ ? ตอนแรกฉิวหวังนั้นไม่รู้ว่าบ้าคลั่งอะไรมา เขาได้กลืนกินเขตตัวเอง ตอนนี้ทะเลโกลาหลได้ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย ซิงฮัวอธิบายออกมา แต่การทำลายเขตฉิวหวังนั้นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อทะเลโกลาหล
นางมองไปที่จางลู่แล้วพูดขึ้น ดังนั้นการทำลายเขตในทะเลโกลาหลไม่ได้ส่งผลต่อทั้งทะเลโกลาหล หากเขตต้นกำเนิดหายไป อย่างมากก็ส่งผลต่อทะเลโกลาหลใกล้เคียงกับเขตต้นกำเนิด มันอาจจะไม่ส่งผลอะไรด้วยซ้ำ ยังไงซะถึงเขตต้นกำเนิดจะโดนทำลายแต่มันก็มีแต่การทำลายตัวเองไม่ใช่เพราะจักรพรรดิ
หากเขตต้นกำเนิดเป็นเขตลับ งั้นมันก็ไม่มีปัญหาตามที่ซิงฮัวบอกมา แต่เขตต้นกำเนิดนั้นไม่ใช่เขตลับทั่วไปแต่…เป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง !
เหล่าแม่ทัพโดนปิดบังทุกอย่างอยู่ !
หากไม่ใช่เพราะซื่อเซียวบอกข้า ข้าคงไม่รู้ว่าเขตต้นกำเนิดเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง.. จางลู่สลดไปนิดๆ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิทั้งเก้าของทะเลโกลาหลน่าจะตกลงกันมานานแล้วที่จะปิดบังความจริงเรื่องนี้ ความจริงนั้นมีแค่พวกเขาเก้าคนที่รู้
เขาคิดถึงสีหน้าตื่นเต้นของซื่อเซียว, เย่าหยาง และคนอื่นๆเมื่อรู้ว่าพวกเขาสามารถเข้าไปในทะเลบรรพกาลได้ ตอนนี้เหตุผลที่พวกนี้ยอมเข้าไปในทะเลบรรพกาลอาจจะไม่ใช่เพราะภัยจากจักรพรรดิกุยหลิงแต่บางทีพวกนั้นอาจจะเดาออกว่าทะเลโกลาหลกำลังทำลายตัวเอง ดังนั้นจึงอยากหนีออกจากทะเลโกลาหล
เพราะรู้ว่าการออกจากทะเลโกลาหลนั้นพวกเขาถึงจะมีชีวิตต่อได้
ไม่งั้นแม้ว่าจะเป็นถึงจักรพรรดิแต่ก็ได้แต่รอความตาย !
หากเทียบกับจักรพรรดิกุยหลิงแล้ว การเปลี่ยนแปลงของเขตต้นกำเนิดอาจจะน่ากลัวกว่าสำหรับซื่อเซียวและคนอื่นๆ !
การไม่รู้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง เมื่อเห็นท่าทีสงบของซิงฮัว, แรนดอฟ และแม่ทัพคนอื่นๆ จางลู่ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ไม่ว่าซื่อเซียวและคนอื่นจะมีเหตุผลอะไรที่ปิดบังเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยเพื่อทะเลโกลาหลแล้ว บางทีแบบนี้อาจจะดีกว่าเพราะเมื่อความจริงเปิดเผยออกมา ทะเลโกลาหลอาจจะตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที ระเบียบในทะเลโกลาหลอาจจะพังลง
จางลู่รู้สึกผิด เขาไม่น่าจะพูดเรื่องนี้ออกมาเลยเพราะความเป็นจริงนั้นมันโหดร้าย
แม้ว่าเขาจะรู้ความจริงแต่ก็ไม่อาจจะหยุดเขตต้นกำเนิดทำลายตัวเองได้ เขาได้แต่มองดูเขตต้นกำเนิดพังลงไป จนวันหนึ่งเมื่อเขตต้นกำเนิดหายไป ทะเลโกลาหลก็จะโดนทำลายไปด้วย…