บทที่ 30: มู่หยูซี
หลังจากที่ได้ยินหงต้าหลี่พูดว่าจะซื้อเนินเขานี้ ถึงมู่ชินก็พูดเบาๆว่า” ทําไมนายถึงต้องการซื้อเนินเขานี้ล่ะ? มันเป็นเนินเขาที่สวยก็จริงนะงั้นนายเลยต้องการสร้างอะไรสักอย่างที่เนินเขานี้เหรอ?
อยู่ ๆ ก็มีสุนัขพันธุ์ทิเบตันตัวหนึ่งเหมือนจะฟังถึงมู่ซินรู้เรื่องเมื่อเธอพูดจบมันก็เห่าสองครั้ง โฮ่ง โฮ่ง! ต่อมา สุนัขพันธุ์ทิเบตันตัวนั้นก็ลากผู้ติดตามไปพร้อมกับมัน มันวิ่งไปทั่วก่อนจะนั่งลงที่ใต้ต้นไม้และทิ้งร่องรอยไว้
หงต้าหลี่ดีใจมากที่ได้เห็นมันทําแบบนั้น และเริ่มร้องเพลง ”ปี 2014 วันนั้นในฤดูใบไม้ผลิ – มีสุนัขทิเบตัน บนภูเขาเทียนจิงในสวรรค์มันนี่เป็นวงกลมมม — นี้ละคือโชคชะตา มันคือโชคชะตา!ภูเขานี้จะต้องเป็นของฉัน ฉันจะเป็นราชา!”
ถังปูซินพูดไม่ออก
ผู้ติดตาม: ” ท่านนายน้อยครับ เพลงนี้มีจังหวะที่ยอดเยี่ยมมากเป็นเพลงที่ไพเราะและมีพลังยิ่งนัก!”
ผู้คนโดยรอบต่างก็กําลังเดินจูงสุนัขอย่างมีความสุขแต่แล้วก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกก้องอย่างกะทันหัน รถสปอร์ตหรูสีแดงหยุดต่อหน้าฝูงชน รถมีรูปร่างที่เรียวบาง แม้ว่ารถมันจะดูสั้นแทนที่จะเรียกมันว่ารถสปอร์ต แต่รถมีเอกลักษณ์ที่เหมือนงานศิลปะมากกว่าโดยเฉพาะประตูรถมีตัวอักษรตัว “G” ปรากฏอยู่ เห็นได้ชัดเจนว่านี่เป็นรถสปอร์ตที่ดีที่สุดในโลก มันคือรถสปอร์ตยี่ห้อ : Gentley เจนท์เล่
ในตอนนี้ รถก็ได้มาหยุดตรงข้างถนน และใครๆก็รู้ว่าคนขับรถคันนั้นต้องมาหาหงต้าหลี่แน่ๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรูผู้ติดตามทั้งเก้าคนยืนอยู่หน้าหงต้าหลี่พร้อมกับสุนัขเพื่อเฝ้าระวังหงต้าหลี่อย่างแน่นหนา
ประตูรถเปิดออกและมีคู่รักคู่หนึ่งเดินออกมาจากรถใบหน้าของชายหนุ่มเขาน่าจะมีอายุประมาน 18 หรือ 19 ปี เขาหล่อแต่ดูเย็นชาเขาแสยะยิ้มที่มุมปากของเขาแสดงความดูถูกเหยียดหยามแน่นอนเขาดูไม่เป็นมิตร
และผู้หญิงที่อยู่ข้างเขา พอมองไปที่เธอแล้วดูเหมือนว่าเธอจะมีอายุประมาณ 23 หรือ 24 ปี เธอมีใบหน้าที่สวยงามแต่ไร้อารมณ์ถึงแม้ว่าเธอจะดูมีเสน่ห์เล็กน้อย แต่เธอก็ดูเย็นชาและเสน่ห์ เธอสวยงามมากสายตาของเธอนั้นจับจ้องไปที่ด้านนอกที่แสนห่างไกลเธอตัวสูงพอสมควร เธอน่าจะสูงราวๆ 1.7 เมตรไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้หญิงแบบเธอจะสูง สิ่งที่ยิ่งกว่านั้นก็คือสัดส่วนที่ดีของเธอขาเรียวยาวและรูปร่างของเธอ เธอทําให้เธอดูสวยขึ้นไปอีก พอรวมเข้ากับลูกไม้สีดําและรองเท้าส้นสูงสีดําแล้วเธอยิ่งดูเซ็กซี่แบบร้าย
หงต้าหลีไม่แน่ใจว่าสองคนนี้เป็นใคร อย่างไรก็ตามคนขับรถดูเหมือนจะเคยเห็นพวกเขามาก่อนและรีบโค้งคํานับพวกเขา ” ผมวังหมิงหยูครับสวัสดีครับท่านนายน้อยหงอันเฉิงและท่านหญิงมู่หยูซี่ “คนขับรถอาจจะทักทายพวกเขาด้วยความเคารพ แต่จิตใต้สํานึกของเขานั้นอยู่ฝั่งหงต้าหลี่อยู่แล้ว หลังจากที่เขาทํางานในตระกูลหงมานานกว่า 20 ปี เขารู้ดีว่าใครเป็นคนเก็บงําความลับต่างๆและคอยทําร้ายหงต้าหลี่
ทั้งคู่ไม่สนใจคําทักทายของคนขับรถเลย หงอันเฉิงยิ้มเมื่อเขาเดินไปหาหงต้าหลี่และมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ” ระหว่างทางมาที่นี่ฉันก็สงสัยว่าใครกันที่สร้างสถานการณ์ให้ผู้คนพาสุนัขออกมาเดินเล่นแบบนี้ดูเหมือนว่าฉันจะคิดถูกจริงๆ มันเป็นเพราะอาเสียอย่างหงต้าหลี่นี้เอง ฮ่าฮ่า ”
หงต้าหลีรู้ทันทีว่าชายคนนี้ต้องเป็นอีกคนหนึ่งในตระกูลหงที่อิจฉาเขาและเจ้าของร่างเดิมก็คงไม่ได้ปฏิบัติกับหงอันเฉิงดีๆ แน่หงต้าหลี่ยืนนิ้วก้อยออกมาแล้วแคะจมูก “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะที่ฉันเป็นอาเสี่ย? นายจําเป็นที่จะต้องหยุดรถของนายเพื่อมาดูอย่างนั้นเหรอ? ทําไมต๊ะ หรือว่านายตั้งหน้าตั้งตารอฉันแจกสุนัขให้? นายอยากได้ก็เอาไปได้เลยนะฉันให้ฟรีถ้านายต้องการ ฉันไม่รังเกียจหรอกหากไม่พอฉันยังมีสุนัขอีก 400 ตัวที่นี้ นายสามารถเลือกได้เลย ”
เมื่อได้ยินหงต้าหลีพูดว่าเขามีสุนัขมากกว่า 400 ตัว หงอันเฉิงก็หัวเราะเสียงดังและตบต้นขาของเขา ” สุนัขกว่า 400 ตัวหรอ? ฮ่า ฮ่าฮ่าน้องชายต้าหลี่นายนี้มีเมตตาจังเลยนะ ใช้เงินฟุ่มเฟือยแถมแจกสุนัขอีกถ้าเป็นฉัน ฉันคงทําไม่ได้หรอก”
แม้ว่าถังปูซินจะเคยดูถูกหงต้าหลี่และทนไม่ได้ที่จะอยู่ใกล้เขา แต่ในเวลานี้เธอก็ไม่ลังเลที่จะเข้าข้างหงต้าหลี่และเธอก็โกรธมากที่ได้ยินแบบนั้น “ ต้าหลี่สามารถทําอะไรก็ได้ที่เขาต้องการนายเป็นใครคิดว่าสนุกอยู่หรือไง? ”
” อัยยา เธอเป็นใครกัน แล้วทําไมห้ะ? ทําไมเธอถึงมาเดินจูงสุนัขข้างกับน้องชายต้าหลี่ของฉัน? ” หงอันเฉิงจ้องไปที่ถังมู่ซิน เขาจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เขาจะเข้าใจ “ อ้า ฉันรู้แล้ว! เธอมาจากตระกูลถังคนที่หมั้นกับหงต้าหลี่ใช่ไหม? อัยยา เธอสวยมาก มันน่าเสียดายที่เธอต้องมามีชีวิตที่แสนจะยากลําบากน่าเสียดายจริงๆ ”
“ ฉันจะทําอะไรก็ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ไม่เห็นต้องแคร์ใครสักหน่อย “ถังมู่ซินพูดด้วยน้ําเสียงที่ไพเราะของเธอแม้ว่าเธอจะเลิกคิ้วด้วยความโกรธแต่พอเธอยังมีสุนัขเชาเชาตัวสีขาวตัวเล็กๆ ที่ดูเหมือนหมีแพนด้าอยู่ในอ้อมแขนของเธอ มันจึงทําให้ดูตลกหน่อย
หงต้าหลี่ยกนิ้วโป้งให้ถึงมู่ซิน “ ฮิฮิ เก่งมากซินซิน ฉันไม่ได้สนใจเขาหรอก ” เขาไอและพูดว่า “ นายมีอะไรจะพูดอีกไหม? เวลาของฉันมีค่ามากนะทุกนาทีของฉันน่ะมีค่าใช้จ่ายหลายแสนเชียว ”
หงอันเฉิงหัวเราะอีกครั้ง “ นายหมายความว่าไงนายใช้จ่ายเงินสองสามแสนหยวนทุกๆ นาทีอย่างนั้นหรือไง? ”
มู่หยูซีคนสวย เธอไม่สามารถทนฟังการสนทนาระหว่างหงอันเฉิงกับคนอื่นๆได้อีกต่อไปเธอขมวดคิ้วและหยุดหงอันเฉิงทันที ” พอได้แล้วเราไม่ได้ลงจากรถเพื่อให้นายพูดหมาๆ แบบนี้นะปีนี้นายก็ได้รับเงินแค่ 3 ล้านหยวนเอง นายคิดว่านายดีกว่าหงต้าหลี่มากนักรึไง?” น้ําเสียงและท่าทางของเธอนั้นดูเย็นชา หงอันเฉิงหยุดยิ้มและถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง
มู่หยูซึมองดูหงต้าหลีท่ามกลางฝูงชนและถอนหายใจอย่างเงียบ
ตั้งแต่หงต้าหลี่เกิดมา เขาก็ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตระกูลหง หงเหว่ยี่ก็เป็นคนอัจฉริยะคนแรกในตระกูลหงในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมาเมื่อเขาหาเงินได้มากที่สุด เขาก็ได้รับเงินมากที่สุดจากตระกูลเช่นกันภรรยาของเขาหลานรุยซีก็เป็นดั่งเทพธิดาที่ตกลงมาจากสวรรค์ภายในห้าปีพวกเขาสร้างความแตกต่างระหว่างครอบค รัวในตระกูลคนอื่น ๆ และทําเงินได้มากที่สุดในตระกูลหง แต่สวรรค์ก็ได้เล่นตลกกับพวกเขาเมื่อพวกเขามีปัญหากับการตั้งครรภ์ หลังจากแต่งงานมา 5 หรือ 6 ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่มีข่าวจาก หลานรุยซีนั่นทําให้ทุกคนในตระกูลหงหงุดหงิดมาก
ในปีที่ 7 หลังจากพวกเขาแต่งงานกันแล้ว ในที่สุดหลานรุยซีก็มีลูกทั้งตระกูลหงต่างมีความสุขและเฉลิมฉลองกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน ในวันที่หงต้าหลี่เกิดครอบครัวตระกูลผู้มีอิทธิพลเกือบทั้งหมดต่างแสดงความยินดี ทุกคนในตระกูลหงมองว่าหงต้าหลี่เป็นเด็กที่โชคดี บางคนต่างมายินดีกับพวกเขาและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สิ่งดีๆแก่เขา
แต่ช่วงเวลาที่ดีนั้นไม่ได้คงอยู่ตลอดไป หงต้าหลี่เกิดมาอ่อนแอและขี้โรคเขาขาดการศึกษาเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็ไม่เก่งเรื่องธุรกิจเลยความสนใจเพียงอย่างเดียวของเขาคือการถลุงเงินเขาซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า
ครั้งหนึ่งมู่หยูซี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลหง ก็เคยอิจฉาตําแหน่งของหงต้าหลี่
แต่ตอนนี้หงต้าหลี่อยู่ระดับที่แตกต่างจากเธอก็ดูจากการใช้เงินของเขาสิ หงต้าหลีไม่มีรายได้เลย เขาไม่ได้ทํางานในแต่ละวันหงต้าหลี่ใช้จ่ายเงินเป็นจํานวนมาก เขาจึงไม่มีประโยชน์อะไรสําหรับปูหยูซีแล้วตอนนี้หงต้าหลี่อยู่ระดับล่างๆของตระกูลซะด้วยซ้ําแน่นอนว่าพ่อแม่ของเขาจะดูแลเขา และคงปล่อยให้เขาใช้เงินแบบนี้ต่อไป มู่หยูซีเลยมั่นใจได้ว่าอีกไม่นาน 10 ปี หรือ 20 ปี หงต้าหลี่ก็คงไร้ที่พึ่งพาเพราะเขานั้นใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้ตลอด