หากเขตต้นกำเนิดมีจิต งั้นทำไมไม่แสดงตัวเลยตลอดหลายยุคที่ผ่านมา ?
แต่หากเขตต้นกำเนิดไม่มีจิต งั้นข้อมูลในลูกปัดจักรพรรดินั้นมาจากไหน ?
จางหยูส่ายหน้า ปัญหาที่ว่าเขตต้นกำเนิดนั้นมีจิตรึไม่นั้นค่อยตรวจสอบในอนาคต เรื่องสำคัญตอนนี้คือต้องมั่นใจก่อนว่าการแข่งขันชิงลูกปัดจิตนั้นราบรื่น
แต่ก่อนหน้านี้จางหยูต้องหาคำตอบของปัญหาหนึ่งให้ได้
ตามที่เจ้าคาดการณ์ การผุพังรึก้อนแก่นที่ปรากฏขึ้นนี้เขตต้นกำเนิดจะทนได้อีกกี่ครั้ง ? จางหยูถามขึ้นมา
ซื่อเซียวคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมา มันน่าจะทนได้อีกหลายพันครั้ง
หลายพันครั้งแสดงให้เห็นว่าทะเลโกลาหลอยู่ได้อีกกว่าแสนล้านปี อู่หมิงส่ายหน้า ระดับการผุพังนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นแล้ว เขตต้นกำเนิดจะทนได้อย่างมากแค่ไม่กี่ร้อยครั้ง พูดให้แม่นยำแล้วคงไม่เกิน 300 ครั้ง
การผุพัง 300 ครั้งเท่ากับ 30,000 ยุค !
มันคงดีหากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น อู่หมิงพูดขึ้นต่อ หากมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ระดับการผุพังก็จะเพิ่มขึ้น ระยะเวลายิ่งลดลง
ตงหยางเห็นด้วย ไม่แปลกเลย ทะเลโกลาหลจะทนได้มากสุด 30,000 ยุค !
หว่านเก่อและเรนไนต่างก็พากันพยักหน้า
เมื่อไม่เห็นว่ามีคนพูดอะไรออกมา ซื่อเซียว ก็ได้พูดขึ้น แต่…บางทีข้าอาจจะจำผิดไป
จางหยูมองไปที่ซื่อเซียวชายคนนี้ยังไม่บอกความจริงทั้งหมดอีก
แต่เขาไม่อยากจะคิดอะไรต่อ หากวันหนึ่งซื่อเซียวทำให้เขารำคาญจริงๆ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าซื่อเซียว จักรพรรดิทะเลโกลาหล เขาจะสนใจทำไม ?
งั้นพวกเจ้าก็คำนวณอายุขัยของทะเลโกลาหลมาแล้ว ดังนั้นจึงหนีมาที่ทะเลบรรพกาลรึ ? จางหยูมองไปที่ซื่อเซียว
3,000 ยุค สำหรับคนทั่วไปนั้นยาวนานอย่างมาก มนุษย์อยู่ได้แค่หลักร้อยปีก็ถือว่าไม่แย่แล้ว แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งอย่างมากก็อยู่ได้แค่หลักหมื่นปีรึล้านปี พวกที่อยู่ได้ 1 ยุคนั้นมีไม่มาก บางทีอาจจะมีแค่ 1 ในพันล้าน บางทีอาจจะน้อยกว่านั้นแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเมื่อคิดจากทั้งทะเลโกลาหลแล้ว มันก็มีจ้าวโกลาหลจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ดี
จ้าวโกลาหลส่วนมากอยู่ได้หลายแสนปีรึหลายล้านปี ยิ่งกว่านั้นยิ่งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งอยู่ได้นานเท่านั้น มันมีคนส่วนน้อยที่อยู่มานานกว่าสามพันล้านปีอย่างเรนไนที่อยู่มานานกว่าจักรพรรดิเสียอีก
เรนไนแค่ตัวอย่างคนเดียว มันยังมีจ้าวโกลาหลคนอื่นๆที่อาจจะอยู่มานานกว่านี้
ไม่ว่าทะเลโกลาหลจะโดนทำลายรึไม่นั้น คนที่ได้รับผลกระทบจริงๆคือคนพวกนี้ !
สำหรับคนอื่นๆแล้ว ไม่ว่าทะเลโกลาหลจะโดนทำลายรึไม่นั้นอย่างมากก็ทำให้พวกเขาสลดและสิ้นหวังเท่านั้น อันที่จริงพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อยเพราะจ้าวโกลาหลส่วนมากไม่อาจจะอยู่ได้นานจนถึงตอนที่ทะเลโกลาหลโดนทำลายแม่ทีพหลายคนอาจจะอยู่ไม่ถึงตอนนั้น แค่การพลาดพลั้งในการต่อสู้ก็อาจจะทำให้พวกเขาตายไปได้แล้ว
หากบอกใครว่าโลกจะโดนทำลาย พวกเขาก็ต้องคงเมินเฉย นี่ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจริงรึไม่ แม้ว่าจะจริง แม้ว่าโลกจะโดนทำลายจริงๆแต่มันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขากัน ?
แน่นนอนว่าผลกระทบต่อจ้าวโกลาหลนั้นต้องมากกว่า ยังไงซะในทางทฤษฎีแล้วตราบใดที่โชคดีพอไม่เจอกับเหตุไม่คาดคิด งั้นพวกเขาก็อยู่ได้ตลอดกาลแต่แทบไม่มีจ้าวโกลาหลคนไหนทำแบบนั้นได้เพราะในช่วงเวลาที่ยาวนานนี้อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นตอนไหนก็ได้ มันไม่อาจจะมีใครหลีกเลี่ยงได้ เมื่อเวลายาวนานพอ งั้นก็ต้องมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นแน่ๆ
แม้แต่จักรพรรดิก็ยังไม่กล้ารับรองเรื่องนี้ นี่ไม่ต้องพูดถึงจ้าวโกลาหลเลย
ทั้งทะเลโกลาหลนั้นมีแค่คนเดียวที่ยังไม่พบกับปัญหานี้ซึ่งคือเรนไน !
ดังนั้นหลังจากที่รู้ถึงอายุไขของทะเลโกลาหล พวกเดียวที่ลนลานก็คือจักรพรรดิ !
เพราะมีแค่จักรพรรดิเท่านั้นที่จะอยู่ได้ถึงวันที่ทะเลโกลาหลโดนทำลาย !
ทะเลบรรพกาลจะทำลายตัวเองรึไม่ ? จางหยูคิดถึงทะเลบรรพกาลที่เขาได้สร้างขึ้นมา แม้ว่าทะเลบรรพกาลจะอยู่ในช่วงเติบโตและขยายตัวราวกับไม่มีขีดจำกัดแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันจะคงอยู่ไปได้ตลอดรึไม่ มันจะเป็นแบบทะเลโกลาหลรึไม่ มันทำให้จางหยูสลดในใจ แต่ทะเลบรรพกาลกับทะเลโกลาหลนั้นต่างกัน
ส่วนที่ต่างกันที่สุดคือทะเลบรรพกาลยังมีจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลอยู่แต่จ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้หายตัวไปนานแล้ว
บางทีเพราะการหายตัวไปของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลรึการตายของเขาที่ทำให้ทะเลโกลาหลเข้าสู่การทำลาย
จ้าวแห่งทะเลโกลาหลยังมีชีวิตอยู่รึไม่ ? จางหยูพอมีคำตอบในใจแต่คำตอบนี้ยากจะรับได้
ทะเลโกลาหลคือต้นกำเนิดของทุกสิ่ง จ้าวแห่งทะเลโกลาหลคือตัวตนสูงสุด ต้นกำเนิดของมิตินับไม่ถ้วน ตัวตนแบบนั้นจะตายได้ยังไง ? หากเขาตายเขาตายเพราะโดนคนอื่นฆ่ารึว่าฆ่าตัวตาย? รึว่ามันเพราะสิ่งที่คาดไม่ถึงที่ทำให้เขาตาย ?
