“นี่ทำไมพ่อดื่มอีกแล้วเนี่ย!” มู่อวี๋เฟยขมวดคิ้วอย่างโกรธจัด มองดูคุณพ่อมู่ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดต่อไป: “รู้จักแค่ดื่มแล้วก็ดื่ม! ดื่มทั้งวันทั้งคืน! ไม่ช้าก็เร็วคุณพ่อจะต้องดื่มจนตายเข้าสักวัน!!!!”
ทันทีที่คำพูดของมู่อวี๋เฟยเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความโกรธจบลง ทางด้านคุณพ่อมู่เมื่อได้ยินก็รู้สึกรำคาญจนขมวดคิ้วแน่น ในวินาทีต่อมาคุณพ่อมู่ที่เมามากได้สติก็หยิบขวดเหล้าเปล่าที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาและขว้างไปทางมู่อวี๋เฟยทันที
เพล้ง! เสียงขวดแตกดังขึ้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรี๊ดของมู่อวี๋เฟยที่กรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ: “กรี๊ด!!!”
ขวดเหล้าขวดนั้นปาโดนเท้าของมู่อวี๋เฟยเต็มๆ
ขวดแก้วแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ และขวดแก้วที่แหลมคมถูกเขย่าอย่างแรง และเจาะเข้าที่เท้าของมู่อวี๋เฟยโดยตรง และเลือดสีแดงที่เท้าก็ไหลออกมาไม่หยุด
เมื่อมู่อวี๋เฟยเห็นเท้าของตัวเองนั้นเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ มีเลือดไหลออกกองเต็มพื้น ทำให้เธอตกใจกลัวจนใบหน้าของเธอซีดเผือดพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องดังขึ้น: “อ้าย! เลือดออกแล้ว! เลือดออกแล้ว!!!”
ในขณะที่มู่อวี๋เฟยกรีดร้องอยู่นั้น ทางด้านคุณพ่อมู่ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ และเขาก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมาอีกขวดและปาไปใส่มู่อวี๋เฟยอีกครั้งโดยไม่ลังเล
คราวนี้มู่อวี๋เฟยเห็นขวดเหล้าถูกขวางมาทางเธอ เธอตกใจจนใบหน้าของเธอซีดเผือด เธอรีบลากขาที่บาดเจ็บของเธออย่างทุลักทุเลหลบไปอยู่อีกมุมหนึ่ง
ขวดเหล้าเปล่ากระแทกพื้นอย่างแรงดัง เพล้ง ขึ้นอีกครั้ง ! และมู่อวี๋เฟยก็กรีดร้องอีกครั้งในทันทีด้วยความกลัว
คุณพ่อมู่ที่เมามายไม่ได้สติขมวดคิ้วแน่นขึ้น และตะโกนใส่มู่อวี๋เฟยอีกระรอก: “ผีอะไรร้องเนี่ย! หุบปากเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้น กูจะฆ่ามึงให้ตายเดี๋ยวนี้! ไอ้โง่!!!”
ใบหน้าของมู่อวี๋เฟยซีดเซียวราวกับกระดาษสีขาว และบาดแผลที่เท้าของเธอยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด มู่อวี๋เฟยเจ็บจนน้ำตาไหล และตะโกนตอบกลับคุณพ่อมู่ว่า:” คุณพ่อดื่มเหล้าเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก! เอาแต่ว่าหนูไม่มีประโยชน์! แล้วคุณพ่อละคะมีประโยชน์อย่างนั้นเหรอคะ ?วันๆเอาแต่ดื่มเหล้า! ไม่ช้าก็เร็วคุณพ่อจะต้องดื่มจนตายเข้าสักวันนั่นแหละ!!!”
ในขณะที่มู่อวี๋เฟยพูดอยู่นั้น คุณแม่มู่ก็เลิกงานกลับมาถึงบ้านพอดี ทันทีที่เธอเดินเข้ามาก็เห็นเลือดที่เท้าของมู่อวี๋เฟย เธอขมวดคิ้วดึงมู่อวี๋เฟยอย่างปวดใจและถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเป็นห่วงเป็นใย: “อวี๋เฟย เท้าของลูกเป็นอะไร? ทำไมเลือดถึงไหลเยอะขนาดนี้ล่ะ?”
