ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่1785

    เนื้อหาในคัมภีร์นั่น เจ้าเป็นคนเขียนรึ ?  จางลู่ถามขึ้นมา

   คัมภีร์? 

    คัมภีร์ที่บันทึกเกี่ยวกับสวรรค์พังทลาย  จางลู่อธิบายออกมา

    ที่เจ้าพูดถึงคือ…คัมภีร์ที่เด็กน้อยระดับหมื่นเท่าได้เอาออกจากลานแห่งวิวรณ์เมื่อล้านปีก่อนสินะ ?  จิตสวรรค์พูดขึ้น   ใช่ เนื้อหาในคัมภีร์นั้นเขียนขึ้นโดยข้าเอง 

  จางลู่สงสัย   ทำไมเจ้าถึงได้ทำแบบนั้น ? 

  จิตสวรรค์เงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้น   เพราะ…มันเหลือเวลาสำหรับโกลาหลไม่มาก 

    เจ้าหมายความว่ายังไง ? 

    หลังจากที่ร่างหลักได้จากไปแล้ว โกลาหลก็มุ่งหน้าไปสู่เส้นทางแห่งความตาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างกำลังจะถูกทำลายแม้ว่าข้าจะพยายามชุบชีวิตร่างหลักขึ้นมา แต่ขั้นตอนนั้นก็มีอุปสรรคและความล้มเหลวมากมาย  จิตสวรรค์กล่าวต่อไปว่า   สิ่งนี้นำไปสู่กระบวนการเร่งความเร็วในการทำลายโกลาหล บางทีอีกไม่กี่ล้านปีข้างหน้า หรือแม้แต่แสนปีข้างหน้า โกลาหลก็อาจจะถึงกาลอวสาน 

  จิตสวรรค์หันกลับมามองที่จางลู่  ในตอนที่เด็กนั่นฝ่าเข้ามาในสุสานสวรรค์ เดิมทีข้าก็คิดที่จะควบคุมเขา แต่เมื่อนึกถึงความเข้าใจผิดที่ทุกคนมีต่อสุสานแล้ว สุดท้ายข้าจึงจงใจปล่อยเขาไป มิหนำซ้ำยังปล่อยให้เขาเอาคัมภีร์ออกไปโดยหวังว่าเรื่องของสุสานรึลานแห่งวิวรณ์จะถูกเผยแพร่ออกไป   เมื่อพูดถึงจุดนั้นจิตสวรรค์ก็ถอนหายใจออกมา   โชคร้ายที่เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าจะบอก… 

  เขาต้องการพลังของผู้ควบคุมนับไม่ถ้วนในโกลาหล เพื่อกระตุ้นความสามารถในการเปิดทางสวรรค์ของลานแห่งวิวรณ์ และชุบชีวิตจ้าวโกลาหลขึ้นมา แต่เมื่อราชาตะวันออกได้คัมภีร์นั้นไป เขาก็ได้ข้อความไปแค่ครึ่งเดียว

    เป็นเช่นนั้นรึ ?  จางลู่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย

    แล้วจะเป็นอย่างอื่นได้ยังไง ?  จิตสวรรค์ถามขึ้น

  ในหัวของจางลู่มีแต่ความสับสน เขาไม่รู้ว่าควรจะเชื่อดีรึไม่ เพราะทุกอย่างที่จิตสุสานบอกมานั้นเป็นเพียงแค่คำพูด มันไม่มีหลักฐานมายืนยันว่านี่คือความจริง

    เจ้าไม่เชื่อข้าก็ไม่แปลกหรอก  การที่จางลู่สงสัยนั้นจิตสวรรค์ไม่ได้แปลกใจรึรำคาญ มันได้พูดขึ้นมาว่า   ข้าแค่อยากชุบชีวิตร่างหลักขึ้นมา สำหรับเรื่องอื่นแล้วข้าไม่ได้ใส่ใจ ข้าทำทุกอย่างก็เพื่อเรื่องนี้ เจ้าอาจจะไม่เชื่อข้า แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ขัดขวางแผนการชุบชีวิตร่างหลักของข้า  มันพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง   ความเป็นและความตายของร่างหลักเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของโกลาหล หากแผนข้าล้มเหลว งั้นทั้งโกลาหลก็จะถูกทำลาย      เจ้าบอกว่าเจ้าทำทุกอย่างเพื่อชุบชีวิตจ้าวโกลาหล  จางลู่ถามขึ้นมา   งั้นทำไมเจ้าถึงได้ควบคุมหุ่นเชิดฆ่าคนไปมากมายแบบนั้น ? 