ในอดีตจางหยูหลีกเลี่ยงปัญหานี้มาเสมอแต่ตอนนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้อีกครั้ง ทะเลโกลาหลต่างจากโลก, มิติและเวลา, โกลาหลและอื่นๆที่เขาได้เผชิญมาในอดีต มันคือมิติของตัวเอง นอกจากทะเลบรรพกาลที่จางหยูได้สร้างขึ้นมาแล้วมันไม่ได้มีทะเลโกลาหลแห่งที่สอง ด้านนอกทะเลโกลาหลมีแต่ความว่างเปล่ามันคือความว่างเปล่าจริงๆ ตัวตนของทะเลโกลาหลนั้นได้แทนถึงทุกสิ่ง
ทะเลบรรพกาลกำเนิดขึ้นในทะเลโกลาหล มันเหนือกว่าทะเลบรรพกาล มันดูเกี่ยวข้องกันเล็กน้อยแต่มันไม่ได้เป็นตัวตนแบบเดียวกัน
มันไม่เกินไปที่จะบอกว่าทะเลโกลาหลคือต้นกำเนิดของทุกสิ่งที่แท้จริงเพราะแม้แต่ทะเลบรรพกาลก็กำเนิดขึ้นมาในทะเลโกลาหล มันคือต้นกำเนิดมิตินับไม่ถ้วน ต้นกำเนิดจิต ต้นกำเนิดชีวิต มันคือที่มาของทุกสิ่ง
ครั้งหนึ่งหลังจากที่จางหยูได้ออกจากกำแพงโลกและพบกับมิติเวลา หลังจากที่ออกจากกำแพงมิติเวลามาได้ก็พบกับความว่างเปล่า หลังจากที่ออกจากโลกขั้น 9 ก็จะพบกับโกลาหล แม้ว่าจะทะลวงผ่านกำแพงโกลาหลออกไปได้ก็ยังพบกับทะเลโกลาหล
แต่เมื่อเป็นทะเลโกลาหล เมื่อเขาแกร่งจนก้าวข้ามกำแพงทะเลโกลาหลได้ เขากลับไม่รับรู้อะไรเลย ทะเลโกลาหลเหมือนเป็นตัวตนอย่างเดียว
จ้าวแห่งทะเลแข็งแกร่งผู้ก่อตั้งมิตินับไม่ถ้วนจะตายไปได้ยังไง ?
เมื่อคิดแบบนั้น จางหยูก็สงสัยขึ้นมา จ้าวแห่งทะเลโกลาหลมีตัวตนจริงๆรึไม่ ?
รึว่ามันเป็นตัวตนที่ทุกคนคิดจินตนาการไปเอง ?
แต่กล่องกระบี่… จางหยูคิดถึงกล่องกระบี่และเงียบไปอีกครั้ง หากจ้าวแห่งทะเลโกลาหลไม่มีอยู่จริง งั้นใครกันที่สร้างกล่องกระบี่ขึ้นมา ? ตระกูลซุนเป็นตัวตนแบบไหนกัน ? แม้แต่เขาที่เป็นจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลก็ไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้ นอกจากจ้าวแห่งทะเลโกลาหลแล้วจะมีใครสร้างมิตินี้ได้อีก ?
จางหยูไม่เชื่อตำนานเหล่านี้แต่ตัวตนของกล่องกระบี่นั้นเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
มันไม่ได้เกิดขึ้นเอง มันคือเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นมา!
เมื่อซื่อเซียวเห็นว่าจางหยูเงียบไปพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้าคนอื่นๆ พวกเขาไม่รู้เลยว่าจางหยูคิดอะไรอยู่
พวกเขาไม่กล้าส่งเสียงออกมา พวกเขาได้แต่ยืนเงียบๆไม่กล้ารบกวนการคิดของจางหยู
รึว่าเขาคิดจะไล่เราไป ? ซื่อเซียว ใจสั่นก่อนจะส่งข้อความถามทุกคน
เรนไนมองไปที่ซื่อเซียวแล้วตอบกลับ อย่าคิดว่าทุกคนจะเป็นคนแบบเจ้า
ซื่อเซียวสีหน้าเย็นชาขึ้นมา เจ้าหมายความว่ายังไง ?
ไม่ต้องเถียงกัน อู่หมิงคิ้วขมวดและพูดขึ้น คังฉียงเป็นคนเชื่อใจได้ ยิ่งกว่านั้นเราก็ได้จ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้ามาในทะเลบรรพกาล แม้ว่าเขาคิดจะไล่เราไปจริงๆ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเต็มใจรึไม่
เย่าหยางพยักหน้า ใช่ ตราบใดที่เราไม่คิดจะไป มันก็ไม่มีใครไล่เราออกไปได้ !
จากตอนที่พวกเขาเข้ามาในทะเลบรรพกาล พวกเขาก็ไม่คิดจะออกไปง่ายๆ