มู่อวี๋เฟยกำลังเตรียมที่จะฟ้องคุณแม่อย่างท่าทางที่น่าสงสาร จู่ๆ คุณพ่อมู่ก็ลุกขึ้นยืนจับขอบเตียงอย่างเซไปเซมา และรีบพุ่งตรงไปหาคุณแม่มู่ทันที จากนั้นก็คว้าไม้กวาดขึ้นจากด้านข้างตีไปที่ตัวคุณแม่มู่และมู่อวี๋เฟยทันที
ในขณะที่ทุบตีอยู่นั้น เขาก็ตะคอกตะโกนเสียงดังด่าไปด้วยว่า :“นังแพศยา! ตระกูลมู่ล้มละลายเป็นเพราะพวกแกทั้งสองแม่ลูก!! ไร้ประโยชน์สิ้นดี! ตอนนี้ครอบครัวตระกูลมู่ได้กลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว สมใจพวกแกทั้งสองแม่ลูกแล้วหรือยัง ?ทำไมถึงไม่ไปตายๆกันให้หมดเลยล่ะ? พวกแกควรรีบไปตายๆซะนะ!”
มู่อวี๋เฟยถูกทุบตีบนร่างกายหลายครั้ง คุณพ่อมู่ออกกำลังอย่างแรง มู่อวี๋เฟยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และรีบดึงคุณแม่มู่มาขวางตรงหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกทุบตีอย่างรวดเร็ว
รอยช้ำที่คุณแม่มู่โดนคุณพ่อมู่ทุบตีเมื่อไม่กี่วันก่อนยังไม่หายดี ตอนนี้มีรอยฟกช้ำบนใบหน้าอีกสองสามรอยอีกแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังโดนคุณพ่อมู่เตะอีกหลายทีติดต่อกันอีกด้วย
ในขณะที่มู่อวี๋เฟยอยู่ในอ้อมแขนของเธอ สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ ทั้งห้องนั้นได้ยินเพียงเสียงของคุณพ่อมู่เอะอะโวยวาย และเสียงทุบตีสองแม่ลูกไม่หยุด ตามด้วยเสียงร้องไห้ของทั้งสองแม่ลูก
กระทั้งรอจนคุณพ่อมู่ทุบตีจนเหนื่อยแล้ว เขาจึงหยุด จากนั้นเขาถือขวดเหล้าไว้ในอ้อมแขนแล้วเซนอนลงไปบนเตียงเหล็กธรรมดาๆ แล้วผล็อยหลับไปทันที
ในที่สุดเรื่องทะเลาะวิวาทนั้นก็ได้สงบลง คุณแม่มู่กอดมู่อวี๋เฟยไว้ในอ้อมแขนของเธอแน่น ก่อนที่เธอจะทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความอ่อนแรง
มู่อวี๋เฟยก็ตกใจมากเช่นกัน เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและน่ากลัวของคุณแม่ของเธอแล้ว มู่อวี๋เฟยก็พยุงคุณแม่ของเธอด้วยความกลัวและพูดว่า:“คุณแม่คะ คุณแม่เป็นอะไรมากไหมคะ?”
ใบหน้าของคุณแม่มู่นั้นมีรอยฟกช้ำเพิ่มอีกหลายจุด ผมของเธอที่กระจัดกระจายและรู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปทั้งตัว หลังจากฟังประคำพูดของมู่อวี๋เฟยแล้ว คุณแม่มู่ก็ขมวดคิ้วและเหมือนกำลังอดทนกับความเจ็บปวดอยู่ยังไงยังงั้นแหละ แต่เธอก็ยังส่ายหน้ามู่อวี๋เฟยพร้อมพูดว่า:“ ไม่เป็นไร คุณแม่ไม่เป็นอะไรจ๊ะ”
“อวี๋เฟย ลูกลุกขึ้นเร็วๆ พื้นนั้นเย็นมาก” คุณแม่มู่รีบดึงมู่อวี๋เฟยขึ้นอย่างรวดเร็ว
มู่อวี๋เฟยปาดน้ำตาบนใบหน้าของเธอและพูดกับคุณแม่ของเธอว่า: “แม่คะ เราไปจากที่นี่กันเถอะนะคะ ไม่ต้องอยู่ด้วยกันกับคุณพ่ออีกแล้วนะคะ คุณพ่อบ้าไปแล้วค่ะ! ถ้าคุณแม่ยังทนแบบนี้อยู่อีก ต่อไปสักวันจะโดนคุณพ่อทำร้ายจนได้ตายนะคะ!”
คุณแม่มู่ยิ้มเยาะ เมื่อก่อนเธอเป็นถึงคุณนายที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งสิ้น แค่รับผิดชอบแต่งตัวให้ตัวเองดูสวยอยู่ตลอดเวลาก็พอ แต่มาตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้ทั้งครอบครัว เธอต้องเป็นคนดูแลเพียงคนเดียว
“อวี๋เฟย ลูกคิดว่าสภาพของคุณพ่อเราเป็นแบบนี้ เราจะทอดทิ้งเขาได้อย่างนั้นเหรอ ?”ตอนนี้คุณแม่มู่ไม่ได้ต่อต้านอะไรเลยแต่กลับยังถูกคุณพ่อมู่ทุบตีทุกวัน นับประสาอะไรถ้าคุณแม่มู่ทิ้งคุณพ่อมู่ไปจริงๆแล้วล่ะก็ เกรงว่าสภาพในตอนนี้ของคุณพ่อมู่นั้นสามารถลงมือฆ่าเธออย่างแน่นอน
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ฟังคำพูดของคุณแม่มู่แล้วเธอก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นทันที เธอทำได้เพียงกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจเท่านั้น เธอจับมือของคุณแม่มู่ไว้แน่นพร้อมกัดฟันพูดว่า: “คุณแม่คะ! ตอนนี้ที่เราทุกคนต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะมู่ซีซีคนเดียวเลย !คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ การที่ตอนนี้เรากลายเป็นคนอนาถาขนาดนี้ หนูจะไม่มีวันยอมปล่อยให้มู่ซีซีได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแบบนี้ตลอดอย่างแน่นอนค่ะ!”
ในขณะที่มู่อวี๋เฟยพูดอยู่นั้น เธอก็นึกถึงผลงานชิ้นเอกของเธอในวันนี้ ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่แสดงออกมาอย่างพอใจ
ไดอารี่รักลับของมู่ซีซีนั้นถูกมู่อวี๋เฟยพบเข้าโดยบังเอิญก่อนที่เธอจะย้ายออกจากคฤหาสน์ใหญ่ในครั้งนี้ เมื่อเธอเห็นไดอารี่เล่มนี้ซึ่งบันทึกไว้ว่ามู่ซีซีแอบตกหลุมรักชายอื่นเข้าแล้ว มู่อวี๋เฟยรู้สึกว่าโอกาสของตัวเองนั้นกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้าแล้ว!
ชายร่างสูงโปร่งอย่างจี้หลิงชวนนั้น จะยอมทนเห็นมู่ซีซีมีผู้ชายคนอื่น ๆ ที่อยู่ในใจของเธอได้อย่างไรกันล่ะ
มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่มู่ซีซีนั้น กำลังสวมเขาให้กับจี้หลิงชวน!
เธอทำทุกวิถีทางเพื่อหาโอกาสให้จี้หลิงชวนได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของมู่ซีซี แต่เธอคาดไม่ถึงว่าโอกาสนั้นมันจะมาเร็วขนาดนี้!
เดิมทีมู่อวี๋เฟยต้องการนำไดอารี่ที่บันทึกสารภาพรักเล่มนี้นำไปให้จี้หลิงชวนดูโดยตรง แต่เธอคิดหาวิธีมาแล้วหลายวิธี แต่เธอก็ไม่สามารถหาวิธีเข้าใกล้จี้หลิงชวนได้เลย
ดังนั้นมู่อวี๋เฟยจึงทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่น เธอจึงต้องไปหาฉู่จือหยวนชายที่มู่ซีซีแอบรักคนนั้น และเอาเรื่องที่มู่ซีซีแอบรักเขาเล่าให้เขาฟัง
มู่อวี๋เฟยรู้สึกดูเหมือนพระเจ้ากำลังช่วยเหลือเธออยู่ยังไงยังงั้นแหละ และบังเอิญว่าฉู่จือหยวนคนนั้นก็แอบรักมู่ซีซีอยู่เช่นกัน
ดังนั้นมู่อวี๋เฟยจึงยุยงให้ฉู่จือหยวนไปสารภาพรักกับมู่ซีซีโดยตรง
มู่อวี๋เฟยวางแผนอย่างดีอยู่ในใจ และเมื่อดูจากไดอารี่ของมู่ซีซีแล้ว มู่ซีซีหลงรักฉู่จือหยวนขนาดนั้น เมื่อฉู่จือหยวนสารภาพรักกับเธอ มู่ซีซีต้องรีบตอบตกลงเป็นแฟนกับฉู่จือหยวนอย่างแน่นอน
รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 120: มู่อวี๋เฟยผู้ซึ่งยังไม่ตายใจ
Posted by ? Views, Released on October 20, 2021
, รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี
Recommended Series
Comment
Facebook Comment