  ที่ทางเข้าสุสานนั้นมีกองกระดูกสูงเป็นภูเขา จางลู่ยังจำได้ดี

    เพราะข้าต้องการปราณชีวิต  จิตสวรรค์อธิบาย   ลานวิวรณ์ต้องการปราณชีวิต ยิ่งปราณชีวิตมากเท่าไหร่ ยิ่งกระตุ้นพลังของลานมากเท่านั้น ทางเดียวที่จะได้รับปราณชีวิตมาก็คือฆ่าพวกระดับต่ำ….ผู้นำขั้น 8 ที่สัมผัสได้ถึงฐานของแก่นแท้การสร้าง และผู้ควบคุมขั้น 9 ที่เข้าใจแก่นแท้การสร้างมากกว่า พวกเขาจะให้พลังที่จำเป็นกับลานวิวรณ์ เมื่อพลังสร้างเพิ่มพูนถึงระดับหนึ่ง มันจะเปลี่ยนเป็นพลังสร้างระดับสูง สุดท้ายเมื่อรวมกับปราณชีวิตแล้ว มันก็สามารถเปลี่ยนหยินเป็นหยาง พลิกชีวิตเป็นความตายได้ ดังนั้นเพื่อที่จะได้ปราณชีวิตมา ทางเดียวก็คือต้องฆ่าพวกระดับต่ำ    พวกที่ต่ำกว่าขั้น 8 ต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อปราณชีวิต

  ส่วนผู้นำเสียสละพลังสร้างเพื่อให้พลังกับลาน

  สรุปคือสำหรับสุสานแล้ว มันไม่อยากให้ใครออกจากที่นี่ นอกจากไม่กี่คนที่โชคดีแล้วคนส่วนมากที่นี่จะถูกลบทิ้ง หรือไม่ก็กลายเป็นหุ่นเชิด

  จางลู่คิ้วขมวด   เจ้าอยากชุบชีวิตจ้าวโกลาหลนั้นข้าพอเข้าใจได้ แต่มันไม่เกินไปรึที่ลิดรอนอิสรภาพของทุกคนรึแม้แต่ชีวิตของพวกเขา โดยไม่รับฟังความเห็นของคนอื่น ? 

    แต่มันเป็นทางเดียวเท่านั้น  จิตสวรรค์พูดขึ้นอย่างใจเย็น   เจ้าก็รู้ว่าโกลาหลกำลังจะโดนทำลาย ข้าต้องสู้กับความตาย เพื่อเร่งความเร็วในการคืนชีพแล้ว ข้าจำเป็นต้องทำ นี่ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับพวกเขา พวกเขามีส่วนร่วมกับการฟื้นคืนชีพจ้าวโกลาหล หากพวกเขาไม่ตาย หากไม่อาจฟื้นคืนชีพจ้าวโกลาหล ก่อนที่โกลาหลจะถูกทำลาย งั้นไม่ใช่แค่พวกระดับต่ำเท่านั้น แต่จะไม่มีใครรอดไปได้  

    ชีวิตของพวกเขาแลกกับการที่ทุกคนรอดไปได้ แลกกับการที่ทั้งโกลาหลรอดไปได้ ข้ารู้สึกว่ามันไม่ได้ผิด 

  เมื่อพูดถึงจุดนี้จิตสวรรค์ก็มองไปที่จางลู่   เจ้าก็น่าจะรู้ แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ร่างหลักแต่ก็ยังเป็นถึงราชา เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนทั่วไป ความเมตตานี้ดูน่าตลกสิ้นดี 

    บางทีอาจจะเป็นแบบนั้น   จางลู่ไม่ยอมแพ้ แม้ว่าเขาจะเป็นร่างแยกแต่เขาก็ไม่อาจจะยอมรับหลักการของจิตสวรรค์ได้

  จิตสวรรค์เหมือนกับรู้ความคิดของจางลู่ มันไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้และพูดขึ้น   เจ้าไม่เห็นด้วยกับความเห็นของข้านั้นข้าเข้าใจได้ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่หยุดข้าเพราะการฟื้นคืนชีพร่างหลักคือสิ่งที่ข้าต้องทำ ข้าไม่มีทางเลือกอื่น หากเจ้าคิดจะหยุดข้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนประเภทเดียวกับข้าแต่ข้าก็ไม่อาจจะใจอ่อนได้ อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า    ที่มันบอกข้อมูลกับจางลู่มากมายแบบนี้ บางทีมันอาจจะคิดว่าจางลู่เป็นพวกเดียวกับมัน มันไม่ได้รู้สึกว่าจางลู่จะเป็นภัย ไม่งั้นแล้วทันทีที่จางลู่เข้ามาในสุสาน มันอาจจะลบเขาทิ้งไปเลยก็ได้

    หยุดรึ ?  จางลู่ส่ายหน้า   เจ้าก็เข้าใจข้า ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว สิ่งที่เจ้าทำข้าจะหยุดได้รึ ? 

  ตอนแรกเขาสงสัยว่าจิตสวรรค์นั้นบาดเจ็บจนไม่อาจจะทำอะไรเขาได้แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนความคิดแล้ว

  จิตสวรรค์ไม่ใช่ไม่มีความสามารถที่จะฆ่าเขา แต่มันไม่อยากฆ่าเขา ไม่งั้นแล้วถึงจะมีเป็นหมื่นชีวิตก็ยังไม่เพียงพอ นี่ยังไม่พูดถึงความไร้เทียมทานที่มันมี แม้แต่กลุ่มราชาและหุ่นเชิดคนอื่นๆก็เพียงพอที่จะทำให้จางลู่ไม่อาจจะรับมือได้แล้ว

    เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว  จิตสวรรค์พูดขึ้น   ข้ากลัวว่าเจ้าจะมองข้ามความต่างเรื่องพลังและคิดที่จะขัดขืน เอาจริงๆแล้วแม้ว่าเจ้าจะยังไม่ถึงระดับควบคุมโกลาหล แต่เมื่อเจ้าขึ้นมาอยู่ในเส้นทางนี้ อีกไม่นานเจ้าก็จะขึ้นไปถึงระดับควบคุมโกลาหลได้ เจ้าจะไม่ด้อยกว่าร่างหลัก ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้า ข้าไม่อยากมีความแค้นกับเจ้า 

  จิตสวรรค์น่ะกลัวจางหยู หรืออาจจะกลัวพรสวรรค์ที่จางหยูมี

  การกระทำของจางลู่ก่อนหน้านี้มันรู้ดี ในฐานะร่างแยกของจ้าวโกลาหลแล้ว มันรู้ดีว่าจางลู่ได้สร้างรูหนอนขึ้นมา มันมีโอกาสสูงที่รูหนอนนั้นจะเชื่อมต่อกับโกลาหลอื่น โกลาหลที่คล้ายกับโกลาหลแห่งนี้ หากมันกับจางหยูเป็นศัตรูกันแล้ว งั้นตราบใดที่จางหยูยังซ่อนตัวอยู่ในโกลาหลนั้น งั้นมันก็ไม่อาจจะทำอะไรจางหยูได้ เมื่อจางหยูออกจากที่นั่น งั้นตอนนั้นมันอาจจะรับมือไม่ไหว

  นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่มันไม่ลงมือ !

    ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดมากแบบนี้ก็เพื่อไว้หน้าข้า   จางลู่ยักคิ้ว

    เรื่องนั้นก็มีส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะร่างหลักของเจ้ามากกว่า  จิตสวรรค์ไม่ได้ปิดบังความคิดตัวเอง   ข้าไม่อาจจะหาเรื่องจ้าวโกลาหลในอนาคตได้ 

    งั้น…หากเขากันไม่ให้เจ้าชุบชีวิตร่างหลักของเจ้าล่ะ ?  จางลู่สนใจขึ้นมา

    งั้นข้าคงเศร้าใจ  จิตสวรรค์ไม่ลังเล   ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฟื้นคืนชีพร่างหลักของข้า แม้ว่าจะต้องผิดใจกับจ้าวโกลาหลในอนาคตแต่ข้าก็ต้องยอม  มันตอบกลับอย่างใจเย็น

  จางลู่ใจสั่นก่อนจะฝืนยิ้มออกมา   ฮาฮา ข้าแค่ล้อเล่น เจ้าอย่าคิดจริงจังเลย 

  จิตสวรรค์พูดขึ้น   ข้าหวังว่าเจ้าจะแค่ล้อเล่น 

    ใช่สิ ข้าได้ยินมาว่ามีคนลึกลับที่ฝ่าเข้ามาในสุสานและสู้กับเจ้า เจ้าถึงกับบาดเจ็บหนัก  จางลู่เปลี่ยนเรื่องและถามขึ้นมา  ข้าอยากรู้ว่าใครกันที่ทำร้ายเจ้า ? ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว มันจะมีคนที่ทัดเทียมกับเจ้าได้จนทำให้เจ้าบาดเจ็บได้เลยรึ ?      เจ้ารู้มาเยอะจริงๆ !  จิตสวรรค์มองไปที่จางลู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง   เจ้าบอกข้าได้รึไม่ว่าเรื่องนี้ใครกันที่บอกเจ้า ? 

    มันสำคัญด้วยรึ ? 

    สำคัญสิ 

    หุ่นเชิดบอกข้า  จางลู่พูดขึ้นมา   ข้าได้ข้อมูลมาจากพวกเขา…ตอนที่พวกเขาได้สติกลับมา พวกเขาก็บอกข้า 

  จิตสวรรค์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

  จางลู่มองไปที่จิตสวรรค์แล้วถามขึ้นมา   ตอนนี้เจ้าตอบคำถามข้าได้รึยัง ? 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset